
สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกที่เขียนเล่าเรื่องราวของอาหาร ส่วนตัวจขกท.เป็นคนชอบทำอาหารค่ะ (ชอบทานด้วย)
ยิ่งเป็นอาหารอีสานด้วยละก็ ชอบถึงขั้นไปค้นหาวิธีทำและเอามาดัดแปลงให้ถูกปากตัวเองอยู่บ่อยๆในยามว่าง
วันนี้เลยถือโอกาสนำอาหารอีสานที่ชื่อว่า แกงเปอะ (แกงหน่อไม้ใส่ใบย่านาง) มาเป็นประเด็นในกระทู้นี้ค่ะ
เนื่องจากพิจารณาดูแล้วว่า ในแกงเปอะนั้นมีผักและสมุนไพรที่มีประโยชน์เพียบเลย ย่อยง่าย (เพราะมีแต่ผัก)
ชอบทานผักอะไรก็ใส่ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็น บวบ ฟักทอง หน้อไม้ เห็ดต่างๆ ที่ขาดไม่ได้คือ ใบย่านางคั้นสด ชะอม และใยแมงลัก

กระทู้นี้ภาพไม่เยอะนะคะ เน้นภาษาที่เข้าใจง่ายเป็นหลักค่ะ
เนื่องจากเป็นคนภาคกลาง คุณพ่อคุณแม่เลยไม่สันทัดกับเจ้าแกงเปอะเท่าไร เลยศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง
พอลงมือทำเลยค้นพบว่าเจ้าแกงเปอะนี้ อร่อยจนแทบไม่ต้องปรุงอะไรเลย แต่เอ๊ะ* ทำไมแกงเปอะที่ขายเป็นถุงในตลาดบางทีก็ทำไม่อร่อย
หลังจากที่ศึกษาอยู่ครู่นึง จึงสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากน้ำปลาร้าไม่ถึงก็เป็นได้ หรือไม่ก็เกิดจากรสชาติแต่ละบ้านก็ต้องมีความแตกต่างกัน
เป็นเรื่องธรรมดา อันนี้ไม่ว่ากัน งั้นวันนี้ลองมาดูวิธีทำแบบง่ายๆของ จขกท.กันนะคะ แอบเกรงใจห้องข้างๆอยู่เหมือนกัน เกรงว่ากลิ่นแกงจะไป
ระคายจมูกแล้วหงุดหงิดคนที่ไม่ชอบกลิ่นขึ้นมา (จขกท.อาศัยอยู่หอพักค่ะ)
เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ขั้นแรกเราต้องลงมือตำพริกแกงเสียก่อน
พริกแกง แกงเปอะ
1. พริกจินดา 8-10 เม็ด
2. ตะไคร้ 2 ต้น
3. ข่า 5-7 แว่น
4. หอมแดง 3 หัว
5. เกลือ 1/2 ช้อนชา
6. กระชายเล็กน้อย (ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่)
โชลกให้ละเอียด
วัตถุดิบอื่นๆ
ปลาร้า น้ำตาลทราย ผงชูรส ข้าวคั่ว ใบย่านาง (คั้นเอาแต่น้ำ) ใบแมงลัก ชะอม และผักต่างๆ
ต่อไปก็หลนปลาร้าค่ะ จขกท.ไม่ได้ใช้ปลาร้าขวด มีแต่ปลาร้าปลากระดี่ตัวเล็กๆ น้ำสีไม่ดำ ( รู้สึกว่าหอมอร่อย >< )
ตักปลาร้าใส่หม้อ 3 ช้อนโต๊ะพูนๆ เติมน้ำประมาณ 2 ถ้วยน้ำพริก ต้มจนเนื้อปลาร้ายุ่ย ก็ปิดไฟ กรองเอาแต่น้ำใส่ถ้วยไว้
มาเริ่มวิธีทำที่แท้ทรูกันได้เลย
1. นำน้ำใบย่านางที่คั้นจนเขียวปี๋ มาตั้งไฟพร้อมกับใส่หน้อไม้ที่เราหั่นจนได้ขนาดที่พอใจต้มให้เดือด
(ที่ตลาดมีน้ำใบย่านางขายถุงละ 15 บาท พอต้มแล้วน้ำดำปี๋ ดูไม่น่าทาน แล้วยังมีกลิ่นแปลกๆอีก คั้นเองดีสุด)
2. นำพริกแกงที่เราตำละเอียดแล้ว ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน
3. ใส่ผักต่างๆลงไป เช่น เห็ด ข้าวโพดอ่อน บวบ ฟักทอง แครอท ซูกินี่ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราชอบ
4. เติมน้ำปลาร้าที่ต้มไว้แล้วลงไป หย่อนซุปก้อนตามลงไป 1 ก้อน (ลองชิมดูสิ แค่นี้ก็อร่อยแล้ว)
5. เพิ่มความนัวด้วยการใส่น้ำตาลทรายลงไป 1 ช้อนชา + น้ำปลาตามชอบ (ผงชูรสอีกนิดนึงค่ะ เพิ่มความนัว) *ใส่ข้าวคั่วไป 1 ช้อนชา น้ำจะข้นขึ้น
6. รอผักสุก เมื่อชิมรสถูกใจแล้ว ก่อนปิดไฟ ใส่ชะอม+ใบแมงลัก พร้อมเสริฟ

จขกท.ทานผักไม่เก่ง หม้อนี้เลยมีแค่ หน่อไม้กับฟักทองเป็นผักหลัก มื้อนี้ข้าวเกลี้ยงหม้อเลยค่ะ
ขาดตกบกพร่องประการใด จขกท.ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แกงเปอะ อาหารง่ายๆที่ใครทำก็อร่อย ใครกินก็ติดใจ
สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกที่เขียนเล่าเรื่องราวของอาหาร ส่วนตัวจขกท.เป็นคนชอบทำอาหารค่ะ (ชอบทานด้วย)
ยิ่งเป็นอาหารอีสานด้วยละก็ ชอบถึงขั้นไปค้นหาวิธีทำและเอามาดัดแปลงให้ถูกปากตัวเองอยู่บ่อยๆในยามว่าง
วันนี้เลยถือโอกาสนำอาหารอีสานที่ชื่อว่า แกงเปอะ (แกงหน่อไม้ใส่ใบย่านาง) มาเป็นประเด็นในกระทู้นี้ค่ะ
เนื่องจากพิจารณาดูแล้วว่า ในแกงเปอะนั้นมีผักและสมุนไพรที่มีประโยชน์เพียบเลย ย่อยง่าย (เพราะมีแต่ผัก)
ชอบทานผักอะไรก็ใส่ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็น บวบ ฟักทอง หน้อไม้ เห็ดต่างๆ ที่ขาดไม่ได้คือ ใบย่านางคั้นสด ชะอม และใยแมงลัก
เนื่องจากเป็นคนภาคกลาง คุณพ่อคุณแม่เลยไม่สันทัดกับเจ้าแกงเปอะเท่าไร เลยศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง
พอลงมือทำเลยค้นพบว่าเจ้าแกงเปอะนี้ อร่อยจนแทบไม่ต้องปรุงอะไรเลย แต่เอ๊ะ* ทำไมแกงเปอะที่ขายเป็นถุงในตลาดบางทีก็ทำไม่อร่อย
หลังจากที่ศึกษาอยู่ครู่นึง จึงสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากน้ำปลาร้าไม่ถึงก็เป็นได้ หรือไม่ก็เกิดจากรสชาติแต่ละบ้านก็ต้องมีความแตกต่างกัน
เป็นเรื่องธรรมดา อันนี้ไม่ว่ากัน งั้นวันนี้ลองมาดูวิธีทำแบบง่ายๆของ จขกท.กันนะคะ แอบเกรงใจห้องข้างๆอยู่เหมือนกัน เกรงว่ากลิ่นแกงจะไป
ระคายจมูกแล้วหงุดหงิดคนที่ไม่ชอบกลิ่นขึ้นมา (จขกท.อาศัยอยู่หอพักค่ะ)
เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ขั้นแรกเราต้องลงมือตำพริกแกงเสียก่อน
พริกแกง แกงเปอะ
1. พริกจินดา 8-10 เม็ด
2. ตะไคร้ 2 ต้น
3. ข่า 5-7 แว่น
4. หอมแดง 3 หัว
5. เกลือ 1/2 ช้อนชา
6. กระชายเล็กน้อย (ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่)
โชลกให้ละเอียด
วัตถุดิบอื่นๆ
ปลาร้า น้ำตาลทราย ผงชูรส ข้าวคั่ว ใบย่านาง (คั้นเอาแต่น้ำ) ใบแมงลัก ชะอม และผักต่างๆ
ต่อไปก็หลนปลาร้าค่ะ จขกท.ไม่ได้ใช้ปลาร้าขวด มีแต่ปลาร้าปลากระดี่ตัวเล็กๆ น้ำสีไม่ดำ ( รู้สึกว่าหอมอร่อย >< )
ตักปลาร้าใส่หม้อ 3 ช้อนโต๊ะพูนๆ เติมน้ำประมาณ 2 ถ้วยน้ำพริก ต้มจนเนื้อปลาร้ายุ่ย ก็ปิดไฟ กรองเอาแต่น้ำใส่ถ้วยไว้
มาเริ่มวิธีทำที่แท้ทรูกันได้เลย
1. นำน้ำใบย่านางที่คั้นจนเขียวปี๋ มาตั้งไฟพร้อมกับใส่หน้อไม้ที่เราหั่นจนได้ขนาดที่พอใจต้มให้เดือด
(ที่ตลาดมีน้ำใบย่านางขายถุงละ 15 บาท พอต้มแล้วน้ำดำปี๋ ดูไม่น่าทาน แล้วยังมีกลิ่นแปลกๆอีก คั้นเองดีสุด)
2. นำพริกแกงที่เราตำละเอียดแล้ว ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน
3. ใส่ผักต่างๆลงไป เช่น เห็ด ข้าวโพดอ่อน บวบ ฟักทอง แครอท ซูกินี่ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราชอบ
4. เติมน้ำปลาร้าที่ต้มไว้แล้วลงไป หย่อนซุปก้อนตามลงไป 1 ก้อน (ลองชิมดูสิ แค่นี้ก็อร่อยแล้ว)
5. เพิ่มความนัวด้วยการใส่น้ำตาลทรายลงไป 1 ช้อนชา + น้ำปลาตามชอบ (ผงชูรสอีกนิดนึงค่ะ เพิ่มความนัว) *ใส่ข้าวคั่วไป 1 ช้อนชา น้ำจะข้นขึ้น
6. รอผักสุก เมื่อชิมรสถูกใจแล้ว ก่อนปิดไฟ ใส่ชะอม+ใบแมงลัก พร้อมเสริฟ
จขกท.ทานผักไม่เก่ง หม้อนี้เลยมีแค่ หน่อไม้กับฟักทองเป็นผักหลัก มื้อนี้ข้าวเกลี้ยงหม้อเลยค่ะ
ขาดตกบกพร่องประการใด จขกท.ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ