SHANE Cowboy ฉายที่ทับเที่ยงภาพยนตร์ สุดยอด ภาพยนตร์
อมตะ Classic ตลอดกาล ที่ประทับใจ ไม่รู้ลืม
มติตรังและพีเพิลซีน เสนอ พาทุกๆท่านมา ย้อนอดีต รำลึกถึง SHANE
ภาพยนตร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังคาวบอย ตะวันตกที่ ดังระเบิดติดอันดับโลกที่ได้การยอมรับว่าดีที่สุด ตลอดกาล และโรแมนติคคลาสสิค อมตะซึ้งตรึงใจหนัง ในปี 1953 มีเพลงอมตะประกอบภาพยนตร์แต่งโดย วิคเตอร์ยัง บรรเลงประกอบ
ภาพยนตร์ ชื่อเพลง The call of the fara way hills คือเสียงเรียก จาก เนินเขา ที่ แสนไกล ในหนังเรื่องเชนมีเสียงเรียก จากเด็กหนูน้อย โจอี้ ให้ พระเอกเชนกลับมา เสียงตะโกนของหนูน้อยช่างซื้งเข้าไปในหัวใจ คนดูทุกคน ในประโยคคลาสสิค ประทับใจ
คือ shane come Back... shane com back... shane com back.. ที่ทั่วโลกจดจำ เด็กน้อยรักเชน เป็นภาพของพ่อในอุดมคติ หนูน้อยเป็นผู้ที่เห็น ทั้งการมาถึงและจากไปของเชนตลอดเวลา รวมเหตุการณ์สำคัญในเรื่อง ที่ผู้ชมประทับใจทั้งโรงหนังเพราะสงสาร ภาพที่ผู้ชมเห็น พระเอกขี่ม้าอันสง่างามแต่งชุดคาวบอย สุดเท่พร้อมปืนประจำกาย เข้ามาช่วยชาวบ้านเพื่อต่อสู้กับพวกนายทุนที่ดิน เชน ขี่ม้ามาปราบ อธรรม โดยมีมือปืนรับจ้างแสดงโดย แจ็ค พาแล็น
พร้อมที่จะลุยตลอด กับพระเอก ฉาก แห่งความทรงจำ ที่มือปืนรับจ้าง ดวนปืนสู้บู๊กับเชนในหนังที่น่าชมมากติดตาผู้ชมทุกยุคทุกสมัย ทุ่งหญ้า อานม้า ฟางและ ไกปืน หนังเชน ผ่านการกาลเวลาที่คลาสสิครุ่นต่อรุ่นจนถืงปัจุบันยังคงพูดถึง SHANE
เป็นหนังที่สะท้อนให้เห็นการต่อสู้บุกเบิกของชาวอเมริกัน ในยุคแรกๆตอนสร้างชาติใหม่ๆ ยุคนั้นเรียกว่า คาวบอยมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรในอดีด เชน สท้อนภาพสังคมของชาว อเมริกันยุคโน้นได้อย่างดี เป็นเรื่องราวของวีระบุรุษ ตะวันตก เป็นเรื่องราวแบบมีอุดมคติ และคงไม่มีเรื่องไหนจะเห็นชัดกว่าเรื่องเชนแล้ว หนังฉากเปิดเรื่องตอนแรกขึ้น ผู้คนก็ประทับใจแล้วตอนไตเติลเห็น
ภาพของพระเอกขี่ม้ามาแต่ไกลผ่านหุบเขาทุ่งหญ้าแม่น้ำ เดินทางคนเดียวเข้ามาที่เมืองแห่งหนึ่ง เชนเป็นผู้ชายนักต่อสู้ ที่มีความหลังมากมาย แต่เขาต้องซ่อนมันไว้ ไม่ให้ใครรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนและ จะไปที่ใด และ Shane ได้มาถึงที่เมืองแห่งนี้
เพื่อจะมาขออาศัยเพื่อพักม้าชั่วคราว เชนเขามีน้ำใจต่อครอบครัว สการ์เรต ไม่เพียงแต่จะหยุดม้าพัก และจากไปเหมือนที่เคยทำจากที่อื่นๆ แต่การกระทำของเขาต่อครอบครัว สการ์เรตที่กำลังถูกคุกคาม จากพวกต้อนวัวเป็นนักเลง อย่างไรเกอร์ เหตุผลนี้เองทำให้ เชนตัดสินใจ อยู่กับครอบครัว สการ์เรต เชนตั้งใจพักม้าชั่วคราวนั้นเพื่อไปที่อื่นแต่แล้วอะไรเกิดขึ้น
ติดตามต่อกันเลยครับจากการทีมี ไมตรีจิตจากครอบครัวสการ์เรต จากหัวหน้าครอบครัวและมาเรียนซึ่งเป็นภรรยาของโจ พร้อมลูกชายชื่อ โจอี้ เป็นเด็กตัวน้อยของพวกเขาคือสิ่งที่ เชนประทับใจ อยากจะมีครอบครัวเหมือนเขา แต่ก็มีไม่ได้ เพราะว่าเชนลือกทางเดินของมือปืนและเป็นคนจรอยู่ในใจและทำอย่างนี้มาตลอด เชนจะไม่แสดงออก บุคลิคของเชนนิ่งสุขุมเรียบร้อยและไม่เคยกลัวใคร
หน้าไหนทั้งนั้นเขาผ่านชีวิตมามากมายทุกรูปแบบ แต่ครอบครัวโจ และมาเรียนเห็นเชน ก็รู้และคาดคะเนได้ ลูกชายตัวเล็กโจอี้ก็รักและติดเชน เมื่อใกล้ชิดเด็กก็ได้สัมผัสถึงความแตกต่าง ระหว่างพ่อเขากับแขกคนใหม่ที่มาบ้าน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้โจอี้ติดเชนมาก เชนมีบางสิ่งบางอย่างที่พ่อเขาไม่มี ส่วนมาเรียนเอง ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่เธอก็ยังเป็นภรรยาคนดีของโจเสมอ การมาของ
เชนครั้งนี้ ทำให้ ไรเกอร์ต้องเตรียมหามือปืนอีกคนเสริมมาเป็นสมุนพร้อมและพร้อมจะลุยให้แตกหักกับ โจ สการ์เรต และพวกชาวไร่ทั้งหมดต้องเจอดีแน่เมื่อเวลาอันตรายมาถึง เชนก็ออกรับหน้าแทนโจ แบบเป็นไงเป็นกัน เขาเดินหน้าไปสู่กับดัก ของโรเกอร์
ด้วยความเต็มใจ สุดท้ายเชนเอาชนะ ไรเกอร์และพวกลูกน้องได้อย่างน่าชมเชย และเชน ต้องจากไป โดยที่ชาวบ้านยังไม่ทันกล่าวขอบคุณ จนหนูน้อยต้องตะโกนเรียกให้ เชนกลับมา shane shane come back จากคาวบอยที่ธรรมดา แต่ในสายตาผู้ชมทั้งโลก เชน คือวีระบุรุษ จากเรื่องราวของเรื่องทั้งหมดเชนคือของจริงทั้งหมัดและยิ่งปืนไวและแม่นยำชนิดโป้งเดียวจอด ฉากดวลชักปืนยิง ในหนังระหว่าง เชน กับ วิลสัน จืงประทับใจผู้ชม และฉากบู๊ที่ต่อยกันมันส์ เชนคือสุภาพบุรุษตัวจริง เชนบทนี้แสดงโดยดารารูปหล่อที่ชื่อ อลัน แลดค์ ดาราดังอมริกันเขาสวมบทบาทเป็นเชนได้เต็มร้อย ประสพความสำเร็จสูงจากเรื่องนี้ คําพูดก่อนดวลปีน ระหว่า เชน กับ เจ็ก วิลสัน มีดังนี้ วิลสัน แสดงโดยแจ็ค พาแล่นดาราดังตัวร้ายทีชักปืนไว
เชน ฉันได้ยินว่า แกคือมือปีน แจ็ค วิลสัน
วิลสัน..ยินแล้ว แกจะทําไม..วะ ?
เชน ฉันเคย ได้ยิน เรื่องราวของแก
วิลสัน แกได้ยินว่ามายังไง ? ละเชน
เชน ได้ยินว่า แกมัน ไอ้แยงกี้ ตํ่าทรามจอมโกหก LOW DOWN YANKEE LIER
วิลสัน งั้นพิสูจน์ ซิ...
การดวลปืนครั้งสําคัญ ก็เกิดขึ้น เสียงปืน โป้งๆๆ ดังขี้น... วิลสันลงนอนไปกอง โดนไปเต็มๆ เชน ชักปืนไวกว่าผู้ชนะ
หนังเกือบทั้งเรื่องจะเห็นภาพหนูน้อยกับเชนผูกผัน และทีสำคัญ เชนมีความรักอบอุ่นให้โจอี้ หนังเรื่องนี้ จึงเหมือนการมองเห็นจากใจของโจอี้ นับแต่ฉากแรกที่เห็นเชนเข้ามาในไร่ของพ่อเขา จนถึงฉากสุดท้ายที่เชนจากไป คำพูดประโยคท้ายที่ว่า
CHANE come back เป็นคำพูดที่ติดอันดับ 47 ของคำพูดในความทรงจำของสถาบันภาพยนตร์ในอเมริกา และเป็นฉากที่นักดู
หนังทั่วโลกกล่าวขวัญในความทรงจำตลอดไป ผู้เขียนได้ดูหนังเรื่องเชนเมี่อยี่สิบกว่าปีก่อนเป็นก๊อปปี้หนังมากลับฉายใหม่ดูที่กรุงเทพฯและจำได้ทั้งหมด แต่เรื่องนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ตรังครับ
ฉายที่โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ เป็นโรงหนังในตํานานคู่บ้านคู่เมืองตรังมีมานานคุณพ่อ คุณเว้ง จิตต์แจ้ง เจ้าของโรงหนัง ท่าน ได้เล่าให้ฟังว่า เป็นหนังที่คุณพ่อรักและชอบมากภูมิใจที่ได้นํา
ภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ CHANE มาฉายที่โรงหนัง ทับเที่ยงภาพยนตร์ได้สำเร็จก่อนใครในภาคใต้ ตรงกับปี คศ 1955 คุณพ่อเล่าว่า
ได้เดินทางไปติดต่อหนังเรื่องนี้ที่กรุงเทพฯสมัยนั้นเดินทางโดยรถไฟสายใต้ ไปติดต่อบริษัทตัวแทนผู้จัดจำหน่ายซึ่งเป็นเพื่อนๆ ยุคนั้นติดต่อหนังไม่สะดวกแบบยุคนี้จะยากลำบากต้องไปพักกรุงเทพฯหลายวันและต้องเตรียมเงินสดไปเลย
ตำนานนักสู้ผู้บุกเบิกโรงหนังโรงแรกของชาวตรังบอกเล่าว่า.. ได้เดิน
ทางไป ครั้งนั้นประสพความสาเร็จอย่างสูงนอกจากได้ หนังเรื่องเชนแล้ว ได้ออฟชั่นสํญญามาอีก 4 เรื่องดังๆมีดังนี้ มี 7 เซียนซามูไร แม่น้ำวิปโยค และหนังดังคือ แซมซั่น เดไลลา สะพานข้ามแม่น้าแคว และหนังทีแสดงโดย มารีลิน มอลโร คือเรื่อง
สายน้ำไม่ไหลกลับ River of no Returnและเรื่อง น้ำตกในแองการ่าของ มารีลิน ทุกเรื่องที่กล่าวถึงเป็นภาพยนตร์อมตะคลาสสิค สุดยอดภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ระดับโลกทั้งสิ้น และทีมงานที่กรุงเทพฯ ได้พาคุณพ่อไปดูหนังเรื่อง chane ซึ่งตอนนั้นเข้าฉายที่ โรงหนังแค๊บปิตอล ที่เจริญกรุงตรงสามแยก
ภาพยนตร์เรื่องCHANE สร้างโดยพาราเม้า นำแสดงโดยรายชื่อดังนี้ Alan Ladd Jean Arthur Van Heflin Jack Palance และดาราเด็กน้อย Bran don de wilde
เงาดำทาบ ทับทุ่งหญ้า อันกว้างใหญ่
จบวันแล้ว และพระอาทิตย์ กำลังจะจางหายไป ในสายตาอย่างช้าๆ
ฉันได้ยิน โอ้ ช่างชัดเจนเหลือเกิน เสียงเรียกจากหนูน้อย โจอี้ ที่ดังก้องอยู่ในราตรี
ฉันได้ยิน หวาน และชัดเจน
เป็นเสียงเรียกจาก เนินเขา ที่แสนไกล
THE CALL OF THE FAR A WAY HILLS เพลงจากภาพยนตร์เรื่องเชนในแผ่นขับร้องโดย เคน เครติส ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
SHANE Cowboy ฉายที่ทับเที่ยงภาพยนตร์ของ เว้ง จิตต์แจ้ง
อมตะ Classic ตลอดกาล ที่ประทับใจ ไม่รู้ลืม
มติตรังและพีเพิลซีน เสนอ พาทุกๆท่านมา ย้อนอดีต รำลึกถึง SHANE
ภาพยนตร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังคาวบอย ตะวันตกที่ ดังระเบิดติดอันดับโลกที่ได้การยอมรับว่าดีที่สุด ตลอดกาล และโรแมนติคคลาสสิค อมตะซึ้งตรึงใจหนัง ในปี 1953 มีเพลงอมตะประกอบภาพยนตร์แต่งโดย วิคเตอร์ยัง บรรเลงประกอบ
ภาพยนตร์ ชื่อเพลง The call of the fara way hills คือเสียงเรียก จาก เนินเขา ที่ แสนไกล ในหนังเรื่องเชนมีเสียงเรียก จากเด็กหนูน้อย โจอี้ ให้ พระเอกเชนกลับมา เสียงตะโกนของหนูน้อยช่างซื้งเข้าไปในหัวใจ คนดูทุกคน ในประโยคคลาสสิค ประทับใจ
คือ shane come Back... shane com back... shane com back.. ที่ทั่วโลกจดจำ เด็กน้อยรักเชน เป็นภาพของพ่อในอุดมคติ หนูน้อยเป็นผู้ที่เห็น ทั้งการมาถึงและจากไปของเชนตลอดเวลา รวมเหตุการณ์สำคัญในเรื่อง ที่ผู้ชมประทับใจทั้งโรงหนังเพราะสงสาร ภาพที่ผู้ชมเห็น พระเอกขี่ม้าอันสง่างามแต่งชุดคาวบอย สุดเท่พร้อมปืนประจำกาย เข้ามาช่วยชาวบ้านเพื่อต่อสู้กับพวกนายทุนที่ดิน เชน ขี่ม้ามาปราบ อธรรม โดยมีมือปืนรับจ้างแสดงโดย แจ็ค พาแล็น
พร้อมที่จะลุยตลอด กับพระเอก ฉาก แห่งความทรงจำ ที่มือปืนรับจ้าง ดวนปืนสู้บู๊กับเชนในหนังที่น่าชมมากติดตาผู้ชมทุกยุคทุกสมัย ทุ่งหญ้า อานม้า ฟางและ ไกปืน หนังเชน ผ่านการกาลเวลาที่คลาสสิครุ่นต่อรุ่นจนถืงปัจุบันยังคงพูดถึง SHANE
เป็นหนังที่สะท้อนให้เห็นการต่อสู้บุกเบิกของชาวอเมริกัน ในยุคแรกๆตอนสร้างชาติใหม่ๆ ยุคนั้นเรียกว่า คาวบอยมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรในอดีด เชน สท้อนภาพสังคมของชาว อเมริกันยุคโน้นได้อย่างดี เป็นเรื่องราวของวีระบุรุษ ตะวันตก เป็นเรื่องราวแบบมีอุดมคติ และคงไม่มีเรื่องไหนจะเห็นชัดกว่าเรื่องเชนแล้ว หนังฉากเปิดเรื่องตอนแรกขึ้น ผู้คนก็ประทับใจแล้วตอนไตเติลเห็น
ภาพของพระเอกขี่ม้ามาแต่ไกลผ่านหุบเขาทุ่งหญ้าแม่น้ำ เดินทางคนเดียวเข้ามาที่เมืองแห่งหนึ่ง เชนเป็นผู้ชายนักต่อสู้ ที่มีความหลังมากมาย แต่เขาต้องซ่อนมันไว้ ไม่ให้ใครรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนและ จะไปที่ใด และ Shane ได้มาถึงที่เมืองแห่งนี้
เพื่อจะมาขออาศัยเพื่อพักม้าชั่วคราว เชนเขามีน้ำใจต่อครอบครัว สการ์เรต ไม่เพียงแต่จะหยุดม้าพัก และจากไปเหมือนที่เคยทำจากที่อื่นๆ แต่การกระทำของเขาต่อครอบครัว สการ์เรตที่กำลังถูกคุกคาม จากพวกต้อนวัวเป็นนักเลง อย่างไรเกอร์ เหตุผลนี้เองทำให้ เชนตัดสินใจ อยู่กับครอบครัว สการ์เรต เชนตั้งใจพักม้าชั่วคราวนั้นเพื่อไปที่อื่นแต่แล้วอะไรเกิดขึ้น
ติดตามต่อกันเลยครับจากการทีมี ไมตรีจิตจากครอบครัวสการ์เรต จากหัวหน้าครอบครัวและมาเรียนซึ่งเป็นภรรยาของโจ พร้อมลูกชายชื่อ โจอี้ เป็นเด็กตัวน้อยของพวกเขาคือสิ่งที่ เชนประทับใจ อยากจะมีครอบครัวเหมือนเขา แต่ก็มีไม่ได้ เพราะว่าเชนลือกทางเดินของมือปืนและเป็นคนจรอยู่ในใจและทำอย่างนี้มาตลอด เชนจะไม่แสดงออก บุคลิคของเชนนิ่งสุขุมเรียบร้อยและไม่เคยกลัวใคร
หน้าไหนทั้งนั้นเขาผ่านชีวิตมามากมายทุกรูปแบบ แต่ครอบครัวโจ และมาเรียนเห็นเชน ก็รู้และคาดคะเนได้ ลูกชายตัวเล็กโจอี้ก็รักและติดเชน เมื่อใกล้ชิดเด็กก็ได้สัมผัสถึงความแตกต่าง ระหว่างพ่อเขากับแขกคนใหม่ที่มาบ้าน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้โจอี้ติดเชนมาก เชนมีบางสิ่งบางอย่างที่พ่อเขาไม่มี ส่วนมาเรียนเอง ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่เธอก็ยังเป็นภรรยาคนดีของโจเสมอ การมาของ
เชนครั้งนี้ ทำให้ ไรเกอร์ต้องเตรียมหามือปืนอีกคนเสริมมาเป็นสมุนพร้อมและพร้อมจะลุยให้แตกหักกับ โจ สการ์เรต และพวกชาวไร่ทั้งหมดต้องเจอดีแน่เมื่อเวลาอันตรายมาถึง เชนก็ออกรับหน้าแทนโจ แบบเป็นไงเป็นกัน เขาเดินหน้าไปสู่กับดัก ของโรเกอร์
ด้วยความเต็มใจ สุดท้ายเชนเอาชนะ ไรเกอร์และพวกลูกน้องได้อย่างน่าชมเชย และเชน ต้องจากไป โดยที่ชาวบ้านยังไม่ทันกล่าวขอบคุณ จนหนูน้อยต้องตะโกนเรียกให้ เชนกลับมา shane shane come back จากคาวบอยที่ธรรมดา แต่ในสายตาผู้ชมทั้งโลก เชน คือวีระบุรุษ จากเรื่องราวของเรื่องทั้งหมดเชนคือของจริงทั้งหมัดและยิ่งปืนไวและแม่นยำชนิดโป้งเดียวจอด ฉากดวลชักปืนยิง ในหนังระหว่าง เชน กับ วิลสัน จืงประทับใจผู้ชม และฉากบู๊ที่ต่อยกันมันส์ เชนคือสุภาพบุรุษตัวจริง เชนบทนี้แสดงโดยดารารูปหล่อที่ชื่อ อลัน แลดค์ ดาราดังอมริกันเขาสวมบทบาทเป็นเชนได้เต็มร้อย ประสพความสำเร็จสูงจากเรื่องนี้ คําพูดก่อนดวลปีน ระหว่า เชน กับ เจ็ก วิลสัน มีดังนี้ วิลสัน แสดงโดยแจ็ค พาแล่นดาราดังตัวร้ายทีชักปืนไว
เชน ฉันได้ยินว่า แกคือมือปีน แจ็ค วิลสัน
วิลสัน..ยินแล้ว แกจะทําไม..วะ ?
เชน ฉันเคย ได้ยิน เรื่องราวของแก
วิลสัน แกได้ยินว่ามายังไง ? ละเชน
เชน ได้ยินว่า แกมัน ไอ้แยงกี้ ตํ่าทรามจอมโกหก LOW DOWN YANKEE LIER
วิลสัน งั้นพิสูจน์ ซิ...
การดวลปืนครั้งสําคัญ ก็เกิดขึ้น เสียงปืน โป้งๆๆ ดังขี้น... วิลสันลงนอนไปกอง โดนไปเต็มๆ เชน ชักปืนไวกว่าผู้ชนะ
หนังเกือบทั้งเรื่องจะเห็นภาพหนูน้อยกับเชนผูกผัน และทีสำคัญ เชนมีความรักอบอุ่นให้โจอี้ หนังเรื่องนี้ จึงเหมือนการมองเห็นจากใจของโจอี้ นับแต่ฉากแรกที่เห็นเชนเข้ามาในไร่ของพ่อเขา จนถึงฉากสุดท้ายที่เชนจากไป คำพูดประโยคท้ายที่ว่า
CHANE come back เป็นคำพูดที่ติดอันดับ 47 ของคำพูดในความทรงจำของสถาบันภาพยนตร์ในอเมริกา และเป็นฉากที่นักดู
หนังทั่วโลกกล่าวขวัญในความทรงจำตลอดไป ผู้เขียนได้ดูหนังเรื่องเชนเมี่อยี่สิบกว่าปีก่อนเป็นก๊อปปี้หนังมากลับฉายใหม่ดูที่กรุงเทพฯและจำได้ทั้งหมด แต่เรื่องนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ตรังครับ
ฉายที่โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ เป็นโรงหนังในตํานานคู่บ้านคู่เมืองตรังมีมานานคุณพ่อ คุณเว้ง จิตต์แจ้ง เจ้าของโรงหนัง ท่าน ได้เล่าให้ฟังว่า เป็นหนังที่คุณพ่อรักและชอบมากภูมิใจที่ได้นํา
ภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ CHANE มาฉายที่โรงหนัง ทับเที่ยงภาพยนตร์ได้สำเร็จก่อนใครในภาคใต้ ตรงกับปี คศ 1955 คุณพ่อเล่าว่า
ได้เดินทางไปติดต่อหนังเรื่องนี้ที่กรุงเทพฯสมัยนั้นเดินทางโดยรถไฟสายใต้ ไปติดต่อบริษัทตัวแทนผู้จัดจำหน่ายซึ่งเป็นเพื่อนๆ ยุคนั้นติดต่อหนังไม่สะดวกแบบยุคนี้จะยากลำบากต้องไปพักกรุงเทพฯหลายวันและต้องเตรียมเงินสดไปเลย
ตำนานนักสู้ผู้บุกเบิกโรงหนังโรงแรกของชาวตรังบอกเล่าว่า.. ได้เดิน
ทางไป ครั้งนั้นประสพความสาเร็จอย่างสูงนอกจากได้ หนังเรื่องเชนแล้ว ได้ออฟชั่นสํญญามาอีก 4 เรื่องดังๆมีดังนี้ มี 7 เซียนซามูไร แม่น้ำวิปโยค และหนังดังคือ แซมซั่น เดไลลา สะพานข้ามแม่น้าแคว และหนังทีแสดงโดย มารีลิน มอลโร คือเรื่อง
สายน้ำไม่ไหลกลับ River of no Returnและเรื่อง น้ำตกในแองการ่าของ มารีลิน ทุกเรื่องที่กล่าวถึงเป็นภาพยนตร์อมตะคลาสสิค สุดยอดภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ระดับโลกทั้งสิ้น และทีมงานที่กรุงเทพฯ ได้พาคุณพ่อไปดูหนังเรื่อง chane ซึ่งตอนนั้นเข้าฉายที่ โรงหนังแค๊บปิตอล ที่เจริญกรุงตรงสามแยก
ภาพยนตร์เรื่องCHANE สร้างโดยพาราเม้า นำแสดงโดยรายชื่อดังนี้ Alan Ladd Jean Arthur Van Heflin Jack Palance และดาราเด็กน้อย Bran don de wilde
เงาดำทาบ ทับทุ่งหญ้า อันกว้างใหญ่
จบวันแล้ว และพระอาทิตย์ กำลังจะจางหายไป ในสายตาอย่างช้าๆ
ฉันได้ยิน โอ้ ช่างชัดเจนเหลือเกิน เสียงเรียกจากหนูน้อย โจอี้ ที่ดังก้องอยู่ในราตรี
ฉันได้ยิน หวาน และชัดเจน
เป็นเสียงเรียกจาก เนินเขา ที่แสนไกล
THE CALL OF THE FAR A WAY HILLS เพลงจากภาพยนตร์เรื่องเชนในแผ่นขับร้องโดย เคน เครติส ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ