พบกับผมอีกครั้งครับ คราวนี้มีกล้องหน้ารถรุ่นใหม่มารีวิวให้เพื่อนๆ พันทิปได้ลองอ่านกัน เผื่อจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สำหรับตัวที่ผมจะนำมารีวิวเป็นรุ่น
GoalSmart DVR 4G โดย GoalSmart DVR จะมีรุ่น 3G ด้วยซึ่งมีความต่างกันบ้าง
อ่านรีวิวรุ่น GoalSmart DVR 3G ได้ที่:
https://pantip.com/topic/37496164
ดูสรุปการเปรียบเทียบระหว่าง 2 รุ่นได้ที่:
https://pantip.com/topic/37496336
ตัวนี้ผมไปหาเจอในอินเตอร์เน็ตและเป็นรุ่นที่เด่นกว่ารุ่นอื่นๆ เพราะมีจอขนาดใหญ่ เล่นเน็ต ดู Youtube ได้จากเครื่องเลย ซึ่งน่าสนใจและแตกต่างจากกล้องหน้ารถทั่วไปอยู่พอสมควร เพราะรุ่นนี้ไม่ได้เป็นแค่กล้องหน้ารถเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนเครื่อง Multimedia ที่มีกล้องติดอยู่ เพื่อนๆ สามารถดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ต โหลดแอปจาก Play Store มาไว้ในเครื่องได้ (เพราะมันเป็นเครื่อง Android ติดกล้องนั่นเอง) จึงทำให้รุ่นนี้พิเศษและน่าสนใจกว่ารุ่นอื่นๆ ตามท้องตลาดครับ
และสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจมากและเชื่อว่าไม่มีกล้องหน้ารถรุ่นไหนมีแน่ๆ นั่นคือฟังค์ชั่นที่เราสามารถดูภาพจากกล้องหน้ารถได้แบบ Real Time ไม่ว่าตอนนี้รถกำลังขับไปไหน เราก็สามารถดูได้ Real Time ผ่านแอปพลิเคชั่นที่เชื่อมกับกล้อง แถมยังดูย้อนหลังผ่านแอปได้อีกด้วย สะดวกมากๆ เวลาเกิดอุบัติเหตุ ไม่ต้องถอดการ์ด SD Card ให้ยุ่งยาก ตรงนี้ยอมรับเลยว่าเป็นจุดเด่นจริงๆ ส่วนนี้เดี๋ยวดูรายละเอียดเพิ่มในรีวิวครับ
เราทราบกันดีว่าปัจจุบันรถบนท้องถนนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รถก็ติด และยังเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น และหลายครั้งเราก็เห็นจากข่าวหรือ Youtube ว่ามีอุบัติเหตุและเหตุการณ์บนท้องถนนมากมายที่ถูกกล้องหน้ารถบันทึกไว้ได้ หลายเหตุการณ์ก็เป็นประโยชน์อย่างมากและกล้องเองก็เป็นพยานปากสำคัญให้เรา ช่วยแก้สถานการณ์ได้ดีและยังช่วยบันทึกเหตุการณ์อื่นๆ ได้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ชนแล้วหนี โดนฉกชิงวิ่งราวบนท้องถนน กล้องหน้ารถนี่แหละที่ช่วยตามจับคนร้าย ช่วยเป็นพยานที่ดีอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้น กล้องหน้ารถจึงเป็นไอเท็มที่รถทุกคันควรติดไว้ แต่จะเป็นกล้องหน้ารถธรรมดาๆ ก็อาจจะไม่น่าสนใจเหมือนรุ่นที่ผมกำลังจะรีวิวนี้ นั่นคือ GoalSmart DVR 4G ตามมากันเลยครับ
สำหรับกล่องก็ทั่วไป ข้างในจะมีทั้งกล้องและสายเชื่อมต่อต่างๆ พร้อมคู่มือภาษาอังกฤษ
เริ่มกันที่ตัวเครื่องและกล้อง สำหรับรุ่น 4G เครื่องสีเงิน กล่องจะใหญ่กว่าเพราะจอมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย
ด้านหน้าจะมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิด อันที่จริงเวลาสตาร์ทรถเครื่องจะเปิดอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่เราก็ยังสามารถเปิดปิดได้เองจากปุ่มนี้ ด้านหน้าต่างกันที่แค่ดีไซน์เท่านั้น
ส่วนนี้คือด้านหลัง โดยจะเป็นจุดศูนย์รวมช่องเชื่อมต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ช่องเชื่อมเครื่อง GPS, กล้องถอยหลัง, ช่องใส่ Sim Card และ SD Card, AV IN ซึ่งจะอธิบายต่อไป
จะเห็นว่ามีทั้งช่อง USB เสียบจ่ายไฟ, รูไมโครโฟน (รุ่นนี้รองรับ Bluetooth ใช้สนทนาได้) ช่องใส่ SD Card, Sim Card และช่องเสียบเครื่องรับ GPS
จะมีปุ่ม Reset ซึ่งต้องใช้ปากกาหรือของแหลมจิ้มเข้าไปเพื่อทำการ Reset เครื่องในกรณีเครื่องค้าง แฮ้งค์ แต่จากที่ผมใช้งานต่อเนื่อง 7 วันยังไม่พบอาการค้างใดๆ ทั้งสองรุ่น
โดยในการใช้งานก็แค่วางกล้องไว้ในมุมรถที่ต้องการ โดยฐานด้านล่างจะเป็นแม่เหล็กยึดติดกันทั้งสองรุ่น ในกล่องจะมีมาให้ และสามารถยึดติดกับพื้นผิววัสดุรถได้แทบทุกชนิด อันนี้ผมทดสอบมาแล้ว 7 วันยังไม่มีหลุดระหว่างการขับขี่นะครับ ฉะนั้นเรื่องนี้สบายใจได้
ส่วนอุปกรณ์ที่มีให้ในกล่องจะมีดังนี้
1. สายชาร์จ
2. กล้องมองหลังพร้อมสายเชื่อมต่อ
3. ตัวรับสัญญาณ GPS
4. สาย Ground สำหรับเชื่อมต่อไฟกับรถถาวร
5. สาย USB สำหรับเสียบไฟกับรถที่มีช่อง USB
โดยพระเอกของเราในงานนี้จะเป็น ตัวรับสัญญาณ GPS และกล้องมองหลังที่สามารถประยุกต์มาบันทึกภาพในห้องโดยสารได้ด้วย
พูดถึงลักษณะตัวเครื่องภายนอกพร้อมอุปกรณ์ไปหมดแล้ว คราวนี้มาดูการใช้งานต่างๆ กันดีกว่า
เมื่อเปิดเครื่องมาแล้ว จะเจอหน้า Home แบบนี้ทั้งสองรุ่น โดยที่หน้าตาและฟังค์ชั่นแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง เครื่องรุ่นนี้เป็นระบบ Android จึงสามารถใช้งานได้เหมือนมือถือ โดยเล่นอินเตอร์เน็ตได้ โหลด App จาก Play Store ได้ สามารถเปิดวิทยุได้ ฟังเพลง และอีกมากมาย
ส่วนด้านขวาล่างจะสำหรับปรับเสียงและเพิ่ม-ลดความสว่างหน้าจอ ส่วนด้านบนขวาจะเป็นเข็มทิศแบบ Real Time
เพื่อนๆ สามารถตั้งค่าได้ที่มุมซ้ายบนใกล้ๆ กับนาฬิกา ซึ่งเมนูตั้งค่าก็จะคล้ายระบบ Android โดยกล้องรุ่นนี้สามารถตั้งค่าได้ยืดหยุ่นมากๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็น ตั้งค่าเปิดสัญญาณ 3G/4G ในเครื่อง, ตั้งค่าเปิดปิด Wifi และอีกมากมาย
และนอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าระบบกล้องได้จากตรงนี้ (DVR Setting) โดยตั้งค่า Auto Save Time ว่าจะให้บันทึกวีดีโอเป็นลูปทุกกี่นาที ตั้งค่าความละเอียดกล้องหน้ารถได้
นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า Auto Sleep ของเครื่องว่าจะให้จอดับหากไม่มีการทำงานในกี่นาที สามารถตั้งค่าเรื่อง Video Lock ได้และยังตั้งความไวของเซนเซอร์ Collsion หรือระบบเตือนชนคันหน้าได้อีกด้วย ส่วนด้านขวาจะเห็น Barcode ซึ่งคือระบบ CarAssist โดยระบนี้จะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นบนมือถือในการดูภาพจากกล้องหน้ารถแบบ Real Time จะมีตัวอย่างรีวิวให้ดูต่อไปครับ
ดูเรื่องการตั้งค่าระบบมาเยอะแล้ว มาดูฟังค์ชั่นในเครื่องดีกว่า รุ่นนี้เนื่องจากเป็น Android อย่างที่บอกจึงทำให้มีลูกเล่นที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง จะเห็นว่าสามารถฟังเพลงได้จาก SD Card และความจำในเครื่อง อีกทั้งรองรับการฟังวิทยุในตัวด้วย
และยังรองรับการใช้งาน GPS โดยแอปพลิเคชั่นที่ติดเครื่องจะมี Sygic และ Google Maps สามารถใช้นำทางได้ปกติดี เท่าที่ทดสอบพบดาวเทียมประมาณ 11 ตัว แต่ตรงนี้มีจุดด้อยที่ GPS จะดีเลย์ไปบ้าง หากใช้นำทางต้องสังเกตดีๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะเลยซอยหรือถนนไปได้
รองรับการใช้งาน Bluetooth สนทนาได้ โดยเชื่อมต่อเหมือนอุปกรณ์ Bluetooth อื่นๆ มี Dial Pad หรือแป้นเบอร์กดสำหรับโทรออกได้ ตรงนี้ก็เหมือนบลูทูธทั่วๆ ไป คุณภาพเสียงใช้ได้ ใส่ในระดับหนึ่ง
สามารถเข้าไปโหลด Application ได้ทุกแอปจาก Play Store โดยต้องเชื่อม Gmail Account เสียก่อน หากใครไม่มีก็ต้องไปลงทะเบียน Gmail ความเร็วจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับ Sim ที่ใส่และความแรง Wifi
รองรับการโหลด Application ได้ทุกประเภท จากในภาพผมกำลังโหลดเกม Tiny Pixel Farm มาเล่น ก็โหลดเล่นได้ปกติ แต่ในเรื่องประสิทธิภาพผมให้เฉยๆ รุ่นนี้สเปคในเครื่องคงไม่ได้แรงมากมาย เรียกได้ว่าเล่นแก้ขัดได้ แต่อย่าไปคาดหวังว่าจะเล่นเกมแรงๆ ได้ลื่นเหมือนมือถือนะ
ส่วนคนที่สงสัยว่าจะเล่น ROV ในนี้ได้มั้ย ขอตอบว่าเล่นได้ แต่ไม่ค่อยลื่นนัก แถมยังบังคับยากเพราะจอค่อนข้างกว้าง เอาเป็นว่าเล่นเกมคงไม่แนะนำ แต่หากโหลดแอปพลิเคชั่น Facebook, Line อาจจะพอเล่นแก้ขัดได้
ส่วน Application ในตัวเครื่องก็มีมาให้เยอะมาก แถมยังโหลดเพิ่มได้อีก ในนี้มี Google Maps ที่นำทางได้ ตั้งค่า Bluetooth มี File Manager ให้ด้วยนะสำหรับดูไฟล์ในเครื่อง ที่สำคัญสามารถเล่นเน็ตได้ด้วยนะผ่าน Browser ความเร็วก็ขึ้นอยู่กับสัญญาณ Internet ที่มี โดยเครื่องก็มีแอป Keyboard เตรียมไว้ให้พร้อม
และนี่คือส่วนฟังค์ชั่นการทำงานต่างๆ ของตัวกล้องครับ เดี๋ยวเราพักกันสักครู่ เดี๋ยวผมจะมาต่อเรื่องตัวกล้องหน้ารถครับ
[SR] อุ่นใจ สุขใจตลอดทางไปกับกล้องติดหน้ารถ GoalSmart DVR
อ่านรีวิวรุ่น GoalSmart DVR 3G ได้ที่: https://pantip.com/topic/37496164
ดูสรุปการเปรียบเทียบระหว่าง 2 รุ่นได้ที่: https://pantip.com/topic/37496336
ตัวนี้ผมไปหาเจอในอินเตอร์เน็ตและเป็นรุ่นที่เด่นกว่ารุ่นอื่นๆ เพราะมีจอขนาดใหญ่ เล่นเน็ต ดู Youtube ได้จากเครื่องเลย ซึ่งน่าสนใจและแตกต่างจากกล้องหน้ารถทั่วไปอยู่พอสมควร เพราะรุ่นนี้ไม่ได้เป็นแค่กล้องหน้ารถเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนเครื่อง Multimedia ที่มีกล้องติดอยู่ เพื่อนๆ สามารถดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ต โหลดแอปจาก Play Store มาไว้ในเครื่องได้ (เพราะมันเป็นเครื่อง Android ติดกล้องนั่นเอง) จึงทำให้รุ่นนี้พิเศษและน่าสนใจกว่ารุ่นอื่นๆ ตามท้องตลาดครับ
และสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจมากและเชื่อว่าไม่มีกล้องหน้ารถรุ่นไหนมีแน่ๆ นั่นคือฟังค์ชั่นที่เราสามารถดูภาพจากกล้องหน้ารถได้แบบ Real Time ไม่ว่าตอนนี้รถกำลังขับไปไหน เราก็สามารถดูได้ Real Time ผ่านแอปพลิเคชั่นที่เชื่อมกับกล้อง แถมยังดูย้อนหลังผ่านแอปได้อีกด้วย สะดวกมากๆ เวลาเกิดอุบัติเหตุ ไม่ต้องถอดการ์ด SD Card ให้ยุ่งยาก ตรงนี้ยอมรับเลยว่าเป็นจุดเด่นจริงๆ ส่วนนี้เดี๋ยวดูรายละเอียดเพิ่มในรีวิวครับ
เราทราบกันดีว่าปัจจุบันรถบนท้องถนนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รถก็ติด และยังเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น และหลายครั้งเราก็เห็นจากข่าวหรือ Youtube ว่ามีอุบัติเหตุและเหตุการณ์บนท้องถนนมากมายที่ถูกกล้องหน้ารถบันทึกไว้ได้ หลายเหตุการณ์ก็เป็นประโยชน์อย่างมากและกล้องเองก็เป็นพยานปากสำคัญให้เรา ช่วยแก้สถานการณ์ได้ดีและยังช่วยบันทึกเหตุการณ์อื่นๆ ได้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ชนแล้วหนี โดนฉกชิงวิ่งราวบนท้องถนน กล้องหน้ารถนี่แหละที่ช่วยตามจับคนร้าย ช่วยเป็นพยานที่ดีอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้น กล้องหน้ารถจึงเป็นไอเท็มที่รถทุกคันควรติดไว้ แต่จะเป็นกล้องหน้ารถธรรมดาๆ ก็อาจจะไม่น่าสนใจเหมือนรุ่นที่ผมกำลังจะรีวิวนี้ นั่นคือ GoalSmart DVR 4G ตามมากันเลยครับ
เริ่มกันที่ตัวเครื่องและกล้อง สำหรับรุ่น 4G เครื่องสีเงิน กล่องจะใหญ่กว่าเพราะจอมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย
1. สายชาร์จ
2. กล้องมองหลังพร้อมสายเชื่อมต่อ
3. ตัวรับสัญญาณ GPS
4. สาย Ground สำหรับเชื่อมต่อไฟกับรถถาวร
5. สาย USB สำหรับเสียบไฟกับรถที่มีช่อง USB
โดยพระเอกของเราในงานนี้จะเป็น ตัวรับสัญญาณ GPS และกล้องมองหลังที่สามารถประยุกต์มาบันทึกภาพในห้องโดยสารได้ด้วย
พูดถึงลักษณะตัวเครื่องภายนอกพร้อมอุปกรณ์ไปหมดแล้ว คราวนี้มาดูการใช้งานต่างๆ กันดีกว่า
เมื่อเปิดเครื่องมาแล้ว จะเจอหน้า Home แบบนี้ทั้งสองรุ่น โดยที่หน้าตาและฟังค์ชั่นแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง เครื่องรุ่นนี้เป็นระบบ Android จึงสามารถใช้งานได้เหมือนมือถือ โดยเล่นอินเตอร์เน็ตได้ โหลด App จาก Play Store ได้ สามารถเปิดวิทยุได้ ฟังเพลง และอีกมากมาย
ส่วนด้านขวาล่างจะสำหรับปรับเสียงและเพิ่ม-ลดความสว่างหน้าจอ ส่วนด้านบนขวาจะเป็นเข็มทิศแบบ Real Time
นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า Auto Sleep ของเครื่องว่าจะให้จอดับหากไม่มีการทำงานในกี่นาที สามารถตั้งค่าเรื่อง Video Lock ได้และยังตั้งความไวของเซนเซอร์ Collsion หรือระบบเตือนชนคันหน้าได้อีกด้วย ส่วนด้านขวาจะเห็น Barcode ซึ่งคือระบบ CarAssist โดยระบนี้จะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นบนมือถือในการดูภาพจากกล้องหน้ารถแบบ Real Time จะมีตัวอย่างรีวิวให้ดูต่อไปครับ
ดูเรื่องการตั้งค่าระบบมาเยอะแล้ว มาดูฟังค์ชั่นในเครื่องดีกว่า รุ่นนี้เนื่องจากเป็น Android อย่างที่บอกจึงทำให้มีลูกเล่นที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง จะเห็นว่าสามารถฟังเพลงได้จาก SD Card และความจำในเครื่อง อีกทั้งรองรับการฟังวิทยุในตัวด้วย
และยังรองรับการใช้งาน GPS โดยแอปพลิเคชั่นที่ติดเครื่องจะมี Sygic และ Google Maps สามารถใช้นำทางได้ปกติดี เท่าที่ทดสอบพบดาวเทียมประมาณ 11 ตัว แต่ตรงนี้มีจุดด้อยที่ GPS จะดีเลย์ไปบ้าง หากใช้นำทางต้องสังเกตดีๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะเลยซอยหรือถนนไปได้
สามารถเข้าไปโหลด Application ได้ทุกแอปจาก Play Store โดยต้องเชื่อม Gmail Account เสียก่อน หากใครไม่มีก็ต้องไปลงทะเบียน Gmail ความเร็วจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับ Sim ที่ใส่และความแรง Wifi
รองรับการโหลด Application ได้ทุกประเภท จากในภาพผมกำลังโหลดเกม Tiny Pixel Farm มาเล่น ก็โหลดเล่นได้ปกติ แต่ในเรื่องประสิทธิภาพผมให้เฉยๆ รุ่นนี้สเปคในเครื่องคงไม่ได้แรงมากมาย เรียกได้ว่าเล่นแก้ขัดได้ แต่อย่าไปคาดหวังว่าจะเล่นเกมแรงๆ ได้ลื่นเหมือนมือถือนะ
ส่วนคนที่สงสัยว่าจะเล่น ROV ในนี้ได้มั้ย ขอตอบว่าเล่นได้ แต่ไม่ค่อยลื่นนัก แถมยังบังคับยากเพราะจอค่อนข้างกว้าง เอาเป็นว่าเล่นเกมคงไม่แนะนำ แต่หากโหลดแอปพลิเคชั่น Facebook, Line อาจจะพอเล่นแก้ขัดได้
และนี่คือส่วนฟังค์ชั่นการทำงานต่างๆ ของตัวกล้องครับ เดี๋ยวเราพักกันสักครู่ เดี๋ยวผมจะมาต่อเรื่องตัวกล้องหน้ารถครับ