ถ้าเกิดว่า สร้างรางคู่เสร็จแล้ว เอารถไฟธรรมดาที่วิ่งซัก 120-140 กิโลเมตร/ชั่วโมง วิ่งอยู่บนรางรถไฟคู่ด้วย จอดแบบเมืองต่อเมือง หรือเมืองละ 1-2 สถานีเท่านั้นคล้ายรถไฟความเร็วสูง
สมมติว่ารถไฟความเร็วสูงที่วิ่งจากบางซื่อถึงหนองคายใช้เวลา 3:04 ชั่วโมง รถทัวร์ใช้เวลาถึงหนองคาย 10 ชั่วโมง รถไฟธรรมดาขบวนใหม่จะต้องใช้เวลา 6:30-7:00 ชั่วโมงไม่เกินนี้
ทำจุดรอหลีกเหมือนแอร์พอร์ตหัวหมากให้กับรถไฟทั่วไป แล้วให้ค่าตั๋วของรถไฟแพงกว่าค่าตั๋วของรถทัวร์เพียงเล็กน้อย
แล้วเชิญชวนเอกชนกลุ่มธุรกิจรถทัวร์ในหมอชิตซึ่งมีการบริหารจัดการที่ดีพร้อมอยู่แล้วมาซื้อหุ้นร่วมลงทุนด้วยด้านสถานี ระบบขนส่งต่างๆและตัวขบวนรถไฟด้วย เพื่อปรับปรุงบริการรถไฟให้ทันยุคทันสมัย จากที่ดูไม่สะอาด ไม่ตรงเวลา มีบริการแย่ๆ เป็นที่ก่นด่าของลูกค้าจำนวนมาก ก็ปรับเปลี่ยนเป็นอะไรที่สะอาด ตรงต่อเวลา ดูน่าสนใจ ลูกค้าประทับใจ อยากจะมาใช้บริการแล้วใช้บริการอีก
ถือเป็นการปฏิวัติ รฟท.เข้าสู่ยุคใหม่ เป็นประโยชน์ต่อการคมนาคมและคงมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก สามารถใช้ประโยชน์จากรางคู่ที่ก่อสร้างใหม่ได้อย่างเต็มที่และเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟได้ดีขึ้นอีกด้วย
สมมติทำรางคู่เสร็จแล้ว ให้มีรถไฟความเร็ว 120-140 km/ h วิ่งร่วมราง โดยดึงกลุ่มเอกชนรถทัวร์ร่วมลงทุนจะดีมั้ย
สมมติว่ารถไฟความเร็วสูงที่วิ่งจากบางซื่อถึงหนองคายใช้เวลา 3:04 ชั่วโมง รถทัวร์ใช้เวลาถึงหนองคาย 10 ชั่วโมง รถไฟธรรมดาขบวนใหม่จะต้องใช้เวลา 6:30-7:00 ชั่วโมงไม่เกินนี้
ทำจุดรอหลีกเหมือนแอร์พอร์ตหัวหมากให้กับรถไฟทั่วไป แล้วให้ค่าตั๋วของรถไฟแพงกว่าค่าตั๋วของรถทัวร์เพียงเล็กน้อย
แล้วเชิญชวนเอกชนกลุ่มธุรกิจรถทัวร์ในหมอชิตซึ่งมีการบริหารจัดการที่ดีพร้อมอยู่แล้วมาซื้อหุ้นร่วมลงทุนด้วยด้านสถานี ระบบขนส่งต่างๆและตัวขบวนรถไฟด้วย เพื่อปรับปรุงบริการรถไฟให้ทันยุคทันสมัย จากที่ดูไม่สะอาด ไม่ตรงเวลา มีบริการแย่ๆ เป็นที่ก่นด่าของลูกค้าจำนวนมาก ก็ปรับเปลี่ยนเป็นอะไรที่สะอาด ตรงต่อเวลา ดูน่าสนใจ ลูกค้าประทับใจ อยากจะมาใช้บริการแล้วใช้บริการอีก
ถือเป็นการปฏิวัติ รฟท.เข้าสู่ยุคใหม่ เป็นประโยชน์ต่อการคมนาคมและคงมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก สามารถใช้ประโยชน์จากรางคู่ที่ก่อสร้างใหม่ได้อย่างเต็มที่และเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟได้ดีขึ้นอีกด้วย