สวัสดีครับทุกท่าน นี่คือรีวิวแรกของผมกับการไปเที่ยวมาเลเซีย ครั้งแรก!!
ถ้าข้อมูลไม่ครบ ตกหล่น ใช้คำไม่ถูกใจ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับบบบบบบบบบบบบ
มาเล! มาเล! บอกตรงๆ ว่าตอนแรกก็ไม่ได้อยากไปหรอกครับ แต่ทริปนี้ก็เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ เพราะตอนแรกผมอยากหาที่เที่ยว
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อยากเคาท์ดาวน์ที่หนาวๆ อากาศดีๆ ปักมุดไปท่ีโตเกียว แต่พอดูตั๋ว ดูที่พัก จองกะทันหันแบบนี้ อืม…ไม่ไหว
แต่อยู่ดีๆ ผมก็ดั้นนึกถึง Genting ทั้งๆที่ไม่เคยไปมาก่อนเลยนะครับ ด้วยความที่ ทริปนี้มีผม มีภรรยา และแม่ยายไปด้วย
โจทย์ของทุกๆคนที่ให้ผมมาในการเที่ยวทริปนี้ ก็คือ
1.ที่พักไม่แพงเกินไป แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่ Hostel
2. ไม่เน้นผจญภัย กิจกรรมไม่ต้องแน่น เพราะ สว ไม่อยากเดินเยอะ
3.ส่วนตัวผมเองก็อยากไปดูบรรยากาศเคาท์ดาวน์มาเล และอยากไหว้พระพิฆเนศช่วงปีใหม่
ศึกษาหาข้อมูล คร่าวๆ งูๆปลาๆ สรุปว่า จะอยู่ Genting 2 วัน KL 3 วัน ครับ Let's Go!!!
มาถีงสนามบิน มาเล เราต่อรถทัวร์ขึ้น GENTING เลยครับ นั่งเมื่อยตูดกันนิส ราวๆ 2 ชั่วโมง
อยู่ Genting ก็เที่ยวในนั้นแหละครับ ถ่ายรูป เล่นCasion ที่ผมชอบข้างบนก็คงจะเป็นเรื่องอากาศครับ
ปลายปีมีความเย็น พอให้ใส่เสื้อหนาว ให้น่ารักฟรุ้งฟริ้ง
ชอบบรรยากาศของ CHIN SWEE CAVES TEMPLE ฮะ
ใช้เวลาช้าๆ เดินชิวๆ ไม่เร่ง ผมว่าก็มีมุมสวยๆ เยอะอยู่นะครับ
อยู่Genting 2 วัน ถึงเวลาเข้า KL !! ที่วางแผนมาก็คือจะนั่งกระเช้าแล้วค่อยต่อรถแหละครับ แต่ช่วงรอคิวกระเช้าเนี่ย
พี่ๆลุงๆ TAXI นี่มาดักกันเต็มเลย เสนอราคากันน่าดู บอกว่านั่งกระเช้า มันเปลือง ถ้าจะเข้าเมืองให้ไปกับเขาเลย ราคาเหมาๆ ส่วนใหญ่ 120 ขึ้น (อืม แพง)
แต่ดั้นมีลุง TAXI คนนึงที่ตื้อไม่เลิก เสนอราคามาน่าสนใจ (ประมาณ 70หรือ80 ริงกิต ต่อสามคนนะฮะ)
แถมบอกว่าให้คุณนั่งกระเช้าลงไป แล้วเขาจะไปรอตรงจุดจอดกระเช้าด้านล่าง ไม่ต้องจ่ายมัดจำ เจอกันข้างล่างค่อยว่ากัน
พอกระเช้าลงมาปุ๊บ เห้ย!! ลุง รออยู่ วาร์ปมาเฉยเลย แกมาถึงก็ช่วยถือกระเป๋า ลากกระเป๋าอย่างดี
ก็ดีครับ เจอคนใจดี แกคุยแนะนำที่เที่ยวตลอดทาง เค้าชอบเมืองไทยครับ เล่าให้ฟังด้วยว่าคนมาเล ชอบคุยเรื่องการเมืองไทย
อืม ว่าเข้าไปนั่น
ผมพักที่โรงแรม Gold 3 Boutique Hotel อยู่ตรง Bukit Bintang
แต่ก่อนจะเลือกที่นี่ตอนแรกผมก็กะจะพักที่ WOLO BUKIT BINTANG มันดูใหม่ ดูมีสไตล์ดีครับ แต่ราคาสูงพอใช้ได้
แต่พอเลื่อน GOOGLE MAPS มาเห็น GOLD 3 อืม ราคาดี ไม่แพง แถมเก๋ดีด้วย
โรงแรมตกแต่งสีทอง ธีมกล้อง "Life is like a camera focus on what's important capture the good time"
ห้องที่ผมพักจะเป็นไซส์ใหญ่ครับ เลยแถมบัตรกินอาหารเช้าที่ Grey Hound ตลอด 3 วัน มาด้วยนะฮะ อัยยะ (แถมวันละสองใบนะครับ)
Greyhound อยู่ตรงข้ามโรงแรมครับ เดินไปสองร้อยก้าวถึง
อาหารเช้ามีสองแบบ ครับ เป็น English Breakfast กับข้าวต้มครับ
แถวที่พักของกินเยอะดี เพราะเดินไปไหนก็มีแต่ห้าง ไปจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ก็สะดวก
มาพูดถึงเรื่อง เคาท์ดาวน์ กันดีกว่า -_-
วันเคาท์ดาวน์ จะมีจุดกิจกรรมหลายจุดเลยครับ ผมเดินไปดูบรรยากาศช่วงบ่ายๆถึงเย็น หลายๆที่ คนเยอะครับ
แต่สุดท้ายตัดสินใจไปอยู่ใกล้ๆโรงแรม บริเวณ Bukit Bintang ผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามา ไฟแสงสีระยิบระยับ
แต่ไอเท็มเด็ด ของมันต้องมี!! สำหรับการมาเคาท์ดาวน์ที่นี่คือ
1. แตรเชียร์บอล :
ผมอยากให้ทุกคนลองนึกถึงเวลาเราดูบอลไทยแข่งกับมาเล นะครับ เสียงแตรแบบนั้นเลยครับ แถมยิ่งช่วงนับถอยหลัง
โอ้โห!! ขี้หูนี่ไหล เลยครับ (ใครจะไปหาที่อุดหูไปด้วย)
2.สเปร์ยโฟมหิมะ :
ที่เราฉีดกันวันคริสมาสต์ นี่แหละ ความมันส์ มันอยู่ตรงที่ ทุกคนที่มีสเปร์ย คือฉีดอัดใส่หน้า ฉีดใส่รถ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่โกรธกันนะครับ
(แต่คงมีเคืองๆ เหมือนเวลาเราเล่นแป้งวันสงกรานต์) มันส์ดีนะครับ บรรยากาศแบบนี้
พอหลายๆคนฉีดพร้อมกันมันได้อารมณ์หิมะตกดีแท้ และก็เป็นครั้งแรกที่ผมรับรู้รสชาติสเปร์ยหิมะ เค็มดีครับ
ใครจะมา ก็มีแว่นตากันไว้ก็ดีครับ แต่เชื่อเถอะถ้าคุณโดนฉีดใส่ ยังไงโฟมไม่เข้าคอ ก็เข้าหู เข้าตา ลองดู ลองดู
พอวันรุ่งขึ้น ชาวมาเล หลายๆคนก็ชอบไปไหว้พระขอพร กันเยอะอยู่ครับ ทั้งวัดแขก วัดจีน คนแน่นมาก
ผมไปไหว้พระพิฆเนศที่ Court Hill Ganesh Temple ไปด้วยรถไฟฟ้า ครับ ก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมงได้
(แต่เพิ่งมารู้ตอนขากลับว่า เรียก Taxi จากวัดมาbukit bintang ใช้เวลาไม่ถึง10นาที) ผมไปช่วงบ่ายๆครับ พอไปถึงผมก็ซื้อของสักการะ
บริเวณหน้าวัด พอเดินเข้าวัดไป อ่าว ปิด (ปิดเป็นช่วงเวลา) ของที่ซื้อมาจะถวาย ยังไงดีทีนี้ ผมเลยยกมือไหว้แต่เอาของไหว้วางไว้โต๊ะเจ้าหน้าที่
มีพราหมณ์คนหนึ่งเดินมาบอกผมว่าให้กลับมาตอนสองทุ่มจะมีพิธี
ผมไม่มีถุง ไม่มีเป้ใส่ของที่จะถวายกลับโรงแรมครับ เลยวางไว้ตรงนั้น เพราะไม่แน่ใจจะได้กลับมารึเปล่า
แต่ช่วงสองทุ่มผมได้มีโอกาส กลับมาอีกที โอ้โห รอบนี้คนเต็มเลยครับ เดินเข้าวัดไป อ้าวเห้ย ของเรายังอยู่ เจ้าหน้าที่ ชี้มาทางผม
แล้วเดินเอาของมาให้ พราหมณ์กวักมือเรียกผม ลัดคิวให้เฉยเลย ดีครับ แกให้ผมไปของพร ตรงหน้าองค์ท่านพอดี อืมๆ โชคดีๆ
ขอบอกเลยครับว่าการเที่ยวมาเลเซียครั้งแรกของผม....ผมค่อยข้างรู้สึกดีเลยนะ
ตอนแรกบอกตรงๆว่าไม่อยากไป แต่พอได้ไปแล้ว อืม ยังไงคงจะต้องกลับไปอีก
ทริปต่อไปที่จะมารีวิวการไป SF กับ NYC ยังไงจะมาเล่าให้ฟังกันในไม่ช้านี่นะครับ
ขอ จบรีวิวครั้งแรก ของผมแต่เพียงเท่านี้
สวัสดีครับบบบ
[CR] Mini Review มาเลเซีย 5 วัน เคาท์ดาวน์-พาแม่ยายเที่ยว-ไหว้พระพิฆเนศ
ถ้าข้อมูลไม่ครบ ตกหล่น ใช้คำไม่ถูกใจ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับบบบบบบบบบบบบ
มาเล! มาเล! บอกตรงๆ ว่าตอนแรกก็ไม่ได้อยากไปหรอกครับ แต่ทริปนี้ก็เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ เพราะตอนแรกผมอยากหาที่เที่ยว
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อยากเคาท์ดาวน์ที่หนาวๆ อากาศดีๆ ปักมุดไปท่ีโตเกียว แต่พอดูตั๋ว ดูที่พัก จองกะทันหันแบบนี้ อืม…ไม่ไหว
แต่อยู่ดีๆ ผมก็ดั้นนึกถึง Genting ทั้งๆที่ไม่เคยไปมาก่อนเลยนะครับ ด้วยความที่ ทริปนี้มีผม มีภรรยา และแม่ยายไปด้วย
โจทย์ของทุกๆคนที่ให้ผมมาในการเที่ยวทริปนี้ ก็คือ
1.ที่พักไม่แพงเกินไป แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่ Hostel
2. ไม่เน้นผจญภัย กิจกรรมไม่ต้องแน่น เพราะ สว ไม่อยากเดินเยอะ
3.ส่วนตัวผมเองก็อยากไปดูบรรยากาศเคาท์ดาวน์มาเล และอยากไหว้พระพิฆเนศช่วงปีใหม่
ศึกษาหาข้อมูล คร่าวๆ งูๆปลาๆ สรุปว่า จะอยู่ Genting 2 วัน KL 3 วัน ครับ Let's Go!!!
มาถีงสนามบิน มาเล เราต่อรถทัวร์ขึ้น GENTING เลยครับ นั่งเมื่อยตูดกันนิส ราวๆ 2 ชั่วโมง
อยู่ Genting ก็เที่ยวในนั้นแหละครับ ถ่ายรูป เล่นCasion ที่ผมชอบข้างบนก็คงจะเป็นเรื่องอากาศครับ
ปลายปีมีความเย็น พอให้ใส่เสื้อหนาว ให้น่ารักฟรุ้งฟริ้ง
ใช้เวลาช้าๆ เดินชิวๆ ไม่เร่ง ผมว่าก็มีมุมสวยๆ เยอะอยู่นะครับ
อยู่Genting 2 วัน ถึงเวลาเข้า KL !! ที่วางแผนมาก็คือจะนั่งกระเช้าแล้วค่อยต่อรถแหละครับ แต่ช่วงรอคิวกระเช้าเนี่ย
พี่ๆลุงๆ TAXI นี่มาดักกันเต็มเลย เสนอราคากันน่าดู บอกว่านั่งกระเช้า มันเปลือง ถ้าจะเข้าเมืองให้ไปกับเขาเลย ราคาเหมาๆ ส่วนใหญ่ 120 ขึ้น (อืม แพง)
แต่ดั้นมีลุง TAXI คนนึงที่ตื้อไม่เลิก เสนอราคามาน่าสนใจ (ประมาณ 70หรือ80 ริงกิต ต่อสามคนนะฮะ)
แถมบอกว่าให้คุณนั่งกระเช้าลงไป แล้วเขาจะไปรอตรงจุดจอดกระเช้าด้านล่าง ไม่ต้องจ่ายมัดจำ เจอกันข้างล่างค่อยว่ากัน
พอกระเช้าลงมาปุ๊บ เห้ย!! ลุง รออยู่ วาร์ปมาเฉยเลย แกมาถึงก็ช่วยถือกระเป๋า ลากกระเป๋าอย่างดี
ก็ดีครับ เจอคนใจดี แกคุยแนะนำที่เที่ยวตลอดทาง เค้าชอบเมืองไทยครับ เล่าให้ฟังด้วยว่าคนมาเล ชอบคุยเรื่องการเมืองไทย
อืม ว่าเข้าไปนั่น
ผมพักที่โรงแรม Gold 3 Boutique Hotel อยู่ตรง Bukit Bintang
แต่ก่อนจะเลือกที่นี่ตอนแรกผมก็กะจะพักที่ WOLO BUKIT BINTANG มันดูใหม่ ดูมีสไตล์ดีครับ แต่ราคาสูงพอใช้ได้
แต่พอเลื่อน GOOGLE MAPS มาเห็น GOLD 3 อืม ราคาดี ไม่แพง แถมเก๋ดีด้วย
โรงแรมตกแต่งสีทอง ธีมกล้อง "Life is like a camera focus on what's important capture the good time"
ห้องที่ผมพักจะเป็นไซส์ใหญ่ครับ เลยแถมบัตรกินอาหารเช้าที่ Grey Hound ตลอด 3 วัน มาด้วยนะฮะ อัยยะ (แถมวันละสองใบนะครับ)
แถวที่พักของกินเยอะดี เพราะเดินไปไหนก็มีแต่ห้าง ไปจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ก็สะดวก
มาพูดถึงเรื่อง เคาท์ดาวน์ กันดีกว่า -_-
วันเคาท์ดาวน์ จะมีจุดกิจกรรมหลายจุดเลยครับ ผมเดินไปดูบรรยากาศช่วงบ่ายๆถึงเย็น หลายๆที่ คนเยอะครับ
แต่สุดท้ายตัดสินใจไปอยู่ใกล้ๆโรงแรม บริเวณ Bukit Bintang ผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามา ไฟแสงสีระยิบระยับ
แต่ไอเท็มเด็ด ของมันต้องมี!! สำหรับการมาเคาท์ดาวน์ที่นี่คือ
1. แตรเชียร์บอล :
ผมอยากให้ทุกคนลองนึกถึงเวลาเราดูบอลไทยแข่งกับมาเล นะครับ เสียงแตรแบบนั้นเลยครับ แถมยิ่งช่วงนับถอยหลัง
โอ้โห!! ขี้หูนี่ไหล เลยครับ (ใครจะไปหาที่อุดหูไปด้วย)
2.สเปร์ยโฟมหิมะ :
ที่เราฉีดกันวันคริสมาสต์ นี่แหละ ความมันส์ มันอยู่ตรงที่ ทุกคนที่มีสเปร์ย คือฉีดอัดใส่หน้า ฉีดใส่รถ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่โกรธกันนะครับ
(แต่คงมีเคืองๆ เหมือนเวลาเราเล่นแป้งวันสงกรานต์) มันส์ดีนะครับ บรรยากาศแบบนี้
พอหลายๆคนฉีดพร้อมกันมันได้อารมณ์หิมะตกดีแท้ และก็เป็นครั้งแรกที่ผมรับรู้รสชาติสเปร์ยหิมะ เค็มดีครับ
ใครจะมา ก็มีแว่นตากันไว้ก็ดีครับ แต่เชื่อเถอะถ้าคุณโดนฉีดใส่ ยังไงโฟมไม่เข้าคอ ก็เข้าหู เข้าตา ลองดู ลองดู
พอวันรุ่งขึ้น ชาวมาเล หลายๆคนก็ชอบไปไหว้พระขอพร กันเยอะอยู่ครับ ทั้งวัดแขก วัดจีน คนแน่นมาก
ผมไปไหว้พระพิฆเนศที่ Court Hill Ganesh Temple ไปด้วยรถไฟฟ้า ครับ ก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมงได้
(แต่เพิ่งมารู้ตอนขากลับว่า เรียก Taxi จากวัดมาbukit bintang ใช้เวลาไม่ถึง10นาที) ผมไปช่วงบ่ายๆครับ พอไปถึงผมก็ซื้อของสักการะ
บริเวณหน้าวัด พอเดินเข้าวัดไป อ่าว ปิด (ปิดเป็นช่วงเวลา) ของที่ซื้อมาจะถวาย ยังไงดีทีนี้ ผมเลยยกมือไหว้แต่เอาของไหว้วางไว้โต๊ะเจ้าหน้าที่
มีพราหมณ์คนหนึ่งเดินมาบอกผมว่าให้กลับมาตอนสองทุ่มจะมีพิธี
ผมไม่มีถุง ไม่มีเป้ใส่ของที่จะถวายกลับโรงแรมครับ เลยวางไว้ตรงนั้น เพราะไม่แน่ใจจะได้กลับมารึเปล่า
แต่ช่วงสองทุ่มผมได้มีโอกาส กลับมาอีกที โอ้โห รอบนี้คนเต็มเลยครับ เดินเข้าวัดไป อ้าวเห้ย ของเรายังอยู่ เจ้าหน้าที่ ชี้มาทางผม
แล้วเดินเอาของมาให้ พราหมณ์กวักมือเรียกผม ลัดคิวให้เฉยเลย ดีครับ แกให้ผมไปของพร ตรงหน้าองค์ท่านพอดี อืมๆ โชคดีๆ
ขอบอกเลยครับว่าการเที่ยวมาเลเซียครั้งแรกของผม....ผมค่อยข้างรู้สึกดีเลยนะ
ตอนแรกบอกตรงๆว่าไม่อยากไป แต่พอได้ไปแล้ว อืม ยังไงคงจะต้องกลับไปอีก
ทริปต่อไปที่จะมารีวิวการไป SF กับ NYC ยังไงจะมาเล่าให้ฟังกันในไม่ช้านี่นะครับ
ขอ จบรีวิวครั้งแรก ของผมแต่เพียงเท่านี้
สวัสดีครับบบบ