สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน เขียนผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ
เราเป็นคนนึง ที่ชอบเพ้อเจ้อกับเรื่องความรัก เอาง่ายๆคือชอบมโนเอามากๆ555555555
แต่สุดท้ายความรู้สึกนี้มันก็เกิดขึ้นซะงั้น มันมาพร้อมกับน้ำตาเลยล่ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนั้นเราอยู่ม.4กำลังจะขึ้นม.5 ละอ.ก็ได้พาไปเข้าค่าย เหมือนจะเป็นค่ายแรกในรอบหลายปีก็เลยทำให้ตื่นเต้นเอามากๆ เป็นค่ายเกี่ยวกับติวอะไรประมาณนี้ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้อะไรกับการติวอยู่แล้ว ประเด็นที่อยากไปคืออยากลองเข้าค่ายกับโรงเรียนอื่นบวกกับอยากเข้าค่ายร่วมกับเพื่อน ซึ่งที่ตั้งใจไว้คือความสนุกละมันก็สนุกมากๆ เป็นค่ายที่มีความทรงจำเยอะแยะ ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้รู้จักพี่ๆมหาลัย ได้ลองสัมผัสกลิ่นอายความเป็นมหาลัย รวมๆประทับใจ
เวลาเข้าค่ายพวกพี่ๆก็จะจับโรงเรียงหลายๆโรงละเข้ามาอยู่ด้วยกัน ทำให้เราต้องแยกกับเพื่อนกลุ่มเดียวกันแต่ก็ยังดีที่ยังเหลือเพื่อนอีกคน เข้าเรื่องๆ คือวันนั้นเรากับเพื่อนเพิ่งเลิกเรียนเสร็จก็เลยแวะเข้าห้องน้ำ เวลาเดินก็ต้องผ่านห้องเรียนห้องอื่นก่อน ตอนนั้นแหละเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับผู้ชายคนนี้ สมมุติว่าชื่อ นัท ละกัน เค้าใส่แว่นนะแล้วบังเอิญตอนเดินผ่านพี่เค้าก็อ่านหนังสืออยู่ เลยกระซิบบอกเพื่อนว่า "ดูดิหนอนหนังสืออ่ะ" นั้นคือครั้งแรกของที่ได้เจอของเราสองคน แต่เราก็ไม่ได้ชอบไม่ได้สน เฉยๆมาก แล้ววันไกลสอบก็มาถึงคือค่ายนี่เกี่ยวกับการติว พี่ๆเลยจะวัดระดับความรู้ของเราที่ติวมาว่าได้อะไรกลับบ้านไปบ้าง บอกเลย เราไปศูนย์ตอนกลับไปศูนย์555555 ซึ่งเราสอบเสร็จแล้วก็เลยออกมานั่งมาระเบียงห้อง แล้วเราก็มองไปรอบๆคือห้องอื่นเด็กเค้าก็ยังไม่เสร็จกันหรอกแต่มันก็มีห้องนึงที่มีคนเดินออกมา อีนี่ก็จ้องเลยจ่ะ พยายามจะดูว่าใครก็นั้นแหละสรุปเป็นพี่แกเอง เรานั่งมองตอนนั้นเหมือนพี่เค้าน่าจะออกมาทำอะไรสักอย่างเหมือนจะอ่านหนังสือละมั้ง นั้นก็คืออีกครั้งที่ได้เจอกัน แล้วครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกันก็คือคืนสุดท้ายของการอำลา เหมือนตอนนั้นทุกคนกำลังแยกย้ายกันกลับหอพักแล้วแหละ แล้วบังเอิญว่าเรายืมเพาเวอร์แบงค์ของรุ่นพี่มา เราก็ยื่นมือคืนให้พร้อมขอบคุณตามปกติแต่รู้ปะ ตอนที่เราเงยหน้าขึ้นมาอ่ะ พี่เค้าอยู่หลังรุ่นพี่ที่เรายืมเพาเวอร์แบงค์แล้วแบบสายตานี่คือสบตากันจ้าาาาาา ไม่ได้ตั้งใจมองเลยนะแต่ตามันดันไปมองเองนี่หว่า แล้วหน้าพี่เค้าก็นิ่ง นิ่งแบบเหมือนจะตกใจ ก็แหงอาดิ ไม่ให้ตกใจได้ไงเล่นแอบมองเราแล้วเราก็ดันเห็นซะขนาดนั้น5555 ตลกดีนะ
เรากลับมาวันที่ 25 แล้วพี่เค้าก็ทักมาวันนั้นแหละแต่ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ได้ติดโซเชียลขนาดนั้นเลยไม่ได้เปิด เพิ่งมาเห็นก็วันที่ 27 ตอนแรกที่เห็นข้อความก็งงอ่ะว่าใคร พอไปส่องดูก็เพิ่ง อ๋อ ผู้ชายคนนี้ ตกใจนิดหน่อยนะที่เค้าทักมา เราก็ตอบแบบไม่ได้คิดไรมากแล้วเราก็เริ่มคุยกันทุกวันแต่คือการคุยกันนั้นพี่แกไม่แอดมานะ เราเนี้ยแหละต้องแอดไป5555 ตอนนั้นก็คิดไว้แล้วแหละว่า เออพี่เค้าชอบเราแน่เลย มโนก่อนไงเป็นคนชอบมโนก็มโนไปก่อนแต่สรุปเราก็รู้นั้นแหละว่าพี่เค้าชอบเราแต่เค้าไม่เคยพูดคำนั้นให้เราได้ยินเลย เราเริ่มคุยกันจากวันเป็นสัปดาห์กลายเป็นเดือนจนตอนนี้ก็ 10 เดือนกว่าละมั้งที่คุยกันเมื่อก่อนเราไม่เคยคิดว่าจะชอบผู้ชายคนนี้ด้วยซ้ำแต่ตอนนี้บอกเลยค่ะ ชอบที่สุดในโลก ชอบมากๆ แต่สิบเดือนที่ผ่านมาเราสองคนที่ก็ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะพอสมควรนะ เราอยู่ไกลกัน คนละจังหวัด เคยเจอกันสามครั้งคือที่ค่าย เคยนัดเอาของครั้งนึงแล้วอีกครั้งคือบังเอิญเจอกันที่งานทั้งสามครั้งที่เจอกันไม่เคยจะได้คุยกันแบบจริงๆจังๆเลยสักครั้ง โทรกันก็นานๆทีแล้วอีกอย่างพี่เค้าก็ไม่ค่อยออนเฟส ช่วงแรกๆมันก็ดีอยู่หรอกเพราะตอนนั้นพี่เค้าก็ยังพอมีเวลาให้บ้างแต่หลังๆมันยิ่งทำให้เราสองคนห่างกัน เค้ามักจะบอกให้เราเข้าใจหน่อยเพราะพี่เค้าอยากเป็นหมอ ส่วนเราก็เข้าใจเค้าดี เข้าใจเอามากๆละก็พยายามทำตัวเองให้ดี ไม่งอแง ไม่รบกวน ไม่น้อยใจบ่อย บอกตัวเองเสมอว่าต้องพยายามเข้าใจให้มากกว่านี่ เอาเข้าจริง เรากลับเหนื่อย มันไม่ได้เหนื่อยที่กายแต่เหนื่อยที่ใจ วันๆก็เอาแต่นั่งคิดเรื่องพี่เค้า อยากจะโทรไปก็ไม่กล้า ทักไปก็ไม่กล้าทำอะไรไม่ได้เลย ได้เพียงแค่รออย่างใจเย็นเท่านั้น ต้องบอกตัวเองทุกครั้งเวลาน้อยใจว่า พี่เค้าต้องอ่านหนังสือ ทุกอย่างมันไม่หนักเท่า 1 เดือมนในการสอบของม.6 เราสองคนแทบจะไม่ได้คุยกันเลย นับคำที่พูดได้ยิ่งโทรคุย ยิ่งแล้วใหญ่ เหมือนกับว่าเวลาเหล่านั้นกำลังจะแแยกเราสองคนออกจากกัน แต่รู้ไหมเราตั้งตารอคอยหลังพี่เค้าสอบเสร็จแค่ไหน ซึ่งสนามสอบสุดท้ายคือ 9 สามัญ เรารอวันนั้นมาก รอว่าหลังจากที่เค้าสอบเสร็จเราจะโทรไปทันทีแล้วสุดท้ายเราก็โทรไป แต่เราก็ลือกที่จะบอกเค้าว่าเราขอวางก่อน ความรู้สึกเก่าๆมันเริ่มเลือนลางซะจริงเชียว มันมีเพียงความรู้สึกเดียวตอนนั้นคือ เราเริ่มไม่มีคำที่อยากพูดออกไปหรือความรู้สึกเราเปลี่ยนไปกันแน่หรือพราะอะไรกันนะ ไม่รู้ทำไมตอนนี้เรากลับคิดว่า เราสองคนจะไปต่อด้วยกันไม่ได้แต่เราก็ชอบเค้ามากเกินกว่าจะบอกว่า "เราเลิกคุยกันเถอะ" เราเพียงแค่คิดว่านี่ขนาดตอนนี้เค้ายังไม่มีเวลาขนาดนี้แล้วถ้าต่อไปเค้าต้องเข้ามหาลัย เราไม่ต้องทรมานกว่านี้หรอ อีกอย่างเรากำลังขึ้นม.6 แน่นอนเราเองก็คงไม่มีเวลา แล้วถ้าเราทั้งคู่ต่างไม่มีเวลาแบบนี้ความสัมพันธ์มันก็ต้องจบไปโดยการเลือนหายกันไปทีละนิด สุดท้ายก็จะกลายเป็นคนไม่รู้จักกัน เราทนไม่ได้หรอกนะถ้าต้องมาทำเป็นไม่รู้จักกับคนๆนี้ แต่ก็กลัวที่จะต้องเผชิญกับเรื่องข้างหน้าไม่ต่างกัน ต้องคิดว่าแล้วเราต้องเหนื่อยเหมือนตอนนี้รึเปล่าจะต้องร้องไห้ทุกวันเหมือนตอนนี้ไหม ต้องเสียใจ ต้องน้อยใจ ต้องผิดหวังอีกรึเปล่า ซึ่งเราก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับตัวเราอีกเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าต้องเลือกทางไหน จะปล่อยหรือต้องทนต่อไปดี
เค้าเป็นคนเก่งเป็นคนขยันมันต่างกับเราที่โครตขี้เกียจ555555555 เวลาเราอ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหนหรืออยากให้เค้าสอนเรื่องไหน เราก็โทรไป แล้วเค้าก็สอน มันน่ารัก นับเป็นโมเม้นด้วยป่าว55555 แล้วเมื่อก่อนนะพี่เค้าจะตื่นมานั่งอ่านหนังสือไม่ตีสองก็ตีสาม ซึ่งนั้นแหละค่ะเป็นเวลาที่เราตื่นเพื่อมาคุยกับพี่แกเกือบทุกวัน เราเป็นคนไม่เคยตื่นเร็วขนาดนั้นอ่ะ มันเรื่องปกติของเค้านะที่จะตื่นมาอ่านหนังสือแต่กับเราคือไม่ คิดดูลงทุนแค่ไหน แล้วมีตอนนึง คือวันนั้นเรามีสอบ เราเลยบอกให้พี่เค้าช่วยโทรปลุก เค้าก็โทรปลุกนะแต่มันพีคต้องที่ว่า เราบอกให้เค้าโทรปลุกทุกๆหนึ่งชั่วโมงตั้งแต่ตีสามละมั้ง เราคิดว่าคืนนั้นพี่เค้าอ่านหนังสือไงแล้วเค้าก็โทรมาทุกๆหนึ่งชั่วโมงจริงๆนะ จริงๆแล้วพี่เค้าก็เพิ่งบอกว่าวันนั้นอ่านแค่แปบเดียวละหลับเลย เราเลยถามว่าอ่าวแล้วโทรปลุกได้ไง เค้าก็บอกว่าพี่ก็ตั้งนาฬิกาปลุกละ ตื่นขึ้นมาปลุกไงครับ คือแบบน่ารักอ่ะ5555555 เนี้ยะแล้วก็มีอีกหลายเรื่องๆที่ทำให้เราประทับใจกับผู้ชายคนนี้ บลาๆๆๆ
ขอเล่าอีกนิดมันมีเรื่องที่พีคแบบโครตพีค คือย้อนไปตอนอยู่ค่าย เราได้รู้จักกับพี่คนนึงซึ่งพี่คนนั้นเป็นแฟนเก่าพี่เค้า แล้วด้วยความไม่รู้ไง ตอนนั้นก็ถามไปว่า ผู้ชายคนนั้นมีแฟนรึเปล่าเราถามเฉยๆไม่ได้คิดอะไร คือแบบไม่คิดไงว่าจริงๆแล้วตรงหน้าเราเนี้ยแหละคือแฟนพี่เค้า เพิ่งมารู้ก็จากเพื่อนพี่เค้านั้นแหละว่าพี่สาวคนนั้นเป็นแฟนกับพี่เค้าอ่ะ แล้วคือโกรธมากๆ เราโกรธที่เค้าไม่ยอมบอกเราเพราะอย่างน้อยพี่สาวคนนั้นเราก็รู้จักอ่ะ อยู่กลุ่มเดียวกันเรื่องนี้ทำไมไม่บอก ถ้ารู้ตั้งแต่ช่วงแรกๆนะ เราไม่คิดจะคุยกับผู้ชายคนนี้เลย
มันอึดอัดเลยมาระบายแต่ทว่าตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว ไม่รู้จะบอกใครก็มาบอกชาวพันทิปเนี้ยแหละค่ะ555555
ก็ถ้ามีโอกาสแล้วพี่เค้ามาเปิดอ่านก็อยากบอกเค้านะคะว่า "หนูน่ะ ชอบพี่มากๆ" ๑^_^๑
#21/3/2018
เล่าประสบการณ์เมื่อชอบผู้ชายคนนึงเอามากๆ
เราเป็นคนนึง ที่ชอบเพ้อเจ้อกับเรื่องความรัก เอาง่ายๆคือชอบมโนเอามากๆ555555555
แต่สุดท้ายความรู้สึกนี้มันก็เกิดขึ้นซะงั้น มันมาพร้อมกับน้ำตาเลยล่ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนั้นเราอยู่ม.4กำลังจะขึ้นม.5 ละอ.ก็ได้พาไปเข้าค่าย เหมือนจะเป็นค่ายแรกในรอบหลายปีก็เลยทำให้ตื่นเต้นเอามากๆ เป็นค่ายเกี่ยวกับติวอะไรประมาณนี้ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้อะไรกับการติวอยู่แล้ว ประเด็นที่อยากไปคืออยากลองเข้าค่ายกับโรงเรียนอื่นบวกกับอยากเข้าค่ายร่วมกับเพื่อน ซึ่งที่ตั้งใจไว้คือความสนุกละมันก็สนุกมากๆ เป็นค่ายที่มีความทรงจำเยอะแยะ ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้รู้จักพี่ๆมหาลัย ได้ลองสัมผัสกลิ่นอายความเป็นมหาลัย รวมๆประทับใจ
เวลาเข้าค่ายพวกพี่ๆก็จะจับโรงเรียงหลายๆโรงละเข้ามาอยู่ด้วยกัน ทำให้เราต้องแยกกับเพื่อนกลุ่มเดียวกันแต่ก็ยังดีที่ยังเหลือเพื่อนอีกคน เข้าเรื่องๆ คือวันนั้นเรากับเพื่อนเพิ่งเลิกเรียนเสร็จก็เลยแวะเข้าห้องน้ำ เวลาเดินก็ต้องผ่านห้องเรียนห้องอื่นก่อน ตอนนั้นแหละเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับผู้ชายคนนี้ สมมุติว่าชื่อ นัท ละกัน เค้าใส่แว่นนะแล้วบังเอิญตอนเดินผ่านพี่เค้าก็อ่านหนังสืออยู่ เลยกระซิบบอกเพื่อนว่า "ดูดิหนอนหนังสืออ่ะ" นั้นคือครั้งแรกของที่ได้เจอของเราสองคน แต่เราก็ไม่ได้ชอบไม่ได้สน เฉยๆมาก แล้ววันไกลสอบก็มาถึงคือค่ายนี่เกี่ยวกับการติว พี่ๆเลยจะวัดระดับความรู้ของเราที่ติวมาว่าได้อะไรกลับบ้านไปบ้าง บอกเลย เราไปศูนย์ตอนกลับไปศูนย์555555 ซึ่งเราสอบเสร็จแล้วก็เลยออกมานั่งมาระเบียงห้อง แล้วเราก็มองไปรอบๆคือห้องอื่นเด็กเค้าก็ยังไม่เสร็จกันหรอกแต่มันก็มีห้องนึงที่มีคนเดินออกมา อีนี่ก็จ้องเลยจ่ะ พยายามจะดูว่าใครก็นั้นแหละสรุปเป็นพี่แกเอง เรานั่งมองตอนนั้นเหมือนพี่เค้าน่าจะออกมาทำอะไรสักอย่างเหมือนจะอ่านหนังสือละมั้ง นั้นก็คืออีกครั้งที่ได้เจอกัน แล้วครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกันก็คือคืนสุดท้ายของการอำลา เหมือนตอนนั้นทุกคนกำลังแยกย้ายกันกลับหอพักแล้วแหละ แล้วบังเอิญว่าเรายืมเพาเวอร์แบงค์ของรุ่นพี่มา เราก็ยื่นมือคืนให้พร้อมขอบคุณตามปกติแต่รู้ปะ ตอนที่เราเงยหน้าขึ้นมาอ่ะ พี่เค้าอยู่หลังรุ่นพี่ที่เรายืมเพาเวอร์แบงค์แล้วแบบสายตานี่คือสบตากันจ้าาาาาา ไม่ได้ตั้งใจมองเลยนะแต่ตามันดันไปมองเองนี่หว่า แล้วหน้าพี่เค้าก็นิ่ง นิ่งแบบเหมือนจะตกใจ ก็แหงอาดิ ไม่ให้ตกใจได้ไงเล่นแอบมองเราแล้วเราก็ดันเห็นซะขนาดนั้น5555 ตลกดีนะ
เรากลับมาวันที่ 25 แล้วพี่เค้าก็ทักมาวันนั้นแหละแต่ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ได้ติดโซเชียลขนาดนั้นเลยไม่ได้เปิด เพิ่งมาเห็นก็วันที่ 27 ตอนแรกที่เห็นข้อความก็งงอ่ะว่าใคร พอไปส่องดูก็เพิ่ง อ๋อ ผู้ชายคนนี้ ตกใจนิดหน่อยนะที่เค้าทักมา เราก็ตอบแบบไม่ได้คิดไรมากแล้วเราก็เริ่มคุยกันทุกวันแต่คือการคุยกันนั้นพี่แกไม่แอดมานะ เราเนี้ยแหละต้องแอดไป5555 ตอนนั้นก็คิดไว้แล้วแหละว่า เออพี่เค้าชอบเราแน่เลย มโนก่อนไงเป็นคนชอบมโนก็มโนไปก่อนแต่สรุปเราก็รู้นั้นแหละว่าพี่เค้าชอบเราแต่เค้าไม่เคยพูดคำนั้นให้เราได้ยินเลย เราเริ่มคุยกันจากวันเป็นสัปดาห์กลายเป็นเดือนจนตอนนี้ก็ 10 เดือนกว่าละมั้งที่คุยกันเมื่อก่อนเราไม่เคยคิดว่าจะชอบผู้ชายคนนี้ด้วยซ้ำแต่ตอนนี้บอกเลยค่ะ ชอบที่สุดในโลก ชอบมากๆ แต่สิบเดือนที่ผ่านมาเราสองคนที่ก็ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะพอสมควรนะ เราอยู่ไกลกัน คนละจังหวัด เคยเจอกันสามครั้งคือที่ค่าย เคยนัดเอาของครั้งนึงแล้วอีกครั้งคือบังเอิญเจอกันที่งานทั้งสามครั้งที่เจอกันไม่เคยจะได้คุยกันแบบจริงๆจังๆเลยสักครั้ง โทรกันก็นานๆทีแล้วอีกอย่างพี่เค้าก็ไม่ค่อยออนเฟส ช่วงแรกๆมันก็ดีอยู่หรอกเพราะตอนนั้นพี่เค้าก็ยังพอมีเวลาให้บ้างแต่หลังๆมันยิ่งทำให้เราสองคนห่างกัน เค้ามักจะบอกให้เราเข้าใจหน่อยเพราะพี่เค้าอยากเป็นหมอ ส่วนเราก็เข้าใจเค้าดี เข้าใจเอามากๆละก็พยายามทำตัวเองให้ดี ไม่งอแง ไม่รบกวน ไม่น้อยใจบ่อย บอกตัวเองเสมอว่าต้องพยายามเข้าใจให้มากกว่านี่ เอาเข้าจริง เรากลับเหนื่อย มันไม่ได้เหนื่อยที่กายแต่เหนื่อยที่ใจ วันๆก็เอาแต่นั่งคิดเรื่องพี่เค้า อยากจะโทรไปก็ไม่กล้า ทักไปก็ไม่กล้าทำอะไรไม่ได้เลย ได้เพียงแค่รออย่างใจเย็นเท่านั้น ต้องบอกตัวเองทุกครั้งเวลาน้อยใจว่า พี่เค้าต้องอ่านหนังสือ ทุกอย่างมันไม่หนักเท่า 1 เดือมนในการสอบของม.6 เราสองคนแทบจะไม่ได้คุยกันเลย นับคำที่พูดได้ยิ่งโทรคุย ยิ่งแล้วใหญ่ เหมือนกับว่าเวลาเหล่านั้นกำลังจะแแยกเราสองคนออกจากกัน แต่รู้ไหมเราตั้งตารอคอยหลังพี่เค้าสอบเสร็จแค่ไหน ซึ่งสนามสอบสุดท้ายคือ 9 สามัญ เรารอวันนั้นมาก รอว่าหลังจากที่เค้าสอบเสร็จเราจะโทรไปทันทีแล้วสุดท้ายเราก็โทรไป แต่เราก็ลือกที่จะบอกเค้าว่าเราขอวางก่อน ความรู้สึกเก่าๆมันเริ่มเลือนลางซะจริงเชียว มันมีเพียงความรู้สึกเดียวตอนนั้นคือ เราเริ่มไม่มีคำที่อยากพูดออกไปหรือความรู้สึกเราเปลี่ยนไปกันแน่หรือพราะอะไรกันนะ ไม่รู้ทำไมตอนนี้เรากลับคิดว่า เราสองคนจะไปต่อด้วยกันไม่ได้แต่เราก็ชอบเค้ามากเกินกว่าจะบอกว่า "เราเลิกคุยกันเถอะ" เราเพียงแค่คิดว่านี่ขนาดตอนนี้เค้ายังไม่มีเวลาขนาดนี้แล้วถ้าต่อไปเค้าต้องเข้ามหาลัย เราไม่ต้องทรมานกว่านี้หรอ อีกอย่างเรากำลังขึ้นม.6 แน่นอนเราเองก็คงไม่มีเวลา แล้วถ้าเราทั้งคู่ต่างไม่มีเวลาแบบนี้ความสัมพันธ์มันก็ต้องจบไปโดยการเลือนหายกันไปทีละนิด สุดท้ายก็จะกลายเป็นคนไม่รู้จักกัน เราทนไม่ได้หรอกนะถ้าต้องมาทำเป็นไม่รู้จักกับคนๆนี้ แต่ก็กลัวที่จะต้องเผชิญกับเรื่องข้างหน้าไม่ต่างกัน ต้องคิดว่าแล้วเราต้องเหนื่อยเหมือนตอนนี้รึเปล่าจะต้องร้องไห้ทุกวันเหมือนตอนนี้ไหม ต้องเสียใจ ต้องน้อยใจ ต้องผิดหวังอีกรึเปล่า ซึ่งเราก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับตัวเราอีกเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าต้องเลือกทางไหน จะปล่อยหรือต้องทนต่อไปดี
เค้าเป็นคนเก่งเป็นคนขยันมันต่างกับเราที่โครตขี้เกียจ555555555 เวลาเราอ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหนหรืออยากให้เค้าสอนเรื่องไหน เราก็โทรไป แล้วเค้าก็สอน มันน่ารัก นับเป็นโมเม้นด้วยป่าว55555 แล้วเมื่อก่อนนะพี่เค้าจะตื่นมานั่งอ่านหนังสือไม่ตีสองก็ตีสาม ซึ่งนั้นแหละค่ะเป็นเวลาที่เราตื่นเพื่อมาคุยกับพี่แกเกือบทุกวัน เราเป็นคนไม่เคยตื่นเร็วขนาดนั้นอ่ะ มันเรื่องปกติของเค้านะที่จะตื่นมาอ่านหนังสือแต่กับเราคือไม่ คิดดูลงทุนแค่ไหน แล้วมีตอนนึง คือวันนั้นเรามีสอบ เราเลยบอกให้พี่เค้าช่วยโทรปลุก เค้าก็โทรปลุกนะแต่มันพีคต้องที่ว่า เราบอกให้เค้าโทรปลุกทุกๆหนึ่งชั่วโมงตั้งแต่ตีสามละมั้ง เราคิดว่าคืนนั้นพี่เค้าอ่านหนังสือไงแล้วเค้าก็โทรมาทุกๆหนึ่งชั่วโมงจริงๆนะ จริงๆแล้วพี่เค้าก็เพิ่งบอกว่าวันนั้นอ่านแค่แปบเดียวละหลับเลย เราเลยถามว่าอ่าวแล้วโทรปลุกได้ไง เค้าก็บอกว่าพี่ก็ตั้งนาฬิกาปลุกละ ตื่นขึ้นมาปลุกไงครับ คือแบบน่ารักอ่ะ5555555 เนี้ยะแล้วก็มีอีกหลายเรื่องๆที่ทำให้เราประทับใจกับผู้ชายคนนี้ บลาๆๆๆ
ขอเล่าอีกนิดมันมีเรื่องที่พีคแบบโครตพีค คือย้อนไปตอนอยู่ค่าย เราได้รู้จักกับพี่คนนึงซึ่งพี่คนนั้นเป็นแฟนเก่าพี่เค้า แล้วด้วยความไม่รู้ไง ตอนนั้นก็ถามไปว่า ผู้ชายคนนั้นมีแฟนรึเปล่าเราถามเฉยๆไม่ได้คิดอะไร คือแบบไม่คิดไงว่าจริงๆแล้วตรงหน้าเราเนี้ยแหละคือแฟนพี่เค้า เพิ่งมารู้ก็จากเพื่อนพี่เค้านั้นแหละว่าพี่สาวคนนั้นเป็นแฟนกับพี่เค้าอ่ะ แล้วคือโกรธมากๆ เราโกรธที่เค้าไม่ยอมบอกเราเพราะอย่างน้อยพี่สาวคนนั้นเราก็รู้จักอ่ะ อยู่กลุ่มเดียวกันเรื่องนี้ทำไมไม่บอก ถ้ารู้ตั้งแต่ช่วงแรกๆนะ เราไม่คิดจะคุยกับผู้ชายคนนี้เลย
มันอึดอัดเลยมาระบายแต่ทว่าตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว ไม่รู้จะบอกใครก็มาบอกชาวพันทิปเนี้ยแหละค่ะ555555
ก็ถ้ามีโอกาสแล้วพี่เค้ามาเปิดอ่านก็อยากบอกเค้านะคะว่า "หนูน่ะ ชอบพี่มากๆ" ๑^_^๑
#21/3/2018