ธรรมะที่ทำให้เสื่อมทั้งทางโลกและทางธรรม

ธรรมะที่ทำให้เสื่อมทั้งทางโลกและทางธรรม
…………………..

“ธรรมอะไรที่เรามีมากๆ แล้ว
จะเสื่อมทั้งทางโลกทางธรรม
ตอบได้ไหม? ใครจะอาสา?

ธรรมะที่ทำให้เสื่อม คือ อบายมุข นะ
อันนี้ไม่ต้องอธิบายมากเลย
เสื่อมทั้งทางโลกทางธรรม

อบายมุข มี ๖ ตัว

(๑) เที่ยวกลางคืน
กลางคืนควรจะเอาเวลาไว้พักผ่อน หรือไว้ภาวนา
ถ้าไปเที่ยวอยู่ตามผับตามบาร์
กินเหล้าเมายาอะไรอย่างนี้
มันเจริญไม่ได้หรอก ทั้งทางโลกทางธรรม

(๒) ดูการละเล่นทั้งหลายทั้งปวง
หรือจะดูซี่รี่ทั้งวันทั้งคืน
ดูบอลโต้รุ่ง อะไรอย่างนี้นะ
อย่างนี้ก็เสื่อมแน่นอน
เช้าขึ้นมาก็ตาแดง
มาทำงานนะแทบจะทำไม่ไหว
แอบมานั่งหลับในที่ทำงาน

(๓) เล่นการพนัน

(๔) กินเหล้า

(๕) คบคนชั่วเป็นมิตร
อย่างเป็นพระ ไปคบพระชั่ว
ไปคบเทวทัต ก็เสื่อม

(๖) เกียจคร้านในการงาน
อย่างโยมขี้เกียจทำงาน
ถึงเวลาทำงาน บางคนก็บอกว่า
ไม่อยากทำงานแล้ว อยากภาวนา
จะให้เมียเลี้ยง จะให้พ่อให้แม่เลี้ยง
หลวงพ่อเคยเจอคนหนึ่งนะ อายุตั้ง ๓๐ แล้ว
ให้พ่อให้แม่เลี้ยง แล้วเลี้ยงแบบเลี้ยงพระเลย
ต้องเอาอาหารมาประเคน อะไรอย่างนี้
โอ๊ย ด.จ.ร. (ดัดจริต) ไม่เจริญเลย

เกียจคร้าน (คือ)
สิ่งที่ควรทำ หน้าที่ที่ควรทำ ไม่ทำ ละเลย
อย่างเป็นพระ เกียจคร้านก็มีนะ
มีหน้าที่บิณฑบาต ก็ไม่อยากจะบิณฑบาต
มีหน้าที่กวาดวัดก็จะไม่กวาด
อ้างโน่นอ้างนี่
ฝนตก แดดออก ร้อนไป หนาวไป
เหนื่อยไป หิวไป ง่วงไป
อิ่มเกินไปก็ทำงานไม่ได้ (อ้าง)สารพัดเลย
พวกนี้พวกขี้เกียจ เป็นทางเสื่อม

ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น
เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร
เกียจคร้านในการงาน
ถ้าทำแล้วเสื่อมทั้งทางโลกทางธรรม”

…………………..
พระธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๑

ถอดคำ : พีเค
เรียบเรียง : สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา

https://www.facebook.com/1317977204900901/photos/a.1412754818756472.1073741828.1317977204900901/1862039097161373/?type=3&theater