Kobushi Factory ซิงเกิ้ลที่ 5 "Kore Kara da! / Ashita Tenki ni Naare" ความผิดหวังและอุปสรรคจะไม่สามารถหยุดเราได้

ซิงเกิ้ลนี้ทางค่ายและน้องๆ ตั้งใจสื่อความหมายชัดเจนทั้งเรื่องให้กำลังใจ และเสริมสร้างกำใจ เพราะนี่เป็นซิงเกิ้ลแรกของวงหลัง การจบการศึกษาของเพื่อนสมาชิกถึง 3คนในเวลากระชั้นชิดมากๆ ซิงเกิ้ลนี้เน้นไปทีสไตล์ pop rock แบบชัดเจนเพราะนอกจากจะสื่ออารมณ์ความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ และปลุกเร้าเสริมสร้างกำลังใจได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังเป็นสไตล์ที่น้องๆ Kobushi Factory ทำได้ดีมากๆ ในช่วงหลังๆมานี่ด้วย


เพลงแรก Kore Kara da! (Starts from now!)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เพลงนี้สื่ออารมณ์ความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้แบบชัดเจน ทั้งเนื้อร้อง ทำนองเพลง และ MV
เรียบง่าย ตรงๆ ทรงพลัง ผิดวิสัย Hello! Project อย่างแรงhaha
แต่เพราะสื่อแบบซื่อๆ ตรงๆ นะเวลาแบบนี้เลยทำให้น้องๆ ร้องออกมาจากใจได้อย่างทรงพลังมากๆ
สิ่งที่ชอบในเพลงคือการเรียบเรียงเพลงของ Hamada Pierre Yusuke ที่ทำครึ่งแรกเพลงให้ดูหม่นๆ จริงจัง และค่อยๆเร่งเร้าอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนที่จะพลิกอารมณ์ตรงช่วงตั้งแต่ท่อนโซโล่ และเพิ่มความสดใส แถมมีช่วงให้ Reirei(Inoue Rei) ได้โชว์สกิล beatbox ที่เคยฝึกมาด้วย

เพลงนี้แต่งเนื้อร้องโดย Izusu Himi /ทำนองโดย Yoko Kensuke /เรียบเรียงโดย Hamada Pierre Yusuke
ที่พูดถึงคนแต่งเพลงนี้เพราะมันมีอะไรน่าสนใจหลายอย่างเลยโดยเฉพาะ ทั้ง3คนเป็นหน้าใหม่ที่เพิ่งได้ร่วมงานกับ  Hello! Project มาไม่เยอะ

ในส่วนของ Izusu Himi นั้นประวัติส่วนใหญ่ทำงานเพลงให้อนิเมชั่นค่อนข้างเยอะ
และมาทำเพลงให้กับ H!P มาเพลงนี้เป็นเพลงที่ 6 แล้ว และขอบอกเลยว่าเพลงที่ทำเด็ดทุกเพลง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ในส่วนของ Hamada Pierre Yusuke ก็เป็นหน้าใหม่เช่นกันทำเพลงมาไม่เยอะ และมาทำเพลงให้ Hello! Project มา 7เพลงแล้วเช่นเดียวกัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แต่ที่น่าสนใจที่สุดเลยคือในส่วนทำนองที่ได้ Yoko Kensuke แต่งเพลงให้
เพราะในประวัติส่วตัวเคยทำเพลงให้ AKB48 /SKE48 /NMB48 /และ Nokisaka46 เป็นส่วนใหญ่
ของประวัติการทำเพลงของตัวเค้า (ประมาณครึ่งนึงของผลงานจนถึงปัจจุบันของเค้า) และเพลงนี้คือเพลงแรกที่มาร่วมงานกับ Hello! Project

นอกจากตัวเพลงแล้ว ผมยังชอบคาแรคเตอร์น้อง Nomura Minami ด้วย
ในเพลงบทน้องเป็นนักวิ่งที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน รูปแบบที่น้องแสดงค่อนข้างเหมือนคาแรคเตอร์ตัวน้องเองเลยคือ
ถึงจะมีอุปสรรคอะไรสิ่งที่น้องทำก็คือยิ้มรับ และก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆไม่วอกแวก
และก็ยังชอบสไตล์การแต่งตัวของน้อง Wada Sakurako ใน MV ด้วยที่เป็นแนวติสๆ เซอๆ หน่อย

inoue rei ฝึกซ้อม beatbox เพื่อร้อง Chotto Guchoku ni! Chototsu Moushin เวอชั่นอะแคปเปลลา ในทัวคอนเสิร์ตปีที่แล้ว
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




เพลงที่สองคือ Ashita Tenki ni Naare (Let it be a fine day tomorrow)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่ทำออกมาตรงๆ ซื่อๆ แต่ถ้าเทียบกับเพลงแรกผมว่ามันดรอปไปนิด
ถ้าใน MV มีวงดนตรเล่นแบ๊คอัพให้ด้วย เพลงน่าดูทรงพลังไม่น้อยเลย และถ้ายิ่งเวลาแสดงสดมีวงดนตรีเป็นแบ๊คอัพให้ด้วย น่าจะยิ่งทรงพลัง
แต่มันน่าจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน Up-front ถึงไม่ค่อยให้น้องๆ แสดงร่วมกับวงดนตรีเล่นสด ทั้งที่ทำทีไรผลก็ออกมาดีเสมอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่