สอบทำใบขับขี่(รถจักรยานยนต์)ต้องทำอะไรบ้าง2561

-คือผมจะไปทำใบขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ครั้งแรก ผมไม่รู้ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ต้องตรวจอะไรบ้าง สอบภาคปฏิบัติเขาให้ทำอะไรบ้าง
แล้วแนวข้อสอบปี61เป็นแนวๆไหนหรครับ?
-ขอบคุณครับอมยิ้ม04
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เรียน สมาชิกหมายเลข 4360025
       สำหรับการขอรับใบอนุญาตรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 2 ปี อายุใบอนุญาตจะมีอายุ 2 ปี    
สำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวก่อนวันที่ 23 มีนาคม 2558 ซึ่งมีอายุใบอนุญาต 1 ปีนั้น ยังคงต้องติดต่อขอเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (อายุ 5 ปี) ภายในกำหนดเดิม คือ เมื่อครบ 1 ปี หรือก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ 60 วัน

คุณสมบัติ
- ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ (ยกเว้นสำหรับรถจักรยานยนต์ความจุ กระบอกสูบขนาดไม่เกิน 110 ซีซี ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี บริบูรณ์)
- มีความรู้ความสามารถในการขับรถ
- มีความรู้ในข้อบังคับการเดินรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก
- ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้
- ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
- ไม่มีใบอนุญาตขับรถชนิดเดียวกันอยู่แล้ว
- ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ

หลักฐานประกอบคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
- ใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 1 เดือน (ใบรับรองแพทย์จากคลินิกสามารถนำมายื่นได้)
หมายเหตุ :ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ใบรับรองแพทย์จะต้องเป็นไปตามรูปแบบมาตรฐานที่แพทยสภารับรอง
กรณีต้องการยื่นขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์และรถยนต์พร้อมกัน สามารถใช้ใบรับรองแพทย์ตัวจริง 1 ชุด พร้อมสำเนา 1 ชุด
ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการขับรถมี 4 กลุ่ม ได้แก่
- ผู้ป่วยโรคลมชักที่ยังควบคุมอาการไม่ได้
- ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทางสมอง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่รักษาด้วยยาฉีดอินซูลิน
- ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือผ่านการผ่าตัดหัวใจหรือขยาย เส้นเลือดหัวใจ
     ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่าเป็นความเจ็บป่วยที่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถ ยกเว้นผู้ที่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์
     หมายเหตุ : กรณีทำบัตรครั้งแรก จองบัตรคิวทุกครั้ง

การอบรม
- กรณีขอใบอนุญาตครั้งแรก ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรในวิชาดังต่อไปนี้ เป็นเวลา 5 ชั่วโมง (บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป)
     - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง (กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ กฎหมายว่าด้วยทางหลวง และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก)
     - การขับรถอย่างปลอดภัย
     - จิตสำนึกและมารยาทในการขับรถ
     - ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและการให้ความช่วยเหลือและการปฐมพยาบาล
     ***ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวที่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวมาแล้วและมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรจิตสำนึกและการขับรถอย่างปลอดภัยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ***

กรณีที่มีการอบรมภาคทฤษฎีจากสถาบันภายนอกมา แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
ติดต่อที่ กรมการขนส่งทางบก ไม่ต้องจองคิว สามารถนำเอกสารการผ่านอบรมและเอกสารข้างต้นไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการทดสอบข้อเขียนได้เลย หากผ่านการทดสอบข้อเขียนแล้วเจ้าหน้าที่จะให้จองคิวในการสอบปฏิบัติอีกครั้ง
ติดต่อสำนักงานขนส่งพื้นที่อื่น จะต้องติดต่อจองคิวกับสำนักงานขนส่งแต่ละพื้นที่โดยตรง
เงื่อนไข :
เอกสารการผ่านอบรมภาคทฤษฎีจากสถาบันภายนอก มีอายุ 6 เดือน
หลังจากที่ยื่นเอกสารการผ่านอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ขนส่งแล้ว จะต้องสอบข้อเขียนและสอบภาคปฎิบัติให้ผ่านภายใน 90 วัน (ถ้าสอบไม่ผ่านจะต้องไปอบรมภาคทฤษฎีใหม่)
ในกรณีผู้ที่อ่านหนังสือไม่ออก จะมีเจ้าหน้าอ่านข้อสอบให้และให้ตอบปากเปล่า
ขั้นตอนและระยะเวลาในการขอรับใบอนุญาตในแต่ละสำนักงานขนส่งแต่ละเขตพื้นที่เวลาอาจคลาดเคลื่อนแล้วแต่ความเหมาะสม
การจำกัดจำนวนหรือโควตาในการทำใบอนุญาตขับรถแต่ละเขตจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสถานที่และความเหมาะสมของสำนักงานขนส่งแต่ละเขตพื้นที่
การขอใบอนุญาตขับรถ สามารถยื่นเรื่องและได้รับใบอนุญาต ประมาณ 2 วันทำการ
ยื่นหลักฐาน ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย อบรม 5 ชั่วโมง สอบข้อเขียน ชำระค่าธรรมเนียม และรับใบอนุญาตกรณีสอบผ่าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการติดต่อขอใช้บริการของประชาชน สามารถสอบถามระยะเวลาที่ชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง ซึ่งการดำเนินการขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่
กรณีสอบไม่ผ่าน  
- ผู้เข้าสอบจะได้รับใบนัดเพื่อทำการสอบใหม่ (หากใบนัดหาย ให้นำบัตรประชาชนมาติดต่อที่สนามสอบขับรถ และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่สนามสอบได้เลย )
- ใบนัดมีอายุ 90 วัน จากวันที่ยื่นเอกสารในครั้งแรก จนถึงขั้นตอนสอบขับรถ และหากเกิน 90วัน จะต้องเริ่มต้นใหม่ทุกขั้นตอน
- เมื่อถึงกำหนดวันนัดสอบแล้ว แต่ไม่สามารถมาสอบได้ ผู้สอบสามารถมาติดต่อในวันถัดไปได้โดยไม่ต้องขอเลื่อนนัดล่วงหน้า
การทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถ

หลักฐานประกอบคำขอเพิ่มเติมเพื่อขอยกเว้นการทดสอบในการทำใบขับขี่
ใบอนุญาตที่ยังไม่หมดอายุพร้อมภาพถ่าย ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจะได้ยกเว้นการทดสอบทั้งหมด
ใบอนุญาตขับรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทหาร
ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศสำหรับรถยนต์
ใบอนุญาตขับรถยนต์ที่รัฐบาลต่างประเทศออกให้ และยังไม่หมดอายุพร้อมภาพถ่าย โดยใบอนุญาตขับรถต่างประเทศต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย ซึ่งได้รับการรับรองคำแปลจากสถานทูต

อัตราค่าธรรมเนียม
- ค่าคำขอ 5 บาท
- ค่าใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ชั่วคราว 100 บาท ต่อ 2 ปี (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป)
โดยมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมการถ่ายรูปแบบสมาร์ทการ์ด 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป
หากมีการแก้ไขรายการในใบอนุญาตขับรถ เสียค่าธรรมเนียม เพิ่ม 50 บาท

สถานที่ติดต่อ ติดต่อในพื้นที่ที่สะดวกได้ทุกพื้นที่
ในเขตกรุงเทพฯ
- กรมการขนส่งทางบก (อาคาร 4 ชั้น 2)
- สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1 – 4
ต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่
- สำนักงานขนส่งส่วนภูมิภาคของแต่ละจังหวัด

การทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถ
     การขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้องทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย อบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร กฎหมายว่าด้วยรถยนต์, กฎหมายทางหลวงและการขับรถที่ถูกต้องปลอดภัย โดยใช้เวลาอบรม 5 ชั่วโมง (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป) ทดสอบข้อเขียนและทดสอบขับรถ

การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย
การทดสอบปฏิกิริยา
- ให้ทดสอบความสามารถในการใช้เบรกเท้ารวม 3 ครั้ง หากสามารถเหยียบเบรกได้ในระยะเวลาน้อยกว่า หรือเท่ากับ 0.75 วินาที 2 ใน 3 ครั้ง ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ
การทดสอบสายตา
- ทดสอบสายตาทางกว้าง ถ้าสามารถมองเห็นทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เป็นมุมกว้างข้างละ 75 องศา 2 ใน 3 ครั้ง ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ
- ทดสอบสายตาทางลึก ให้ทดสอบการมองเห็นในระยะ 2.50 - 3.50 เมตร รวม 3 ครั้ง หากผลการทดสอบห่างจากจุดที่กำหนดไม่เกินกว่า 1 นิ้ว 2 ใน 3 ครั้ง ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ
- ทดสอบสายตาบอดสี ให้ดูสีเขียว สีแดง และสีเหลืองจากเครื่องทดสอบหรือแผ่นภาพทดสอบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดหรือเห็นชอบ โดยอยู่ห่างจากแผ่นภาพทดสอบในระดับสายตาระยะไม่น้อยกว่า 3 เมตร แล้วอ่านสีตามที่เจ้าหน้าที่กำหนดสีละ 3 ครั้ง หากอ่านได้ถูกต้อง 2 ใน 3 ครั้ง ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ

การทดสอบข้อเขียน
     ผู้เข้ารับการทดสอบข้อเขียนต้องทดสอบความรู้ในข้อควรปฏิบัติ หรือข้อบังคับการเดินรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ตามชนิดของใบอนุญาต กรณีเป็นการทดสอบสำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ต้องทดสอบความรู้เกี่ยวกับถนนและทางหลวงในเขตจังหวัดที่ขอรับใบอนุญาตขับรถนั้นด้วย
     ในการสอบภาคทฤษฎี เพิ่มจำนวนข้อสอบเป็น 50 ข้อ ผ่านเกณฑ์การสอบร้อยละ 90 (หรือต้องทำได้ 45 ข้อ) จากเดิมข้อสอบ 30 ข้อเกณฑ์ผ่านเพียงร้อยละ 75 (หรือต้องทำได้ 23 ข้อ) โดยข้อสอบแบบใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ข้อ ใช้หมุนเวียนออกสอบในแต่ละรอบ
หมายเหตุ : เริ่มการสอบใบอนุญาตขับรถรูปแบบใหม่ในวันที่ 1 มิถุนายน 2557 เป็นต้นไป

การทดสอบขับรถ
ท่าที่ใช้ในการการทดสอบขับรถจักรยานยนต์

ท่าที่ 1 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
- ผู้เข้ารับการทดสอบต้องปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรไม่น้อยกว่า 5 เครื่องหมาย คือ ป้ายหยุด ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือห้ามเลี้ยวขวา ให้เลี้ยวซ้ายหรือให้เลี้ยวขวา ห้ามหยุดรถ ห้ามเข้า และต้องให้สัญญาณไฟตามจุดต่างๆ ได้ถูกต้องทุกแห่ง
ท่าที่ 2 การขับรถทรงตัวบนทางแคบ
- ต้องขับขี่โดยทรงตัวบนอุปกรณ์ที่ใช้ไม้กระดานกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 15 เมตร หรือใช้คอนกรีตเทเป็นแนวเส้นตรงตามขนาดดังกล่าวให้สูงประมาณ 2 - 3 เซนติเมตร โดยให้กำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดห่างจากไม่กระดานหรือแนวคอนกรีต 8 เมตร และต้องขับผ่านตลอดตั้งแต่ต้นจนจบใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10 วินาที และเริ่มนับเวลาเมื่อล้อหลังขึ้นอยู่บนอุปกรณ์และสิ้นสุดเมื่อล้อหน้าลงจากอุปกรณ์
- ในระหว่างขับ เท้าต้องไม่หลุดจากที่พักเท้า ล้อต้องไม่ตกหรือลื่นไถลจากอุปกรณ์ ใช้ความเร็วอย่างเหมาะสม และเครื่องต้องไม่ดับระหว่างทดสอบ
ท่าที่ 3 การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบรูปตัวแซด
- ให้ขับรถในทางโค้งรัศมีแคบ ที่ใช้หลักหรือกรวยหรือใช้คอนกรีตเทเป็นรูปตัวแซด (Z) ที่มีช่องเดินรถกว้าง 2 เมตร กรวยหรือหลักห่างกัน 1.5 เมตร ฐานบนและฐานล่างของตัวแซด ยาว 5 เมตร ความยาวระหว่างฐานบนและฐานล่างของตัวแซด ยาว 16 เมตร ให้ขับรถช้า ใช้เกียร์ต่ำและสามารถควบคุมรถขับเลี้ยวขวาและเลี้ยวซ้ายไปได้ตลอด ห้ามลื่นไถลหรือรถล้ม ไม่ชนกรวยหรือหลัก เครื่องยนต์ต้องไม่ดับ และไม่ใช้เท้าแตะพื้น
ท่าที่ 4 การขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวารูปตัวเอส
- ให้ขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวา ที่ใช้หลักหรือกรวยหรือใช้คอนกรีตเทเป็นรูปตัวเอส (S) ที่มีช่องทางเดินรถกว้าง 2 เมตร ยาว 17 เมตร กรวยหรือหลักห่างกัน 1 เมตร ให้สามารถควบคุมรถผ่านไปได้ตลอดโดยรถไม่เสียหลักลื่นไถลหรือล้ม ไม่ชนกรวยหรือหลัก เครื่องยนต์ต้องไม่ดับ และไม่ใช้เท้าแตะพื้น
ท่าที่ 5 การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
- ให้ขับรถด้วยความเร็วที่ 20 - 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   ขับรถหลบหลีกกรวยยางที่ตั้งไว้สำหรับทดสอบไปทางด้านซ้ายและด้านขวาในลักษณะสลับฟันปลา ซึ่งกรวยยางตั้งบนพื้นที่ที่มีความกว้าง 3.5 เมตร จำนวน 5 หลัก เป็นเส้นตรงบริเวณกึ่งกลางของพื้นที่ที่ใช้ทำการทดสอบ โดยให้กรวยยางแต่ละอันมีระยะห่าง 5 เมตร โดยให้จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดมีระยะห่างจากกรวยยาง จำนวน 8 เมตร ในระหว่างขับรถต้องสามารถควบคุมรถได้ดี ไม่เสียหลักลื่นไถล ไม่เฉี่ยวหรือชนสิ่งกีดขวางหรือขอบทาง และเครื่องยนต์ต้องไม่ดับขณะขับรถ
   การทดสอบขับรถจักรยานยนต์ ให้ทดสอบขับรถ จำนวน 3 ท่า คือ ท่าที่ 1 เป็นท่าบังคับ และเลือกทดสอบอีก 2 ท่าตามความเหมาะสมของสนามทดสอบ

กรณีสอบไม่ผ่าน
- ผู้เข้าสอบจะได้รับใบนัดเพื่อทำการสอบใหม่ (หากใบนัดหาย ให้นำบัตรประชาชนมาติดต่อที่สนามสอบขับรถ และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่สนามสอบได้เลย)
- ใบนัดมีอายุ 90 วัน จากวันที่ยื่นเอกสารในครั้งแรก จนถึงขั้นตอนสอบขับรถ และหากเกิน 90วัน จะต้องเริ่มต้นใหม่ทุกขั้นตอน
เมื่อถึงกำหนดวันนัดสอบแล้ว แต่ไม่สามารถมาสอบได้ ผู้สอบสามารถมาติดต่อในวันถัดไปได้โดยไม่ต้องขอเลื่อนนัดล่วงหน้า

การจองคิวอบรมในการขอรับใบขับขี่ตามพ.ร.บ.รถยนต์ ชนิดชั่วคราว (ขอใหม่)
     กรมการขนส่งทางบก เปิดให้ประชาชนสามารถจองคิวเพื่อเข้ารับการอบรมได้ล่วงหน้า โดยสามารถจองคิวได้ 3 ช่องทาง คือ 1. ด้วยตนเอง 2. ทางโทรศัพท์ และ 3. ทางออนไลน์ (เฉพาะกรุงเทพมหานคร) ดังนี้
สามารถจองคิวอบรมของสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5
Samorn

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่