ใจเย็นๆ นะโอตะ 555
วิพากษ์น้องเมษากระทู้ก่อนได้เข้าใจอะไรมากขึ้นเยอะ ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความเห็น
ทีนี้ขอพูดถึงทีละประเด็นต่อนะครับ
1. RAM ไม่มีทางเชิญน้องออกแน่นอน เพราะสินค้าของน้องยังขายได้ และมีฐานแฟนโอตะอยู่จำนวนหนึ่ง อันนี้เห็นด้วย ชัดเจน
2. ข่าวดราม่าน้องเมษา ช่วยทำให้ BNK48 เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อันนี้น่าจะจริง แต่ถ้าจะบอกว่า BNK48 ดังอย่างทุกวันนี้ได้เพราะน้องเมษา(จากข่าวดราม่า) ผมว่าไม่ใช่ล่ะ
ถึงจะไม่มีข่าวดราม่า BNK48 ก็จะยังดังอย่างทุกวันนี้อยู่ดี เพราะเพลงคุ้กกี้เสี่ยงทาย ที่มีเหตุปัจจัยในการเติบโตชัดเจนมาก ข่าวดราม่าอาจช่วยจุดประกายความสนใจจากคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็คือสื่อบันเทิงกอสซิบและผู้เสพบันเทิงแนวนี้ แต่กลุ่มผู้ที่มีส่วนดันเพลงคุ้กกี้ได้มากที่สุดก็คือศิลปินต่างๆ ที่พูดถึงและคัฟเวอร์เพลง
3. ถ้าน้องเมษาไม่เหมาะกับ BNK48 ทำไมถึงผ่านการคัดเลือกมา ผู้คัดเลือกผิดพลาดหรือ? ผมมองว่าอย่างนี้
จากบทสัมภาษณ์คุณจิรัฐ คุณสมบัติของเม็มเบอร์ที่เขาต้องการที่สุดคือ คนที่เป็น "น้ำไม่เต็มแก้ว" พร้อมพัฒนาตัวเองได้เรื่อยๆ มีความพยายามมุ่งมั่น ส่วนพรสวรรค์เป็นเรื่องรอง ชัดเจนว่าเม็มเบอร์ 29 คนที่ผ่านออดิชั่นมาได้ กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าทีมคัดเลือก เก่งจริงๆ
แต่ผมเชื่อว่าทีมงานตั้งใจให้น้องเมษาผ่านเข้ารอบมาได้ ทั้งๆ ที่ตอนออดิชั่นรอบสุดท้าย (ในรายการ BNK48 Senpai) น้องแสดงออกถึงความ มั่นใจตัวเองเกิน
- ไม่ยอมซ้อมตรงกับเพลง ผลคือเต้นไม่เข้ากับคนอื่น จนถูกครูตำหนิจนร้องไห้
- ตอนสอบใหญ่ ก็หลบไปซ้อมอยู่คนเดียว
- ครูเอ๊ะ พูดต่อหน้าเมษาว่า "เมษามีพรสวรรค์มาก แต่เมษาขาดความพยายาม"
ทุกคนคงทราบดีว่า BNK48 เป็นไอด้อลที่สเปคต่างจากวงอื่นๆ ที่คนไทยเคยรู้จักมา พรสวรรค์และเสน่ห์ที่ค่อยๆ เกิดขึ้นจากความพยายามในวง สำคัญกว่าพรสวรรค์และเสน่ห์ที่มีติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงแล้วยังอยู่เหมือนเดิม วงนี้ขายพัฒนาการที่เกิดจากความพยายาม มากกว่าคุณภาพที่มีอยู่แล้ว ไม่งั้น 48 Group ก็จะไม่ต่างจากไอด้อลทั่วไป
คงเพราะรุ่นแรกเขาคงต้องการให้มีคนมีพรสวรรค์เข้ามาจำนวนหนึ่งด้วย เพื่อช่วยดันวงในช่วงแรกที่โนเนม ลดความเสี่ยงที่สมาชิกอาจเฉิดฉาย Evo ได้ช้ากว่าที่ควร (แต่เดชะบุญ ที่รุ่นแรกมีตัวท็อปที่ Evo ได้เทพอยู่หลายคน วงถึงโตได้เร็วต่อเนื่อง) และลึกๆ กรรมการหลายคนคงหวังว่าน้องเข้ามาอยู่ภายใต้ Culture 48 Group แล้วจะสามารถถูกบ่มเพาะเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกันได้แบบคนอื่นๆ
4. ต้องยอมรับว่าน้องเมษาหน้าตาดีอันดับต้นๆ ของวง และมีพรสวรรค์หลายด้าน ทั้งร้อง เต้น บีทบ็อกซ์ (ถ้าน้องไปอยู่วงอื่นคงดังไม่แพ้เนะโกะจั๊มพ์) แต่คอนเส็ปต์ของ 48 Group คือ ความพยายามเป็นอันดับ 1 ของคุณสมบัติไอด้อลเครือนี้
5. ไม่แปลกใจที่น้องเมษาจะมีแฟนคลับจำนวนไม่น้อย จากความน่ารักและพรสวรรค์ เพราะระบบ 48 Group ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย และบางทีความพยายามมันจับต้องยาก วัดยาก พิสูจน์ยาก (แต่การวัดผลงานของกลุ่มนี้ก็ค่อนข้างจับต้องได้นะครับ จากเม็มเบอร์คนอื่นๆ ที่ได้โอกาส) ความน่ารักและความสามารถมันชัดเจนอยู่ตรงหน้าก็คว้ามาโอชิไว้เลย
6. ถ้าความพยายามมันวัดกันยาก รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่พยายาม งั้นเรื่องพัฒนาการ น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนกว่า อันนี้ทุกคนที่ติดตามใกล้ชิดคงตอบได้ดีกว่า เม็มเบอร์แต่ละคนมีพัฒนาการที่เราเห็นได้ชัดเจนมากๆๆ
7. ทัศนคติและการแสดงออก ทุกคนหวังว่าจะเห็นน้องเมษาปรับตัวและพัฒนาขึ้นแบบเม็มเบอร์คนอื่นๆ แต่แล้ว...
- ดราม่าภาพหลุด กี่อันไม่รู้ ที่แน่ๆ ก็อันนั้นแหละ
- การโพสต์ตอบโต้แฟนที่วิจารณ์เรื่องผอม เชิงประชด ด่าอย่างสุภาพ (มีคนแคปมาได้ ลบไปแล้ว)
- คนจริงไม่พูดเยอะ เจ็บคอ
- เนียนไม่พูดถึงเรื่องที่เป็นเหตุให้โดนพักงาน ไม่ออกมาชี้แจง ขอโทษ สไตล์ญี่ปุ่น (ประเทศไทยเราชินกับการเนียนแบบนี้ แต่ญี่ปุ่นเขาซีเรียสมาก)
ผมไม่กล้าเดาใจว่าทีมงานรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
8. น้องเมษาได้รับการโหวตจากเม็มเบอร์ในไลฟ์ตู้ปลาประมาณ 6 คนถ้าจำไม่ผิด ว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด ถือเป็นเรื่องดีครับ น้องคงดีใจ
แต่ขอวิเคราะห์ว่าคงเป็นเพราะ ทุกคนไม่รู้สึกว่าอยู่กับเมษาแล้วต้องแข่งขันกัน ไม่รู้สึกกดดัน เป็นเม็มเบอร์ที่ชิลล์ๆ แต่กับเม็มเบอร์คนอื่นๆ เห็นเขาตั้งใจเอาเป็นเอาตายกันหมดเลย อยู่ด้วยแล้วเลยแอบเครียดรู้สึกเป็นคู่แข่งกัน
9. เรื่องส่วนตัวน้องจะขอไม่วิจารณ์ครับ ทุกคนมีเหตุผลและความจำเป็นของตัวเองที่ต่างกัน เม็มเบอร์ที่ลงทุนออกจากโรงเรียนมาทุ่มเทให้วงเต็มร้อย มีเวลาซ้อมเต็มที่ ก็ไม่ได้แปลว่ามีความทุ่มเทให้วงมากกว่าเสมอไป (อันนี้พูดจริง)
10. สถานการณ์วงปัจจุบัน เชื่อว่าทีมคัดเลือกรุ่นสองคงไม่จำเป็นต้องหาเด็กที่มีพรสวรรค์เป็นที่หนึ่งแต่อาจด้อยด้านทัศนคติ เข้ามาติดในวงสักคนสองคนอีกต่อไปแล้วครับ วงจุดติดแล้ว รุ่นหนึ่งก็เจิดจรัสกันได้ขนาดนี้แล้ว รุ่นสองต้องมุ่งเข้ามาช่วยเติมเต็มให้วง ทุกคนที่ติดจำเป็นต้องเป็น "น้ำไม่เต็มแก้ว" เพื่อที่จะเข้ามาสืบสานความเป็น BNK48 ที่รุ่น 1 สร้างกันมาตลอดปีได้ขนาดนี้ น้องเมษาคงเป็นเคสพิเศษเคสสุดท้ายที่ทีมงานมองว่าคุ้มที่จะเสี่ยงครับ
ไม่มีเหตุผลที่ผมจะวิพากษ์น้องเมษาอีกแล้ว ขอไปเปย์คามิโอชิของผมต่อ
วิเคราห์เรื่องน้องเมษาต่ออีกนิดเดียว
วิพากษ์น้องเมษากระทู้ก่อนได้เข้าใจอะไรมากขึ้นเยอะ ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความเห็น
ทีนี้ขอพูดถึงทีละประเด็นต่อนะครับ
1. RAM ไม่มีทางเชิญน้องออกแน่นอน เพราะสินค้าของน้องยังขายได้ และมีฐานแฟนโอตะอยู่จำนวนหนึ่ง อันนี้เห็นด้วย ชัดเจน
2. ข่าวดราม่าน้องเมษา ช่วยทำให้ BNK48 เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อันนี้น่าจะจริง แต่ถ้าจะบอกว่า BNK48 ดังอย่างทุกวันนี้ได้เพราะน้องเมษา(จากข่าวดราม่า) ผมว่าไม่ใช่ล่ะ
ถึงจะไม่มีข่าวดราม่า BNK48 ก็จะยังดังอย่างทุกวันนี้อยู่ดี เพราะเพลงคุ้กกี้เสี่ยงทาย ที่มีเหตุปัจจัยในการเติบโตชัดเจนมาก ข่าวดราม่าอาจช่วยจุดประกายความสนใจจากคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็คือสื่อบันเทิงกอสซิบและผู้เสพบันเทิงแนวนี้ แต่กลุ่มผู้ที่มีส่วนดันเพลงคุ้กกี้ได้มากที่สุดก็คือศิลปินต่างๆ ที่พูดถึงและคัฟเวอร์เพลง
3. ถ้าน้องเมษาไม่เหมาะกับ BNK48 ทำไมถึงผ่านการคัดเลือกมา ผู้คัดเลือกผิดพลาดหรือ? ผมมองว่าอย่างนี้
จากบทสัมภาษณ์คุณจิรัฐ คุณสมบัติของเม็มเบอร์ที่เขาต้องการที่สุดคือ คนที่เป็น "น้ำไม่เต็มแก้ว" พร้อมพัฒนาตัวเองได้เรื่อยๆ มีความพยายามมุ่งมั่น ส่วนพรสวรรค์เป็นเรื่องรอง ชัดเจนว่าเม็มเบอร์ 29 คนที่ผ่านออดิชั่นมาได้ กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าทีมคัดเลือก เก่งจริงๆ
แต่ผมเชื่อว่าทีมงานตั้งใจให้น้องเมษาผ่านเข้ารอบมาได้ ทั้งๆ ที่ตอนออดิชั่นรอบสุดท้าย (ในรายการ BNK48 Senpai) น้องแสดงออกถึงความ มั่นใจตัวเองเกิน
- ไม่ยอมซ้อมตรงกับเพลง ผลคือเต้นไม่เข้ากับคนอื่น จนถูกครูตำหนิจนร้องไห้
- ตอนสอบใหญ่ ก็หลบไปซ้อมอยู่คนเดียว
- ครูเอ๊ะ พูดต่อหน้าเมษาว่า "เมษามีพรสวรรค์มาก แต่เมษาขาดความพยายาม"
ทุกคนคงทราบดีว่า BNK48 เป็นไอด้อลที่สเปคต่างจากวงอื่นๆ ที่คนไทยเคยรู้จักมา พรสวรรค์และเสน่ห์ที่ค่อยๆ เกิดขึ้นจากความพยายามในวง สำคัญกว่าพรสวรรค์และเสน่ห์ที่มีติดตัวมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงแล้วยังอยู่เหมือนเดิม วงนี้ขายพัฒนาการที่เกิดจากความพยายาม มากกว่าคุณภาพที่มีอยู่แล้ว ไม่งั้น 48 Group ก็จะไม่ต่างจากไอด้อลทั่วไป
คงเพราะรุ่นแรกเขาคงต้องการให้มีคนมีพรสวรรค์เข้ามาจำนวนหนึ่งด้วย เพื่อช่วยดันวงในช่วงแรกที่โนเนม ลดความเสี่ยงที่สมาชิกอาจเฉิดฉาย Evo ได้ช้ากว่าที่ควร (แต่เดชะบุญ ที่รุ่นแรกมีตัวท็อปที่ Evo ได้เทพอยู่หลายคน วงถึงโตได้เร็วต่อเนื่อง) และลึกๆ กรรมการหลายคนคงหวังว่าน้องเข้ามาอยู่ภายใต้ Culture 48 Group แล้วจะสามารถถูกบ่มเพาะเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกันได้แบบคนอื่นๆ
4. ต้องยอมรับว่าน้องเมษาหน้าตาดีอันดับต้นๆ ของวง และมีพรสวรรค์หลายด้าน ทั้งร้อง เต้น บีทบ็อกซ์ (ถ้าน้องไปอยู่วงอื่นคงดังไม่แพ้เนะโกะจั๊มพ์) แต่คอนเส็ปต์ของ 48 Group คือ ความพยายามเป็นอันดับ 1 ของคุณสมบัติไอด้อลเครือนี้
5. ไม่แปลกใจที่น้องเมษาจะมีแฟนคลับจำนวนไม่น้อย จากความน่ารักและพรสวรรค์ เพราะระบบ 48 Group ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย และบางทีความพยายามมันจับต้องยาก วัดยาก พิสูจน์ยาก (แต่การวัดผลงานของกลุ่มนี้ก็ค่อนข้างจับต้องได้นะครับ จากเม็มเบอร์คนอื่นๆ ที่ได้โอกาส) ความน่ารักและความสามารถมันชัดเจนอยู่ตรงหน้าก็คว้ามาโอชิไว้เลย
6. ถ้าความพยายามมันวัดกันยาก รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่พยายาม งั้นเรื่องพัฒนาการ น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนกว่า อันนี้ทุกคนที่ติดตามใกล้ชิดคงตอบได้ดีกว่า เม็มเบอร์แต่ละคนมีพัฒนาการที่เราเห็นได้ชัดเจนมากๆๆ
7. ทัศนคติและการแสดงออก ทุกคนหวังว่าจะเห็นน้องเมษาปรับตัวและพัฒนาขึ้นแบบเม็มเบอร์คนอื่นๆ แต่แล้ว...
- ดราม่าภาพหลุด กี่อันไม่รู้ ที่แน่ๆ ก็อันนั้นแหละ
- การโพสต์ตอบโต้แฟนที่วิจารณ์เรื่องผอม เชิงประชด ด่าอย่างสุภาพ (มีคนแคปมาได้ ลบไปแล้ว)
- คนจริงไม่พูดเยอะ เจ็บคอ
- เนียนไม่พูดถึงเรื่องที่เป็นเหตุให้โดนพักงาน ไม่ออกมาชี้แจง ขอโทษ สไตล์ญี่ปุ่น (ประเทศไทยเราชินกับการเนียนแบบนี้ แต่ญี่ปุ่นเขาซีเรียสมาก)
ผมไม่กล้าเดาใจว่าทีมงานรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
8. น้องเมษาได้รับการโหวตจากเม็มเบอร์ในไลฟ์ตู้ปลาประมาณ 6 คนถ้าจำไม่ผิด ว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด ถือเป็นเรื่องดีครับ น้องคงดีใจ
แต่ขอวิเคราะห์ว่าคงเป็นเพราะ ทุกคนไม่รู้สึกว่าอยู่กับเมษาแล้วต้องแข่งขันกัน ไม่รู้สึกกดดัน เป็นเม็มเบอร์ที่ชิลล์ๆ แต่กับเม็มเบอร์คนอื่นๆ เห็นเขาตั้งใจเอาเป็นเอาตายกันหมดเลย อยู่ด้วยแล้วเลยแอบเครียดรู้สึกเป็นคู่แข่งกัน
9. เรื่องส่วนตัวน้องจะขอไม่วิจารณ์ครับ ทุกคนมีเหตุผลและความจำเป็นของตัวเองที่ต่างกัน เม็มเบอร์ที่ลงทุนออกจากโรงเรียนมาทุ่มเทให้วงเต็มร้อย มีเวลาซ้อมเต็มที่ ก็ไม่ได้แปลว่ามีความทุ่มเทให้วงมากกว่าเสมอไป (อันนี้พูดจริง)
10. สถานการณ์วงปัจจุบัน เชื่อว่าทีมคัดเลือกรุ่นสองคงไม่จำเป็นต้องหาเด็กที่มีพรสวรรค์เป็นที่หนึ่งแต่อาจด้อยด้านทัศนคติ เข้ามาติดในวงสักคนสองคนอีกต่อไปแล้วครับ วงจุดติดแล้ว รุ่นหนึ่งก็เจิดจรัสกันได้ขนาดนี้แล้ว รุ่นสองต้องมุ่งเข้ามาช่วยเติมเต็มให้วง ทุกคนที่ติดจำเป็นต้องเป็น "น้ำไม่เต็มแก้ว" เพื่อที่จะเข้ามาสืบสานความเป็น BNK48 ที่รุ่น 1 สร้างกันมาตลอดปีได้ขนาดนี้ น้องเมษาคงเป็นเคสพิเศษเคสสุดท้ายที่ทีมงานมองว่าคุ้มที่จะเสี่ยงครับ
ไม่มีเหตุผลที่ผมจะวิพากษ์น้องเมษาอีกแล้ว ขอไปเปย์คามิโอชิของผมต่อ