จากข่าวที่ออกมาว่า สวนสัตว์ดุสิต , เขาดิน หรือ เขาดินวนา ที่กำลังจะปิดตัวลง ก็ทำให้รู้สึกใจหาย ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้พิศวาสอยากจะไปอะไรนักหนา จริงๆ แล้วก็ไม่ได้นับว่าเป็นการปิดตัว เพราะว่าเป็นการย้ายจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่งเท่านั้นเอง  

Link ข่าวเพิ่มเติม เผื่อใครไม่ทราบก็ตามไปอ่านเอา เพราะคิดว่าในนี้คงไม่มีสาระเท่าไหร่ 555+
https://mgronline.com/daily/detail/9600000122026

ครั้งล่าสุดที่ได้ไปก็เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เท่านั้นเอง!! จำได้แค่ว่าไปเพราะต้องถ่ายรูปอะไรสักอย่างส่งอาจารย์ ตามประสาเด็กนิเทศศาสตร์ ตอนนั้นคุยกับเพื่อนๆ ว่าไปเขาดินถ่ายรูปละกัน แต่จำไม่ได้แล้วว่างานอะไร ยังใช้กล้องฟิมล์อยู่เลยนาจา...ทุกวันนี้ความรู้คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว อาศัยมือถือดีๆ กับโหมด Auto เท่านั้น กรุณาอย่าคาดหวังว่ารูปจะสวย เพราะอากาศร้อน มีของพะรุงพะรัง มือหนึ่งถือกล้อง มือหนึ่งถือแก้วกาแฟเย็น พร้อมเดินปาดเหงื่อไปเรื่อยๆ โดยระวังไม่ให้คิ้วหลุด 555+

เอาเป็นว่าวันนี้พอดีได้มีโอกาศไปทำงานแถวๆ นั้น ก็เลยคิดว่าลองแวะไปเดินเล่นซักหน่อย เพื่อรือฟื้นความทรงจำในวัยเยาว์ เพราะไหนๆ ช่วงบ่ายเราก็ว่างอยู่แล้ว จะได้ไปพักผ่อน ดูสัตว์ต่างๆ พร้อมซึมซับบรรยากาศความร่มรื่นไปในตัว จินตนาการไว้อย่างสวยหรู เดินเล่นชิลๆ Slow life เกร๋ๆ ว่าแล้วก็เดินจากที่พักไป ประมาณ 10 นาที (ไม่น่าจะเกิน) พูดเลยว่าเปียกตั้งแต่จั๊กกะแร้ ยังง่าม และร่องต่างๆ ของร่างกาย ไหนจะสะพายเป้ใบหนักที่ใส่เสื้อผ้าข้าวของจากการทำงานเอาไว้อีก นึกภาพตามว่ากระเป๋าเป้ที่มีซับหลังนุ่มๆ ดูสบายยามใช้งาน พอเจอเหงื่อมันก็จะซับเหงื่อเราจนชุ่ม และก็แฉะๆ อยู่ติดกับเสื้อข้างหลังเราดู เพียงเริ่มต้น ก็เริ่มรู้สึกว่าคิดผิดป่าววะตรู (อีช้อยหาเรื่องให้ตัวเองแท้ๆ กลับบ้านกินข้าว อาบน้ำ นอนตากแอร์ ดูหนังสบายไปแล้วเนี่ย) แต่ไหนๆ ก็ลุยมาแล้ว เราจะไม่ถอยหลังเน๊อะ

นี่จ้า ประตูทางเข้าที่เรามาถึงแล้ว จริงๆ สวนสัตว์ดุสิตมีทางเข้าหลายทางนะ (ทางไหนบ้างไม่รู้ นี่ก็ Google map แล้วเดินตามมา) แต่ว่าวันนี้เดินมาที่ประตูนี้พอดี (ประตู2 ราชวิถี)

ค่าผ่านประตู 100 บาท สำหรับผู้ใหญ่
เด็ก และ นักเรียนไม่เกินชั้นประถม 20 บาท
ระดับ ปวส. นักศึกษา ทหาร - ตำรวจ (ในเครื่องแบบ) 50 บาท
ระดับ ปวช. ในเครื่องแบบ 20 บาท
วันนี้ช้อยมาคนเดียว ค่าผ่านประตู 100 บาท ว่าแต่ ทหาร – ตำรวจ ในเครื่องแบบเค้าจะมาเดินเล่นสวนสัตว์กันทำไม แอบสงสัย!?
หน้าตาบัตรผ่านประตู (นั่นมือฉันเหรอ ทำไมดูหยาบกร้าน - -")

สวัสดีออเจ้า... ขณะนี้เวลาเกือบๆ บ่ายสองแล้ว ตรงไหนคือความร่มรื่น เห็นต้นไม้เยอะแบบนี้ ร้อนตับแลบนะจะบอกให้ เราไปลุยแดดเปรี้ยงช่วงบ่ายกันต่อไป เริ่ม!!

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะเขียนรีวิว ช่วงแรกก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่ไหนๆ ก็เข้ามาแล้วก็เลยคิดว่าเอาซะหน่อย เผื่อใครๆ อยากจะลองเดินเล่นดูบ้าง ก่อนที่เค้าจะย้ายไปที่ใหม่ จริงๆ แล้วก็ว่าดีนะ ที่ได้เห็นผู้ปกครองพาลูกหลานมาเดินเล่นกัน เค้าได้เห็นสัตว์ตัวเป็นๆ ได้เรียนรู้ชีวิตของสัตว์ต่างๆ อย่างหนึ่งที่ต้องชื่นชมก็คือ ที่เขาดินแห่งนี้เค้ามีอักษรเบลเอาไว้สำหรับให้ผู้พิการทางสายตาได้อ่านข้อมูลของสัตว์ต่างๆ ด้วย ถึงส่วนตัวจะไม่เข้าใจว่ามองไม่เห็นแล้วได้อ่านอย่างเดียวจะรู้สึกอย่างไร ถ้าอย่างนั้นไม่จำเป็นต้องมาถึงที่นี่ก็ได้มั๊งนะ (ความคิดส่วนตัว)

หน้าตาอักษรเบล

เข้าประตูมาแบบงงๆ ไม่รู้จะเดินไปตรงไหน อย่างไร แผนที่ก็ไม่ได้ดู เอาหน่ะ วนซ้ายละกัน เจอนี่ก่อน ลิงน้อย
นอนแผ่สบายใจ ลิงอะไรจำไม่ได้ ไม่ได้ถ่ายป้ายเอาไว้

สิงโตจ้า จำได้ว่าเป็นสิงโตเผือกนะ แต่ดูเรื้อนๆ นิดๆ หน่อยๆ สงสัยอากาศร้อน ก็นอนหลบแดดกันไป
จริงๆ มีเสือต่างๆ ด้วย แต่ว่าอยุ่ไกลเกินกว่าจะถ่าย อาจะเป็นเพราะว่าอากาศร้อน มันก็ไปนอนหลบๆ แดดกันหมดเลย อยากจะหลบแดดบ้างเหมือนกัน

ในนี้มีสระว่ายน้ำ หรือเรียกว่าสวนน้ำเล็กๆ ดี ให้ผู้ปกครองพาเด็กๆ มาเล่นน้ำที่นี่กันได้ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเด็กๆ ที่เล่นน้ำอยู่ตลอดเวลานะ ประกาศเตือนเด็กๆ ให้เล่นน้ำกันอย่างปลอดภัย

ลานแสดงความสามารถของสัตว์ แต่ว่าตอนที่มาไม่ได้เห็นมีโชว์อะไรนะ

เริ่มจริงๆ จังๆ กันตรงจุดนี้ดีกว่า สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก

เข้าไปดูด้านในกันดีกว่า มีแอร์ด้วย รอดตายแล้ว 555

เข้ามาด้านในก็เจองูก่อนเลย
มีป้ายบอก พร้อมอธิบายข้อมูลต่างๆ แต่ก็มีบางตู้ ที่เป็นตู้เปล่าๆ ปิดปรับปรุงอยู่เหมือนกัน



งูอนาคอนด้า ของมันต้องมี นี่ก็เป็นหนึ่งตัวที่ชอบนะ


ออกมานอกน้องแอร์ เค้าบอกว่าเป็นจุดสำหรับอาบแดดของสัตว์ มีทั้งกิ้งก่า ทั้งงู แต่ไม่รู้ว่าเค้าสลับสัตว์ออกมาอาบแดดกันบ้างหรือเปล่านะ เพราะดูอากาศแล้วก็ไม่คิดว่าน่าจะออกมานอนอาบแดดได้ ร้อนโพดๆ

จระเข้น้ำเค็มตัวเบิ้มของที่นี่ มีทั้งน้ำเค็ม และน้ำจืด แต่ที่อยากเห็นคือ ตะโขง แต่ไม่เห็นว่าที่นี่มีนะ
เห็นน้ำชุ่มๆ นั่นไหม ไม่ได้ฝนตกหรือชุ่มชื้นแต่อย่างไร น้ำมันซึมออกมาจากกระจกตู้ เข้าไปดูไกล้ๆ ก็แอบขนลุกนิดหน่อย คิดว่ามันจะพุ่งทะลุกระจกออกมาได้ไหมหว่า!?

ไปดูน้องเต่ากันต่อ มีทั้งเต่าบก เต่าน้ำหลายสายพันธ์อยู่เหมือนกัน ไกล้ชิดแบบบางกรงเอามือไปจับได้ แต่อย่าเอามือเข้าไปจับดีกว่า ที่นี่ไม่มีให้อาหารสัตว์นะ ซึ่งก็ถือว่าดี ไม่ได้ชอบที่ต้องซื้ออาหารให้สัตว์กิน มันควรได้รับอาหารที่ต้องการ ในปริมาณที่เหมาะสมมากกว่า อันนี้ให้เจ้าหน้าที่ดูแลจัดการกันไป
บางบ่อก็เห็นว่ามีเต่ามากกว่าหนึ่งสายพันธ์ อันนี้ไม่ทราบว่ามันอยู่ด้วยกันได้ หรือว่าบ่อไม่พอก็ไม่แน่ใจ มองดูก็งงๆ เออนะ มันไม่ได้เหมือนกันซักหน่อย อยู่ด้วยกันแบบนี้จะแยกประเภทยังไง เด็กๆ มาดู ไม่น่าจะแยกออกนะ

ก่อนออกไปก็มี แมงมุม แมงมุมยักษ์พันธ์ต่างๆ จัดแสดงอยู่ตู้เล็กๆ ต้องเข้าไปส่องไกล้ๆ แอบขนลุกอยู่เหมือนกันนะ

กิ้งก่า ปลา เต่า มีปลาตัวนึงหางขาดๆ คิดว่าเต่างับนะ สงสารน้องปลา

ออกมาจากโซนสัตว์เลื้อยคลาน ก็มาต่อกันที่น้องหมี ตัวแรกที่เจอคือหมีควาย ตัวใหญ่จริงๆ นะ น้องดูน่ารักมากยืนส่ายหัวไปๆ มาๆ ต้อนรับน้องๆ หนู นักท่องเที่ยวอยู่ น่าเข้าไปฟัดมาก (ได้แต่คิด)

ถ้าเดินดีๆ จะได้เจอกับรอบการให้อาหารสัตว์ด้วยนะ จะได้เห็นเจ้าหน้าที่เค้ามาให้อาหารสัตว์โชว์ให้พวกเราดูเป็นเวลาอยู่ ตอนนี้มาเจอพอดีเลยตอนเจ้าหน้าที่มาให้อาหารน้องหมีควาย น้องดูฉลาดมากนะ นั่งยืดตัวขึ้นพร้อมยกมือขออาหารจากเจ้าหน้าที่ทันที แต่ว่าตัวเดียวนะ อีกตัวนึงดูไม่สนใจอะไรเลย 555


ติดๆ กันเป็นหมีหมา ตัวเล็ก ดูร่าเริงสดใส ดูสนใจคนที่มาเดินชมเค้าดีนะ

หันไปเจอนี่ "บ้านหมี" ว้าว...ข้างในจะมีหมีแบบไหนให้ดูอีกนะ
พอเข้ามาด้านใน เอิ่ม.................

เดี่ยวมาต่อ กระทู้นี้รูปเยอะ เรื่องเยอะด้วย 555 ถึงรูปจะไม่สวยก็เถอะ เพราะไม่ได้ตั้งใจ ถ่ายๆ มาเผื่อใครอยากจะไปเห็นของจริง เผื่อจะอยากตามไปดู