"ตัวฉัน" ที่สู้กับโรคซึมเศร้ามานับปี ตอนนี้จะไหวมั้ยนะ?

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ! ขอแทนตัวเองว่า"เรา"นะคะ เราเป็นผู้หญิงวันทำงานที่อายุแค่ 20 ค่ะ มีลูกสาว 2 ขวบกว่าหนึ่งคน เราเลี้ยงลูกคนเดียวมาตั้งแต่อยู่ในท้อง (คงไม่ต้องบอกว่าทำไมนะคะ) ใช่ค่ะ! เรายังเด็กมาก เราเริ่มทำงานเมื่อปีที่แล้วค่ะที่ภูเก็ต เหมือนจะดีนะคะตอนแรก แต่ก็ไปไม่รอด! เรากลับมาพักที่บ้านค่ะ เราเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อมกราปีนี้ค่ะในกรุงเทพนี่แหละ งานดีค่ะ เงินดี และเหมือนจะไปได้ดี!

แต่.. ปัญหาเดิมๆกลับมาอีกครั้ง ความกดดันจากทางบ้าน เราตัวคนเดียว เริ่มใช้ชีวิตคนเดียว ต้องจัดการทุกอย่างเอง เรื่องเงิน ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง ไหนจะส่งที่บ้าน เราสัมพันกับพ่อแม่เราแย่ตั้งแต่ที่เรามรลูกตอนไม่พร้อมค่ะ ทุกวันนี้คุยกันแทบไม่ได้เลย เรามีแค่ปู่กับย่าที่พอจะปลอบใจเราได้!

แต่บางที.. มันก็พูดออกไปไม่ได้หมดใช่มั้ยล่ะคะความในใจ เราตัวคนเดียวจริงๆค่ะ เราทำงานตอนกลางคืน กลับมาห้องก็เช้า เจอห้องเปล่าๆที่ไม่มีใคร เราอยากคุยกับใครซักคนนะคะ แต่ไม่รู้จะคุยกับใคร นั่งคุยกับตัวเองในกระจก ก็เหมือนโยนปัญหาให้ตัวเองอีก

สองสามอาทิตย์มานี้เราเครียดมากค่ะ บางทีไม่รู้ตัวก้วยซ้ำว่าเราเครียกเรื่องอะไร นั่งเหม่อเป็นครึ่งชั่วโมง บางทีก็ร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล จนเราหมดสติในที่ทำงานค่ะ พื้นอีกทีที่โรงบาล เพื่อนที่ทำงานเล่าว่า เรา ชัก เกร็ง ตัวแข็ง เย็น ตาเหลือก แต่เราตื่นขึ้นมาเหมือนกับว่าไม่ได้เป็นอะไร แค่ตัวชาไม่มีแรงแค่นั้น หมอถามว่าเราเคยเป็นแบบนี้มั้ย?  ใช่ค่ะ! เราเคยเข้าโรงบาลด้วยอาการแบบนี้หลายครั้ง

หมอเลยแนะนำให้พบจิตแพทย์เพราะมันเกิดจากภาวะเครียดจัด เราไปตามที่หมอนัดค่ะ เราเล่าทุกอย้างที่เราเป็น ที่เราเจอให้หมอฟัง หมอบอกว่าเราเป็น"โรคซึมเศร้า" เพราะต้องภาระหลายอย่าง ทั้งเรายังเด็ก วุฒิภาวะต่างๆยังไม่มากพอ

เพื่อนหรือคนรู้จักเขาแทบไม่เชืาอว่าเราเครียดจัดถึงขนาดป่วย เพราะเราเป็นคนร่าเริงมาก พูดเก่ง เฮฮา ยิ้มง่าย..

แต่พอเราอยู่คนเดียว เรากลับเป็นอีกคน เรากลับมาเจอห้องที่ว่างเปล่า เราเหนื่อย แต่พูดไม่ได้ ทุกวันนี้หมอให้ยามากินค่ะ มียาระงับประสาทขั้นรุนแรง เราต้องกินก่อนนอนถึงจะนอนหลับ บางทีกินเกินขนาดก็มี เราไม่หิว เราไม่ง่วง บางทีได้แต่นั่งเหม่อ..

เราเหนื่อยจังค่ะ.. อยากมีคนถามบ้างว่าโอเคมั้ย?

เรารู้นะคะว่าโรคนี้จะรักษาได้ก็ต้องอยู่ที่ตัวเราว่าจะปล่อยวางไหน.. เราพยายามค่ะ ออกไปหาของอร่อยๆกินบ้าง ทำบุญบ้าง เรายิ้มได้ค่ะ

แต่เรากลับได้ยินคำจากคนใกล้ตัวว่า.. "นี่หรอคนป่วย ชีวิตก็ดีนี่! ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อยจะเรียกร้องความสนใจว่าป่วยทำไม! โรคซึมเศร้าอะไรไร้สาระ!


ตอนนี้...

เราไม่ไปทำงานมาสามวันแล้วค่ะ เราไม่อยากเจอใคร เรากลัวคำถาม เรากลัวสายตา เราเหนื่อยที่ต้องเจอ..

บางที.. นี่อาจเป็นคำบอกดล่าสุดท้ายจากเด็กคนหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่พยายามสู้มาด้วยตัวเองหลายปี

เราเหนื่อยจังค่ะ..



อยากตาย..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่