[CR] พก Tripizee ไปจีน

เมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวประเทศจีนกับครอบครัว และเพื่อนค่ะ ซึ่งเท่าที่รู้กันอยู่แล้วว่าประเทศจีน ไม่สามารถใช้ Social Media อารายได้เลยยยย  Facebook, Youtube, IG, Line อารายก็ไม่ได้

จริงๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราหรอกนะ แต่คุณพ่อคุณแม่อ่ะสิ ขาด Social ไม่ได้เลยจีๆ 555


ส่วนตัวมีประสบการณ์กับ Pocket Wifi ที่เกาหลี และญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งตอนไปจีนคร้ังที่แล้ว ก็เปิด Data Roaming เอา เลยไม่รู้ว่าไปจีนแล้วใช้ Pocket Wifi จะเป็นยังไง


เคยเอา Tripizee ไปใช้ตอนไปสิงคโปร์มาครั้งนึง ไม่ติดปัญหาอาราย รอบนี้เลยจัดอีกสักรอบ

ไปกัน 6 คน เอาไป 2 เครื่องพอ
สาเหตุคือ >> เปลือง 555
แต่จริงๆ ไม่เปลืองอย่างที่คิด เพราะถือว่าคุ้มแล้ว
วันละ 200 บาท เอง รีวิวก่อนไป อันนี้ราคาถูกสุดแล้ว และเทียบความคุ้มค่ากับ Roaming เรียบร้อย


และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรก กับการใช้ app พวก VPN ต่างๆ  (จะใช้ Social Media ก็ต้องพึ่ง VPN นะคะ)
เพราะก่อนหน้านี้ ใช้ China Mobile ติดต่อกลับบ้านผ่านโทรศัพท์เอาเท่านั้น
แต่ตอนนี้ ไม่ได้แล้วอ่าสิ ใช้ Line ทำงานด้วย


เริ่มต้นด้วยการไปรับเครื่องเองค่ะ
จริงๆ มาส่งที่สนามบินก็ได้ แต่เพราะออฟฟิซเราอยู่ใกล้เลยไปเอาเอง
ไม่อยากวุ่นวายตอน Check in ด้วย ไปกันหลายคน

อัตราค่าเช่า ไปจีนก็ วันละ 200 บาท  ต่อเครื่องนะจ้ะ เช่าไป 6 วัน ยาวๆ



เค้าก็จะให้มาเป็นกระเป๋านะคะ
ซึ่งในกระเป๋าก็จะมี Pocket Wifi หนักๆ 1 เครื่อง
สายชาร์จ, Universal Plug และก็กระดาษคู่มือ

ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า พอไปถึงแล้ว ถ้าเครื่องใช้ไม่ได้ หรือสัญญาณหาไม่เจออะไร
ลอง reset รอบนึง ก็จะหาย
แต่ถ้าใครกลัวมีปัญหา เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ Add Line @tripizeeth และ @tripizee_support

ซึ่งเรา ก็ reset รอบนึงไปตามระเบียบ และก็ใช้งานได้ปกติ



ตอนไปถึงก็ดึกแล้วนะคะ
หลังจาก reset ไป 1 รอบ ก็ใช้งานได้ปกติ  Internet ติดครบทุกเครื่อง เพื่อนโทรกลับบ้านเรียบร้อยค่ะะะะ


มาถึงก็ชาร์จก่อนเลยค่ะ เด๋วพรุ่งนี้เที่ยวทั้งวัน


ส่วน App VPN ที่ใช้
หากใครยังไม่เคยไปจีน นะคะ
แนะนำให้โหลดของทุกแบรนด์ ทุกเจ้าไปก่อนเลยตั้งแต่อยู่ไทย
เพราะเมื่อไหร่ที่แอพแรกที่เราลองใช้มีปัญหา จะได้ใช้แอพอื่นลองเข้าได้ทันที


อันนี้คือแอพทั้งหมด ที่ใช้ตอนอยู่ที่จีนค่ะ
บอกเลยว่าโหลดไปแค่ 2 แอพ ส่วนที่เหลือ ไปโหลดเอาตอนอยู่ที่นู่น
ทางที่ดี โหลดเตรียมไปเลยเยอะๆ


ส่วนตัวจะแนะนำ VPN Master และ Free VPN ค่ะ
แต่ก็แล้วแต่ด้วยนะ เพราะเพื่อนใช้คนละแอพกัน  ก็เวิคค่ะ


ขอรีวิว 2 ตัวนี้ละกันเนอะ




อันนี้เป็น VPN หรือ VPN Master ค่ะ
ก่อนอื่นก็เลือกประเทศก่อนนะ ที่ไหนก็ได้
แล้วก็ลองกด Connected เลย ถ้าได้ ก็จะเป็นตัวเหลืองๆ ที่ติ๊กถูกแบบนี้



แต่ถ้าไม่ติด ก็ลองใหม่ได้เรื่อยๆ ค่ะ
แอพนี้ พอติดแล้ว เล่นสักพัก ล็อคเครื่องไป ก็จะหลุดๆ บ้าง ไม่ได้มี Data วิ่งตลอดเวลา
แต่ก็ดีนะคะ แต่บางคนอาจจะรำคาญหน่อยๆ ถ้าต้องกด Connected หลายรอบ


และอีกแอพ ที่แนะนำเลยยยยยยยย
ส่วนตัวชอบมากกกก ก็คือ Free VPN ค่ะ



คือแอพนี้เล่นแบบ ต่อกี่ครั้งๆ ก็ได้ ไม่มีหลุด ไม่มีขาด
เสถียรมาก เล่นได้ตลอด จริงๆ อาจจะเป็นที่เน็ตด้วยก็ได้ 5555

แต่อันนี้ดีตรงที่ เราสามารถเปิด-ปิด ช่วงเวลาที่เราจะใช้ได้

จำไม่ได้ว่าเค้าให้โบนัสมาเท่าไหร่ตอนเริ่มแรก น่าจะหลายชั่วโมงอยู่

พอหมด ก็จะมีวิธีการได้โบนัสเพิ่มขึ้น เพื่อนำเวลาไปใช้ต่อได้



ถ้าจะใช้เมื่อไหร่ ก็กด Tap to connected เราก็จะใช้ Social Media ได้ปกติ
เมื่อไหร่จะหยุด ก็กดอีกที เวลาของการใช้ VPN ก็จะ Pause ตามที่เราใช้จริงค่ะ


  

แล้วเรื่องความเร็วของอินเตอร์เน็ต ไม่มีปัญหาค่ะ
เพราะคุยงานได้ตลอด


และช่วงนั้น พี่ตูนเข้าเส้นชัยด้วย คุณพ่อก็เดินไป ดู Live พี่ตูนไป  สบายยยยยย ^^






สำหรับ Pocket Wifi Tripizee เต็ม 10 คะแนน ให้ 8 ค่ะ

ที่หายไปคือ เรื่องแบต เพราะเครื่องนึงต่อหลายคนอยู่ เลยทำให้แบตหมดเร็ว
แต่ถ้าวันไหนเที่ยวอย่างเดียว ก็ไม่มีปัญหาค่ะ อยู่ได้ทั้งวัน
สำหรับคนชอบท่องเน็ต พก Power Bank ไปเผื่อหน่อยก็ดีนะคะ

ส่วนที่เหลือ โอเคมากกกค่าาา
บริการ อุปกรณ์พร้อม ไม่มีปัญหา หรือใช้งานไม่ได้เลยค่ะ
และก็ส่งเครื่องคืน ติดต่อง่าย ทันที ดีค่ะ
ชื่อสินค้า:   #pocketwifi #tripizee
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่