THE SOUND OF MUSIC
มนต์รักเพลงสวรรค์
ฉลอง 53 ปีทั่วโลก เสนอโดยนสพ.โคราชคนอีสาน /คอลั่มศิลป์วัฒนธรรมและบันเทิง/ วิวัย จิตต์แจ้ง / พิษณุ ธีระกนก/ และเวปพีเพิลซีน/ โดย แอ๊ด นิธิวิทย์ ธานินทร์สุรวุฒิ
มนต์รักเพลงสวรรค์ The Sound of Music Classic Moves (1965)
ภาพยนตร์ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จทอดพระเนตรรอบปฐมทัศน์ วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ณ โรงภาพยนตร์กรุงเกษม วิวัย จิตต์แจ้งเล่าหนังดี ดูแล้วสุขใจ อยู่เหนือกาลเวลา มีมนต์เพลงไพเราะอยู่ในใจคนดูตลอดกาล ทิวทัศน์รอบภูเขาแอลป์มีชีวิตท่ามกลางมนต์เสน่ห์แห่งเสียงดนตรี มาถึงปี ๒๕๖๑ ครบรอบ ๕๓ ปีแล้วแต่มนต์เสน่ห์ยังไม่เสื่อมคลาย น่ารักตรึงตาตรึงใจ จากรุ่นสู่รุ่นหนังดีมีคุณค่าอยู่หนือกาลเวลาอย่างแท้จริง
The hills are alive with the sound of music
With songs they have sung for a thousand years
ฉากไตเติลที่นางเอก จูลี่ แอนดรูว์ส ร้องเพลง เดอะ ซาวด์ ออฟ มิวสิค ธรรมชาติบนเขาแอลป์ ช่างสวยงามโอบล้อมด้วยเสียงร้องอันไพเราะเกินคำบรรยาย งดงามสุดคลาสสิก ตราตรึงผู้ชมทั่วโลก คงความอมตะมานานเกินครึ่งศตวรรษ
เรื่องเดิมมาจากหนังสือ The Story of the Trapp Family Singers เขียนโดยมาเรียตัวจริง มาเรีย ฟอน แทรปป์ เผยแพร่ครั้งแรกปี ๒๔๙๒ สร้างเป็นหนังครั้งแรกปี ๒๔๙๙ The Trapp Family กำกับโดย Wolfgang
Liebeneiner ยาวเพียง ๑ ชม. ๔๖ นาที ออกฉายวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๔๙๙ ในเยอรมนีตะวันตก บทประพันธ์จากเรื่องจริงของครอบครัวฟอน แทรปป์ ( von trapp)ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ลี้ภัย หนีทหารนาซีที่เข้ายึดครองออสเตรีย
เพื่อสู่อเมริกา ฉากของเรื่องเริ่มที่เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) โดยได้ดัดแปลงเป็นละครเวทีบรอดเวย์แสดงทั้งในอเมริกา และประเทศอังกฤษ แปลเป็นสิบภาษาไปแสดงทั่วโลก
The sound of Music งานละครเรื่องสุดท้ายของ ริชาร์ด ร็อดเจอร์ และออสคาร์ แฮมเมอร์สไตน์ ละครเปิดแสดงที่โรง ลันท์ฟอนตาน ย่านบรอดเวย์ได้ ๙ เดือน แฮมเมอร์สไตน์ ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เขาแต่งเพลงสุดท้ายก่อนเสียชีวิตคือ เพลง Edelweiss ตรงกับปี ๒๕๐๒ ละครแสดงถึง ๑๔๔๓ รอบ มีเพลงไพเราะเช่น Do Re Mi ที่ดังมาก และอีกหลายเพลงได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำของแกรมมี่ ต่อมาในปี ๒๕๐๘ ได้สร้างเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ในระบบ ๗๐ ม.ม. หนังยาว ๒ ชม. ๕๔ นาที โดย โรเบิร์ท ไวส์ Robert Wise ผู้สร้างผู้กำกับมือหนึ่งของฮอลลีวู้ด นำแสดงโดยนักร้องดาราดัง
Julie Andrews รับบท มาเรีย และ Christopher Plummer เป็นพระเอกในบทกัปตัน ฟอน แทรปป์ หนังเรื่องนี้มาฉายที่เมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๐๘ ที่ กรุงเกษมฉายอยู่นานหลายเดือน
มนต์รักเพลงสวรรค์ กลับมาฉายเป็นกอบปี้ฟีล์มใหม่หลายครั้งในรอบห้าสิบปีที่โรงหนังสยาม, อินทรา และปี ๒๕๕๙ หอภาพยนตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)นํากลับมาฉายใหม่ที่ สกาล่า ในเทศกาลทึ่งหนังโลก วันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๙
ได้รับรางวัลออสการ์ ๕ สาขา ดังนี้ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม เพลงประกอบยอดเยี่ยม และตัดต่อภาพยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เพลงยิ่งใหญ่ เน้นความสัมพันธ์ในครอบครัว เป็นภาพยนตร์ที่ยกย่องเชิดชูสถาบันครอบครัว ความรัก ความอบอุ่น ดูแล้วมีความสุข กับความรักที่ลึกซึ้งตรึงใจพร้อมเพลงไพเราะตลอดเรื่อง โดยเฉพาะเพลงเอก Do Re Mi ตอนมาเรียพาเด็กๆ ไปเที่ยวบนเขา เห็นทิวทัศน์ของเมืองซาลส์บูร์ก สวยมาก
เพลงจำง่ายคนดูร้องตามได้เลย อีกตอนที่สนุก คือเพลง The Lonely Goatherd เป็นโชว์หุ่นกระบอก เชิดหุ่นสนุกมาก อีกเพลงก่อนเข้านอนน่ารักมากๆ คนดูยิ้มทุกคนกับหนูน้อยวัย ๖ ขวบลูกสาวคนเล็ก ร้องเพลงกับพี่ๆ ได้ใจคนดูทั้งโรง ในเพลง So Long Farewell แสดงโดย คิม คาราธ รับบทเป็น (เกรเทิล) ตอนเด็ดๆ อีกตอนคือฉากที่หวานๆแบบ
ความรักของวัยรุ่น ลูกสาวคนโต ลีเซิล กับ รอล์ฟ บุรุษไปรษณีย์ในเพลง Sixteen Going On Seventeen น่ารักที่สุดแม่ชีหัวหน้าคณะอธิการส่งมาเรียออกจากคอนแวนต์ไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเพื่อเรียนรู้ชีวิตภายนอกกับครอบครัวกัปตัน ฟอน แทรปป์พอไปถึงได้รับการต้อนรับแบบเย็นชา นายจ้างเป็นพ่อม่าย มีลูกสาวและลูกชาย ๗ คน ดื้อแหลก คุณพ่อใช้ระเบียบแบบทหารบังคับ พร้อมชุดสวมใส่ เธอไปใหม่ๆถูกแกล้งจากเด็กๆ ประจำ มาเรียใช้วิธีการใหม่ สอนด้วยเสียงเพลงร้องเพลงให้ฟังและเข้ากันได้ จนเด็กๆ รัก ขณะเดียวกันกัปตันกับมาเรียเริ่มมีใจต่อกันเกิดความรัก แต่กัปตันมีบารอนเนส สาวสวย มาติดพัน มาเรียต้องหนีกลับคอนแวนต์เด็กๆ ไม่ยอม ไปตามเธอกลับมาในที่สุดทั้งสองได้แต่งงาน แต่เกิดสงคราม กัปตันไม่ต้องการอยู่ใต้อำนาจนาซี จึงถูกตามจับ ต้องหนี หนังมาถึงตอนตื่นเต้น คนดูทั้งโรงเอาใจช่วยและเงียบกันหมด
จะตื่นเต้นใจระทึกตอนท้ายที่ครอบครัว ฟอน แทรปป์ หนีการตามล่าของนาซีโดยมีการแข็งขันร้องเพลงเป็นนาทีสุดท้าย ต้องหนีข้ามภูเขาแอลป์ เข้าสวิสให้ได้จึงจะรอด กว่าจะไปได้ใจหายใจคว่ำ ทหารนาซีปิดล้อมไว้หมดทุกจุด ตอนดึกหนีไปแอบอยู่ในป่าช้า หนาวเย็น วิเวกวังเวง ตอนนี้คนดูเงียบทั้งโรงหนัง อยู่ดีๆหัวเราะขึ้นมา ด้วยความซาบซึ้งแบบนึกไม่ถึง เมื่อแม่ชีเบอร์ซากับแม่ชีมาร์การิต้าร่วมกันขโมยคาบิวเรเตอร์ จานจ่ายไฟของรถนาซี ทำให้สตาร์ตรถไม่ติด ครอบครัวแทรปป์ จึงหนีรอดหวุดหวิด คนดูพากันโล่งอก หนังได้รับการยกย่องจากสถาบันภาพยนตร์อเมริกันให้เป็นภาพยนตร์เพลงที่ดีที่สุดในโลกภาพยนตร์และทุกสถาบันทั่วโลกยกย่องให้เป็นหนังดีอมตะคลาสสิกตลอดกาลชนะการประกวดทุกแห่งในโลก มีอายุยืนยาวมาถึง ๕๓ ปี จากหนังสือสู่ละครบรอดเวย์มาเป็นภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ หนังที่ใครๆ ดูแล้วยิ้มตลอด ผู้ชมปรบมือให้ทั้งละครและหนัง ความประทับใจตลอดกาลของผู้ชมทั่วโลกต่อเรื่องนี้ ความดีงามของภาพยนตร์นักวิชาการภาพยนตร์ให้คำนิยมเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฮอลลีวู้ด 20 TY CENTURY FOX ที่เคยสร้างมา
จะดูกี่ครั้งไม่มีเบื่อ หนังขึ้นหิ้งครับ สมัยก่อนจะนำไปฉายตามมหาวิทยาลัย เช่นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น นักศึกษายุคก่อนได้ดูหมด และเมื่อ 8 มกราคม ปี 2548 หนังเรื่องนี้ ก็อบปี้ใหม่มาฉายที่ สวนเบญจสิริ เป็นแบบกลางแปลงเพื่อโหมโรง ในรายการอุ่นเครื่องของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ จัดโดยททท. มีแฟนๆ ไปชมกันแน่นขนัด มนต์รักเพลงสวรรค์ The Sound of Music เคยกลับมาให้คนไทยได้ชื่นชมเป็นละครเวทีโดยนักแสดงไทยทั้งหมด เมื่อเดือนเมษายน 2558 จัดโดยบริษัท กัทส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยคนดูเต็มทุก ๑๘ รอบ
53 ปี The Sound Of Music โดยวิวัย จิตต์แจ้ง พิษณุ ธีระกนก
มนต์รักเพลงสวรรค์
ฉลอง 53 ปีทั่วโลก เสนอโดยนสพ.โคราชคนอีสาน /คอลั่มศิลป์วัฒนธรรมและบันเทิง/ วิวัย จิตต์แจ้ง / พิษณุ ธีระกนก/ และเวปพีเพิลซีน/ โดย แอ๊ด นิธิวิทย์ ธานินทร์สุรวุฒิ
มนต์รักเพลงสวรรค์ The Sound of Music Classic Moves (1965)
ภาพยนตร์ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จทอดพระเนตรรอบปฐมทัศน์ วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ณ โรงภาพยนตร์กรุงเกษม วิวัย จิตต์แจ้งเล่าหนังดี ดูแล้วสุขใจ อยู่เหนือกาลเวลา มีมนต์เพลงไพเราะอยู่ในใจคนดูตลอดกาล ทิวทัศน์รอบภูเขาแอลป์มีชีวิตท่ามกลางมนต์เสน่ห์แห่งเสียงดนตรี มาถึงปี ๒๕๖๑ ครบรอบ ๕๓ ปีแล้วแต่มนต์เสน่ห์ยังไม่เสื่อมคลาย น่ารักตรึงตาตรึงใจ จากรุ่นสู่รุ่นหนังดีมีคุณค่าอยู่หนือกาลเวลาอย่างแท้จริง
The hills are alive with the sound of music
With songs they have sung for a thousand years
ฉากไตเติลที่นางเอก จูลี่ แอนดรูว์ส ร้องเพลง เดอะ ซาวด์ ออฟ มิวสิค ธรรมชาติบนเขาแอลป์ ช่างสวยงามโอบล้อมด้วยเสียงร้องอันไพเราะเกินคำบรรยาย งดงามสุดคลาสสิก ตราตรึงผู้ชมทั่วโลก คงความอมตะมานานเกินครึ่งศตวรรษ
เรื่องเดิมมาจากหนังสือ The Story of the Trapp Family Singers เขียนโดยมาเรียตัวจริง มาเรีย ฟอน แทรปป์ เผยแพร่ครั้งแรกปี ๒๔๙๒ สร้างเป็นหนังครั้งแรกปี ๒๔๙๙ The Trapp Family กำกับโดย Wolfgang
Liebeneiner ยาวเพียง ๑ ชม. ๔๖ นาที ออกฉายวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๔๙๙ ในเยอรมนีตะวันตก บทประพันธ์จากเรื่องจริงของครอบครัวฟอน แทรปป์ ( von trapp)ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ลี้ภัย หนีทหารนาซีที่เข้ายึดครองออสเตรีย
เพื่อสู่อเมริกา ฉากของเรื่องเริ่มที่เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) โดยได้ดัดแปลงเป็นละครเวทีบรอดเวย์แสดงทั้งในอเมริกา และประเทศอังกฤษ แปลเป็นสิบภาษาไปแสดงทั่วโลก
The sound of Music งานละครเรื่องสุดท้ายของ ริชาร์ด ร็อดเจอร์ และออสคาร์ แฮมเมอร์สไตน์ ละครเปิดแสดงที่โรง ลันท์ฟอนตาน ย่านบรอดเวย์ได้ ๙ เดือน แฮมเมอร์สไตน์ ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เขาแต่งเพลงสุดท้ายก่อนเสียชีวิตคือ เพลง Edelweiss ตรงกับปี ๒๕๐๒ ละครแสดงถึง ๑๔๔๓ รอบ มีเพลงไพเราะเช่น Do Re Mi ที่ดังมาก และอีกหลายเพลงได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำของแกรมมี่ ต่อมาในปี ๒๕๐๘ ได้สร้างเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ในระบบ ๗๐ ม.ม. หนังยาว ๒ ชม. ๕๔ นาที โดย โรเบิร์ท ไวส์ Robert Wise ผู้สร้างผู้กำกับมือหนึ่งของฮอลลีวู้ด นำแสดงโดยนักร้องดาราดัง
Julie Andrews รับบท มาเรีย และ Christopher Plummer เป็นพระเอกในบทกัปตัน ฟอน แทรปป์ หนังเรื่องนี้มาฉายที่เมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๐๘ ที่ กรุงเกษมฉายอยู่นานหลายเดือน
มนต์รักเพลงสวรรค์ กลับมาฉายเป็นกอบปี้ฟีล์มใหม่หลายครั้งในรอบห้าสิบปีที่โรงหนังสยาม, อินทรา และปี ๒๕๕๙ หอภาพยนตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)นํากลับมาฉายใหม่ที่ สกาล่า ในเทศกาลทึ่งหนังโลก วันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๙
ได้รับรางวัลออสการ์ ๕ สาขา ดังนี้ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม เพลงประกอบยอดเยี่ยม และตัดต่อภาพยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เพลงยิ่งใหญ่ เน้นความสัมพันธ์ในครอบครัว เป็นภาพยนตร์ที่ยกย่องเชิดชูสถาบันครอบครัว ความรัก ความอบอุ่น ดูแล้วมีความสุข กับความรักที่ลึกซึ้งตรึงใจพร้อมเพลงไพเราะตลอดเรื่อง โดยเฉพาะเพลงเอก Do Re Mi ตอนมาเรียพาเด็กๆ ไปเที่ยวบนเขา เห็นทิวทัศน์ของเมืองซาลส์บูร์ก สวยมาก
เพลงจำง่ายคนดูร้องตามได้เลย อีกตอนที่สนุก คือเพลง The Lonely Goatherd เป็นโชว์หุ่นกระบอก เชิดหุ่นสนุกมาก อีกเพลงก่อนเข้านอนน่ารักมากๆ คนดูยิ้มทุกคนกับหนูน้อยวัย ๖ ขวบลูกสาวคนเล็ก ร้องเพลงกับพี่ๆ ได้ใจคนดูทั้งโรง ในเพลง So Long Farewell แสดงโดย คิม คาราธ รับบทเป็น (เกรเทิล) ตอนเด็ดๆ อีกตอนคือฉากที่หวานๆแบบ
ความรักของวัยรุ่น ลูกสาวคนโต ลีเซิล กับ รอล์ฟ บุรุษไปรษณีย์ในเพลง Sixteen Going On Seventeen น่ารักที่สุดแม่ชีหัวหน้าคณะอธิการส่งมาเรียออกจากคอนแวนต์ไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเพื่อเรียนรู้ชีวิตภายนอกกับครอบครัวกัปตัน ฟอน แทรปป์พอไปถึงได้รับการต้อนรับแบบเย็นชา นายจ้างเป็นพ่อม่าย มีลูกสาวและลูกชาย ๗ คน ดื้อแหลก คุณพ่อใช้ระเบียบแบบทหารบังคับ พร้อมชุดสวมใส่ เธอไปใหม่ๆถูกแกล้งจากเด็กๆ ประจำ มาเรียใช้วิธีการใหม่ สอนด้วยเสียงเพลงร้องเพลงให้ฟังและเข้ากันได้ จนเด็กๆ รัก ขณะเดียวกันกัปตันกับมาเรียเริ่มมีใจต่อกันเกิดความรัก แต่กัปตันมีบารอนเนส สาวสวย มาติดพัน มาเรียต้องหนีกลับคอนแวนต์เด็กๆ ไม่ยอม ไปตามเธอกลับมาในที่สุดทั้งสองได้แต่งงาน แต่เกิดสงคราม กัปตันไม่ต้องการอยู่ใต้อำนาจนาซี จึงถูกตามจับ ต้องหนี หนังมาถึงตอนตื่นเต้น คนดูทั้งโรงเอาใจช่วยและเงียบกันหมด
จะตื่นเต้นใจระทึกตอนท้ายที่ครอบครัว ฟอน แทรปป์ หนีการตามล่าของนาซีโดยมีการแข็งขันร้องเพลงเป็นนาทีสุดท้าย ต้องหนีข้ามภูเขาแอลป์ เข้าสวิสให้ได้จึงจะรอด กว่าจะไปได้ใจหายใจคว่ำ ทหารนาซีปิดล้อมไว้หมดทุกจุด ตอนดึกหนีไปแอบอยู่ในป่าช้า หนาวเย็น วิเวกวังเวง ตอนนี้คนดูเงียบทั้งโรงหนัง อยู่ดีๆหัวเราะขึ้นมา ด้วยความซาบซึ้งแบบนึกไม่ถึง เมื่อแม่ชีเบอร์ซากับแม่ชีมาร์การิต้าร่วมกันขโมยคาบิวเรเตอร์ จานจ่ายไฟของรถนาซี ทำให้สตาร์ตรถไม่ติด ครอบครัวแทรปป์ จึงหนีรอดหวุดหวิด คนดูพากันโล่งอก หนังได้รับการยกย่องจากสถาบันภาพยนตร์อเมริกันให้เป็นภาพยนตร์เพลงที่ดีที่สุดในโลกภาพยนตร์และทุกสถาบันทั่วโลกยกย่องให้เป็นหนังดีอมตะคลาสสิกตลอดกาลชนะการประกวดทุกแห่งในโลก มีอายุยืนยาวมาถึง ๕๓ ปี จากหนังสือสู่ละครบรอดเวย์มาเป็นภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ หนังที่ใครๆ ดูแล้วยิ้มตลอด ผู้ชมปรบมือให้ทั้งละครและหนัง ความประทับใจตลอดกาลของผู้ชมทั่วโลกต่อเรื่องนี้ ความดีงามของภาพยนตร์นักวิชาการภาพยนตร์ให้คำนิยมเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฮอลลีวู้ด 20 TY CENTURY FOX ที่เคยสร้างมา
จะดูกี่ครั้งไม่มีเบื่อ หนังขึ้นหิ้งครับ สมัยก่อนจะนำไปฉายตามมหาวิทยาลัย เช่นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น นักศึกษายุคก่อนได้ดูหมด และเมื่อ 8 มกราคม ปี 2548 หนังเรื่องนี้ ก็อบปี้ใหม่มาฉายที่ สวนเบญจสิริ เป็นแบบกลางแปลงเพื่อโหมโรง ในรายการอุ่นเครื่องของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ จัดโดยททท. มีแฟนๆ ไปชมกันแน่นขนัด มนต์รักเพลงสวรรค์ The Sound of Music เคยกลับมาให้คนไทยได้ชื่นชมเป็นละครเวทีโดยนักแสดงไทยทั้งหมด เมื่อเดือนเมษายน 2558 จัดโดยบริษัท กัทส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยคนดูเต็มทุก ๑๘ รอบ