ป้าติ๊น แจ้งความ ว่าโดน ป้าดา เพื่อนสนิท ขโมย ล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไป
หลังจากที่หุ้นเงินซื้อล๊อตเตอรี่ด้วยกัน
แจ้งความแล้ว สุดท้าย ตำรวจ ไม่ส่งฟ้อง เพราะ คดีไม่มีมูล
แม้ป้าจะยืนยันว่า เซ็นชื่อตัวเองลงไปหลังสลากแล้วก็ตาม
ป้าติ้นเลยไปฟ้องศาลเอง
เป็นเหตุให้ ป้าดา ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยรางวัล ต้องถูกควบคุมตัว
เพราะศาลดันรับฟ้อง
แต่ด้วย วงเงินคำประกันสูงมาก เพราะ ทรัพย์ที่ฟ้องร้องกันมัน 30 ล้านบาท
ทำให้ป้าดา เตรียมเงินไปไม่พอค่าประกันตัว
เลยทำให้ติดคุก
ช่วงติดคุก น้องสาวป้าก็ไปเอาโฉนดที่ดิน มาค้ำประกันแทนเงินสด
แต่เหตุเพราะ ชื่อน้องสาวกับชื่อในโฉนดมันพิมพ์ผิดกัน
ทำให้ศาลไม่อนุมัติ
น้องสาวป้าก็เลยต้องรีบไปต่างจังหวัด เพื่อทำเรื่องเปลี่ยนชื่อให้ถูกต้องตามที่ปรากฏในโฉนด
แล้วกลับมา ยื่นเอกสารประกันตัวป้าดา
ที่สุดป้าดาถูกประตัวออกมา สรุปติดคุกไป 4 วัน
แม้จะยังคงดำเนินการฟ้องร้องคดีกันอยู่
ป้าติ้นก็ไปมีคดีใหม่เกิดขึ้นอีก กับคู่กรณี ที่ป้าติ้นบอกว่าซื้อหวยแล้วฝากไว้กับป้าติ๋ว
ซึ่งมันถูกรางวัลที่ 1 อีกแล้ว 30ล้าน
ก่อนฝากป้าไว้ก็เซ็นต์ลายมือไว้อีกเหมือนเดิม
.............................................
( ดูป้าก็เป็นคนฉลาดนะครับ คืออยากถามป้าว่า
คนเราถ้าครั้งแรกหุ้นเงินซื้อหวยกับเพื่อนแล้วเพื่อนโกง ครั้งทั้งสองยังจะซื้อหวยแล้วฝากเพื่อนไว้อีกหรือครับ)
(ถ้าเป็นคนทั่วไป ครั้งแรกโดนโกงแล้ว พอจะฝากของไว้กับคนอื่นอีกมันก็ต้องชุดคิดก่อนไหมว่า ไม่ฝากดีกว่า
เดี๋ยวโดนโกงอีก ป้าฉลาดจะตายไม่คิดแบบนี้บ้างหรือ)
เท่าที่ฝังๆป้าติ้นดู ป้าแกดูมีเหตุผล เสียจริงๆ ขนาด คุณอัจฉริยะ ยังต้องยื่นมือเข้าไปช่วยแก ในตอนแรก
ผมฟังป้าติ้นพูดแล้วผมยังเคลิ้ม เลย เช่น
1.ป้าแกบอกว่า แกสงสัยมาก ว่าทำไม แกเซ็นต์หลังล๊อตเตอรี่ไว้ แล้วทางกองสลากถึงบอกว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบลอยขีดฆ่า หรือลบ
จนป้าต้องไปขโมยสำนวนมากดู แล้วป้าก็บอกว่านั้นไง เห็นไหม มีลอยแก้ลายมือชื่อจริงๆ
........................................................
หลังจากที่ดูรอยแก้ไข ที่ป้าอ้างว่ามีการเขียนทับรายเซ็นต์ป้า บอกตรง ดูไม่ออกเลยว่าเขาลบ หรือเขาเขียนทับตรงไหน
เพียงแต่ว่า ของป้าดูเป็นตัว เอส ส่วนของเจ้าของล็อตเตอรี่ เป็นสอเสือลากหางเหมือนตัวเอสเฉยๆ
แล้วป้าบอกว่า เซ็นต์ทุกใบ ทำไมมันมีสงสัยอยู่แค่ใบเดียว
เรื่องนี้คุณ อัจฉริยะ ได้ตอบป้าว่า วันที่เอาฉลากไปตรวจหาร่องรอย มีใครอยู่บ้าง และให้เข้าไปได้ แค่สองคน
และคนตรวจสอบก็เป็นกองพิสูจน์หลักฐานแห่งชาติมีขั้นตอนที่หน้าเชื่อเถอะ ถ้าไม่เชื่อเขา แล้วจะไปเชื่อใคร
2.คนที่ไปขึ้นรางวัล งวดนั้น ถูกกันหลายคน ไม่ได้ถูกชุดใหญ่คนเดียว 30 ล้าน ซึ่งกระจัดกระจายกันไป
ป้าก็บอกว่า พวกนั้นคือ ขบวนการของป้าดา ที่ป้าด้าจ้างให้พวกนั้น แยกย้ายกันไปขึ้นเงิน จะได้ไม่เป็นที่สังเกตุ
ต่อมาป้าติ้นรู้หมดว่า มีใครไปขึ้นรางวัลบ้าง และหนึ่งในนั้น ตอนไปเบิกเงิน มีลายมือคล้ายๆป้าดา
ป้าติ้นเลยเข้าใจว่า ป้าดาต้องไปช่วยเขียนเบิกเงินให้คน คน นั้น แน่ๆ
ป้าติ้นก็เลย อยากให้เอา กล้องวงจรปิดในธนาคารที่ ทางเจ้าชองล็อตเตอรี่รายหนึ่งไปถอนเงินมาดูว่า
วันนั้นมีป้าดาไปด้วยไหม
คุณ อัจฉริยะตอบว่า ป้าติ้นมโนไปเอง
สาเหตุที่ป้าติ้นรู้ว่า มีใครขึ้นเงินรางวัลบ้าง ก็มาจากที่ป้าขโมยสำนวนไปดู
คุณอัจฉริยะยืนยันว่า เจ้าของลางวัลทั้งหมดที่ ป้าติ้น อ้างว่า ป้าดาแบ่งล๊อตเตอรี่ให้กระจายกันไปขึ้นเงินนั้น
ทุกคนไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับป้าดาเลย โดยสืบจาก การโทรศัพท์หากัน หรือแม้แต่ตรวจสอบตำแหน่งกจากสัญญาณมือถือ
ป้าดาก็ไม่เคยเฉียดไปเจอคนที่ป้าติ้นกล้าวอ้างเลย
ป้าติ้นก็บอกว่า แล้วทำไมถึงไม่ตรวจสอบว่า คนที่เอาล๊อตเตอรี่ทั้งหมดไปขึ้นเงิน ซื้อมากจากไหน
เพราะชุดที่ถูกป้าติ๊นอ้างว่า มันคือชุดเลขชุดเดียวกันที่ป้าซื้อจากวัด
คุณอัจฉริยะ แจงว่า
ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว พบว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย
ส่วนที่บอกว่าเลขที่ถูกเป็นชุดที่อยู่ในวัดนั้น ไม่เป็นความจริง
เพราะ เมียผู้ขาย จะมาเป็นพยายานยืนยันได้ว่าไม่มีเลขรางวัลที่หนึ่ง
ผู้ขายจริงๆ ได้เสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนเรื่องลายมือ เจ้าของล๊อตเตอรี่ ที่เบิกเงินจากบัญชีตัวเองแล้ว ป้าติ้นบอกว่า ลายมือที่เขียนเบิกคล้ายลายมือป้าดา
จึงอยากให้ไปตรวจสอบวงจรปิดในธนาคารวันนั้น ว่าป้าดาไปด้วยกับเจ้าของรายนั้นไหม
อันนี้ไม่ต้องพิสูจน์ เพราะว่า มันเหมือนกันแค่บางตัว ไม่ใช่เหมือนทั้งหมด
เรื่องนี้ถ้าป้าไม่จบก็ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล
ฝากหน่อยนะเครับ งงๆ นิดหนึ่งว่า
คดี ป้าติ้น
ตำรวจไม่ส่งฟ้อง
ป้าติ้นฟ้องเอง ป้าดาติดคุกเพราะเงินประกันไม่พอ เพราะเทียบจากยอดเงิน30ล้าน
ถ้าป้าดาเป็นผู้บริสุทธิ อันนี้คือติดคุกฟรีใชีไหม
ทำไม่ป้าติ้นไม่ไปยื่นร้อง ขออายัดเงินฉุกเฉินกับผู้ที่ป้าสงสัย 5 รายนั้น
เหมือนอย่างที่ ครูปรีชา ไปฟ้องให้ อายัดเงินลุงจรุญไว้ก่อน ไว้สรุปว่าเป็นของใครเสร็จก่อนถึง เลิกอายัด
จะได้ไม่มีการยักย้ายถ่ายเท เงิน
ซึ่งป้าพยายามจะบอกว่า ป้าดาเอาเงินตรงนั้นมาจ้างให้ คุณอัจฉริยะกลับใจมาช่วยป้าดา และทำให้พยานกลับคำให้การณ์
เทียบกับหวย 30 ล้านลุงจรูญ
ตอนแรกครูปรีชาเป็นเจ้าทุกฟ้องลุงจรูญ
ตำรวจทำสำนวน เตรียมสรุปว่าจะส่งฟ้องศาลหรือเปล่า
ซึ่ง ถ้าไม่ฟ้องศาล ครูปรีชาก็ฟ้องเองเหมือน ป้าติ้นก็ได้นี่
แล้วจะมารออะไรกันยืนยาว ในขั้นตอนการ สรุปสำนวน ฟ้องศาล
งง ไหม
แต่วันที่สรุปสำนวนรอบแรก ก็เตรียมจะส่งฟ้องแล้วหละ เพราะมันใจว่า
ลุงจรูญผิดจริง ตามพยานหลักฐานที่มีในตอนนั้น
ต่อมาคดีดันพลิก ครูปรีชาที่ว่าเป็นเจ้าทุกข์ กลับโดนจับฐานให้การเท็จ
เรื่องก็เลยไปสู่เรื่อง คดี อาญา ให้การเท็จ
ส่วนคดีหวย ก็รอให้ศาลแพ่งตัดสินไปตำรวจไม่ยุ่ง
ยุ่งแต่ว่าเรื่อง คดีอาญาที่ ครูปรีชาแจ้งความเท็จ
ซึ่งนั้นหมายถึงว่า
แม้ตำรวจไม่ส่งฟ้อง เหมือนคดีป้าติ้น แต่ป้าดาก็ติดคุกได้ เห็นไหม
หัวป้าติ้น ต้นเรื่อง มหากาพย์ หวย 30 ล้าน
หลังจากที่หุ้นเงินซื้อล๊อตเตอรี่ด้วยกัน
แจ้งความแล้ว สุดท้าย ตำรวจ ไม่ส่งฟ้อง เพราะ คดีไม่มีมูล
แม้ป้าจะยืนยันว่า เซ็นชื่อตัวเองลงไปหลังสลากแล้วก็ตาม
ป้าติ้นเลยไปฟ้องศาลเอง
เป็นเหตุให้ ป้าดา ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยรางวัล ต้องถูกควบคุมตัว
เพราะศาลดันรับฟ้อง
แต่ด้วย วงเงินคำประกันสูงมาก เพราะ ทรัพย์ที่ฟ้องร้องกันมัน 30 ล้านบาท
ทำให้ป้าดา เตรียมเงินไปไม่พอค่าประกันตัว
เลยทำให้ติดคุก
ช่วงติดคุก น้องสาวป้าก็ไปเอาโฉนดที่ดิน มาค้ำประกันแทนเงินสด
แต่เหตุเพราะ ชื่อน้องสาวกับชื่อในโฉนดมันพิมพ์ผิดกัน
ทำให้ศาลไม่อนุมัติ
น้องสาวป้าก็เลยต้องรีบไปต่างจังหวัด เพื่อทำเรื่องเปลี่ยนชื่อให้ถูกต้องตามที่ปรากฏในโฉนด
แล้วกลับมา ยื่นเอกสารประกันตัวป้าดา
ที่สุดป้าดาถูกประตัวออกมา สรุปติดคุกไป 4 วัน
แม้จะยังคงดำเนินการฟ้องร้องคดีกันอยู่
ป้าติ้นก็ไปมีคดีใหม่เกิดขึ้นอีก กับคู่กรณี ที่ป้าติ้นบอกว่าซื้อหวยแล้วฝากไว้กับป้าติ๋ว
ซึ่งมันถูกรางวัลที่ 1 อีกแล้ว 30ล้าน
ก่อนฝากป้าไว้ก็เซ็นต์ลายมือไว้อีกเหมือนเดิม
.............................................
( ดูป้าก็เป็นคนฉลาดนะครับ คืออยากถามป้าว่า
คนเราถ้าครั้งแรกหุ้นเงินซื้อหวยกับเพื่อนแล้วเพื่อนโกง ครั้งทั้งสองยังจะซื้อหวยแล้วฝากเพื่อนไว้อีกหรือครับ)
(ถ้าเป็นคนทั่วไป ครั้งแรกโดนโกงแล้ว พอจะฝากของไว้กับคนอื่นอีกมันก็ต้องชุดคิดก่อนไหมว่า ไม่ฝากดีกว่า
เดี๋ยวโดนโกงอีก ป้าฉลาดจะตายไม่คิดแบบนี้บ้างหรือ)
เท่าที่ฝังๆป้าติ้นดู ป้าแกดูมีเหตุผล เสียจริงๆ ขนาด คุณอัจฉริยะ ยังต้องยื่นมือเข้าไปช่วยแก ในตอนแรก
ผมฟังป้าติ้นพูดแล้วผมยังเคลิ้ม เลย เช่น
1.ป้าแกบอกว่า แกสงสัยมาก ว่าทำไม แกเซ็นต์หลังล๊อตเตอรี่ไว้ แล้วทางกองสลากถึงบอกว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบลอยขีดฆ่า หรือลบ
จนป้าต้องไปขโมยสำนวนมากดู แล้วป้าก็บอกว่านั้นไง เห็นไหม มีลอยแก้ลายมือชื่อจริงๆ
........................................................
หลังจากที่ดูรอยแก้ไข ที่ป้าอ้างว่ามีการเขียนทับรายเซ็นต์ป้า บอกตรง ดูไม่ออกเลยว่าเขาลบ หรือเขาเขียนทับตรงไหน
เพียงแต่ว่า ของป้าดูเป็นตัว เอส ส่วนของเจ้าของล็อตเตอรี่ เป็นสอเสือลากหางเหมือนตัวเอสเฉยๆ
แล้วป้าบอกว่า เซ็นต์ทุกใบ ทำไมมันมีสงสัยอยู่แค่ใบเดียว
เรื่องนี้คุณ อัจฉริยะ ได้ตอบป้าว่า วันที่เอาฉลากไปตรวจหาร่องรอย มีใครอยู่บ้าง และให้เข้าไปได้ แค่สองคน
และคนตรวจสอบก็เป็นกองพิสูจน์หลักฐานแห่งชาติมีขั้นตอนที่หน้าเชื่อเถอะ ถ้าไม่เชื่อเขา แล้วจะไปเชื่อใคร
2.คนที่ไปขึ้นรางวัล งวดนั้น ถูกกันหลายคน ไม่ได้ถูกชุดใหญ่คนเดียว 30 ล้าน ซึ่งกระจัดกระจายกันไป
ป้าก็บอกว่า พวกนั้นคือ ขบวนการของป้าดา ที่ป้าด้าจ้างให้พวกนั้น แยกย้ายกันไปขึ้นเงิน จะได้ไม่เป็นที่สังเกตุ
ต่อมาป้าติ้นรู้หมดว่า มีใครไปขึ้นรางวัลบ้าง และหนึ่งในนั้น ตอนไปเบิกเงิน มีลายมือคล้ายๆป้าดา
ป้าติ้นเลยเข้าใจว่า ป้าดาต้องไปช่วยเขียนเบิกเงินให้คน คน นั้น แน่ๆ
ป้าติ้นก็เลย อยากให้เอา กล้องวงจรปิดในธนาคารที่ ทางเจ้าชองล็อตเตอรี่รายหนึ่งไปถอนเงินมาดูว่า
วันนั้นมีป้าดาไปด้วยไหม
คุณ อัจฉริยะตอบว่า ป้าติ้นมโนไปเอง
สาเหตุที่ป้าติ้นรู้ว่า มีใครขึ้นเงินรางวัลบ้าง ก็มาจากที่ป้าขโมยสำนวนไปดู
คุณอัจฉริยะยืนยันว่า เจ้าของลางวัลทั้งหมดที่ ป้าติ้น อ้างว่า ป้าดาแบ่งล๊อตเตอรี่ให้กระจายกันไปขึ้นเงินนั้น
ทุกคนไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับป้าดาเลย โดยสืบจาก การโทรศัพท์หากัน หรือแม้แต่ตรวจสอบตำแหน่งกจากสัญญาณมือถือ
ป้าดาก็ไม่เคยเฉียดไปเจอคนที่ป้าติ้นกล้าวอ้างเลย
ป้าติ้นก็บอกว่า แล้วทำไมถึงไม่ตรวจสอบว่า คนที่เอาล๊อตเตอรี่ทั้งหมดไปขึ้นเงิน ซื้อมากจากไหน
เพราะชุดที่ถูกป้าติ๊นอ้างว่า มันคือชุดเลขชุดเดียวกันที่ป้าซื้อจากวัด
คุณอัจฉริยะ แจงว่า
ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว พบว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย
ส่วนที่บอกว่าเลขที่ถูกเป็นชุดที่อยู่ในวัดนั้น ไม่เป็นความจริง
เพราะ เมียผู้ขาย จะมาเป็นพยายานยืนยันได้ว่าไม่มีเลขรางวัลที่หนึ่ง
ผู้ขายจริงๆ ได้เสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนเรื่องลายมือ เจ้าของล๊อตเตอรี่ ที่เบิกเงินจากบัญชีตัวเองแล้ว ป้าติ้นบอกว่า ลายมือที่เขียนเบิกคล้ายลายมือป้าดา
จึงอยากให้ไปตรวจสอบวงจรปิดในธนาคารวันนั้น ว่าป้าดาไปด้วยกับเจ้าของรายนั้นไหม
อันนี้ไม่ต้องพิสูจน์ เพราะว่า มันเหมือนกันแค่บางตัว ไม่ใช่เหมือนทั้งหมด
เรื่องนี้ถ้าป้าไม่จบก็ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล
ฝากหน่อยนะเครับ งงๆ นิดหนึ่งว่า
คดี ป้าติ้น
ตำรวจไม่ส่งฟ้อง
ป้าติ้นฟ้องเอง ป้าดาติดคุกเพราะเงินประกันไม่พอ เพราะเทียบจากยอดเงิน30ล้าน
ถ้าป้าดาเป็นผู้บริสุทธิ อันนี้คือติดคุกฟรีใชีไหม
ทำไม่ป้าติ้นไม่ไปยื่นร้อง ขออายัดเงินฉุกเฉินกับผู้ที่ป้าสงสัย 5 รายนั้น
เหมือนอย่างที่ ครูปรีชา ไปฟ้องให้ อายัดเงินลุงจรุญไว้ก่อน ไว้สรุปว่าเป็นของใครเสร็จก่อนถึง เลิกอายัด
จะได้ไม่มีการยักย้ายถ่ายเท เงิน
ซึ่งป้าพยายามจะบอกว่า ป้าดาเอาเงินตรงนั้นมาจ้างให้ คุณอัจฉริยะกลับใจมาช่วยป้าดา และทำให้พยานกลับคำให้การณ์
เทียบกับหวย 30 ล้านลุงจรูญ
ตอนแรกครูปรีชาเป็นเจ้าทุกฟ้องลุงจรูญ
ตำรวจทำสำนวน เตรียมสรุปว่าจะส่งฟ้องศาลหรือเปล่า
ซึ่ง ถ้าไม่ฟ้องศาล ครูปรีชาก็ฟ้องเองเหมือน ป้าติ้นก็ได้นี่
แล้วจะมารออะไรกันยืนยาว ในขั้นตอนการ สรุปสำนวน ฟ้องศาล
งง ไหม
แต่วันที่สรุปสำนวนรอบแรก ก็เตรียมจะส่งฟ้องแล้วหละ เพราะมันใจว่า
ลุงจรูญผิดจริง ตามพยานหลักฐานที่มีในตอนนั้น
ต่อมาคดีดันพลิก ครูปรีชาที่ว่าเป็นเจ้าทุกข์ กลับโดนจับฐานให้การเท็จ
เรื่องก็เลยไปสู่เรื่อง คดี อาญา ให้การเท็จ
ส่วนคดีหวย ก็รอให้ศาลแพ่งตัดสินไปตำรวจไม่ยุ่ง
ยุ่งแต่ว่าเรื่อง คดีอาญาที่ ครูปรีชาแจ้งความเท็จ
ซึ่งนั้นหมายถึงว่า
แม้ตำรวจไม่ส่งฟ้อง เหมือนคดีป้าติ้น แต่ป้าดาก็ติดคุกได้ เห็นไหม