เรากำลังเหนื่อย ท้อ และสับสนค่ะ
เราเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง เรียนรู้ได้ช้า แต่โชคดีที่ยังมีความขยันอยู่บ้าง และขยันมากในบ้างครั้งค่ะ
และเราอยากให้พ่อ แม่สบายสักที อยากหาเงินได้เยอะๆ
เราเลยคิดอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ และทำงาน part time ไปด้วยระหว่างเรียน
จะได้ส่งเงินมาให้พ่อ แม่ พอเรียนจบก็เป็นนักแปลอิสระ เพราะชอบอ่านนิยายค่ะ
ซึ่งภาษาอังกฤษเราอยู่ในเกณฑ์ที่เราก็มั่นใจในตัวเองมากว่า
ระดับแค่นี้ไม่น่าจะสอบทุนที่ไหนได้ แต่ก็กำลังฝึกอยู่ทุกวันค่ะ
และปัญหาคือ ความฝันของแม่เรา กับเรา ไม่ตรงกัน แม่อยากให้เรารับราชการ
ซึ่งเราเคยพยายามอ่านหนังสือเตรียมสอบ และสอบสอง สามที่
ก็ไม่ได้ค่ะ ถ้าใครอยู่ในวงการนี้จะรู้ว่า เป็นเพราะอะไร (ยกเว้นจะเก่งจริง ๆ สอบข้อเขียนได้ 80-90 ขึ้นค่ะ)
เราเหนื่อยค่ะ ที่ต้องทำตามความฝันแม่ และของตัวเองไปพร้อมๆกัน
เพราะศักยภาพเรามีไม่มาก เลิกงานกลับมา ก็พยายามฝึกภาษาอังกฤษ
ถ้ามีเปิดสอบราชการที่ไหนก็ต้องไปอ่านหนังสือสอบราชการ อีกอย่างเรากำลังทำthesis ป.โทอยู่ด้วยค่ะ
มันเหมือนกับการวิ่งซิกแซกอยู่ในเขาวงกต ไม่รู้จะเอายังไงกับอนาคตตัวเองดี
และการที่เราวิ่งซิกแซกไปมาแบบนี้ เลยทำให้มุ่งไปที่เป้าหมายได้ไม่ชัดเจนสักเป้า
มันเลยไม่สำเร็จไปซะทุกอย่าง ............เครียดมากค่ะ
อยากจะทิ้งทุกอย่าง แล้วก็นั่งดูละครย้อนหลังวนๆไป แบบไม่ต้องคิดอะไร
ไม่ต้องต้องพยายามอะไรอีก ทำงานเงินเดือนน้อยๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ สบายๆ
....แต่ยังไงเราก็ทำแบบนั้นไม่ได้......ไม่งั้นคงไม่มานั่งเครียดแบบนี้ #พิมพ์ไปปาดน้ำตาไป
ในเส้นทางของอนาคต...เหมือนกำลังวิ่งซิกแซกอยู่ในเขาวงกต
เราเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง เรียนรู้ได้ช้า แต่โชคดีที่ยังมีความขยันอยู่บ้าง และขยันมากในบ้างครั้งค่ะ
และเราอยากให้พ่อ แม่สบายสักที อยากหาเงินได้เยอะๆ
เราเลยคิดอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ และทำงาน part time ไปด้วยระหว่างเรียน
จะได้ส่งเงินมาให้พ่อ แม่ พอเรียนจบก็เป็นนักแปลอิสระ เพราะชอบอ่านนิยายค่ะ
ซึ่งภาษาอังกฤษเราอยู่ในเกณฑ์ที่เราก็มั่นใจในตัวเองมากว่า
ระดับแค่นี้ไม่น่าจะสอบทุนที่ไหนได้ แต่ก็กำลังฝึกอยู่ทุกวันค่ะ
และปัญหาคือ ความฝันของแม่เรา กับเรา ไม่ตรงกัน แม่อยากให้เรารับราชการ
ซึ่งเราเคยพยายามอ่านหนังสือเตรียมสอบ และสอบสอง สามที่
ก็ไม่ได้ค่ะ ถ้าใครอยู่ในวงการนี้จะรู้ว่า เป็นเพราะอะไร (ยกเว้นจะเก่งจริง ๆ สอบข้อเขียนได้ 80-90 ขึ้นค่ะ)
เราเหนื่อยค่ะ ที่ต้องทำตามความฝันแม่ และของตัวเองไปพร้อมๆกัน
เพราะศักยภาพเรามีไม่มาก เลิกงานกลับมา ก็พยายามฝึกภาษาอังกฤษ
ถ้ามีเปิดสอบราชการที่ไหนก็ต้องไปอ่านหนังสือสอบราชการ อีกอย่างเรากำลังทำthesis ป.โทอยู่ด้วยค่ะ
มันเหมือนกับการวิ่งซิกแซกอยู่ในเขาวงกต ไม่รู้จะเอายังไงกับอนาคตตัวเองดี
และการที่เราวิ่งซิกแซกไปมาแบบนี้ เลยทำให้มุ่งไปที่เป้าหมายได้ไม่ชัดเจนสักเป้า
มันเลยไม่สำเร็จไปซะทุกอย่าง ............เครียดมากค่ะ
อยากจะทิ้งทุกอย่าง แล้วก็นั่งดูละครย้อนหลังวนๆไป แบบไม่ต้องคิดอะไร
ไม่ต้องต้องพยายามอะไรอีก ทำงานเงินเดือนน้อยๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ สบายๆ
....แต่ยังไงเราก็ทำแบบนั้นไม่ได้......ไม่งั้นคงไม่มานั่งเครียดแบบนี้ #พิมพ์ไปปาดน้ำตาไป