สำหรับท่านใดที่ชอบทานเกาเหลาหรือก๋วยเตี๋ยวคงจะได้ซิมรสชาติที่อร่อยคุณรู้หรือไม่ว่าพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะนิยมใส่จิงจูฉ่ายลงไปเพื่อเพิ่มความอร่อยทำให้ถูกปากถูกคอลูกค้าที่มาทาน เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งที่มาจากประเทศจีนซึ่งชาวจีนนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย คงเป็นเพราะว่าเขานิยมนำมาใส่เกาเหลา บางคนก็ยังไม่รู้จักแต่ก็เคยทานกันมาบ้าง คุณรู้หรือไม่จิงจูฉ่ายเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์และสรรพคุณรักษาโรคได้หลายโรคตามมาดุกันเลยครับ
ข้อมูลทางพฤษศาสตร์
อาณาจักร Plantae
อันดับ Ericales
วงศ์ Myrsinaceae
สปีซีส์ Lysimachia nemorum
สกุล Lysimachia L.
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Artemisia Iactiflora Wall
ชื่อสามัญ White mugwort
ลักษณะของจิงจูฉ่าย
อีกชื่อหนึ่งที่ชาวต่างชาติเรียกว่า เซเลอรี่ วงศ์ Asteraceae โดยมีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กๆ เป็นพืชล้มลุก สูงประมาณครึ่งฟุตถึงหนึ่งฟุต ลักษณะของใบเป็นรูปรีมีขอบเป็นแฉกสีเขียว 5 แฉก มีเนื้อเนื้อใบหนาคล้ายๆกับผักคลื่นฉ่ายมีกลิ่นหอมมีรากเหง้าที่ใหญ่ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด มีก้านหนาเหมือนกับใบบัวบก เป็นพิชที่ขึ้นในที่มีแสงแดดสลัวๆ รำไร ชอบอากาศที่เย็น จึงทำให้คนจีนนิยมนำมาปรุงอาหารในหน้าหนาวเพื่อปรับความสมดุลของร่างกาย นำไปปรุงอาหารประเภทเกาเหลา ก๋วยเตี๋ยว ต้มจืด เป็นต้น หรืออาจจะเอาไปใส่ต้มเลือดหมูทำให้ดับกลิ่นคาวได้ดี ชาวจืนจึงนิยมเป็นส่วนมาก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ยาเย็น
สรรพคุณและประโยชน์
. ปรับความสมดุล ขับลมภายในร่างกาย
. สามารถรักษาโรคมะเร็งได้
. ป้องกันโรคไต
. บำรุงเลือด
วิธีรับประทาน
นำไปต้มกินก็ได้หรืออาจจะกินสดๆก็ได้ นำใบจิงจูฉ่ายประมาณ 1 กำมือเอาไปปั่นหรือตำคั้นเอาน้ำออกมารับประทาน 2 เวลา เช้า-เย็น ต่อวัน โดยให้ทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ให้ทำแบบนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน สามารถต้านเซลล์มะเร็งได้ สำหรับผู้หญิงมีครรภ์ไม่ควรทานเพราะอาจจะทำให้ลูกแท้งได้
เห็นไหมครับว่าเป็นสมุนไพรที่ใกล้ตัวมาก หาได้ง่าย สามารถปลูกไว้ในสวนเพื่อนำมาปรุงอาหารได้และยังเป็นยาอีกด้วย จะเห็นได้ว่าคนที่มีอายุยืนเป็นร้อยๆปีจะชอบทานผักเป็นส่วนใหญ่ ในผักทุกชนิดที่เรานำมาเป็นกับแกล้มหรือนำมาปรุงอาหารจะเป็นสมุนไพรทั้งนั้นครับ หากคุณอยากมีสุขภาพที่ดีแนะนำให้ทานผักเยอะเข้าไว้ครับ คนที่ชอบทานผักจะไม่เป็นโรคมะเร็งโดยเฉพาะจิงจูฉ่ายหากเรานำมาปรุงอาหารเป็นประจำสามารถต้านเซลล์มะเร็งได้ โดยที่เราไม่ต้องไปพึ่งยาแผนปัจจุบันอีก เมื่อรู้แบบนี้แล้วมาเริ่มทานจิงจูฉ่ายกันครับ
จิงจูฉ่าย สรรพคุณรักษาโรค
ข้อมูลทางพฤษศาสตร์
อาณาจักร Plantae
อันดับ Ericales
วงศ์ Myrsinaceae
สปีซีส์ Lysimachia nemorum
สกุล Lysimachia L.
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Artemisia Iactiflora Wall
ชื่อสามัญ White mugwort
ลักษณะของจิงจูฉ่าย
อีกชื่อหนึ่งที่ชาวต่างชาติเรียกว่า เซเลอรี่ วงศ์ Asteraceae โดยมีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กๆ เป็นพืชล้มลุก สูงประมาณครึ่งฟุตถึงหนึ่งฟุต ลักษณะของใบเป็นรูปรีมีขอบเป็นแฉกสีเขียว 5 แฉก มีเนื้อเนื้อใบหนาคล้ายๆกับผักคลื่นฉ่ายมีกลิ่นหอมมีรากเหง้าที่ใหญ่ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด มีก้านหนาเหมือนกับใบบัวบก เป็นพิชที่ขึ้นในที่มีแสงแดดสลัวๆ รำไร ชอบอากาศที่เย็น จึงทำให้คนจีนนิยมนำมาปรุงอาหารในหน้าหนาวเพื่อปรับความสมดุลของร่างกาย นำไปปรุงอาหารประเภทเกาเหลา ก๋วยเตี๋ยว ต้มจืด เป็นต้น หรืออาจจะเอาไปใส่ต้มเลือดหมูทำให้ดับกลิ่นคาวได้ดี ชาวจืนจึงนิยมเป็นส่วนมาก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ยาเย็น
สรรพคุณและประโยชน์
. ปรับความสมดุล ขับลมภายในร่างกาย
. สามารถรักษาโรคมะเร็งได้
. ป้องกันโรคไต
. บำรุงเลือด
วิธีรับประทาน
นำไปต้มกินก็ได้หรืออาจจะกินสดๆก็ได้ นำใบจิงจูฉ่ายประมาณ 1 กำมือเอาไปปั่นหรือตำคั้นเอาน้ำออกมารับประทาน 2 เวลา เช้า-เย็น ต่อวัน โดยให้ทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ให้ทำแบบนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน สามารถต้านเซลล์มะเร็งได้ สำหรับผู้หญิงมีครรภ์ไม่ควรทานเพราะอาจจะทำให้ลูกแท้งได้
เห็นไหมครับว่าเป็นสมุนไพรที่ใกล้ตัวมาก หาได้ง่าย สามารถปลูกไว้ในสวนเพื่อนำมาปรุงอาหารได้และยังเป็นยาอีกด้วย จะเห็นได้ว่าคนที่มีอายุยืนเป็นร้อยๆปีจะชอบทานผักเป็นส่วนใหญ่ ในผักทุกชนิดที่เรานำมาเป็นกับแกล้มหรือนำมาปรุงอาหารจะเป็นสมุนไพรทั้งนั้นครับ หากคุณอยากมีสุขภาพที่ดีแนะนำให้ทานผักเยอะเข้าไว้ครับ คนที่ชอบทานผักจะไม่เป็นโรคมะเร็งโดยเฉพาะจิงจูฉ่ายหากเรานำมาปรุงอาหารเป็นประจำสามารถต้านเซลล์มะเร็งได้ โดยที่เราไม่ต้องไปพึ่งยาแผนปัจจุบันอีก เมื่อรู้แบบนี้แล้วมาเริ่มทานจิงจูฉ่ายกันครับ