เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดปัตตานี โดยมี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนราธิวาส คอยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางให้ พอเครื่องบินแตะรันเวย์ที่สนามบินหาดใหญ่ จัดการเรื่องสัมภาระที่โหลดมากับเครื่องเรียบร้อยเดินออกจากอาคาร ก็มีรถตู้มารอรับเพื่อเดินทางลงพื้นที่กันเลย และจุดหมายแรกที่เราจะต้องเดินทางไปเยือนก็คือ ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ จ.ปัตตานี
มาถึง ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว ก็เกือบจะเที่ยงพอดี คุณชนินทร์ เศียรอินทร์ ประธานชุมชนท่องเที่ยวบ้านทรายขาว ยืนยิ้มหวานต้อนรับพร้อมเชื้อเชิญเราไปโต๊ะอาหารที่ตั้งไว้รอคณะเดินทางของเราอยู่ก่อนแล้ว พลันสายตาเหลือบไปเห็นคุณป้าท่านหนึ่งกำลังขะมักเขม้นยำอาหารอยู่ชนิดหนึ่ง ด้วยความสนใจรีบเดินไปดู แกก็ส่งให้ชิมพร้อมบอกกับคณะเราว่า ยำตะลิงปลิง รออะไรล่ะ...อย่างรวดเร็ว รับมาจากมือคุณป้ารีบจัดใส่ปากอย่างไว
คือมันมีความเปรี้ยวจากตะลิงปลิง มีความมันจากมะพร้าวกะทิ เผ็ดเล็กน้อยถึงปานกลางจากพริกขี้หนู ส่วนเค็มหวานก็เกิดจากน้ำปลาและน้ำตาล มีความหนีบกรุบจากใบชะพลู คือรู้สึกดีงามพระรามแปดต่อกระพุ้งแก้มมาก
ระหว่างที่คณะเรากำลังชิมกันอย่างเมามันส์ คุณพี่ชนินทร์ ยังเดินมาบอกอีกว่าอาหารเมนูนี้เราเก็บวัตถุดิบทุกอย่างมาจากหลังบ้านนี่แหละ ถึงกับต้องรีบหยุดการชิมไปชั่วขณะแล้วรีบเดินไปเก็บภาพซะหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับมากินต่อแบบเป็นเรื่องเป็นราวกันไป
พอเดินเก็บภาพต้นตะลิงปลิงเสร็จ เดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร ยังเห็นเมนูแกงต้มยำและแกงกะทิที่ใช้ตะลิงปลิงเป็นวัตถุดิบด้วย ไม่เพียงเท่านั้นนะ ยังมี ตะลิงปลิงอบแห้ง ตะลิงปลิงแช่อิ่ม ให้ขบเคี้ยวทานเล่นเป็นของหวานตบท้ายด้วย คุณพี่ชนินทร์ ยังได้บอกถึงสรรพคุณทางยาของ ตะลิงปลิง ไว้หลายอย่างด้วย
“ตะลิงปลิง เป็นพืชท้องถิ่นในแถบจังหวัดภาคใต้ พบมากในป่าดิบชื้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ แถบประเทศด้านล่างของไทย และที่นี่ก็มีเยอะมาก สมัยก่อนหล่นเกลื่อนพื้นเก็บเกินไม่ทัน ต้องปล่อยเน่าเสียตามพื้น แต่ต่อมาได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเรื่องการแปรรูปจนตอนนี้เป็นสินค้าขายดีของชุมชนไปแล้ว ตะลิงปลิง ยังมีสรรพคุณทางยามากมายด้วยเช่น ช่วยต้านเซลล์มะเร็ง แก้อาการตัวร้อนเป็นไข้ ช่วยในการย่อยอาหาร เพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร ปกป้องการเสื่อมของผิวหนังจากแสงแดด ป้องกันอวัยวะภายในจากสารพิษ สารเคมีต่างๆ และช่วยขับสารพิษ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน แก้อาการคันคอ แก้อาการไอ ลดอาการอักเสบบริเวณคอ ช่วยละลายเมหะ ช่วยให้ดันเสมหะออกง่าย แก้เมารถ เมาเรือ ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและช่วยให้ส่างเมา ช่วยขับแอลกอฮอล์ออกทางปัสสาวะ”
เป็นยังไงกันมั่ง ตะลิงปลิง นี่สรรพคุณเพียบจริงๆ ต้องยกให้เป็นพระเอกบนโต๊ะอาหารมื้อนั้นกันเลย ถ้าหากท่านสนใจเดินทางไปท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว ก็เดินทางไม่ยากนะ เพียงแค่ 26 กิโลเมตร จากตัวเมืองปัตตานีมาตามทางหลวงหมายเลข 42 ก็จะถึง อ.โคกโพธิ์ ที่ตั้งชุมชนท่องเที่ยวบ้านทรายขาวแล้ว ที่นี่มีต้นทุนทางทรัพยากรสูง มีความอุดมสมบรูณ์และความงดงามตามธรรมชาติที่ประกอบไปด้วยน้ำตกทรายขาวที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดปี ถ้าสนใจเดินทางท่องเที่ยวที่นี่ก็ลองติดต่อ คุณชนินทร์ เศียรอินทร์ ที่เบอร์ 089-7379553,093-6896447 ดูนะครับ ท่องเที่ยวที่นี่ปลอดภัย ไม่มีอะไรน่ากังวล ปัตตานีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราเห็นภาพตามสื่อฯ ฮะ
น่าเสียดายนะ ที่คณะเราต้องแยกกับ คุณพี่ชนินทร์ เศียรอินทร์ ที่โต๊ะอาหาร เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายอื่นต่อ เลยไม่มีภาพส่วนอื่นๆ ของชุมชนมาให้ชมกัน แต่ความหลากหลายจากเมนูอาหาร ตะลิงปลิง จะทำให้คณะเราคิดถึงที่นี่และจะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวที่นี่อีกให้ได้
ตะลิงปลิง (Bilimbi) ไม้ผลที่ให้รสเปรี้ยวจัด พระเอกแห่งโต๊ะอาหารชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดปัตตานี โดยมี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนราธิวาส คอยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางให้ พอเครื่องบินแตะรันเวย์ที่สนามบินหาดใหญ่ จัดการเรื่องสัมภาระที่โหลดมากับเครื่องเรียบร้อยเดินออกจากอาคาร ก็มีรถตู้มารอรับเพื่อเดินทางลงพื้นที่กันเลย และจุดหมายแรกที่เราจะต้องเดินทางไปเยือนก็คือ ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ จ.ปัตตานี
มาถึง ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว ก็เกือบจะเที่ยงพอดี คุณชนินทร์ เศียรอินทร์ ประธานชุมชนท่องเที่ยวบ้านทรายขาว ยืนยิ้มหวานต้อนรับพร้อมเชื้อเชิญเราไปโต๊ะอาหารที่ตั้งไว้รอคณะเดินทางของเราอยู่ก่อนแล้ว พลันสายตาเหลือบไปเห็นคุณป้าท่านหนึ่งกำลังขะมักเขม้นยำอาหารอยู่ชนิดหนึ่ง ด้วยความสนใจรีบเดินไปดู แกก็ส่งให้ชิมพร้อมบอกกับคณะเราว่า ยำตะลิงปลิง รออะไรล่ะ...อย่างรวดเร็ว รับมาจากมือคุณป้ารีบจัดใส่ปากอย่างไว
คือมันมีความเปรี้ยวจากตะลิงปลิง มีความมันจากมะพร้าวกะทิ เผ็ดเล็กน้อยถึงปานกลางจากพริกขี้หนู ส่วนเค็มหวานก็เกิดจากน้ำปลาและน้ำตาล มีความหนีบกรุบจากใบชะพลู คือรู้สึกดีงามพระรามแปดต่อกระพุ้งแก้มมาก
ระหว่างที่คณะเรากำลังชิมกันอย่างเมามันส์ คุณพี่ชนินทร์ ยังเดินมาบอกอีกว่าอาหารเมนูนี้เราเก็บวัตถุดิบทุกอย่างมาจากหลังบ้านนี่แหละ ถึงกับต้องรีบหยุดการชิมไปชั่วขณะแล้วรีบเดินไปเก็บภาพซะหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับมากินต่อแบบเป็นเรื่องเป็นราวกันไป
พอเดินเก็บภาพต้นตะลิงปลิงเสร็จ เดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร ยังเห็นเมนูแกงต้มยำและแกงกะทิที่ใช้ตะลิงปลิงเป็นวัตถุดิบด้วย ไม่เพียงเท่านั้นนะ ยังมี ตะลิงปลิงอบแห้ง ตะลิงปลิงแช่อิ่ม ให้ขบเคี้ยวทานเล่นเป็นของหวานตบท้ายด้วย คุณพี่ชนินทร์ ยังได้บอกถึงสรรพคุณทางยาของ ตะลิงปลิง ไว้หลายอย่างด้วย
“ตะลิงปลิง เป็นพืชท้องถิ่นในแถบจังหวัดภาคใต้ พบมากในป่าดิบชื้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ แถบประเทศด้านล่างของไทย และที่นี่ก็มีเยอะมาก สมัยก่อนหล่นเกลื่อนพื้นเก็บเกินไม่ทัน ต้องปล่อยเน่าเสียตามพื้น แต่ต่อมาได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเรื่องการแปรรูปจนตอนนี้เป็นสินค้าขายดีของชุมชนไปแล้ว ตะลิงปลิง ยังมีสรรพคุณทางยามากมายด้วยเช่น ช่วยต้านเซลล์มะเร็ง แก้อาการตัวร้อนเป็นไข้ ช่วยในการย่อยอาหาร เพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร ปกป้องการเสื่อมของผิวหนังจากแสงแดด ป้องกันอวัยวะภายในจากสารพิษ สารเคมีต่างๆ และช่วยขับสารพิษ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน แก้อาการคันคอ แก้อาการไอ ลดอาการอักเสบบริเวณคอ ช่วยละลายเมหะ ช่วยให้ดันเสมหะออกง่าย แก้เมารถ เมาเรือ ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและช่วยให้ส่างเมา ช่วยขับแอลกอฮอล์ออกทางปัสสาวะ”
เป็นยังไงกันมั่ง ตะลิงปลิง นี่สรรพคุณเพียบจริงๆ ต้องยกให้เป็นพระเอกบนโต๊ะอาหารมื้อนั้นกันเลย ถ้าหากท่านสนใจเดินทางไปท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว ก็เดินทางไม่ยากนะ เพียงแค่ 26 กิโลเมตร จากตัวเมืองปัตตานีมาตามทางหลวงหมายเลข 42 ก็จะถึง อ.โคกโพธิ์ ที่ตั้งชุมชนท่องเที่ยวบ้านทรายขาวแล้ว ที่นี่มีต้นทุนทางทรัพยากรสูง มีความอุดมสมบรูณ์และความงดงามตามธรรมชาติที่ประกอบไปด้วยน้ำตกทรายขาวที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดปี ถ้าสนใจเดินทางท่องเที่ยวที่นี่ก็ลองติดต่อ คุณชนินทร์ เศียรอินทร์ ที่เบอร์ 089-7379553,093-6896447 ดูนะครับ ท่องเที่ยวที่นี่ปลอดภัย ไม่มีอะไรน่ากังวล ปัตตานีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราเห็นภาพตามสื่อฯ ฮะ
น่าเสียดายนะ ที่คณะเราต้องแยกกับ คุณพี่ชนินทร์ เศียรอินทร์ ที่โต๊ะอาหาร เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายอื่นต่อ เลยไม่มีภาพส่วนอื่นๆ ของชุมชนมาให้ชมกัน แต่ความหลากหลายจากเมนูอาหาร ตะลิงปลิง จะทำให้คณะเราคิดถึงที่นี่และจะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวที่นี่อีกให้ได้