ขอวิธีเผชิญหน้ากับกิ๊กเก่าของสามี..ที่ต้องเจอหน้ามันทุกวันในที่ทำงานหน่อยค่ะ :(

ขอเล่าประวัติของเรากับแฟนให้ฟังคร่าวๆก่อนนะ


เริ่มต้นเรื่องทั้งหมดจากคู่เรา ก็คือเรากับแฟน คบกันมานานสักพักใหญ่ๆ ประมาณ 5 ปีค่ะ
(ทำงานที่เดียวกันค่ะ คบกันเพราะพี่เขาเป็นคนดี ดูแลเราอย่างดีมาตลอด เขาเป็นซีเนียร์ ส่วนเราเป็นจูเนียร์ ก็จะคอยช่วยเหลือเราเสมอ)
พ่อแม่ทั้งคู่ก็เห็นดีงาม ว่าคบกันมานานมากแล้ว
ควรแต่งงานกันได้แล้วล่ะ กลัวจะไม่มีลูกทันใช้
เพราะคุณแม่ ตอนนี้ท่านก็ป่วยเป็นมะเร็ง และท่านก็ตัดพ้ออยู่เสมอว่าไม่รู้จะได้อยู่เจอหน้าหลานไม๊
ถ้าแต่งงานกันได้เร็วๆ ก็คงจะดี อย่างน้อยๆแกก็ตายตาหลับ (แกพูดแบบนี้ให้เราฟังก่อนเข้านอนทุกคืน)
ด้วยความที่แฟนเป็นคนสุภาพเรียบร้อย เข้าตามตรอก ออกตามประตู
ทำให้ทุกคนในบ้านยิ่งสนับสนุนการแต่งานเข้าไปใหญ่ ทั้งพี่สาวเรา ป้า ลุง และ พ่อแม่
ด้วยความที่ปกติแล้วคู่เราไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะอะไรกันรุนแรง
ก็เลยรู้สึกว่าการแต่งงานก็น่าจะราบรื่นได้ ไม่มีปัญหาอะไร


นิสัย แฟน ด้านดี : สุภาพ อ่อนโยน สุภาพบุรุษ เอาใจใส่ดูแล และ หล่อ
นิสัยแฟน แฟน ด้านไม่ดี : ชอบเช็คเรทติ้ง ขี้อ่อย ขี้น้อยใจ ขี้หึง



นิสัย เรา ด้านดี : ไม่เจ้าชู้ เสมอต้นเสมอปลาย เป็นคนมองโลกแง่บวก สนุกสนานร่าเริง เอาใจใส่แฟน
นิสย เรา ด้านไม่ดี : ขี้งอน ขี้โมโห หน้าตาบ้านๆ


ถ้าพูดไปแล้ว จริงๆคู่เราก็ไม่เคยนอกใจกันเลย
โดยเฉพาะเรา ไม่มีมองผู้ชายเลยสักนิด และที่สำคัญแฟนเราเป็นคนขี้หึงมาก เราก็เลยยิ่งไม่ทำอะไรให้เขาระแวงเลย
ส่วนแฟนเรา เขาเคยเป็นอดีตดเดือนคณะ มาก่อน ก็จะมีความอ่อยเป็นทุนเดิมนิดๆ เวลาไปไหนก็จะชอบเช็ทเรทติ้ง
ซึ่งเราก็แอบไปเห็นอยู่บ่อยๆ เช่น การมองผู้หญิงเพื่อให้เขามองกลับมา หรือการช่วยเหลือคนอื่นๆในที่ทำงานให้เค้ากรี๊ด
แบบว่า นางชอบการมีแฟนคลับ ชอบให้มีคนมากรี๊ด ตรงนี้จริงๆเคยรับไม่ได้นะ แต่หลังๆมาก็เริ่มรับได้
เพราะคนกรี๊ดแต่ก็ไม่มีใครเค้ามายุ่งเป็นมือที่3
เพราะรู้ว่าเขาคบกับเรามานาน และทุกคนก็เกรงใจเรา มันก็จะอยู่ในลิมิตที่ไม่ได้น่าเกลียดมาก
เอาเป็นว่าเราเข้าใจตรงนี้ อีกอย่างนึง ในระยะหลังๆมันก็เริ่มเบาลงๆ จนเกือบไม่มี แต่นิสัยเรื่องเช็ทเรทก็ยังไม่หายไปหรอก
ทุกครั้งที่มีคนที่ทำงาน มาพูดว่าเป็นแฟนคลับเค้า เค้าก็จะดูภูมิอก ภูมิใจ กับมันน่าดู ตอนนั้นเราไม่คอยหึงนะ แต่ออกรำคาญ
ที่แฟนเราดูจะพราว ทู พรี เซ้นต์ ตัวเอง น่าดู อย่าง กับ เป็น ดา รา


พอผ่านเรื่องราวอะไรพวกนี้มาเรื่อยๆ เราก็เริ่มจะเฉยๆ กับเรื่องเช็คเรทของคุณแฟน
แต่ช่วงก่อนแต่งานได้ประมาณครึ่งปี ปรากฏว่ามันมีเรื่องแบบนี้มาอีก
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆมา

คือ เราจับได้ว่าเค้าไปอ่อย ผญ คนนึงใน เฟสบุ๊ค แฟนเราเป็นคนกด Add Friend ไปหา
ผญ คนนี้ เป็นคนที่ทำงานบริษัทลูก ของออฟฟิศเรา
แฟนเราเคยเจอ ผญ คนนี้ แค่เดินเฉี่ยวกันไปมา แต่ไม่เคยได้ทำงานด้วยกัน และไม่รู้จักชื่อกัน
คาดว่าคงน่าจะเห็นหน้ากันมาได้สัก 2-3 ครั้งแล้วมั้ง เพราะเรากับแฟนทำงานอยู่ชั้นเดียวกันก็จะเห็น ผญ คนนี้มาประชุมอยู่บ้าง
(ออฟฟิศเราอยู่ตรงพญาไท ส่วนบริษัทลูกที่ ผญ คนนี้ทำงานอยู่ตรงสาทร)


และเราก็ไปรู้ว่าเขาคุยกันในเฟส จากคุยกันเฉยเรื่องทั่วๆไปในอินบ๊อกซ์ กลายเป็น อ่อยกันไปมา จนผู้หญิงเริ่มบอกคิดถึง
ทุกอย่างมันก็เริ่มลามปามไปกันใหญ่ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของการเช็คเรทติ้งแล้ว
มันเริ่มมาสู่ขั้นตอนของการนอกใจแบบออนไลน์ คือ เขาคุยกันทุกวันนะ
จนเราเริ่มจับได้ แต่ที่มั่นใจแน่ๆคือ มันยังไม่พัฒนาไปถึงขั้นไปเดทกัน น่าจะอ่อยกันไปมา
เพราะแฟนกับเราอยู่กินกันก่อน ก็เลยรู้ว่าหลังเลิกงาน เขาไม่ได้ไปไหนกับใคร

บทสรุป : ทะเลาะกันรุนแรง จนเราขอเลิก และเขายอมรับผิด และบอกว่าผู้หญิงเป็นคนพิมอ่อยมาก่อน
แต่ในความจริงแล้ว แฟนเราผิดเต็มๆที่ Add Friend เขาไป ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้น

แต่สุดท้าย : เราเลือกที่จะให้อภัยและแต่งงานกับเค้า เพราะเราเป็นห่วงความรู้สึกแม่เรามากกว่า
อีกอย่าง ทุกอย่างในงานแต่งก็เตรียมไว้เกือบ 80% แล้ว
ตรงๆนะ ตอนนั้นเราอึดอัดมาก ความรู้สึกกับแฟนมันไม่เหมือนเดิมแต่ก็ปรึกษาใครไม่ได้ ไม่อยากให้คนอื่นเป็นกังวลไปกับเรื่องนี้ด้วย
เพราะช่วงนั้นแม่ก็เริ่มอาการแย่ลงๆทุกที ครอบครัวไม่ควรมาเครียดเรื่องเราอีก
และใจเราก็ยังรักแฟนมากๆๆ พอที่จะให้อภัยได้ ให้เค้าเริ่มต้นใหม่ได้ แม้รู้ว่าความเชื่อใจจะไม่เหลือก็ตาม


หลังแต่งงานมาได้ครึ่งปี

ปรากฏว่า...เหมือนโชคชะตาแกล้ง ผู้หญิงคนนั้น ถูกย้ายมาทำงานที่ออฟฟิศแม่
ทำให้เราต้องเห็นหน้าผญ คนนี้ ทุกวันๆ
เชื่อไหมว่า แค่เห็นเขาเดินผ่านทีไร เราน้ำตาซึมๆออกมาทุกที เราเกลียดเธอ-เกลียดมาก
เราอดทนที่จะไม่พูดกับสามี ว่าเรารู้สึกอะไรกับเหตุการณ์แบบนี้
จนวันนึงเราก็เริ่มทนไม่ไหว เราเดินอยู่กับสามี เธอเดินผ่านมา สามีเราก้มหน้า
แค่ไม่กี่วินาที.....เราน้ำตาไหลพรากกก เป็นทาง จนสามีถามว่า เกิดอะไรขึ้น?

เราได้แต่บอกเขาไปว่า เรารู้สึกแย่ที่เห็นหน้า ผญ คนนั้นทุกวันตลอดเวลา
สามีก็ได้แต่พูดว่า อย่าคิดมาก ไม่มีอะไร เขาไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยแล้ว
ยิ่งช่วงหลังๆ ผญ คนนี้ เขาก็เริ่มสนิทกับกลุ่มเพื่อนของสามีมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะทำงานอยู่ทีมเดียวกันเป็นโปรเจคๆ เราก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาพยามขยับเข้ามาเรื่อยๆ
เริ่มมีไปปาร์ตี้ด้วยกันทุกเย็นวันศุกร์ และมีไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน

แต่โชคยังดี ที่สามีไม่ต้องไปทำงานกับเขา เพราะสามีเป็น Manager แล้วค่ะ เขาก็มีลูกน้องของทีมตัวเอง
จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปทำงานร่วมกับ ผญ คนนี้ เหมือนเพื่อนในกลุ่มคนอื่นๆของสามี
ที่ยังไม่ได้ขึ้นเป็น Manager จึงต้องโดนไปทำงานร่วมกับ ผญ คนนี้ เนื่องจาก Director สั่งมา

ทุกครั้งที่เราไปหาสามีที่ห้องทำงาน ก็จะเจอ ผญ คนนี้วนเวียนอยู่ใกล้ๆ กลุ่มเพื่อนๆเขา
เราไม่รู้จริงๆนะ ว่าเราควรจะรู้สึกยังไงดี

เราถามสามีว่า....เขาได้คุยกับผู้หญิงคนนี้บ้างมั้ย?
คำตอบที่เราเดาไว้แน่นอน...ก็คือ ไม่ได้คุย และเค้าก็ยืนยันแบบนี้ตลอด

เราเข้าใจนะว่าเรื่องที่เราคิดมาก มันอาจจะเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับบางคน เพราะมันคือ อดีต
แต่มันก็เซนซีทีฟมากสำหรับเรา ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ทุกวันๆ เพราะเธอคือคนที่ทำให้ชีวิตเราเกือบพัง
เราโกรธเธอ เกลียดเธอ ที่ทำให้เราต้องโกหกแม่...ต้องปิดบังแม่ ว่าแฟนเรานอกใจเรา...แต่เราพูดกับใครไม่ได้
เรากลัวว่าวันนึง...การที่ ผญ คนนี้เข้ามาเรื่อยๆ มันจะมีโอกาสทำให้ได้กลับมาคุยกับสามีเราอีก
เพราะตอนที่เราจับได้ว่า เขาคุยกันในเฟส หลังจากสามีบล็อกเฟสนางไป
ดูนางก็ค่อนข้างจะคร่ำครวญในเฟส เช่น เปลี่ยนรุปโปรไฟล์เป็นร้องไห้ หน้าปกเฟสเป็นแบบเฟลๆ
เราก็คิดนะ....ว่านางคงจะชอบสามีเรามาก ถึงได้พารานอยด์หนักขนาดนี้

และการที่เหตุการณ์เป็นแบบนี้ ทำให้เราตีตัวออกห่างจากกลุ่มเพื่อนของสามี
เพราะเราไม่อยากคุย เรารู้สึกน้อยใจว่าทำไมพวกเขาต้องไปสนิทกับ ผญ คนนี้
เธอเป็นคนไม่ดี เธอเป็นมือที่ 3 เธอต้องการที่จะทำลายครอบครัวเรา
แต่มาคิดๆอีกที คนอื่นเขาก็คงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหรอก หรืออาจจะรู้เพราะ ผญ คนนี้อาจจะเล่า


เราไม่รู้อะไรทั้งนั้น ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มเพื่อนๆสามีหรือเปล่า เธออาจะแฉเรื่องนี้ หรือไม่แฉ เราก็ไม่แน่ใจ
แต่ส่วนตัวเรา ตอนที่เกิดเรื่องขึ้น เราไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย แม้แต่เพื่อนสนิทเรา
ยิ่งกลุ่มเพื่อนสามีเราที่ทำงาน เรายิ่งไม่เล่าเลย เพราะสามีเป็นคนถือหน้าถือตาตัวเอง
เนื่องจากเป็น Manager เราก็ไม่อยากเอาเรื่องแบบนี้ไปปรึกษาเพื่อนๆเค้า ให้กลายเป็นมองดูไม่น่าเชื่อถือ
เราให้เกียรติเขามากๆ เพราะไม่อยากให้คนอื่นในบริษัทมองเค้าไม่ดี กลัวจะมีผลกระทบกับเรื่องงานเขา
แต่ที่แน่ๆ คือ เพื่อนสามีทุกคนก็ค่อนข้างตั้งข้อสงสัยว่าทำไมเรา เฟด ตัวออกมา
เราก็ได้แต่พูดว่า ช่วงนี้งานหนักเลยไม่ค่อยได้แวะไปเยี่ยมพวกพี่ๆนะคะ
แต่ในใจจริงๆ คือ เราเกลียด ผญ คนนี้ ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากน้ำตาไหลให้เป็นที่สงสัย


เราเป็นแบบนี้มาได้หลายเดือนแล้วนะคะ
เราไม่คิดจะไปหาเรื่องอะไร ผญ คนนั้น เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทำ
แต่เรากลัวใจสามี....กลัวใจเพื่อนๆสามี.....กลัวเหตุการณ์แย่ๆ มันจะซ้ำรอยเดิมรึป่าว
ถ้ากลุ่มเพื่อนเขาไปเที่ยวๆกัน วันนึงสามีเราต้องไปเที่ยวกับ ผญ คนนี้ด้วยใช่ไหม
และที่สำคัญ คือ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เราก็ยังทำใจที่จะเห็น ผญ คนนี้
ป่วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ สามี และ เพื่อนๆ ไม่ได้อยู่ดี น้ำตามันจะไหล


เพราะเราไม่เคยนอกใจสามีเลยสักครั้งเดียว ไม่เคยทำอะไรไม่ดีเลย
แต่ทำไมเรากลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
และคนที่รู้สึกไม่ดี ไม่สมควรจะต้องเป็นเราสิ ควรจะเป็นคนที่ทำผิดมากกว่า
ตอนนี้แม่เราก็โคม่าขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดก็เพิ่งเข้า ICU ทำให้เรารู้สึกว่า เรายิ่งเกลียด ผญ คนนี้ขึ้นไปอีก
เพราะถ้าแม่เราไม่เจ็บป่วย เราจะเล่าปรึกษาแม่ทุกอย่าง ว่าเราไม่อยากแต่งงานในตอนนั้น


เรามีข้อคำถามที่อยากขอความช่วยเหลือดังนี้คะ

1.เราควรปรับตัวให้อยู่กับเพื่อนที่ทำงานสามีอย่างไรดีคะ เพราะทุกคนจะเริ่มสงสัยขึ้นทุกวันแล้ว
2.เราควรวางตัวอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ผญ คนนั้นคะ (ปกติจะเดินก้มหน้า เล่นมือถือแทน ทำเป็นมองไม่เห็น เพราะน้ำตาจะซึมๆ)
3.เราควรจัดการกับทัศนคติด้านลบๆของตัวเองอย่างไรดีคะ
4.เราควรบอกเรื่องนี้กับครอบครัวดีมั้ยคะ ? // แต่เราไม่ได้อยากเลิกกับสามีนะ เพราะตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
5.ตอนนี้เรายังไม่ควรมีลูกกับสามีใช่หรือไม่คะ ? //
6.เรากำลังจะต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่น 3 เดือน
เราควรคุยกับเขายังไงดี ว่าเรากังวลเรื่อง ผญ คนนี้ และไม่ค่อยสบายใจ ถ้าเราไม่อยู่ กลัวมีปัญหาตามมา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่