ขอแชร์ประสบการ์การไปทำวีซ่าเพื่อไปเที่ยวแถบ Scandinavia มาเล่าให้เพื่อนฟังนะค่ะเผื่อเป็นประโยชน์
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าบ้านเราประกอบไปด้วย พ่อแม่และลูกชายวัย 7 ขวบ กับ 8 ขวบ วางแผนว่าจะไปเที่ยวช่วงปิดเทอมของลูกมานานมาก สุดท้ายก็มาลงตัวที่ประเทศแถบนี้ ด้วยมีสถานที่น่าท่องเที่ยวที่เหมาะกับเด็กหลายที่ ได้ขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นรถไฟ ครบทุกอย่างและธรรมชาติก็สวย แต่ข้อเสียของแถบนี้คือค่าครองชีพสูงมาก (ถ้ามีแพลนจะไปต้องจองล่วงหน้าหลายๆเดือนนะค่ะเพราะจะได้ส่วนลดเยอะค่ะ) แถมอากาศก้อหนาวมาก แต่มิใช่อุปสรรคความอยากเที่ยวของเราค่ะ เรากับสามีเลยเลือกไปเที่ยวแถบนี้กัน และตกลงกันว่าไปทั้งทีก้อต้องให้ครบๆเราเลยวางแพลนกันว่าจะไปลงที่ Stockholm ประเทศสวีเดน แล้วนั่งเรือไป Tallinn ประเทศเอสโตเนีย แล้วก้อนั่งเรือไป Finland และก้อนั่งเครื่องไปนอร์เวย์ และกลับไทยที่ เดนมาร์ก
เข้าเรื่องเลยนะค่ะ ด้วยการไปเที่ยวแถบนี้ต้องทำวีซ่าเชงเก้นเพื่อเข้าแต่ละประเทศได้ แต่การทำวีซาเชงเก้นมันก็มีกฎในการทำค่ะอยู่ดีๆจะจับฉลากหรือเลือกตามใจฉันว่าจะทำประเทศนั้นนี้ไม่ได้ค่ะ
เราเลยเข้าเว็บหาข้อมูลค่ะ ได้ฟามว่า การทำวีซ่าเชงเก้นในการเข้าออกหลายประเทศต้องเลือกประเทศที่อยู่นานที่สุด เราบวกลบคูณหารแล้วก็คิดเอาเองว่าเราจะไปทำวีซ่าของเดนมาร์กค่ะ เราก็เลยโทรไปถามบริษัทนายหน้าในการทำวีซ่าให้ประเทศเดนมาร์กคือ บริษัท VFS ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งเดียวในประเทศไทยนะค่ะ แล้วที่เลือกทำวีซ่าประเทศนี้ก็เพราะมันมีภาษาไทยกำกับด้วยค่ะ 555 ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ
จากนั้นเราก็เตรียมเอกสารและหาวันว่าง คือการทำวีซ่าไปแถบนี้ไม่ต้องไปจองคิวในเว็บเหมือนบางประเทศนะค่ะ สามารถ Walk in เข้าไปที่บริษัท VFS ตั้งอยู่ชั้น 8 อาคารเทรนดี้ สุขุมวิท 13 ได้เลยค่ะ โดยเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
http://vfsglobal-denmark.com/thailand/thai/denmark_tourist_documentsreq.html
เขามีเป็นภาษาไทยนะ หรือถ้าไม่แน่ใจสามารถโทรสอบถามได้ตามเบอร์หน้าเว็บนะค่ะเจ้าหน้าที่บริการดีค่ะ (อันนี้จากการที่โทรไปถามด้วยตนเอง)
และก็ถึงวันที่วางแผนเพื่อไปทำวีซ่า เราก็ออกจากบ้านแต่เช้าเพราะบ้านเราอยู่อยุธยา กระเตงลูกไปด้วยเพื่อความชัวร์
พอมาถึงก้อไปจอดรถชั้น 5 ค่ะ จอดได้ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปนะ
แล้วก้อเดินมาลิฟท์เพื่อไปชั้น G เพื่อไปขึ้นลิฟท์ไปชั้น 8 จะมีเจ้าหน้าที่คอยสอบถามว่ามาทำวีซ่าประเทศอะไร แล้วเขาก็จะแนะนำนะค่ะ เข้าคิวขึ้นลิฟท์เห็นคนเยอะเนี่ยเขามาทำวีซ่าประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่อยู่ชั้น 28
พอเรามาถึงชั้น 8 ก้อจะมีเจ้าหน้าที่ถามอีกว่าเรามาทำวีซ่าประเทศอะไร เราก้อตอบไปว่าเดนมาร์ก ก้อเข้าไปในห้องได้เลยค่ะวีซ่าแถบนี้คนไม่เยอะค่ะ
ดรวจกระเป๋า กดบัตรคิด แล้วก้อรอค่ะ
แป๊ปเดียวก้อถึงคิวเรา (ในใจก้อลุ้นระทึกว่าลืมเอาเอกสารอะไรมาอะป่าวว้า)
เข้าไปตามหมายเลขห้องที่เขาบอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ก้อตรวจเอกสาร เอาแระปัญหาเริ่มมีมาแระ อย่างแรกรูปถ่ายของเราเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปถ่ายใหม่ เนื่องจากพื้นหลังของรูปต้องเป็นสีขาว อ้าวเราเข้าไปอ่านในเว็บเขาบอกว่าเป็นพื้นสีสว่างและรูปตัวอย่างมันก็เป็นพื้นสีฟ้านี่หว่า เราก้อเถียงไปแบบดีๆนะค่ะ เจ้าหน้าที่เขาก้อดีค่ะ เขาก้อเอาหลักฐานคือฟอร์มการตรวจเอกสารมาให้ดูว่ามันต้องเป็นฉากสีขาว ด้วยความงกค่ะ ถ้าถ่ายรูปใหม่ที่นี่ ก้อคนละ 250 บาท 4 คนก้อปาเข้าไป 1,000 ไม่ถ่ายค่ะ เขาก็บอกให้เรากรอกเอกสารยืนยันว่าจะใช้รูปนี้เราก้อกรอกค่ะ
แต่_____ปัญหาไม่ได้มีแค่นั้นเขาเช็ควันที่เราเข้าไปค้างคืนแต่ละประเทศปรากฎว่า เราค้างประเทศเดนมาร์ก 4 วัน ประเทศนอร์เวย์ 4 วัน ตามกฎของการทำวีซ่าเชงเก้นถ้าค้างเดนมาร์กกับนอร์เวย์วันเท่ากันต้องทำวีซ่าประเทศนอร์เวย์เท่านั้นค่ะ เอิ่ม........
เริ่มเซ็งแระ คือ เราก็ผิดเองไม่โทรถามให้ดีก่อน คือตอนที่เราโทรถามว่าต้องทำประเทศไหนทางเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าต้องเป็นประเทศที่เราเข้าหรือออกจากแถบนี้ หรือประเทศที่อยู่นานที่สุด เราเห็นว่าเดนมาร์กเป็นประเทศสุดท้ายที่เราอยู่เราเลยเลือกทำที่นี่ ในเว็บมะไม่บอก แงๆๆทำไงดีหล่ะ เพราะถ้าทำวีซ่านอร์เวย์ต้องไปกรอกข้อมูลใหม่และเตรียมเอกสารมาใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเอกสารไม่เหมือนกับเดนมาร์กเลยคงต้องมาใหม่
เราเลยบอกเจ้าหน้าที่ไปว่า โหจะให้พี่มาทำวันอื่นหรอบ้านพี่อยู่ไกลนะ ลางานมาอีก พยายามอ้อนวอน เจ้าหน้าที่เลยเช็คๆๆ
เขาเห็นว่าประเทศแรกที่เราเข้าคือสวีเดนวันมันก้อเท่ากับเดนมาร์กกับนอร์เวย์นี่น่า แต่คืนสุดท้ายแค่นอนในเรือ เจ้าหน้าที่เลยให้เรารอก่อนเขาจะโทรไปถามสถานฑูตให้ เพราะหลักฐานในการยื่นวีซ่าสวีเดนกับเดนมาร์กไม่ต่างกันค่ะ ระหว่างนี้เพื่อไม่ให้เสียเวลาก้อให้เรากรอกแบบฟอร์มสมัครขอวีซ่าสวีเดนไปกอ่น
โชคดียังเป็นของเราคร้าบบบบบบ ทางสถานฑูตบอกว่าให้ขอวีซ่าเข้าประเทศเขาได้ค่ะ แต่ต้องไปกดบัตรคิวใหม่ โอ้พระเจ้า ! ดีนะไม่ต้องกลับบ้าน 555
สักแป๊ปก้อถึงคิวเรา แหมๆๆยังกรอกข้อมูลไม่ทันเสร็จเลย คือเราต้องกรอกให้คุณสามี คุณลูกทั้งสองเอง เผอิญสามีไม่ได้พกแว่นไปค่ะมองไม่เห็น 555
เจ้าหน้าที่ก้อรับเอกสารเราไปตรวจๆๆเช็คๆๆ ใจเราก็ตุ่มๆต่อมๆ ว่ามีปัญหาอะไรอีกมั้ย ไม่มีแฮะ ผ่านฉลุย แต่ยังไม่จบค่ะ ด้วยความงก เลยถามว่าต้องถ่ายรูปใหม่มั้ย เขาบอกว่ารูปเราที่ถ่ายมากจากแถวบ้านก็ยังใช้ไม่ได้ค่ะทำไงดี
แต่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ คืองี้ค่ะการทำวีซ่าสวีเดนถ้าทำครั้งแรกต้องแสกนลายนิ้วมือ และถ่ายรูปได้เลย ไม่ต้องมีรูปถ่ายต่างหาก ไม่เหมือนเดนมาร์กนะค่ะที่ต้องใช้รูปด้วยสแกนลายนิ้วมือด้วย
ส่วนคนที่เคยมีวีซ่าสวีเดนหรือเชงเก้นมาแล้วต้องมีรูปถ่ายตามกฎและต้องเป็นมีพื้นหลังสีขาวเท่านั้นนะค่ะ 2 รูปค่ะ (ถ้าเพื่อนๆไม่งกเหมือนเราแนะนำว่าให้ไปถ่ายที่นี่ดีกว่าค่ะจะได้ถูกต้องชัวร์ แต่เรางกไงถ่ายแถวบ้าน 160 เอง อิอิ สุดท้ายก้อไม่ได้ใช้เปลืองไปอีก เสียดายอ่ะ) เช่นเคยนะคะ โทรสอบถามก่อนดีกว่าค่ะ
เผอิญเรามีวีซ่าเชงเก้นอยู่ไง เขาเลยถามว่าเราจะแสกนลายนิ้วมือใหม่มั้ยหรือไปถ่ายรูป แถมยังเชื้อเชิญว่าถ้าถ่ายรูปไม่ต้องเสียเวลารอนะค่ะ คิวแสกนนิ้วเยอะค่ะ แหมๆรอได้ค่ะดีกว่าเสียตังค์อยู่แล้วค่ะ ไม่น่าถาม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารเสร็จเซ้นรับรองบุตร เขาก็เก็บค่าธรรมเนียม 4 คนเกือบหมื่น เป็นลมแพร็บ

ทำไว้แล้วค่ะ
แล้วก้อไปรอหน้าห้องแสกนนิ้วรอเรียก นั่งรอๆๆสักพักเขาก้อเรียกค่ะ ถ่ายรูป แสกน (เด็กเขาไม่ให้สแกนนะค่ะ) จากนั้นกลับบ้านได้ค่ะ
กลับมารอลุ้นที่บ้านว่าจะได้หรือเปล่า ลุ้นๆๆ
- การเลือกทำวีซ่าเข้าประเทศในแถบนี้เขานับเป็นคืนนะค่ะ ไม่นับวันนะค่ะขอย้ำ คือนอนกี่คืน ถ้านอนที่ไหนมากที่สุดให้ขอวีซ่าประเทศนั้นค่ะ
- เตรียมสำเนาพวกหน้า passport หรือสำเนาอันอื่นไปด้วยนะค่ะ เพราะถ่ายข้างในนี้แพงค่ะ
- ค่าจอดรถที่นี่ก้อแพงเช่นกันค่ะ ถ้าใครอยู่ใน กทม. ควรนั่งรถไฟฟ้ามาจะดีที่สุดค่ะ
- คนที่จะพาลูกไปด้วยต้องพาเด็กไปทำวีซ่าด้วยนะค่ะ พกไปด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องพามานะค่ะ กฎเปลี่ยนใหม่นะค่ะ (ถ้าไม่เคยทำวีซ่าเชงเก้นกัน) แต่อันนี้เช่นกันค่ะการทำวีซ่าแต่ละประเทศไม่เหมือนกันโทรถามดีที่สุด
- ถ้าจะเตรียมถ่ายรูปจากแถวบ้านไปเองพื้นหลังเป็นสีขาวเท่านั้นนะค่ะ ขนาด 45x35 มม. นะ
- แนะนำว่าถ้าจะไปแถบนี้ให้เลือกประเทศใดประเทศหนึ่งให้นอนค้างมากกว่าประเทศอื่นไปเลยค่ะ
- และแนะนำว่าทำวีซ่าสวีเดนนะค่ะไม่ยุ่งยากเรื่องเอกสาร และรูปถ่ายค่ะ (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ)
ถ้ามีสิ่งใดสงสัยหรืออยากสอบถามเรื่องไปเที่ยวแถวนี้ถามได้นะค่ะ แล้วจะนำประสบการณ์การไปเที่ยวมาเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ (น่าจะเหมาะกับครอบครัวที่มีลูกนะค่ะ เพราะเวลาเราไปเที่ยวที่ไหนก็ตามบ้านเราจะพาลูกไปตลอดค่า ไม่ได้รวยนะค่ะแต่ไม่มีใครช่วยดูค่ะ 555 เลยต้องกัดฟันพาไปทุกที่ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ที่สำคัญเราเป็นคนติดลูกมากกกก ค่ะ ทนคิดถึงไม่ไหว 555
สุดท้ายถ้ามีสิ่งผิดพลาดประการใดแนะนำด้วยนะค่ะ ตั้งกระทู้เป็นครั้งแรกค่ะ
แชร์ประสบการณ์ทำ VISA เที่ยวแถบ SCANDINAVIA
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าบ้านเราประกอบไปด้วย พ่อแม่และลูกชายวัย 7 ขวบ กับ 8 ขวบ วางแผนว่าจะไปเที่ยวช่วงปิดเทอมของลูกมานานมาก สุดท้ายก็มาลงตัวที่ประเทศแถบนี้ ด้วยมีสถานที่น่าท่องเที่ยวที่เหมาะกับเด็กหลายที่ ได้ขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นรถไฟ ครบทุกอย่างและธรรมชาติก็สวย แต่ข้อเสียของแถบนี้คือค่าครองชีพสูงมาก (ถ้ามีแพลนจะไปต้องจองล่วงหน้าหลายๆเดือนนะค่ะเพราะจะได้ส่วนลดเยอะค่ะ) แถมอากาศก้อหนาวมาก แต่มิใช่อุปสรรคความอยากเที่ยวของเราค่ะ เรากับสามีเลยเลือกไปเที่ยวแถบนี้กัน และตกลงกันว่าไปทั้งทีก้อต้องให้ครบๆเราเลยวางแพลนกันว่าจะไปลงที่ Stockholm ประเทศสวีเดน แล้วนั่งเรือไป Tallinn ประเทศเอสโตเนีย แล้วก้อนั่งเรือไป Finland และก้อนั่งเครื่องไปนอร์เวย์ และกลับไทยที่ เดนมาร์ก
เข้าเรื่องเลยนะค่ะ ด้วยการไปเที่ยวแถบนี้ต้องทำวีซ่าเชงเก้นเพื่อเข้าแต่ละประเทศได้ แต่การทำวีซาเชงเก้นมันก็มีกฎในการทำค่ะอยู่ดีๆจะจับฉลากหรือเลือกตามใจฉันว่าจะทำประเทศนั้นนี้ไม่ได้ค่ะ
เราเลยเข้าเว็บหาข้อมูลค่ะ ได้ฟามว่า การทำวีซ่าเชงเก้นในการเข้าออกหลายประเทศต้องเลือกประเทศที่อยู่นานที่สุด เราบวกลบคูณหารแล้วก็คิดเอาเองว่าเราจะไปทำวีซ่าของเดนมาร์กค่ะ เราก็เลยโทรไปถามบริษัทนายหน้าในการทำวีซ่าให้ประเทศเดนมาร์กคือ บริษัท VFS ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งเดียวในประเทศไทยนะค่ะ แล้วที่เลือกทำวีซ่าประเทศนี้ก็เพราะมันมีภาษาไทยกำกับด้วยค่ะ 555 ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ
จากนั้นเราก็เตรียมเอกสารและหาวันว่าง คือการทำวีซ่าไปแถบนี้ไม่ต้องไปจองคิวในเว็บเหมือนบางประเทศนะค่ะ สามารถ Walk in เข้าไปที่บริษัท VFS ตั้งอยู่ชั้น 8 อาคารเทรนดี้ สุขุมวิท 13 ได้เลยค่ะ โดยเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
http://vfsglobal-denmark.com/thailand/thai/denmark_tourist_documentsreq.html
เขามีเป็นภาษาไทยนะ หรือถ้าไม่แน่ใจสามารถโทรสอบถามได้ตามเบอร์หน้าเว็บนะค่ะเจ้าหน้าที่บริการดีค่ะ (อันนี้จากการที่โทรไปถามด้วยตนเอง)
และก็ถึงวันที่วางแผนเพื่อไปทำวีซ่า เราก็ออกจากบ้านแต่เช้าเพราะบ้านเราอยู่อยุธยา กระเตงลูกไปด้วยเพื่อความชัวร์
พอมาถึงก้อไปจอดรถชั้น 5 ค่ะ จอดได้ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปนะ
แล้วก้อเดินมาลิฟท์เพื่อไปชั้น G เพื่อไปขึ้นลิฟท์ไปชั้น 8 จะมีเจ้าหน้าที่คอยสอบถามว่ามาทำวีซ่าประเทศอะไร แล้วเขาก็จะแนะนำนะค่ะ เข้าคิวขึ้นลิฟท์เห็นคนเยอะเนี่ยเขามาทำวีซ่าประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่อยู่ชั้น 28
พอเรามาถึงชั้น 8 ก้อจะมีเจ้าหน้าที่ถามอีกว่าเรามาทำวีซ่าประเทศอะไร เราก้อตอบไปว่าเดนมาร์ก ก้อเข้าไปในห้องได้เลยค่ะวีซ่าแถบนี้คนไม่เยอะค่ะ
ดรวจกระเป๋า กดบัตรคิด แล้วก้อรอค่ะ
แป๊ปเดียวก้อถึงคิวเรา (ในใจก้อลุ้นระทึกว่าลืมเอาเอกสารอะไรมาอะป่าวว้า)
เข้าไปตามหมายเลขห้องที่เขาบอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ก้อตรวจเอกสาร เอาแระปัญหาเริ่มมีมาแระ อย่างแรกรูปถ่ายของเราเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปถ่ายใหม่ เนื่องจากพื้นหลังของรูปต้องเป็นสีขาว อ้าวเราเข้าไปอ่านในเว็บเขาบอกว่าเป็นพื้นสีสว่างและรูปตัวอย่างมันก็เป็นพื้นสีฟ้านี่หว่า เราก้อเถียงไปแบบดีๆนะค่ะ เจ้าหน้าที่เขาก้อดีค่ะ เขาก้อเอาหลักฐานคือฟอร์มการตรวจเอกสารมาให้ดูว่ามันต้องเป็นฉากสีขาว ด้วยความงกค่ะ ถ้าถ่ายรูปใหม่ที่นี่ ก้อคนละ 250 บาท 4 คนก้อปาเข้าไป 1,000 ไม่ถ่ายค่ะ เขาก็บอกให้เรากรอกเอกสารยืนยันว่าจะใช้รูปนี้เราก้อกรอกค่ะ
แต่_____ปัญหาไม่ได้มีแค่นั้นเขาเช็ควันที่เราเข้าไปค้างคืนแต่ละประเทศปรากฎว่า เราค้างประเทศเดนมาร์ก 4 วัน ประเทศนอร์เวย์ 4 วัน ตามกฎของการทำวีซ่าเชงเก้นถ้าค้างเดนมาร์กกับนอร์เวย์วันเท่ากันต้องทำวีซ่าประเทศนอร์เวย์เท่านั้นค่ะ เอิ่ม........
เริ่มเซ็งแระ คือ เราก็ผิดเองไม่โทรถามให้ดีก่อน คือตอนที่เราโทรถามว่าต้องทำประเทศไหนทางเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าต้องเป็นประเทศที่เราเข้าหรือออกจากแถบนี้ หรือประเทศที่อยู่นานที่สุด เราเห็นว่าเดนมาร์กเป็นประเทศสุดท้ายที่เราอยู่เราเลยเลือกทำที่นี่ ในเว็บมะไม่บอก แงๆๆทำไงดีหล่ะ เพราะถ้าทำวีซ่านอร์เวย์ต้องไปกรอกข้อมูลใหม่และเตรียมเอกสารมาใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเอกสารไม่เหมือนกับเดนมาร์กเลยคงต้องมาใหม่
เราเลยบอกเจ้าหน้าที่ไปว่า โหจะให้พี่มาทำวันอื่นหรอบ้านพี่อยู่ไกลนะ ลางานมาอีก พยายามอ้อนวอน เจ้าหน้าที่เลยเช็คๆๆ
เขาเห็นว่าประเทศแรกที่เราเข้าคือสวีเดนวันมันก้อเท่ากับเดนมาร์กกับนอร์เวย์นี่น่า แต่คืนสุดท้ายแค่นอนในเรือ เจ้าหน้าที่เลยให้เรารอก่อนเขาจะโทรไปถามสถานฑูตให้ เพราะหลักฐานในการยื่นวีซ่าสวีเดนกับเดนมาร์กไม่ต่างกันค่ะ ระหว่างนี้เพื่อไม่ให้เสียเวลาก้อให้เรากรอกแบบฟอร์มสมัครขอวีซ่าสวีเดนไปกอ่น
โชคดียังเป็นของเราคร้าบบบบบบ ทางสถานฑูตบอกว่าให้ขอวีซ่าเข้าประเทศเขาได้ค่ะ แต่ต้องไปกดบัตรคิวใหม่ โอ้พระเจ้า ! ดีนะไม่ต้องกลับบ้าน 555
สักแป๊ปก้อถึงคิวเรา แหมๆๆยังกรอกข้อมูลไม่ทันเสร็จเลย คือเราต้องกรอกให้คุณสามี คุณลูกทั้งสองเอง เผอิญสามีไม่ได้พกแว่นไปค่ะมองไม่เห็น 555
เจ้าหน้าที่ก้อรับเอกสารเราไปตรวจๆๆเช็คๆๆ ใจเราก็ตุ่มๆต่อมๆ ว่ามีปัญหาอะไรอีกมั้ย ไม่มีแฮะ ผ่านฉลุย แต่ยังไม่จบค่ะ ด้วยความงก เลยถามว่าต้องถ่ายรูปใหม่มั้ย เขาบอกว่ารูปเราที่ถ่ายมากจากแถวบ้านก็ยังใช้ไม่ได้ค่ะทำไงดี
แต่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ คืองี้ค่ะการทำวีซ่าสวีเดนถ้าทำครั้งแรกต้องแสกนลายนิ้วมือ และถ่ายรูปได้เลย ไม่ต้องมีรูปถ่ายต่างหาก ไม่เหมือนเดนมาร์กนะค่ะที่ต้องใช้รูปด้วยสแกนลายนิ้วมือด้วย
ส่วนคนที่เคยมีวีซ่าสวีเดนหรือเชงเก้นมาแล้วต้องมีรูปถ่ายตามกฎและต้องเป็นมีพื้นหลังสีขาวเท่านั้นนะค่ะ 2 รูปค่ะ (ถ้าเพื่อนๆไม่งกเหมือนเราแนะนำว่าให้ไปถ่ายที่นี่ดีกว่าค่ะจะได้ถูกต้องชัวร์ แต่เรางกไงถ่ายแถวบ้าน 160 เอง อิอิ สุดท้ายก้อไม่ได้ใช้เปลืองไปอีก เสียดายอ่ะ) เช่นเคยนะคะ โทรสอบถามก่อนดีกว่าค่ะ
เผอิญเรามีวีซ่าเชงเก้นอยู่ไง เขาเลยถามว่าเราจะแสกนลายนิ้วมือใหม่มั้ยหรือไปถ่ายรูป แถมยังเชื้อเชิญว่าถ้าถ่ายรูปไม่ต้องเสียเวลารอนะค่ะ คิวแสกนนิ้วเยอะค่ะ แหมๆรอได้ค่ะดีกว่าเสียตังค์อยู่แล้วค่ะ ไม่น่าถาม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารเสร็จเซ้นรับรองบุตร เขาก็เก็บค่าธรรมเนียม 4 คนเกือบหมื่น เป็นลมแพร็บ
แล้วก้อไปรอหน้าห้องแสกนนิ้วรอเรียก นั่งรอๆๆสักพักเขาก้อเรียกค่ะ ถ่ายรูป แสกน (เด็กเขาไม่ให้สแกนนะค่ะ) จากนั้นกลับบ้านได้ค่ะ
กลับมารอลุ้นที่บ้านว่าจะได้หรือเปล่า ลุ้นๆๆ
- การเลือกทำวีซ่าเข้าประเทศในแถบนี้เขานับเป็นคืนนะค่ะ ไม่นับวันนะค่ะขอย้ำ คือนอนกี่คืน ถ้านอนที่ไหนมากที่สุดให้ขอวีซ่าประเทศนั้นค่ะ
- เตรียมสำเนาพวกหน้า passport หรือสำเนาอันอื่นไปด้วยนะค่ะ เพราะถ่ายข้างในนี้แพงค่ะ
- ค่าจอดรถที่นี่ก้อแพงเช่นกันค่ะ ถ้าใครอยู่ใน กทม. ควรนั่งรถไฟฟ้ามาจะดีที่สุดค่ะ
- คนที่จะพาลูกไปด้วยต้องพาเด็กไปทำวีซ่าด้วยนะค่ะ พกไปด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องพามานะค่ะ กฎเปลี่ยนใหม่นะค่ะ (ถ้าไม่เคยทำวีซ่าเชงเก้นกัน) แต่อันนี้เช่นกันค่ะการทำวีซ่าแต่ละประเทศไม่เหมือนกันโทรถามดีที่สุด
- ถ้าจะเตรียมถ่ายรูปจากแถวบ้านไปเองพื้นหลังเป็นสีขาวเท่านั้นนะค่ะ ขนาด 45x35 มม. นะ
- แนะนำว่าถ้าจะไปแถบนี้ให้เลือกประเทศใดประเทศหนึ่งให้นอนค้างมากกว่าประเทศอื่นไปเลยค่ะ
- และแนะนำว่าทำวีซ่าสวีเดนนะค่ะไม่ยุ่งยากเรื่องเอกสาร และรูปถ่ายค่ะ (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ)
ถ้ามีสิ่งใดสงสัยหรืออยากสอบถามเรื่องไปเที่ยวแถวนี้ถามได้นะค่ะ แล้วจะนำประสบการณ์การไปเที่ยวมาเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ (น่าจะเหมาะกับครอบครัวที่มีลูกนะค่ะ เพราะเวลาเราไปเที่ยวที่ไหนก็ตามบ้านเราจะพาลูกไปตลอดค่า ไม่ได้รวยนะค่ะแต่ไม่มีใครช่วยดูค่ะ 555 เลยต้องกัดฟันพาไปทุกที่ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ที่สำคัญเราเป็นคนติดลูกมากกกก ค่ะ ทนคิดถึงไม่ไหว 555
สุดท้ายถ้ามีสิ่งผิดพลาดประการใดแนะนำด้วยนะค่ะ ตั้งกระทู้เป็นครั้งแรกค่ะ