16 มี.ค.61- นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคการเมืองใหม่ในเวลานี้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ถือว่าขัดคำสั่งคสช.หรือไม่ว่า วันนี้ก็เห็นทำกันอยู่เยอะอะไรที่วันนี้เคยทำอยู่ ทำได้ก็ทำไป แต่อะไรที่เกินจากนั้น ถึงขนาดเป็นการชุมนุมทางการเมืองก็ทำไม่ได้ พรรคที่ตั้งแล้วอยากชุมนุมทางการเมืองใจจะขาด ก็ยังชุมนุมไม่ได้ แต่พรรคที่เพิ่งขอจดทะเบียนยังไม่เป็นพรรคเลย จะมาชุมนุมทางการเมืองคงทำไม่ได้
ส่วนเรื่องการแถลงข่าวก็เห็นทำกันเป็นประจำ สำหรับกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เชิญสื่อพูดคุยก่อนไปขอจดจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้น ตนขอไม่ตอบเรื่องของเขา ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปว่ากันเอง
“วันนี้เสรีภาพมันมีอยู่ในการที่จะพูด เขียน แสดงความคิดเห็น เว้นแต่จะไปล้ำเส้นในส่วนที่เขากำหนดไว้ ฉะนั้นไปดูให้ดีว่า ถ้าคุณไม่ล้ำเส้นตรงนั้นก็ทำได้ ส่วนการเปิดโต๊ะแถลงข่าวทำได้หรือไม่ผมไม่รู้ ตอบไม่ถูก ถ้าผมบอกว่าได้ เขาก็ทำเพราะเชื่อผม หากถูกจับผมเดือดร้อนเลยทีนี้ ซึ่งผมไม่ได้ตอบว่าทำได้ แต่เชื่อว่าพวกคุณก็รู้อยู่แล้ว ก็ลองทำดูสิ อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้”
เมื่อถามว่า คสช.จะเป็นผู้พิจารณาใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ทั้งคสช.และส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจเมื่อคำสั่งออกไปแล้วจะเป็นผู้ปฏิบัติ พรรคการเมืองก็อย่าทำอะไรให้เกินเส้น หรือล้ำความสงบเรียบร้อยเท่านั้นพอแล้ว ความเหมาะสมเชื่อว่ารู้กันอยู่ เพียงแต่อยากท้าทาย อย่าไปท้าทายเลย บรรยากาศกำลังดีอยู่ ตนชอบใจผบ.ทบ.ที่บอกว่า อย่าไปทำอะไรที่ท้าทาย ตื่นเช้ามาให้เห็นข่าวดีๆ ก็สบายใจดีอยู่แล้ว
ถามว่า มองบรรยากาศทางการเมืองในตอนนี้เป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มอง แต่รู้สึกลมหนาวหมดไปแล้ว กำลังเข้าฤดูร้อน พระแก้วมรกตก็เปลี่ยนเครื่องทรงแล้ว เมื่อถามเรื่องบรรยากาศก็ตอบเรื่องบรรยากาศ แต่อนาคตจะต้องมีประเทศไทย ไม่ยอมให้ผู้ใดมาย่ำยี
“ตอนนี้ผมสนใจละครเรื่องบุพเพสันนิวาสย้อนกันไปเถอะอดีต มองอนาคตไม่เห็นหมายถึงอนาคตตามนิยาย บุพเพแปลว่าเมื่อก่อน ส่วนอนาคตไม่รู้ สุดท้ายหมื่นเดชจะได้แต่งกับการะเกด ผมไม่รู้มันจะจบอย่างไร รู้อยู่แค่จะแข่งเรือแข่งพายอะไรกันอยู่สองวันนี้ นี่หมายถึงในละครที่นางเอกขอพระเอกไปเชียร์แข่งเรือ ไปเป็นกองหนุน แต่ผมรู้ว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่วาสนาแข่งไม่ได้ รู้แค่นั้น”
ซักว่า ตามกฎหมายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.สามารถรับเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองได้หรือไม่ รองนายกฯตอบว่า เมื่อถามกฎหมายต้องขอตอบกฎหมายว่า ทำได้ แต่หากจะบอกว่าวิษณุเผยนายกฯเป็นได้ อะไรแบบนั้น ไม่ใช่ว่าตนเผยอะไรทั้งสิ้น แต่สื่อมาถามเองส่วนเรื่องความเหมาะนั้นไม่ขอตอบอยู่ที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์
เมื่อถามว่า ถ้ามีพรรคการเมืองใดทาบทามนายวิษณุให้เป็นนายกฯ คนนอกจะรับหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่ได้ เดี๋ยวเป็นการอ้าขาผวาปีก อยากให้เขามาเชิญ แต่ลองมาเชิญก่อนสิ”
สำหรับอนาคต ผมจะไปสอนหนังสือ แต่งหนังสือ และไปเที่ยว ขอทำ 3 อย่างนี้ อย่างอื่นไม่ทำ ทั้งนี้ สุดแท้แต่อนาคตถ้ามีกรณีพิเศษ ตอนนี้ยังไม่รู้ ส่วนเรื่องพรรคพลังประชารัฐตนไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้สนใจเลย
เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ คนนอกหลังเลือกตั้ง ท่านจะอยู่ต่อหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมมันพลเมืองปัจจุบัน เป็นคนยุคปัจจุบัน ตอนนี้ไม่รู้ตอบไม่ถูก สิ่งที่ผมพูดไปสื่อก็รู้ ใช้คำในรำตัดได้เลยว่า สาบานได้ไหมว่าไม่เข้าใจ ให้ตายเลย ผมเป็นคนไม่มีอะไร พูดตรงไปตรงมาไม่ได้เป็นคนกะล่อน”
ซักว่าในเวทีการเมืองมีตำแหน่งใดที่ท้าทาย นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีตำแหน่งใดท้าทาย
และเมื่อถามว่า อย่างน้อยการเป็นส.ส.สงขลาบ้านเกิดสนใจหรือไม่ นายวิษณุ ตอบทันทีว่า “อั้วหม่าย”
http://www.thaipost.net/main/detail/5065
แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่วาสนาแข่งไม่ได้ ลุงวิษณุบอกแบบนี้
พรรคการเมืองก็อย่าทำอะไรให้เกินเส้น หรือล้ำความสงบเรียบร้อยเท่านั้นพอแล้ว
ความเหมาะสมเชื่อว่ารู้กันอยู่ เพียงแต่อยากท้าทาย อย่าไปท้าทายเลย บรรยากาศกำลังดีอยู่
ตนชอบใจผบ.ทบ.ที่บอกว่า อย่าไปทำอะไรที่ท้าทาย ตื่นเช้ามาให้เห็นข่าวดีๆ ก็สบายใจดีอยู่แล้ว
อ่านแล้วก็ดีนะคะ....เหมือนเตือนสติให้คนได้คิด..🙃🙃🙃🙃🙃🙃🙃🙃
ดิฉันก็อยากฝากให้พรรคการเมืองทั้งหลายคิดเช่นกันค่ะ....🦆🦆🦆🦆🦆🦆🦆
อิศรญาณภาษิต(2)(บทที่ 14-26)
☻ สูงอย่าให้สูงกว่าฐานนานไปล้ม จะเรียนคมเรียนเถิดอย่าเปิดฝัก
คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก ที่ไหนหลักแหลมคำจงจำเอา
ถอดความหมายของบทนี้ได้ความว่า : จะสร้างสิ่งใดให้สูงก็อย่าสร้างเกินว่าฐานที่จะรับน้ำหนักไว้ได้ เพราะจะทำให้ล้มง่ายจะเรียนวิชาอะไรให้มีสติปัญญาเฉียบแหลมก็เรียนเถิด แต่ให้เก็บความรู้ไว้ใช้เมื่อถึงเวลาอันสมควร คนแก่มีประสบการณ์มากเราควรเชื่อฟังคำทักท้วง
☺ เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด ไปพูดขัดเขาทำไมขัดใจเขา
ใครทำตึงแล้วหย่อนผ่อนลงเอา นักเลงเก่าเขาไม่หาญราญนักเลง
ถอดความหมายของบทนี้ได้ความว่า : ประพฤติตนตามแนวทางที่ผู้ใหญ่เคยทำมาก่อนแล้วย่อมปลอดภัย ไม่ควรไปพูดขัดคอคน เพราะจะทำให้เขาโกรธไม่พอใจ ให้รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา นักเลงเก่าเขาไม่รังแกหรือทำร้ายนักเลงด้วยกัน
ทำความเสียหาย การพูดพล่อยๆโดยไม่คิดเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
☺ แต่ไม้ไผ่อันหนึ่งตันอันหนึ่งแขวะ สีแหยะแหยะตอกตะบันเป็นควันฉิว
ช้างถีบอย่าว่าเล่นกระเด็นปลิว แรงหรือหิวชั่งใจดูจะสู้ช้าง
ถอดความหมายของบทนี้ได้ความว่า : แม้ไม้ไผ่อันหนึ่งตันกับอีกอันหนึ่งผ่าครึ่งออก เมื่อนำมาสีกันเบาๆ อาจเกิดควันได้ ฉะนั้นจงอย่าได้ประมาทการกระทำที่ดูเหมือนจะไม่เป็นพิษเป็นภัย ช้างเป็นสัตว์ที่มีพลังเมื่อมันถีบเรารับรองว่ากระเด็นแน่นอน
ฉะนั้นหากจะสู้กับช้างก็ควรประเมินกำลังของเราเสียก่อนว่าอยู่ในภาวะใดมีกำลัง หรืออ่อนแรง จะเตรียมสู้ หรือหนี
ดูให้เหมาะแก่สถานการณ์
☻ ถึงบุญมีไม่ประกอบชอบไม่ได้ ต้องอาศัยคิดดีจึงมีผล
บุญหาไม่แล้วอย่าได้ทะนงตน ปุถุชนรักกับชังไม่ยั่งยืน
ถอดความหมายของบทนี้ได้ความว่า : ถึงมีบุญวาสนาไม่ทำการงานใดๆก็ไม่ดี ต้องเป็นผู้ที่คิดดี ทำดีบุญจึงส่งผล เมื่อหมดบุญลงแล้วอย่าทะนงตนว่าเป็นผู้มีบุญบารมี ขอให้คนเราคิดว่าความรักความชังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนเท่าการทำความดี
ขอขอบคุณ
http://www.thaigoodview.com
และ หนังสือวรรณคดีวิจักษ์ ม.3

💗🙃~มาลาริน~เข้าหน้าร้อนแล้ว!'วิษณุ'เตือนพรรคการเมืองอย่าท้าทายคำสั่งคสช.อนาคตจะต้องมีประเทศไทย ไม่ยอมให้ผู้ใดมาย่ำยี
16 มี.ค.61- นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคการเมืองใหม่ในเวลานี้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ถือว่าขัดคำสั่งคสช.หรือไม่ว่า วันนี้ก็เห็นทำกันอยู่เยอะอะไรที่วันนี้เคยทำอยู่ ทำได้ก็ทำไป แต่อะไรที่เกินจากนั้น ถึงขนาดเป็นการชุมนุมทางการเมืองก็ทำไม่ได้ พรรคที่ตั้งแล้วอยากชุมนุมทางการเมืองใจจะขาด ก็ยังชุมนุมไม่ได้ แต่พรรคที่เพิ่งขอจดทะเบียนยังไม่เป็นพรรคเลย จะมาชุมนุมทางการเมืองคงทำไม่ได้
ส่วนเรื่องการแถลงข่าวก็เห็นทำกันเป็นประจำ สำหรับกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เชิญสื่อพูดคุยก่อนไปขอจดจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้น ตนขอไม่ตอบเรื่องของเขา ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปว่ากันเอง
“วันนี้เสรีภาพมันมีอยู่ในการที่จะพูด เขียน แสดงความคิดเห็น เว้นแต่จะไปล้ำเส้นในส่วนที่เขากำหนดไว้ ฉะนั้นไปดูให้ดีว่า ถ้าคุณไม่ล้ำเส้นตรงนั้นก็ทำได้ ส่วนการเปิดโต๊ะแถลงข่าวทำได้หรือไม่ผมไม่รู้ ตอบไม่ถูก ถ้าผมบอกว่าได้ เขาก็ทำเพราะเชื่อผม หากถูกจับผมเดือดร้อนเลยทีนี้ ซึ่งผมไม่ได้ตอบว่าทำได้ แต่เชื่อว่าพวกคุณก็รู้อยู่แล้ว ก็ลองทำดูสิ อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้”
เมื่อถามว่า คสช.จะเป็นผู้พิจารณาใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ทั้งคสช.และส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจเมื่อคำสั่งออกไปแล้วจะเป็นผู้ปฏิบัติ พรรคการเมืองก็อย่าทำอะไรให้เกินเส้น หรือล้ำความสงบเรียบร้อยเท่านั้นพอแล้ว ความเหมาะสมเชื่อว่ารู้กันอยู่ เพียงแต่อยากท้าทาย อย่าไปท้าทายเลย บรรยากาศกำลังดีอยู่ ตนชอบใจผบ.ทบ.ที่บอกว่า อย่าไปทำอะไรที่ท้าทาย ตื่นเช้ามาให้เห็นข่าวดีๆ ก็สบายใจดีอยู่แล้ว
ถามว่า มองบรรยากาศทางการเมืองในตอนนี้เป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มอง แต่รู้สึกลมหนาวหมดไปแล้ว กำลังเข้าฤดูร้อน พระแก้วมรกตก็เปลี่ยนเครื่องทรงแล้ว เมื่อถามเรื่องบรรยากาศก็ตอบเรื่องบรรยากาศ แต่อนาคตจะต้องมีประเทศไทย ไม่ยอมให้ผู้ใดมาย่ำยี
“ตอนนี้ผมสนใจละครเรื่องบุพเพสันนิวาสย้อนกันไปเถอะอดีต มองอนาคตไม่เห็นหมายถึงอนาคตตามนิยาย บุพเพแปลว่าเมื่อก่อน ส่วนอนาคตไม่รู้ สุดท้ายหมื่นเดชจะได้แต่งกับการะเกด ผมไม่รู้มันจะจบอย่างไร รู้อยู่แค่จะแข่งเรือแข่งพายอะไรกันอยู่สองวันนี้ นี่หมายถึงในละครที่นางเอกขอพระเอกไปเชียร์แข่งเรือ ไปเป็นกองหนุน แต่ผมรู้ว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่วาสนาแข่งไม่ได้ รู้แค่นั้น”
ซักว่า ตามกฎหมายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.สามารถรับเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองได้หรือไม่ รองนายกฯตอบว่า เมื่อถามกฎหมายต้องขอตอบกฎหมายว่า ทำได้ แต่หากจะบอกว่าวิษณุเผยนายกฯเป็นได้ อะไรแบบนั้น ไม่ใช่ว่าตนเผยอะไรทั้งสิ้น แต่สื่อมาถามเองส่วนเรื่องความเหมาะนั้นไม่ขอตอบอยู่ที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์
เมื่อถามว่า ถ้ามีพรรคการเมืองใดทาบทามนายวิษณุให้เป็นนายกฯ คนนอกจะรับหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่ได้ เดี๋ยวเป็นการอ้าขาผวาปีก อยากให้เขามาเชิญ แต่ลองมาเชิญก่อนสิ”
สำหรับอนาคต ผมจะไปสอนหนังสือ แต่งหนังสือ และไปเที่ยว ขอทำ 3 อย่างนี้ อย่างอื่นไม่ทำ ทั้งนี้ สุดแท้แต่อนาคตถ้ามีกรณีพิเศษ ตอนนี้ยังไม่รู้ ส่วนเรื่องพรรคพลังประชารัฐตนไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้สนใจเลย
เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ คนนอกหลังเลือกตั้ง ท่านจะอยู่ต่อหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมมันพลเมืองปัจจุบัน เป็นคนยุคปัจจุบัน ตอนนี้ไม่รู้ตอบไม่ถูก สิ่งที่ผมพูดไปสื่อก็รู้ ใช้คำในรำตัดได้เลยว่า สาบานได้ไหมว่าไม่เข้าใจ ให้ตายเลย ผมเป็นคนไม่มีอะไร พูดตรงไปตรงมาไม่ได้เป็นคนกะล่อน”
ซักว่าในเวทีการเมืองมีตำแหน่งใดที่ท้าทาย นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีตำแหน่งใดท้าทาย
และเมื่อถามว่า อย่างน้อยการเป็นส.ส.สงขลาบ้านเกิดสนใจหรือไม่ นายวิษณุ ตอบทันทีว่า “อั้วหม่าย”
http://www.thaipost.net/main/detail/5065
แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่วาสนาแข่งไม่ได้ ลุงวิษณุบอกแบบนี้
พรรคการเมืองก็อย่าทำอะไรให้เกินเส้น หรือล้ำความสงบเรียบร้อยเท่านั้นพอแล้ว
ความเหมาะสมเชื่อว่ารู้กันอยู่ เพียงแต่อยากท้าทาย อย่าไปท้าทายเลย บรรยากาศกำลังดีอยู่
ตนชอบใจผบ.ทบ.ที่บอกว่า อย่าไปทำอะไรที่ท้าทาย ตื่นเช้ามาให้เห็นข่าวดีๆ ก็สบายใจดีอยู่แล้ว
อ่านแล้วก็ดีนะคะ....เหมือนเตือนสติให้คนได้คิด..🙃🙃🙃🙃🙃🙃🙃🙃
ดิฉันก็อยากฝากให้พรรคการเมืองทั้งหลายคิดเช่นกันค่ะ....🦆🦆🦆🦆🦆🦆🦆
อิศรญาณภาษิต(2)(บทที่ 14-26)
☻ สูงอย่าให้สูงกว่าฐานนานไปล้ม จะเรียนคมเรียนเถิดอย่าเปิดฝัก
คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก ที่ไหนหลักแหลมคำจงจำเอา
ถอดความหมายของบทนี้ได้ความว่า : จะสร้างสิ่งใดให้สูงก็อย่าสร้างเกินว่าฐานที่จะรับน้ำหนักไว้ได้ เพราะจะทำให้ล้มง่ายจะเรียนวิชาอะไรให้มีสติปัญญาเฉียบแหลมก็เรียนเถิด แต่ให้เก็บความรู้ไว้ใช้เมื่อถึงเวลาอันสมควร คนแก่มีประสบการณ์มากเราควรเชื่อฟังคำทักท้วง
☺ เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด ไปพูดขัดเขาทำไมขัดใจเขา
ใครทำตึงแล้วหย่อนผ่อนลงเอา นักเลงเก่าเขาไม่หาญราญนักเลง
ถอดความหมายของบทนี้ได้ความว่า : ประพฤติตนตามแนวทางที่ผู้ใหญ่เคยทำมาก่อนแล้วย่อมปลอดภัย ไม่ควรไปพูดขัดคอคน เพราะจะทำให้เขาโกรธไม่พอใจ ให้รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา นักเลงเก่าเขาไม่รังแกหรือทำร้ายนักเลงด้วยกัน
ทำความเสียหาย การพูดพล่อยๆโดยไม่คิดเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
☺ แต่ไม้ไผ่อันหนึ่งตันอันหนึ่งแขวะ สีแหยะแหยะตอกตะบันเป็นควันฉิว
ช้างถีบอย่าว่าเล่นกระเด็นปลิว แรงหรือหิวชั่งใจดูจะสู้ช้าง
ถอดความหมายของบทนี้ได้ความว่า : แม้ไม้ไผ่อันหนึ่งตันกับอีกอันหนึ่งผ่าครึ่งออก เมื่อนำมาสีกันเบาๆ อาจเกิดควันได้ ฉะนั้นจงอย่าได้ประมาทการกระทำที่ดูเหมือนจะไม่เป็นพิษเป็นภัย ช้างเป็นสัตว์ที่มีพลังเมื่อมันถีบเรารับรองว่ากระเด็นแน่นอน
ฉะนั้นหากจะสู้กับช้างก็ควรประเมินกำลังของเราเสียก่อนว่าอยู่ในภาวะใดมีกำลัง หรืออ่อนแรง จะเตรียมสู้ หรือหนี
ดูให้เหมาะแก่สถานการณ์
☻ ถึงบุญมีไม่ประกอบชอบไม่ได้ ต้องอาศัยคิดดีจึงมีผล
บุญหาไม่แล้วอย่าได้ทะนงตน ปุถุชนรักกับชังไม่ยั่งยืน
ถอดความหมายของบทนี้ได้ความว่า : ถึงมีบุญวาสนาไม่ทำการงานใดๆก็ไม่ดี ต้องเป็นผู้ที่คิดดี ทำดีบุญจึงส่งผล เมื่อหมดบุญลงแล้วอย่าทะนงตนว่าเป็นผู้มีบุญบารมี ขอให้คนเราคิดว่าความรักความชังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนเท่าการทำความดี
ขอขอบคุณ http://www.thaigoodview.com
และ หนังสือวรรณคดีวิจักษ์ ม.3