สวัสดีครับ ผมขอแนะนำตัวเองคร่าวๆนะครับ ผมอายุ 19 ปี มิถุนานี้ 20 ผมเป็นคนที่เข้าขั้นอวบระยะสุดท้ายก็ว่าได้ครับ ปัจจุบันหนัก 115 กิโล
เมื่อก่อนผมเข้าออกฟิตเนส เล่นเวทเทรนนิ่งกับออกกำลังกายคาดิโอบ่อยๆจนน้ำหนักอยู่ราวๆ 90 กว่าๆ จาก น้ำหนัก 110+
แต่เมื่อราวๆสองเดือนก่อนปลายปีที่ผ่านมาทางมหาลัยผมจะมีระบบพี่เทค ซึ่งจะพาน้องๆปี 1 อย่างผมไปเลี้ยงเนื้อย่าง ชาบู ผมก็ต้องไป
บวกกับเพื่อนพาสังสรรค์กินแอลกอฮอล์กัน ผมก็จำใจต้องจิบๆตาม และในช่วงนี้ มหาลัยมีสอบปลายภาค ผมเลยขาดการออกกำละงกายไป 2 เดือนเต็มๆ!
แต่ทว่าเรื่องราวก็เกิดครับ หลังจากเสร็จจากงานสังสรรค์ ผมตื่นเช้ามาปวดข้อนิ้วโป้งเท้าขวามากๆครับ ทนไปสามวัน ทนไม่ไหวจึงไป รพ.รัฐ หมอตรวจดูบอกข้ออักเสบ และให้ยา พารา กับฆ่าเชื้อมา ผมก็ทานไปแต่ก็ไม่หาย จึงไปตรวจอีก รพ.หนึ่ง ซึ่งพอดีกับติดเรียนในวันธรรมดา จึงต้องไปนอกเวลาของ รพ.อีกแห่งหนึ่งที่มีหมอเฉพาะทาง และหมอก็ให้ผมเจาะเลือด และรอสรุปผลครับ
และข่าวดีคือ... ยูริกในเลือดผมสูง 8.89...
หมอบอกค่อนข้างอันตรายจึงงให้ยา แก้ปวด 2 ชนิด กับยารักษาเก๊าแบบเฉียบพลัน มาทาน15 วัน ผลคือไม่หายครับ จึงไปอีกรอบ และหมอก็นัดเจาะเลือดอีกภายใน 15 วัน ผมก็อดทน กินยาที่หมอให้รอบสองมา พอถึงเวลาก็ไปเจาะเลือดในตอนเช้า รอผลตอนเย็น
ผลสรุปคือ หมอค่อนข้างตกใจ ค่ายูริกเหลือ 6.3 แ่ต่กลับมีค่าอื่นๆแฟงมาด้วย
... ค่าตับอักเสบ 123 ครับ....
... เเลดูเลขสวยนะครับ 5555+(ในเลข5มีน้ำตาซ่อนอยู่ ToT)
หมอทางด้านเก๊าจึงส่งผมไปรักษากับหมอทางด้าน ตับโดยตรง... ผมก็ไป แต่อาการปวดข้อเท้า กำเริบ และหาย วนอยู่สามรอบ... ตอนนี้ปัจจุบันก็ทานอยู่ครับ...
ผมไปตรวบตับกับหมอ พอเจอหน้า หมอพูดขึ้นมาคพแรกเลยครับ ''ไปลดน้ำหนักซะ''แล้วหมอก็ตรวจดูประวัติของผม แล้วก็ถามว่า ในช่วงที่ผ่านมา ทานอะไร ยาอะไร ไปบ้าง สุดท้ายหมอก็บอกผมว่า
อน่างแรก ยาพวกแก้ปวดที่หมอรักษาเก๊าให้มา หยุดทานเด็ดขาด ทานได้แค่ ยาเก๊าเฉียบพลันเท่านั้น ผมก็พยักหน้าตกปากรับคำไป หมอก็นัดมาอีก 1 เดือนมาตรวจใหม่
โดยสั่งยาให้หนึ่งชุด คือวิตามิน เม็ดสีเหลืองๆ
ผมก็พยายามใช้ชีวิตเซฟที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทานอาหารไม่หนัก ควบคุมเก๊า แต่ไม่ได้ออกกำลังกายเพราะ เดินหรือยืนมากๆไม่ไหวครับ ผ่านไปจนครบกำหนดหมอนัด ก็ไปพบ
เจาะเลือดเช้า ตรวจตอน2 ทุ่ม...
หมอก็ดูผล และหน้าเสียกว่าเดิม เพราะค่า ตับอักเสบผม จาก 123 เป็น 152
หมอก็บอกว่า ต้องจริงจังแล้วนะ ไขมันในเลือดอาจมีผลให้ตับทำงานหนัก เพราะฉนั้นๆปลดน้ำหนักแบบตั้งใจซะ ไม่งั้นตายเร็วแน่
ผมก็หน้าสั่นเลยครับ พยายามสงบสติอารมณ์ มันเหมือนความซวยมาพร้อมๆกัน
และยาที่หมอให้มา คือ วิตามินสำหรับ 3 เดือน ยารักษาเก๊า Colchicin 0.6 mg สำหรับสามเดือน และยารักษาเก๊า Allopurinol 100 mg สำหรับสามเดือน หมอสังมาแบบนี้ครับ
- วิตามิน กิน 1 เม็ด เช้าหลังอาหาร
- Colchicin 1 เม็ด หลังอาหาร เช้า-เย็น
- Allopurinol 3 เม็ด ก่อนนอน
และออกกำลังกายทุกวัน
ตอนนี้ผมควรทำยังไงดีครับ อาการของผม ณ ตอนนี้ 15 มี.ค. 2561
- รู้สึกเบื่ออาหาร นิดหน่อย
- รู้สึกตัวร้อน เป็นไข้เป็นๆหายๆ
- มีท้องเสียบ้างในช่วงนี้
- ปวดเมื่อยร่างกาย
- รู้สึกปวดท้อง มวลท้อง
- ข้อเท้านิ้วโป้งที่เก๊าขึ้น ยังไม่หาย ยังปวดๆอยู่ถ้ากด หรือจิ้ม หรือวิ่งกระโดด แต่เดินปกติพอได้เเล้ว ไม่ปวดเวลาอ่ยู่เฉยๆ
ผมควรทำยังไงดีครับ ตอนนี้รู้สึกค่อนข้างเครียดมากๆ ทั้งจากโรค และโปรเจ็คงานในมหาลัย ผมควรทำตัวยังไงดีครับ
ยารักษาเก๊าทั้ง 2 ชนิดที่หมอให้มา 3 เดือน ควรกินจนหมด หรือหยุดดีครับ เพราะผมกลัวเหลือเกินว่า ยารักษาเก๊าทั้ง 2 ตัวนั้น จะทำให้ตับผมทำงานหนักและอักเสบมากขึ้น
ผมรู้สึกเครียดมากครับ แต่ในครั้งนี้มันหาที่พักใจ หรืออะไรมาเป็นตัวช่วยในการคิดแง่บวกไม่ได้จริงๆ และรวมกับที่ผมคิดคิดมากจนเป็นโรคซึมเศร้าระยะเริ่มต้นจนที่บ้านพาไปพบจิตแพทย์ ผมเริ่มรู้สึกแบบ เครียดและเริ่มนอนไม่หลับ หายใจไม่ั่ทั้วท้อง
ผมควรจะทำยังไงดีครับ...
ผมเป็นโรคเก๊าพร้อมกับตับอักเสบ ควรทำยังไงดีครับ
เมื่อก่อนผมเข้าออกฟิตเนส เล่นเวทเทรนนิ่งกับออกกำลังกายคาดิโอบ่อยๆจนน้ำหนักอยู่ราวๆ 90 กว่าๆ จาก น้ำหนัก 110+
แต่เมื่อราวๆสองเดือนก่อนปลายปีที่ผ่านมาทางมหาลัยผมจะมีระบบพี่เทค ซึ่งจะพาน้องๆปี 1 อย่างผมไปเลี้ยงเนื้อย่าง ชาบู ผมก็ต้องไป
บวกกับเพื่อนพาสังสรรค์กินแอลกอฮอล์กัน ผมก็จำใจต้องจิบๆตาม และในช่วงนี้ มหาลัยมีสอบปลายภาค ผมเลยขาดการออกกำละงกายไป 2 เดือนเต็มๆ!
แต่ทว่าเรื่องราวก็เกิดครับ หลังจากเสร็จจากงานสังสรรค์ ผมตื่นเช้ามาปวดข้อนิ้วโป้งเท้าขวามากๆครับ ทนไปสามวัน ทนไม่ไหวจึงไป รพ.รัฐ หมอตรวจดูบอกข้ออักเสบ และให้ยา พารา กับฆ่าเชื้อมา ผมก็ทานไปแต่ก็ไม่หาย จึงไปตรวจอีก รพ.หนึ่ง ซึ่งพอดีกับติดเรียนในวันธรรมดา จึงต้องไปนอกเวลาของ รพ.อีกแห่งหนึ่งที่มีหมอเฉพาะทาง และหมอก็ให้ผมเจาะเลือด และรอสรุปผลครับ
และข่าวดีคือ... ยูริกในเลือดผมสูง 8.89...
หมอบอกค่อนข้างอันตรายจึงงให้ยา แก้ปวด 2 ชนิด กับยารักษาเก๊าแบบเฉียบพลัน มาทาน15 วัน ผลคือไม่หายครับ จึงไปอีกรอบ และหมอก็นัดเจาะเลือดอีกภายใน 15 วัน ผมก็อดทน กินยาที่หมอให้รอบสองมา พอถึงเวลาก็ไปเจาะเลือดในตอนเช้า รอผลตอนเย็น
ผลสรุปคือ หมอค่อนข้างตกใจ ค่ายูริกเหลือ 6.3 แ่ต่กลับมีค่าอื่นๆแฟงมาด้วย
... ค่าตับอักเสบ 123 ครับ....
... เเลดูเลขสวยนะครับ 5555+(ในเลข5มีน้ำตาซ่อนอยู่ ToT)
หมอทางด้านเก๊าจึงส่งผมไปรักษากับหมอทางด้าน ตับโดยตรง... ผมก็ไป แต่อาการปวดข้อเท้า กำเริบ และหาย วนอยู่สามรอบ... ตอนนี้ปัจจุบันก็ทานอยู่ครับ...
ผมไปตรวบตับกับหมอ พอเจอหน้า หมอพูดขึ้นมาคพแรกเลยครับ ''ไปลดน้ำหนักซะ''แล้วหมอก็ตรวจดูประวัติของผม แล้วก็ถามว่า ในช่วงที่ผ่านมา ทานอะไร ยาอะไร ไปบ้าง สุดท้ายหมอก็บอกผมว่า
อน่างแรก ยาพวกแก้ปวดที่หมอรักษาเก๊าให้มา หยุดทานเด็ดขาด ทานได้แค่ ยาเก๊าเฉียบพลันเท่านั้น ผมก็พยักหน้าตกปากรับคำไป หมอก็นัดมาอีก 1 เดือนมาตรวจใหม่
โดยสั่งยาให้หนึ่งชุด คือวิตามิน เม็ดสีเหลืองๆ
ผมก็พยายามใช้ชีวิตเซฟที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทานอาหารไม่หนัก ควบคุมเก๊า แต่ไม่ได้ออกกำลังกายเพราะ เดินหรือยืนมากๆไม่ไหวครับ ผ่านไปจนครบกำหนดหมอนัด ก็ไปพบ
เจาะเลือดเช้า ตรวจตอน2 ทุ่ม...
หมอก็ดูผล และหน้าเสียกว่าเดิม เพราะค่า ตับอักเสบผม จาก 123 เป็น 152
หมอก็บอกว่า ต้องจริงจังแล้วนะ ไขมันในเลือดอาจมีผลให้ตับทำงานหนัก เพราะฉนั้นๆปลดน้ำหนักแบบตั้งใจซะ ไม่งั้นตายเร็วแน่
ผมก็หน้าสั่นเลยครับ พยายามสงบสติอารมณ์ มันเหมือนความซวยมาพร้อมๆกัน
และยาที่หมอให้มา คือ วิตามินสำหรับ 3 เดือน ยารักษาเก๊า Colchicin 0.6 mg สำหรับสามเดือน และยารักษาเก๊า Allopurinol 100 mg สำหรับสามเดือน หมอสังมาแบบนี้ครับ
- วิตามิน กิน 1 เม็ด เช้าหลังอาหาร
- Colchicin 1 เม็ด หลังอาหาร เช้า-เย็น
- Allopurinol 3 เม็ด ก่อนนอน
และออกกำลังกายทุกวัน
ตอนนี้ผมควรทำยังไงดีครับ อาการของผม ณ ตอนนี้ 15 มี.ค. 2561
- รู้สึกเบื่ออาหาร นิดหน่อย
- รู้สึกตัวร้อน เป็นไข้เป็นๆหายๆ
- มีท้องเสียบ้างในช่วงนี้
- ปวดเมื่อยร่างกาย
- รู้สึกปวดท้อง มวลท้อง
- ข้อเท้านิ้วโป้งที่เก๊าขึ้น ยังไม่หาย ยังปวดๆอยู่ถ้ากด หรือจิ้ม หรือวิ่งกระโดด แต่เดินปกติพอได้เเล้ว ไม่ปวดเวลาอ่ยู่เฉยๆ
ผมควรทำยังไงดีครับ ตอนนี้รู้สึกค่อนข้างเครียดมากๆ ทั้งจากโรค และโปรเจ็คงานในมหาลัย ผมควรทำตัวยังไงดีครับ
ยารักษาเก๊าทั้ง 2 ชนิดที่หมอให้มา 3 เดือน ควรกินจนหมด หรือหยุดดีครับ เพราะผมกลัวเหลือเกินว่า ยารักษาเก๊าทั้ง 2 ตัวนั้น จะทำให้ตับผมทำงานหนักและอักเสบมากขึ้น
ผมรู้สึกเครียดมากครับ แต่ในครั้งนี้มันหาที่พักใจ หรืออะไรมาเป็นตัวช่วยในการคิดแง่บวกไม่ได้จริงๆ และรวมกับที่ผมคิดคิดมากจนเป็นโรคซึมเศร้าระยะเริ่มต้นจนที่บ้านพาไปพบจิตแพทย์ ผมเริ่มรู้สึกแบบ เครียดและเริ่มนอนไม่หลับ หายใจไม่ั่ทั้วท้อง
ผมควรจะทำยังไงดีครับ...