สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
น่าจะกำลังซื้อของโฆษณาของสินค้ากทมน่าจะดีกว่าหรือเปล่าครับ
สมาชิกหมายเลข 2207654 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2476766 ถูกใจ, Itoulek ถูกใจ, mandize ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4030555 ถูกใจ, Travel Animal ถูกใจ, giggsmay ถูกใจ, dekmanu ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 3948826 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 828716 ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 27
เข้าใจ GDP ให้ถ่องแท้ก่อนครับว่ามันคืออะไร
GDP หมายถึง มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ BOT จะประมาณการล่วงหน้า และจะทยอยประกาศออกมาให้ประชาชนทั่วไปทราบเป็นรายไตรมาส สามารถเขียนเป็นสมการได้ดังนี้ Y = C + I + G + (X - M) แต่ละตัวมีความหมายคือ
C = Consumption หรือการบริโภคของบริษัทและประชาชนทั่วไป โดยดัชนี CPI หรือ Consumer Price Index เป็นตัวชี้วัดประกอบด้วย
I = Investment หรือการลงทุนจากภาคเอกชนในการทำกิจกรรมต่างๆในระบบเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมการเษตร เป็นต้น โดยมีดัชนี MPI หรือ Manufacturing Production Index เป็นตัวชี้วัด
G = Government Spending หรือค่าใช้จ่ายของรัฐบาล/การลงทุนภาครัฐ เช่น การดำเนินนโยบายต่างๆทางด้านคมนาคม เงินเดือนของข้าราชการ แต่ไม่รวมสวัสดิการสังคมนะครับ
X - M = Export ลบด้วย Import คือจะต้องตัวเลขการส่งออกลบด้วยการนำเข้าถึงจะเห็นอัตราการบริโภคสุดท้ายที่แท้จริง
GDP หมายถึง มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ BOT จะประมาณการล่วงหน้า และจะทยอยประกาศออกมาให้ประชาชนทั่วไปทราบเป็นรายไตรมาส สามารถเขียนเป็นสมการได้ดังนี้ Y = C + I + G + (X - M) แต่ละตัวมีความหมายคือ
C = Consumption หรือการบริโภคของบริษัทและประชาชนทั่วไป โดยดัชนี CPI หรือ Consumer Price Index เป็นตัวชี้วัดประกอบด้วย
I = Investment หรือการลงทุนจากภาคเอกชนในการทำกิจกรรมต่างๆในระบบเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมการเษตร เป็นต้น โดยมีดัชนี MPI หรือ Manufacturing Production Index เป็นตัวชี้วัด
G = Government Spending หรือค่าใช้จ่ายของรัฐบาล/การลงทุนภาครัฐ เช่น การดำเนินนโยบายต่างๆทางด้านคมนาคม เงินเดือนของข้าราชการ แต่ไม่รวมสวัสดิการสังคมนะครับ
X - M = Export ลบด้วย Import คือจะต้องตัวเลขการส่งออกลบด้วยการนำเข้าถึงจะเห็นอัตราการบริโภคสุดท้ายที่แท้จริง
สมาชิกหมายเลข 4447558 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 4220614 ขำกลิ้ง, รอยรจนา ถูกใจ, mandize ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4322085 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4340607 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1143970 ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 3762381 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2781579 ถูกใจ, MayunuM ถูกใจรวมถึงอีก 4 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 3
ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายค่ะ
ช่อง one ช่อง Workpoint และอีกหลายๆช่อง ยังอยากเจาะกลุ่มกทม.กันทั้งนั้น เพราะถึงจำนวนประชากรจะน้อยกว่าแต่กำลังซื้อสูงค่ะ
ช่อง one ช่อง Workpoint และอีกหลายๆช่อง ยังอยากเจาะกลุ่มกทม.กันทั้งนั้น เพราะถึงจำนวนประชากรจะน้อยกว่าแต่กำลังซื้อสูงค่ะ
สมาชิกหมายเลข 3190294 ขำกลิ้ง, คืนสำคัญอีกคืน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2476766 ขำกลิ้ง, มิสซิส สิว เข็ดรุก ขำกลิ้ง, Itoulek ถูกใจ, mandize ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4322085 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 4002033 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4030555 ถูกใจ, Travel Animal ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 38
ได้จากทั่วประเทศ ดีกว่า กทม จ้า อันนี้เคยคุยกับคนทำเอเจนซี่โดยตรง เพราะคน ตจว มีจำนวนรวมเยอะกว่าหลายเท่า
ในแง่โฆษณากำลังซื้อหลักคือจำนวนคน ต้องเข้าถึงคนดูให้ได้จำนวนมากที่สุด
แต่ถ้าได้เรตติ้งจาก กทม สูงมากจนเฉลี่ยแล้วต่อให้ได้จาก ตจว ต่ำก็ยังเรตติ้งรวมสูง อันนี้ก็ถือว่าดีเหมือนกัน
อย่าดูถูกกำลังซื้อคน ตจว และอย่าไปฟังว่า กทม จะต้องมีกำลังซื้อสูงกว่า สินค้าหลักทั่วไป แชมพู สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ทุกคนต้องใช้หมด แม้แต่แมค KFC MK เดี๋ยวนี้คน ตจว ก็กินเป็นปกติเหมือนคนใน กทม
แล้วเอาจริงคนใน กทม ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เลือกกินเลือกใช้ของฟุ่มเฟือย สินค้าในเซเว่น เทสโก้โลตัส ในร้านโชว์ห่วย ก็เป็นแบบเดียวกัน ราคาเดียวกันทั้งใน กทม และ ตจว
กทม แค่มีความหนาแน่นประชากรมากกว่าเท่านั้นเองตัวเลขค่าเฉลี่ยรายได้เลยสูงกว่า แต่ไม่ได้แปลว่าผู้มีรายได้นับจำนวนเป็นรายคนแล้วจะมีเยอะกว่า
ข้อแตกต่างจริงๆ ของการแยกเขตคือด้านลอจิสติกส์และทำการตลาด การส่งสินค้าไปทั่วประเทศจะมีค่าใช้จ่ายจากการขนส่งและกระจายสินค้าสูงกว่าขนเข้า กทม ที่เป็นศูนย์กลางและมีคนหนาแน่น
ส่วนเรื่องสินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมาย ถ้าสินค้าเป็นประเภทจับเฉพาะกลุ่มจริงๆ ปกติเอเจนซี่จะไม่ได้ดูแค่ กทม หรือ ตจว แต่จะดูลึกไปถึงเพศ ช่วงวัย อายุ รายได้ หรือละเอียดไปกว่านั้นอีก
ปล. อัตราค่าโฆษณาต่อนาที ราคาของช่อง 7 สูงกว่าช่อง 3 อันนี้ก็มีกลไกการคิดราคามาจากโอกาสในการเข้าถึงคนดูของสินค้า
ในแง่โฆษณากำลังซื้อหลักคือจำนวนคน ต้องเข้าถึงคนดูให้ได้จำนวนมากที่สุด
แต่ถ้าได้เรตติ้งจาก กทม สูงมากจนเฉลี่ยแล้วต่อให้ได้จาก ตจว ต่ำก็ยังเรตติ้งรวมสูง อันนี้ก็ถือว่าดีเหมือนกัน
อย่าดูถูกกำลังซื้อคน ตจว และอย่าไปฟังว่า กทม จะต้องมีกำลังซื้อสูงกว่า สินค้าหลักทั่วไป แชมพู สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ทุกคนต้องใช้หมด แม้แต่แมค KFC MK เดี๋ยวนี้คน ตจว ก็กินเป็นปกติเหมือนคนใน กทม
แล้วเอาจริงคนใน กทม ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เลือกกินเลือกใช้ของฟุ่มเฟือย สินค้าในเซเว่น เทสโก้โลตัส ในร้านโชว์ห่วย ก็เป็นแบบเดียวกัน ราคาเดียวกันทั้งใน กทม และ ตจว
กทม แค่มีความหนาแน่นประชากรมากกว่าเท่านั้นเองตัวเลขค่าเฉลี่ยรายได้เลยสูงกว่า แต่ไม่ได้แปลว่าผู้มีรายได้นับจำนวนเป็นรายคนแล้วจะมีเยอะกว่า
ข้อแตกต่างจริงๆ ของการแยกเขตคือด้านลอจิสติกส์และทำการตลาด การส่งสินค้าไปทั่วประเทศจะมีค่าใช้จ่ายจากการขนส่งและกระจายสินค้าสูงกว่าขนเข้า กทม ที่เป็นศูนย์กลางและมีคนหนาแน่น
ส่วนเรื่องสินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมาย ถ้าสินค้าเป็นประเภทจับเฉพาะกลุ่มจริงๆ ปกติเอเจนซี่จะไม่ได้ดูแค่ กทม หรือ ตจว แต่จะดูลึกไปถึงเพศ ช่วงวัย อายุ รายได้ หรือละเอียดไปกว่านั้นอีก
ปล. อัตราค่าโฆษณาต่อนาที ราคาของช่อง 7 สูงกว่าช่อง 3 อันนี้ก็มีกลไกการคิดราคามาจากโอกาสในการเข้าถึงคนดูของสินค้า
มณีศรีแจ่มจันทร์ ถูกใจ, รอยรจนา ถูกใจ, งามสามโลก ถูกใจ, พุดพาโลแม่หญิงใสๆแห่งที่ราบสูง ถูกใจ, อยากกินวุ้นบนหัวปลาทอง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2439998 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3762381 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1143970 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2619168 ถูกใจ, JustLikeLove ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
เอาจริงๆ เรตติ้ง กทม เยอะ แต่ทั่วไทยน้อย ดีกว่า เรตติ้ง กทม น้อย แต่ทั่วไทยเยอะ เหรอ??
กทม เยอะ แต่ทั่วไทยน้อย นะ เพราะ กทม ก็แค่จังหวัดหนึ่งของ 77 จังหวัดเท่านั้นเอง
ถ้าจะยก กทม ทำไมไม่ถามเรตติ้ง ภูเก็ต เรตติ้ง เชียงใหม่ อุดร แยกทุกจังหวัดล่ะ ถามหาแต่เรตติ้งก ท ม ?
หรือเราคิดผิดไป แบบว่าเราเห็นเค้าถามถึงเรตติ้ง กทม ให้เอามาโชว์ ๆ อ่ะ