สวัสดีครับผมกำลังสงสัยและรู้สึกสับสนกับตัวเองมากๆ คือผมเป็น น.ศ.จบใหม่ ซึ่ง มหาลัยผมได้ไปดิลกับบริษัทห้างใหญ่บริษัทหนึ่ง เป็นสัญญาทุนการศึกษา 4ปี และต้องทำงานใช้ทุนอีก 2 ปี ซึ่งจะให้ นศ. ได้ฝึกงานในระหว่างเรียนเป็นเวลา 4 ปี วุฒิที่จบคือ บริหาร การตลาด (ปี 1 เรียน 4 วัน ทำงาน 2 วัน หยุด 1 วัน ปี 2 ปี 3 เรียน 3วัน ทำงาน3วัน หยุด 1วัน ปี 4 เรียน 2วัน ทำงาน 4วัน หยุด1วัน ต่อสัปดาห์ ปี4 เทอม2 ฝึกก็คือทำงานยาว หยุด 1วันต่อสัปดาห์) งานที่ทำคือเป็นพนักงานขายหน้าร้าน โดยการจ่ายค่าแรงในวันทำงาน 300บาทต่อวัน+ค่าคอมมิชชั่น ถ้าเรียนจบแล้วไม่ทำงานใช้ทุนก็จะต้องจ่ายค่าเทอมคืนบริษัทประมาณแสนกว่าบาท(ค่าเทอม4ปีที่บริษัทออกให้ก่อน) เวลาให้เพื่อนและครอบครัวแทบจะไม่มีให้ใครเพราะต้องเรียนและทำงานไปด้วย กลับบ้านต่างจังหวัดทีผมกลายเป็นคนแปลกหน้าไปซะงั้น
ในตอนที่ผมเรียนสิ้นสุดการเรียนจริงๆช่วงปลายธันวา ปี 59 และเริ่ม ฝึกงานมกรา ปี60 เป็นเวลา3 เดือน คือเป็นพนักงานขายหน้าร้านเหมือนเดิมหยุด 1 วันต่อสัปดาห์เหมือนเดิม พอจบฝึกงานก็มีเพื่อนหลายๆคนเลือกที่จะลาออกแล้วค่อยใช้ทุนในภายหลัง ในใจผมตอนนั้นก็ลังเลจะลาออกทุนหรือทำงานต่อดีใจก็อยากออกไปหาประสบการใหม่แต่ก็ไม่อยากเป็นหนี้ตั้งแต่เรียนจบก็เลยเลือกที่จะทำต่อ พอสิ้นสุดการฝึกงานและรับวุฒิ ประมาณปลายเดือนเมษา เริ่มบรรจุเป็นพนักงานเต็มตัวตัวให้เงินเดือน1หมื่นต้นๆ+ค่าคอมฯ ก็ยังได้ทำงานเป็นพนักงานขายเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จนรู้สึกได้ว่าเหมือนงานมันอิ่มตัวไม่มีอะไรที่มันตื่นเต้นอีกแล้ว พักหลังๆนโยบายบริษัทเริ่มมีการปรับเงื่อนไขค่าคอมให้ลดลงไปจากเดิมมากๆ หากขายไม่ได้ตามเป้าในแต่ละเดือนก็จะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น ก็จะเหลือแต่เงินเดือนเท่านั้น และปีหน้าก็จะไม่มีโบนัสพนักงานอีกแล้ว ผมอยู่ได้มาสักพักจนครบรอบการได้โบนัสและปรับเงินเดือนประจำปี เหตุการณ์นี้ที่ทำให้ผมน้ำตาซึมคือ ผมได้รับโบนัส หลักร้อยและเงินเดือนปรับขึ้นหลักสิบ เหตุการนี้ทำให้ผมรู้สึกแย่และซึมไปหลายวัน
ผมเริ่มมีความรู้สึกอึดอัดเพราะยืนทั้งวัน แต่ได้ค่าแรงหมื่นต้นๆแบบนี้ ความรู้สึกเหนื่อยล้ามันรังควานใจทุกวัน ผมเลยกลับมานั่งคิดไปว่าผมพลาดอะไรไปหรือป่าว? ผมติดกับดักอะไรอยู่หรือป่าว? ผมกำลังถูกกดค่าแรงอยู่ใช่ไหม? ผมควรลาออกจากที่นี่แล้วไปหาประสบการที่ใหม่ดีไหม? กับประสบการณ์งานขาย 5ปี
ใครก็ได้ช่วยตอบผมที Help me
จบ ป.ตรี + ประสบการณ์ 5 ปี กับเงินเดือน 10,000 น้อยไปไหมครับ?
ในตอนที่ผมเรียนสิ้นสุดการเรียนจริงๆช่วงปลายธันวา ปี 59 และเริ่ม ฝึกงานมกรา ปี60 เป็นเวลา3 เดือน คือเป็นพนักงานขายหน้าร้านเหมือนเดิมหยุด 1 วันต่อสัปดาห์เหมือนเดิม พอจบฝึกงานก็มีเพื่อนหลายๆคนเลือกที่จะลาออกแล้วค่อยใช้ทุนในภายหลัง ในใจผมตอนนั้นก็ลังเลจะลาออกทุนหรือทำงานต่อดีใจก็อยากออกไปหาประสบการใหม่แต่ก็ไม่อยากเป็นหนี้ตั้งแต่เรียนจบก็เลยเลือกที่จะทำต่อ พอสิ้นสุดการฝึกงานและรับวุฒิ ประมาณปลายเดือนเมษา เริ่มบรรจุเป็นพนักงานเต็มตัวตัวให้เงินเดือน1หมื่นต้นๆ+ค่าคอมฯ ก็ยังได้ทำงานเป็นพนักงานขายเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จนรู้สึกได้ว่าเหมือนงานมันอิ่มตัวไม่มีอะไรที่มันตื่นเต้นอีกแล้ว พักหลังๆนโยบายบริษัทเริ่มมีการปรับเงื่อนไขค่าคอมให้ลดลงไปจากเดิมมากๆ หากขายไม่ได้ตามเป้าในแต่ละเดือนก็จะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น ก็จะเหลือแต่เงินเดือนเท่านั้น และปีหน้าก็จะไม่มีโบนัสพนักงานอีกแล้ว ผมอยู่ได้มาสักพักจนครบรอบการได้โบนัสและปรับเงินเดือนประจำปี เหตุการณ์นี้ที่ทำให้ผมน้ำตาซึมคือ ผมได้รับโบนัส หลักร้อยและเงินเดือนปรับขึ้นหลักสิบ เหตุการนี้ทำให้ผมรู้สึกแย่และซึมไปหลายวัน
ผมเริ่มมีความรู้สึกอึดอัดเพราะยืนทั้งวัน แต่ได้ค่าแรงหมื่นต้นๆแบบนี้ ความรู้สึกเหนื่อยล้ามันรังควานใจทุกวัน ผมเลยกลับมานั่งคิดไปว่าผมพลาดอะไรไปหรือป่าว? ผมติดกับดักอะไรอยู่หรือป่าว? ผมกำลังถูกกดค่าแรงอยู่ใช่ไหม? ผมควรลาออกจากที่นี่แล้วไปหาประสบการที่ใหม่ดีไหม? กับประสบการณ์งานขาย 5ปี
ใครก็ได้ช่วยตอบผมที Help me