
การปลูกฝังค่านิยมการออมให้กับเด็กๆ เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่พ่อแม่ทุกคนคงอยากให้เกิดขึ้นกับลูกๆ ของตน โดยมีงานวิจัยว่า สมองของเด็กๆ นั้นจะสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในช่วง 6 ขวบแรก นอกจากนี้ Beth Kobliner นักเขียนนิวยอร์กไทม์ส เจ้าของหนังสือขายดีอย่าง Get a Financial Life และหนังสือ Money as You Grow ได้ยืนยันว่า เราสามารถสอนเรื่องการเงินให้เด็กได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ
K-Expert จึงอยากมานำเสนอทางเลือกในการสร้างวินัยทางการเงินให้กับลูกๆ ผ่าน 3 กิจกรรม เผื่อเป็นทางเลือกกันครับ
กิจกรรมที่ 1 การสอนให้รู้จักการหาเงิน
เมื่อออกมากับคุณพ่อคุณแม่นอกบ้าน หากอยากได้อะไรก็มักจะเห็นคุณพ่อคุณแม่ควักเงินออกมาเพื่อซื้อสิ่งของเหล่านั้น ทำให้ลูกๆ รู้ได้ทันทีว่า การได้สิ่งของที่ต้องการนั้น จะต้องใช้เงินเพื่อแลกมา แต่คงไม่เคยรู้ว่าแล้วจะหาเงินนั้นได้ด้วยวิธีใด คุณพ่อคุณแม่จึงมีหน้าที่ในการสอนวิธีการที่จะได้เงินมาผ่านการทำงาน เพื่อให้รู้ว่าเงินนั้นกว่าจะหามาได้ต้องแลกกับการทำงานเช่น
- การสมมุติการเป็นผู้ช่วยขายของ โดยการสร้างบทบาทร้านค้าในบ้าน เริ่มจากการชวนลูกคิดว่าขายอะไรได้บ้าง เช่น ของเล่น ของใช้/เสื้อผ้าเก่า ไปจนถึงของเล่นประดิษฐ์ที่พ่อแม่ลูกช่วยกันทำ ลูกช่วยจัดของ เรียกลูกค้า รับเงิน คำนวณเงินทอน และดูว่าขายได้เงินเพิ่มมาเท่าใดจากการขายครั้งนั้น โดยให้คนในบ้านเป็นคนซื้อ
- การช่วยงานในบ้าน ทุกครั้งที่เราทำงานบ้านอาจเริ่มจากการชวนลูกให้เข้ามามีส่วนช่วย เช่น การหยิบสิ่งของเก็บเข้าที่ โดยหลังจากเสร็จงานทุกครั้งควรให้รางวัลเป็นเงินหยอดกระปุก ครั้งละ 5-10 บาท เด็กก็จะได้ทั้งความสนุกและได้รางวัลจากการช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้ครับ
กิจกรรมที่ 2 การสอนให้รู้จักใช้เงิน
กิจกรรมนี้จะต่อยอดให้ลูกเพิ่มเติมจากการที่เรียนรู้การหาเงินที่ได้มาไม่ใช่สิ่งที่ง่ายแล้ว เมื่อต้องมีการใช้เงินออกไปก็ควรที่จะคิดให้ดีเสียก่อน หรือควรซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น โดยอาจเปรียบเทียบระหว่างประโยชน์ที่จะได้รับ กับสิ่งที่ต้องเสียไป
คุณพ่อคุณแม่สามารถมอบหมายให้ลูกซื้อของตาม Order โดยก่อนที่จะไปซื้อของตามซูเปอร์มาร์เก็ต อาจเริ่มจากการชวนลูกเช็กของที่จำเป็นภายในบ้านในส่วนที่ขาด ส่วนของชิ้นไหนที่ยังมีอยู่ก็ไม่ควรใส่ใน Order หลังจากนั้นจึงชวนลูกไปซื้อของร่วมกัน เพื่อฝึกให้ลูกซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็นผ่านการวางแผนการซื้อของภายในบ้านที่ได้ทำร่วมกันเท่านั้น และไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นอื่นๆ
กิจกรรมที่ 3 การสอนให้รู้จักการออมเงิน
เมื่อลูกเริ่มเข้าใจแล้วว่าการหาเงินนั้นไม่ใช่สิ่งที่ง่าย และการใช้เงินดังกล่าวก็ควรที่จะคิดก่อนที่จะใช้ออกไป ลำดับต่อมาจึงชวนให้ลูกเริ่มออมเงินที่มีเก็บใส่ในกระปุก โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะเพิ่มเงินเข้าไปด้วยคล้ายดอกเบี้ยของธนาคาร เพื่อให้เงินที่มีนั้นเพิ่มมากยิ่งขึ้น ลูกจะได้เห็นว่ายิ่งเก็บเยอะ เงินก็จะยิ่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น กิจกรรมที่แนะนำคือ
- การชวนให้คิดถึงเป้าหมายในการเก็บเงิน คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งเป้าหมายจากสิ่งที่ลูกอยากได้แล้วให้เริ่มเก็บเงินโดยบอกระยะเวลา และจำนวนที่ต้องเก็บเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ เช่น หากอยากได้ของราคา 200 บาท ถ้าเก็บเงินวันละ 10 บาท แค่ 20 วันลูกก็จะสามารถซื้อสินค้าดังกล่าวได้ เป้าหมายอาจจะมีมากกว่า 1 อย่างก็ได้ แต่ต้องแยกการเก็บให้ออกจากกัน
- การชวนไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร จากการเก็บเงินผ่านการหยอดกระปุก คุณพ่อคุณแม่อาจจะกำหนดระยะเวลาในการรวมเงินดังกล่าว เพื่อนำไปฝากกับธนาคารผ่านการเปิดบัญชี โดยเริ่มจากการนับยอดที่มีด้วยกัน และนำเงินไปฝากธนาคาร หากเด็กมีอายุต่ำกว่า 7 ปี สามารถเปิดบัญชีแบบพ่อเพื่อลูก หรือแม่เพื่อลูก หรือพ่อและแม่เพื่อลูก ให้ลูกได้เห็นสมุดบัญชี และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้รู้วิธีเก็บเงินให้ได้ดอกเบี้ยแทนที่จะเก็บแต่เฉพาะในกระปุกเท่านั้น
หวังว่าวิธีการที่ทาง
K-Expert แนะนำในวันนี้คงช่วยเป็นแนวทางให้ลูกเรียนรู้เรื่องการเงินกันได้บ้างนะครับ ส่วนเพื่อนๆ ที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ หากมีการสอนลูกเรื่องเงินๆ ทองๆ อยู่แล้ว สามารถแชร์เทคนิคให้เพื่อนๆ ท่านอื่นเป็นไอเดียได้นะครับ
3 กิจกรรม สร้างวินัยการเงินให้ลูกน้อย
การปลูกฝังค่านิยมการออมให้กับเด็กๆ เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่พ่อแม่ทุกคนคงอยากให้เกิดขึ้นกับลูกๆ ของตน โดยมีงานวิจัยว่า สมองของเด็กๆ นั้นจะสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในช่วง 6 ขวบแรก นอกจากนี้ Beth Kobliner นักเขียนนิวยอร์กไทม์ส เจ้าของหนังสือขายดีอย่าง Get a Financial Life และหนังสือ Money as You Grow ได้ยืนยันว่า เราสามารถสอนเรื่องการเงินให้เด็กได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ
K-Expert จึงอยากมานำเสนอทางเลือกในการสร้างวินัยทางการเงินให้กับลูกๆ ผ่าน 3 กิจกรรม เผื่อเป็นทางเลือกกันครับ
กิจกรรมที่ 1 การสอนให้รู้จักการหาเงิน
เมื่อออกมากับคุณพ่อคุณแม่นอกบ้าน หากอยากได้อะไรก็มักจะเห็นคุณพ่อคุณแม่ควักเงินออกมาเพื่อซื้อสิ่งของเหล่านั้น ทำให้ลูกๆ รู้ได้ทันทีว่า การได้สิ่งของที่ต้องการนั้น จะต้องใช้เงินเพื่อแลกมา แต่คงไม่เคยรู้ว่าแล้วจะหาเงินนั้นได้ด้วยวิธีใด คุณพ่อคุณแม่จึงมีหน้าที่ในการสอนวิธีการที่จะได้เงินมาผ่านการทำงาน เพื่อให้รู้ว่าเงินนั้นกว่าจะหามาได้ต้องแลกกับการทำงานเช่น
- การสมมุติการเป็นผู้ช่วยขายของ โดยการสร้างบทบาทร้านค้าในบ้าน เริ่มจากการชวนลูกคิดว่าขายอะไรได้บ้าง เช่น ของเล่น ของใช้/เสื้อผ้าเก่า ไปจนถึงของเล่นประดิษฐ์ที่พ่อแม่ลูกช่วยกันทำ ลูกช่วยจัดของ เรียกลูกค้า รับเงิน คำนวณเงินทอน และดูว่าขายได้เงินเพิ่มมาเท่าใดจากการขายครั้งนั้น โดยให้คนในบ้านเป็นคนซื้อ
- การช่วยงานในบ้าน ทุกครั้งที่เราทำงานบ้านอาจเริ่มจากการชวนลูกให้เข้ามามีส่วนช่วย เช่น การหยิบสิ่งของเก็บเข้าที่ โดยหลังจากเสร็จงานทุกครั้งควรให้รางวัลเป็นเงินหยอดกระปุก ครั้งละ 5-10 บาท เด็กก็จะได้ทั้งความสนุกและได้รางวัลจากการช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้ครับ
กิจกรรมที่ 2 การสอนให้รู้จักใช้เงิน
กิจกรรมนี้จะต่อยอดให้ลูกเพิ่มเติมจากการที่เรียนรู้การหาเงินที่ได้มาไม่ใช่สิ่งที่ง่ายแล้ว เมื่อต้องมีการใช้เงินออกไปก็ควรที่จะคิดให้ดีเสียก่อน หรือควรซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น โดยอาจเปรียบเทียบระหว่างประโยชน์ที่จะได้รับ กับสิ่งที่ต้องเสียไป
คุณพ่อคุณแม่สามารถมอบหมายให้ลูกซื้อของตาม Order โดยก่อนที่จะไปซื้อของตามซูเปอร์มาร์เก็ต อาจเริ่มจากการชวนลูกเช็กของที่จำเป็นภายในบ้านในส่วนที่ขาด ส่วนของชิ้นไหนที่ยังมีอยู่ก็ไม่ควรใส่ใน Order หลังจากนั้นจึงชวนลูกไปซื้อของร่วมกัน เพื่อฝึกให้ลูกซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็นผ่านการวางแผนการซื้อของภายในบ้านที่ได้ทำร่วมกันเท่านั้น และไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นอื่นๆ
กิจกรรมที่ 3 การสอนให้รู้จักการออมเงิน
เมื่อลูกเริ่มเข้าใจแล้วว่าการหาเงินนั้นไม่ใช่สิ่งที่ง่าย และการใช้เงินดังกล่าวก็ควรที่จะคิดก่อนที่จะใช้ออกไป ลำดับต่อมาจึงชวนให้ลูกเริ่มออมเงินที่มีเก็บใส่ในกระปุก โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะเพิ่มเงินเข้าไปด้วยคล้ายดอกเบี้ยของธนาคาร เพื่อให้เงินที่มีนั้นเพิ่มมากยิ่งขึ้น ลูกจะได้เห็นว่ายิ่งเก็บเยอะ เงินก็จะยิ่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น กิจกรรมที่แนะนำคือ
- การชวนให้คิดถึงเป้าหมายในการเก็บเงิน คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งเป้าหมายจากสิ่งที่ลูกอยากได้แล้วให้เริ่มเก็บเงินโดยบอกระยะเวลา และจำนวนที่ต้องเก็บเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ เช่น หากอยากได้ของราคา 200 บาท ถ้าเก็บเงินวันละ 10 บาท แค่ 20 วันลูกก็จะสามารถซื้อสินค้าดังกล่าวได้ เป้าหมายอาจจะมีมากกว่า 1 อย่างก็ได้ แต่ต้องแยกการเก็บให้ออกจากกัน
- การชวนไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร จากการเก็บเงินผ่านการหยอดกระปุก คุณพ่อคุณแม่อาจจะกำหนดระยะเวลาในการรวมเงินดังกล่าว เพื่อนำไปฝากกับธนาคารผ่านการเปิดบัญชี โดยเริ่มจากการนับยอดที่มีด้วยกัน และนำเงินไปฝากธนาคาร หากเด็กมีอายุต่ำกว่า 7 ปี สามารถเปิดบัญชีแบบพ่อเพื่อลูก หรือแม่เพื่อลูก หรือพ่อและแม่เพื่อลูก ให้ลูกได้เห็นสมุดบัญชี และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้รู้วิธีเก็บเงินให้ได้ดอกเบี้ยแทนที่จะเก็บแต่เฉพาะในกระปุกเท่านั้น
หวังว่าวิธีการที่ทาง K-Expert แนะนำในวันนี้คงช่วยเป็นแนวทางให้ลูกเรียนรู้เรื่องการเงินกันได้บ้างนะครับ ส่วนเพื่อนๆ ที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ หากมีการสอนลูกเรื่องเงินๆ ทองๆ อยู่แล้ว สามารถแชร์เทคนิคให้เพื่อนๆ ท่านอื่นเป็นไอเดียได้นะครับ