คือเรื่องมันมีอยู่ว่า
เราเปิดบริษัทรับเหมา แล้วเพื่อนเราเป็นวิศวกรอยู่ไซด์งาน เพื่อนเราเห็นว่าเราเปิดบริษัท จึงเอางานมาให้ เราจึงพาช่างเข้าไปดูหน้างาน ซึ่งเป็นผู้รับเหมาอีกที มีการเสนอราคา เข้าไป โดยเราบวกเปอร์เซ็นของเราไป 25% ตั้งใจว่าจะให้ค่าน้ำค่าข้าว เพื่อนบ้าง พอเป็นพิธี ทีนี้ราคาของเราไม่ผ่าน มีการต่อรองกัน เราก็ต่อรองช่างของทางเราแต่เราก็เสนอ ไปอีกรอบ คือมันก็สุดๆแล้วซึ่งเราก็มองว่ามันเหมาะสมทั้งสองฝ่าย แต่ทางเพื่อนเรา ยังไม่พอใจให้เราลดลงอีก เราเลยมาลด % ของเราลง แต่ให้เพื่อนเราเท่าเดิม พอเราตกลงราคากัน เพื่อนเราชวนเราไปกินข้าวไปดื่มฉลองได้งาน ผลสรุปว่า เพื่อนเราดันไปหักเข้ากระเป๋าตัวเอง อีก ซึ่ง เป็น ครึ่งนึงของจำนวน ที่เราเสนอ มันกลับเอาไปเสนอกับทางบริษัทจากราคาเราอีกเท่าตัวเพื่อเข้ากระเป๋าตัวเองตอนเรารู้เราก็โมโหนะ แต่ก็ยังถามเพื่อนว่าแล้วเอ็งจะมาเอากับข้าอีกเนี่ยนะ ขอเท่านั้นเท่านี้ เรากดช่างไม่ไหวเพราะเราก็เห็นใจคนที่เขาทำงาน มันแค่หางานแถมเป็นเพื่อนกัน จนเราก็ฉุน นิดหน่อย หาว่าเราไม่มีสักยภาพพอในการต่อรองช่าง พอวันนั้นเราทำเป็นไม่คิดอะไร มาวันแรกที่เข้าหน้างาน มีการติดตั้ง เพื่อวัดขนาดของที่เราจะต้องทำและเตรียม
ประมาณว่า เพื่อนเราไม่มีแบบแล้วทำตามใจฉันตั้งตามที่คุยราคา แต่พอวันจริง มันต้องทำเพิ่มอีก เราขอช่าง ให้ทำเพิ่มให้หน่อย และยังไม่พอ ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนเรายังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะมันต้องมีขนาดให้พอดีกับเครื่อง
จากที่วางแผนผิดแผนเ
หมดเลย จากที่ตั้งเครื่องไม่กี่ชม.เสร็จกลายเป็น ย้ายแล้วย้ายอีก 5 วัน ไม่จบ พอตั้งจบ มาเร่งๆ เรา แถมให้เราซื้อนั่นซื้อนี่มาเพิ่มโดยไม่เพิ่มเงิน พอเราปฏิเสธ ก็มาตะคอกว่ามันคือลูกค้า ตอนนี้เราเร่งช่าง ให้ทำสุดใมือ พอทำไปได้ 1 ตัว จะเปลี่ยนแผนอีกแล้ว เราอยากจะด่าเพื่อนนอกรอบ มาก เราพยายามเก็บอารมณ์ มาตอนนี้ เราไม่รู้ว่ากว่าจะเสร็จ จะต้องเจออะไรอีก เราแค่รู้ว่าผู้รับเหมาเก่งๆ มีวิธีรับมือกับเพื่อนตัวเองกันยังไง ไม่ให้เสียเพื่อนบ้างค่ะ เรามีงานที่อื่นด้วยไม่ใช่แค่ที่นี่ ค่ะ
มีวิธีจัดการกับลูกค้าที่เป็นเพื่อนของเรายังไงดี
เราเปิดบริษัทรับเหมา แล้วเพื่อนเราเป็นวิศวกรอยู่ไซด์งาน เพื่อนเราเห็นว่าเราเปิดบริษัท จึงเอางานมาให้ เราจึงพาช่างเข้าไปดูหน้างาน ซึ่งเป็นผู้รับเหมาอีกที มีการเสนอราคา เข้าไป โดยเราบวกเปอร์เซ็นของเราไป 25% ตั้งใจว่าจะให้ค่าน้ำค่าข้าว เพื่อนบ้าง พอเป็นพิธี ทีนี้ราคาของเราไม่ผ่าน มีการต่อรองกัน เราก็ต่อรองช่างของทางเราแต่เราก็เสนอ ไปอีกรอบ คือมันก็สุดๆแล้วซึ่งเราก็มองว่ามันเหมาะสมทั้งสองฝ่าย แต่ทางเพื่อนเรา ยังไม่พอใจให้เราลดลงอีก เราเลยมาลด % ของเราลง แต่ให้เพื่อนเราเท่าเดิม พอเราตกลงราคากัน เพื่อนเราชวนเราไปกินข้าวไปดื่มฉลองได้งาน ผลสรุปว่า เพื่อนเราดันไปหักเข้ากระเป๋าตัวเอง อีก ซึ่ง เป็น ครึ่งนึงของจำนวน ที่เราเสนอ มันกลับเอาไปเสนอกับทางบริษัทจากราคาเราอีกเท่าตัวเพื่อเข้ากระเป๋าตัวเองตอนเรารู้เราก็โมโหนะ แต่ก็ยังถามเพื่อนว่าแล้วเอ็งจะมาเอากับข้าอีกเนี่ยนะ ขอเท่านั้นเท่านี้ เรากดช่างไม่ไหวเพราะเราก็เห็นใจคนที่เขาทำงาน มันแค่หางานแถมเป็นเพื่อนกัน จนเราก็ฉุน นิดหน่อย หาว่าเราไม่มีสักยภาพพอในการต่อรองช่าง พอวันนั้นเราทำเป็นไม่คิดอะไร มาวันแรกที่เข้าหน้างาน มีการติดตั้ง เพื่อวัดขนาดของที่เราจะต้องทำและเตรียม
ประมาณว่า เพื่อนเราไม่มีแบบแล้วทำตามใจฉันตั้งตามที่คุยราคา แต่พอวันจริง มันต้องทำเพิ่มอีก เราขอช่าง ให้ทำเพิ่มให้หน่อย และยังไม่พอ ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนเรายังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะมันต้องมีขนาดให้พอดีกับเครื่อง
จากที่วางแผนผิดแผนเ
หมดเลย จากที่ตั้งเครื่องไม่กี่ชม.เสร็จกลายเป็น ย้ายแล้วย้ายอีก 5 วัน ไม่จบ พอตั้งจบ มาเร่งๆ เรา แถมให้เราซื้อนั่นซื้อนี่มาเพิ่มโดยไม่เพิ่มเงิน พอเราปฏิเสธ ก็มาตะคอกว่ามันคือลูกค้า ตอนนี้เราเร่งช่าง ให้ทำสุดใมือ พอทำไปได้ 1 ตัว จะเปลี่ยนแผนอีกแล้ว เราอยากจะด่าเพื่อนนอกรอบ มาก เราพยายามเก็บอารมณ์ มาตอนนี้ เราไม่รู้ว่ากว่าจะเสร็จ จะต้องเจออะไรอีก เราแค่รู้ว่าผู้รับเหมาเก่งๆ มีวิธีรับมือกับเพื่อนตัวเองกันยังไง ไม่ให้เสียเพื่อนบ้างค่ะ เรามีงานที่อื่นด้วยไม่ใช่แค่ที่นี่ ค่ะ