วันนี้ (12 มีนาคม) นาย กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเกี่ยวกับข่าวการทุจริตช่วงนี้ โดยระบุว่า ช่วงนี้มีข่าวหนาหูเรื่องการทุจริตในระบบราชการทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับวัด โรงเรียน คนจน ผู้ป่วยเอดส์ ฯลฯ บางกรณีกินเปอร์เซ็นต์กันสูงถึง 80%
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า ‘ไม่มีนักการเมือง’ ก็โกงได้ (และอาจจะน่ากลัวกว่า เพราะไม่มีฝ่ายค้านคอยจับผิด)
ผมเห็นว่าการช่วยเหลือประชาชนยังจำเป็น แต่จากนี้ไปเราต้องพยายามช่วยโดยตรง ไม่ให้ผ่านมือข้าราชการ ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าข้าราชการไม่ดีหมด แต่ในทุกวงการ เมื่อมีเงินผ่านมือ ‘คนกลาง’ เมื่อไร เป็นยุ่งทุกที
ที่บ้านผมจะโดนภรรยาดุเสมอทุกๆครั้งที่ผมวางเงินสดหรือกระเป๋าตังค์ไว้ที่โน่นที่นั่น ภรรยาผมจะพูดว่าเราไม่ควรไป ‘ยั่ว’ ให้เด็กที่บ้านต้องมีกิเลส เพราะโดยธรรมชาติคนส่วนใหญ่ไม่ขี้ขโมย แต่ทุกคนมีความอ่อนไหวและความต้องการ ดังนั้นอย่าไปเปิดช่องให้คนดีกลายเป็นโจร
แม้ในสมัยที่เราเป็นรัฐบาลเราพยายามใช้หลักการนี้มาตลอด เช่น การช่วยเหลือชาวนาเราใช้ ‘ประกันรายได้’ โอนเงิน ‘ส่วนต่าง’ ตรงเข้าบัญชีชาวนา ไม่ผ่านมือใคร
หรือตอนเราช่วยผู้มีรายได้น้อย เราทำ ‘เช็คช่วยชาติ’ โอนตรงให้ผู้รับเงิน ไม่ต้องผ่านหน่วยราชการ
หรือแม้แต่เรียนฟรี เราโอนค่าชุดนักเรียนให้ผู้ปกครองไปซื้อเอง ไม่เปิดโอกาสให้มีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง
โครงการเหล่านี้มีข้อบกพร่องไม่ใช่ไม่มี แต่อย่างน้อยการรั่วไหลแทบไม่มีโอกาส เพราะเราจ่ายตรง ไม่ผ่านมือใคร
ยิ่งด้วยเทคโนโลยี ระบบพร้อมเพย์ของรัฐบาลเอง และการยืนยันตัวเองด้วยอีเลคโทรนิค (e-KYC) ผมไม่เห็นว่าทำไมเงินยังตัองผ่านมือข้าราชการมากถึงขนาดนี้
การปราบโกงมีเรื่องต้องทำหลายระดับ ขึ้นอยู่กับว่าเอาจริงแค่ไหน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_828863
“กรณ์” ลั่น! ‘ไม่มีนักการเมือง…ก็โกงได้’ ชี้ ‘น่ากลัวกว่า เพราะไร้ฝ่ายค้านตรวจสอบ’
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า ‘ไม่มีนักการเมือง’ ก็โกงได้ (และอาจจะน่ากลัวกว่า เพราะไม่มีฝ่ายค้านคอยจับผิด)
ผมเห็นว่าการช่วยเหลือประชาชนยังจำเป็น แต่จากนี้ไปเราต้องพยายามช่วยโดยตรง ไม่ให้ผ่านมือข้าราชการ ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าข้าราชการไม่ดีหมด แต่ในทุกวงการ เมื่อมีเงินผ่านมือ ‘คนกลาง’ เมื่อไร เป็นยุ่งทุกที
ที่บ้านผมจะโดนภรรยาดุเสมอทุกๆครั้งที่ผมวางเงินสดหรือกระเป๋าตังค์ไว้ที่โน่นที่นั่น ภรรยาผมจะพูดว่าเราไม่ควรไป ‘ยั่ว’ ให้เด็กที่บ้านต้องมีกิเลส เพราะโดยธรรมชาติคนส่วนใหญ่ไม่ขี้ขโมย แต่ทุกคนมีความอ่อนไหวและความต้องการ ดังนั้นอย่าไปเปิดช่องให้คนดีกลายเป็นโจร
แม้ในสมัยที่เราเป็นรัฐบาลเราพยายามใช้หลักการนี้มาตลอด เช่น การช่วยเหลือชาวนาเราใช้ ‘ประกันรายได้’ โอนเงิน ‘ส่วนต่าง’ ตรงเข้าบัญชีชาวนา ไม่ผ่านมือใคร
หรือตอนเราช่วยผู้มีรายได้น้อย เราทำ ‘เช็คช่วยชาติ’ โอนตรงให้ผู้รับเงิน ไม่ต้องผ่านหน่วยราชการ
หรือแม้แต่เรียนฟรี เราโอนค่าชุดนักเรียนให้ผู้ปกครองไปซื้อเอง ไม่เปิดโอกาสให้มีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง
โครงการเหล่านี้มีข้อบกพร่องไม่ใช่ไม่มี แต่อย่างน้อยการรั่วไหลแทบไม่มีโอกาส เพราะเราจ่ายตรง ไม่ผ่านมือใคร
ยิ่งด้วยเทคโนโลยี ระบบพร้อมเพย์ของรัฐบาลเอง และการยืนยันตัวเองด้วยอีเลคโทรนิค (e-KYC) ผมไม่เห็นว่าทำไมเงินยังตัองผ่านมือข้าราชการมากถึงขนาดนี้
การปราบโกงมีเรื่องต้องทำหลายระดับ ขึ้นอยู่กับว่าเอาจริงแค่ไหน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_828863