ถ้าไม่อ่านชอบใจ กรุณาออกไปนะคะ

ดิฉันไปขอเอกสารทางการเงินฉบับหนึ่งมา แต่เจ้าหน้าที่ทำผิด 3 รอบ ทุกรอบฉันเป็นผู้ตรวจสอบเจอความผิดพลาด เหนื่อยใจ
ดีที่ดิฉันตรวจทานเอกสารก่อนกลับบ้าน

ถ้าฉันเป็นคนไร้สติ ไม่ตรวจทานแล้วกลับไปแล้วใช้งานทั้งอย่างนั้น คงต้องเสียเวลาแก้ไขอีกมาก ทางฉันก็คงขาดความน่าเชื่อถือไปด้วย (อย่าคิดว่าความผิดพลาดเล็กน้อยมันไม่กระทบถึงเรื่องใหญ่) จริง ๆ แล้วเอกสารจากสถานบันการเงินระดับนี้ไม่ควรผิดพลาด


รบกวนช่วยเรียกสติแล้วเพิ่มความรอบคอบให้เจ้าหน้าที่หน่อยนะคะ

ไหน ๆ แล้วรบกวนฝากทุก ๆ ธนาคารด้วยค่ะ


ดิฉันแปะบทความ (ศาสตร์) แห่งความรอบคอบเอาไว้นะคะ

อะไรคือความรอบคอบ ?

ฟังดูแล้วเหมือนความยุ่งยาก วุ่นวาย เป็นนามธรรมของคนเป๊ะ

แต่หารู้ไม่ ว่าความรอบคอบที่แท้จริงนั้น ก็คือ “การเอาชนะนิสัยขี้เกียจ” นั่นเอง

รอบคอบ มักตรงข้ามกับคำว่า มักง่าย ใช่แล้วค่ะ นิสัยขี้เกียจก็คือความมักง่าย

ตัวอย่างเช่น การตรวจเช็กความถูกต้อง ตัวสะกดของเอกสารรอบ 2-3 ก่อนพิมพ์ หรือให้ลูกค้า (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารธนาคาร)
หลายครั้งที่ได้รับเอกสารจากธนาคารแบบผิด ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นองค์กรการเงินระดับประเทศ แต่จนท.ธนาคารบางส่วนก็มักไม่ทวนเอกสารก่อนมอบให้ลูกค้า ซึ่งสุดท้ายก็ผิดพลาด (ยิ่งถ้าเป็นเอกสารที่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แล้วก็อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมหลายครั้ง ทั้งเวลาและค่าเดินทาง)

ทุกคนรู้ว่าการตรวจเช็กรอบที่สอง ควรทำ นั่นคือความรอบคอบ แต่ไม่ทำ ต้องการความรวดเร็ว เอ่อ อาจจะชะล่าใจคิดว่าไม่ผิดหรอก (อันนี้เรียกว่ามักง่าย + ลำดับความสำคัญไม่เป็น) การตรวจเช็กแค่ตัวสะกด ความถูกต้องของตัวเลขใช้เวลาไม่ถึงนาที แต่ละเลย***

ผลสุดท้ายต้องแก้ไขหลายรอบ

ลูกค้าเสียความรู้สึก ธนาคารขาดความน่าเชื่อถือ เจ้าหน้าที่ทำงานมากขึ้น ลูกค้ารอคิวล้น

อะไรคือความไม่วุ่นวาย ไม่ยุ่งยาก นี่ไม่ใช่เหรอคือยุ่งยากและวุ่นวายที่แท้จริง

ความรอบคอบที่หลาย ๆ คนคิดว่าเป็นนิสัยของคนเจ้าระเบียบ
แต่จริง ๆ แล้วใคร ๆ ก็รอบคอบได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเจ้าระเบียบ ต้องเป็นคนเป๊ะทุกระเบียบนิ้ว

แค่ลำดับความสำคัญให้ถูกและเอาชนะความขี้เกียจสักไม่กี่นาทีมาตรวจทาน

ความรอบคอบมันก็คือความขี้เกียจดี ๆ นี่แหละ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรที่เพ้อเจ้อกันไปเองเลย
ถึงจะพูดอย่างนี้ แต่ทุกคนก็ยังขี้เกียจได้ แต่ก่อนอื่นต้องลำดับความสำคัญก่อน


ปล. คำว่า เช็ก ที่แปลว่าตรวจทาน สะกดถูกแล้ว