[CR] ฮอกไกโดก็จะไปซากุระก็จะดูขาปูยักษ์ก็จะกิน 6 วัน 5 คืนกับงบ 30,000 แบบมีทอน ออเจ้าว่ามันจะพอมั้ยมาดูกัน (1)

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ ภาพถ่ายทิวทัศน์ เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวญี่ปุ่น

กระทู้ที่สองมาแล้วนะคะ
https://pantip.com/topic/37470165

สวัสดีเพื่อนเพื่อนทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นะคะ
วันที่ 2-7 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา
เราได้มีโอกาสกลับไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นกับเพื่อนแฟนอีกครั้ง แต่คราวนี้มีเพื่อนเราตั้งแต่สมัยมัธยมไปด้วย
เบ็ดเสร็จทริปนี้ทั้งหมด 11 คน และพวกเราขอตั้งชื่อทริปนี้กันว่า "ทริปตีนแตก-ยับ" (ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพ)

และกระทู้นี้เป็นกระทู้เปิดเราจะขอเปิดด้วยการไปดูซากุระที่ Kawazu จังหวัด Shizuoka ในวันที่ 3 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา
(กระทู้นี้อาจไม่ได้ให้ข้อมูลที่ละเอียดด้านข้อมูลหรือความรู้ เน้นแชร์ภาพที่ไปถ่ายมาค่ะ ประเด็นคือเจ้าของกระทู้อธิบายไม่เก่ง แต่ถ้าใครอยากรู้ก็ลองหลังไมค์มาถามกันนะคะ)

ว่ากันด้วยเรื่องของ “ซากุระ” ที่ไม่ได้อยู่ในแผนของพวกเราตั้งแต่แรก และเพื่อนบอกเราในวันเดินทางวันแรก เรานี่ค้านในใจเลย ก็พวกเราจะไปฮอกไกโดซึ่งมีเวลาแค่ 5 วัน ก็น้อยอยู่แล้ว แล้วนี่จะไปดูซากุระที่ Kawazu ซึ่งต้องนั่งรถไฟออกจากโตเกียวไปเกือบ 3 ชั่วโมง กลับอีก 3 ชั่วโมง จะไปเหรอบ้าแล้วไม่มีทาง มันเหนื่อยนะเว้ย มันจะไม่ทันนะเว้ย ใครเค้าทำกัน

แต่ทันใดนั้น ตัดภาพกลับมาที่วันรุ่งขึ้น ซากุระ ซากุระ ซากุระ วนอยู่ในหัวอารมณ์เหมือนโดนสะกดจิต หันไปบอกแฟนว่าเค้าจะไปดูซากุระ นี่เกิดมายังไม่เคยเห็นเลย เคยเห็นแต่ชมพูพันธุ์ทิพย์ กับราชพฤกษ์ อยากจะไปดูกับเค้าบ้าง เลยเดินตามเพื่อนๆเอากระเป๋าไปเก็บที่สถานีโตเกียวอย่างไม่อิดออดและอารมณ์ดี แม่จ๋าวันนี้หนูจะได้ไปเห็นซากุระแล้ว

จากสถานีโตเกียวกับข้อมูลอันน้อยนิดที่เรามีอยู่กับเมืองนี้ ไกด์เถื่อน คือ ไบร์ท เพื่อนของแฟนเราก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวัง (คำว่าไกด์เถื่อนคือฉายาที่พวกเราตั้งให้นะคะ ไบร์ทไม่ใช่ไกด์) เพราะสามารถจัดการหาตั๋วให้พวกเราได้ไปชมซากุระอย่างสมหวัง แต่ทั้งนี้ก็ต้องยกความดีให้กับสาวญี่ปุ่น คือ ขิม เพื่อนของแฟนเราอีกคน (สาวญี่ปุ่นคือฉายาที่พวกเราตั้งให้ เพราะคนญี่ปุ่นทักตลอดว่าขิมคือคนญี่ปุ่น) ที่แนะแนวทางจุดไฟให้เกิดแรงบันดาลใจในการไปดูซากุระในครั้งนี้ และที่สำคัญการเดินทางในครั้งนี้ทั้งไปและกลับมันรวมอยู่ใน JR EAST-SOUTH HOKKAIDO RAIL PASS ไม่ต้องจ่ายเพิ่มก็ยิ่งฟินไปอีก และเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ถ้าไม่ได้ลองทำ (เค้าขอโทษนะคุณเพื่อนแฟน)

พวกเราพากันไปถึงชานชลาแบบงงและหิวโหย (คือพวกเราออกจากที่พักกันแต่เช้าตรู่ เพราะกลัวพลาดที่จะไปดูซากุระ แต่ในทางกลับกันวันนี้ช่วงบ่ายพวกเราต้องนั่งรถไฟตียาวจากโตเกียวขึ้นไปที่ Hakodate เวลาจึงสำคัญกับพวกเรามากๆ)

และแล้วรถไฟก็มาแบบเส้นยาแดงผ่าแปดคือมาถึงชานชลาปุ๊ปรถไฟมาปั๊ป ถ้าพลาดเที่ยวนี้ไปอีกที 10 โมงพวกเราต้องไม่ทันแน่แน่
สมาชิกทั้งหมด 11 คนก็พากันเดินขึ้นรถไฟแบบไม่รู้ชะตากรรมว่า พวกเค้าไม่ได้ Reserved Seat ซึ่งนั่นหมายความว่า พวกเค้าจะไม่มีที่นั่ง และต้องยืนไปเกือบ 3 ชั่วโมง ทั้งทั้งที่เมื่อคืนก็ถึงที่พักดึกวันนี้ตื่นเช้าข้าวยังไม่ได้กินและกรดไหลย้อนคงรออยู่ปลายทาง

คือแบบมันไม่มีที่นั่งจริงจริงๆตั้งแต่ต้นทาง อารมณ์เหมือนนั่งรถไฟไปหัวหินแล้วคนเยอะๆไม่มีที่นั่ง แบบต้องไปหลบตามทางเดินหรือห้องน้ำเพื่อทำให้ตัวเองมีที่ยืน หาอะไรทำฆ่าเวลาซึ่งมันไม่มีอะไรทำนอกจากมองหน้าคนญี่ปุ่นคนญี่ปุ่นมองหน้าเรา สบตากันไปมาถ้าหวั่นไหวอาจได้แฟนเพิ่ม แต่ตรงข้ามดันเป็นคุณป้าเลยไม่สามารถทำอะไรเราได้ 555

แต่เรื่องราวมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปขนาดนั้นเพราะวิวข้างทางมันสวยมาก คิดภาพตามนะนั่งรถไฟแล้ววิวเป็นทะเลอ่ะ มันฟินนะเว้ย บางจังหวะมันก็เห็นต้นซากุระต้นเล็กต้นน้อยเป็นระยะ มันเป็นเหมือนตัวล่อให้เราไม่เหนื่อยและเป็นสัญญาณว่าเนี่ยใกล้ถึงแล้วเนี่ย ใกล้ถึงจริงจริงแล้วนะ ใกล้ถึงจริง แต่จริงๆแล้วอีกชั่วโมงครึ่ง ฮาาาาา (ยืนไปก็ขำตัวเองไป)

และแล้วรถไฟก็พาพวกเรามาถึง Kawazu Station ด้วยพละกำลังขาที่ใช้ไปแล้ว 50% จาก 50% ที่มีอยู่ แต่ก็เอาเหอะ 3 ชั่วโมงทำอะไรเราไม่ได้หรอก 555 (สะกดจิตตัวเอง) และผู้คนทั้งโบกี้นั้นก็พากันลงที่นี่เกือบทั้งหมดเรียกได้ว่า คนเป็นมดกันเลยทีเดียว

เค้าว่ากันว่า เจ้าซากุระที่เมือง Kawazu จะบานช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-ต้นมีนาคม นี่ก็งงตัวเองเหมือนกันไม่คิดว่าจะได้มาเห็นซากุระในช่วงเวลานี้ แต่นี่ก็ได้เห็นจริงจริง นี่เราไม่ได้ฝันใช่มั้ย ใครก็ได้ตบหน้าที (เพี๊ยะ)

และที่สำคัญไปกว่านั้นดันมาตรงกับงานเทศกาลซากุระของเมือง Kawazu พอดี โอ๊ย โชคดีอะไรเยี่ยงนี้ มันเลยทำให้เราได้เจอ ของกินที่เป็นซากุระ คือเกือบทุกอย่างมันทำมาจากซากุระ ขนมซากุระ ซอฟท์ครีมซากุระ และมีอีกหลายอย่างที่เป็นซากุระ เรียกได้ว่าแค่ “ชิม” ก็อิ่มแล้ว

และที่สำคัญ ส้ม กับ สตอเบอรี่ ที่นี่อร่อยมาก ถูกมาก อยากซื้อกลับบ้านสัก 20 โล แต่โหลดกระเป๋ามาแค่ 20 โล ขามาก็ 18 โลแหละ และนี่เพิ่งวันแรกของการเดินทางขืนซื้อกลับไปมีหวังเน่าก่อนกลับ

พร่ำมาเยอะมาดูภาพซากุระกันเถอะพวกเรา