ขอออกตัวก่อนนะครับ ผมซื้อมาทำงานเอกสาร ไม่ได้เอามาเล่นเกมเลย
แล้วก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์แต่อย่างไร
ใช้ศัพท์คอมพิวเตอร์ผิดถูกไปก็ขออภัยด้วยนะครับ
แล้วที่อยากเล่าก็เพราะตอนก่อนซื้ออยากได้คำแนะนำจากผู้ใช้จริงแต่ก็หาอ่านไม่ได้เลย
เจอแต่รีวิวทั้งไทยทั้งเทศตามเว็บต่าง ๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเค้ารีวิวแบบแอบเชียร์ของที่กำลังรีวิวอยู่หรือป่าว
ถ้ากระทู้นี้พอจะเป็นประโยชน์บ้างก็ดีใจ ใครอ่านแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องพื้นๆ เสียเวลาอ่าน ก็ขอโทษด้วยละกันนะครับ
เรื่องของเรื่องก็คือ ใช้ Macbook Pro จอ retina ซือมาตอนปี 2013 ซึ่งก็ยังคงใช้ดีอยู่
เพียงแต่ช่วงนี้ต้องทำงานเอกสารประเภทที่ต้องเปิดทีละ 2-3 ไฟล์พร้อมๆ กัน ทำให้หงุดหงิดกับจอเล็กๆของ 13.3 นิ้วมาก
เลยคิดว่าต้องขยับขยายเป็น 15.6
ทำให้ต้องจัดเพิ่มอีกหนึ่งเครื่องเพื่อเอามาใช้งานเอกสาร (บวกท่องเว็บดูยูทูบ แต่ไม่เล่นเกมนะครับ)
ความที่คุ้นเคยกับ Macbook Pro เลยทำให้มีเกณฑ์บางอย่างในใจในการเลือกซื้อเครื่องใหม่นี้ โดยประมวลจากทั้งข้อดีข้อเสียของ Mac ที่ใช้อยู่
แล้วตัวแปรที่สำคัญก็คือเรื่องงบประมาณ คือ ให้ได้ประมาณ 3-4 หมื่นบาทเท่านั้น
บางคนอาจสงสัยว่าไปซื้อ gaming laptop มาใช้งานเอกสารจะเพี้ยนไปหน่อยหรือเปล่า
ก็ขอบอกว่า ถ้าลืมคำว่า gaming ซะ เครื่องนี้ spec ครบตามเกณฑ์ที่ผมวางไว้ทุกอย่างข้างล่างเลยนะครับ ขอบอก
เกณฑ์ที่ใช้เลือกซื้อก็มีข้อหลักๆ อย่างนี้ครับ คือ
-มี SSD เพราะติดใจที่ Macbook ผมมัน startup แค่ 10 วินาทีนิดๆ ถ้า sleep อยู่ ก็เปิดปุ๊บติดปั๊บเลย ปักใจแน่นอนว่า ชีวิตนี้ไม่มี SSD ไม่ได้อีกแล้ว
-นอกจากเร็วแล้ว ความจุต้องเยอะอีก เพราะอึดอัดกับ Macbook Pro ที่มี SSD แค่ 128 Gb มานานแล้ว แป๊บเดียวข้อมูลเต็ม ต้องย้ายเอกสารไป External อยู่เรื่อยๆ ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ ทีนี้จะให้ซื้อที่มี SSD ความจุสูงๆ ส่วนใหญ่ก็แพงเวอร์เกินงบทั้งนั้น ก็เลยมาลงตัวที่ Dual drive คือ SSD 128 กับ HDD 1 Tera อย่างนี้ลงตัวดีที่สุดแล้วทั้งความเร็วทั้งความจุ และงบประมาณ
-จอ FHD IPS ถึงจะแจ่มสู้จอ Retina ของ Mac ที่ใช้อยู่ไม่ได้ แต่ก็คมชัดเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ
(ส่วนพวกจอ 4K ไม่ต้องพูดถึงเกินงบทุกรุ่น และจอ HD เฉยๆ นั้น ก็ไม่ได้อยู่ในหัวเลย)
-แล้วก็ต้องเป็น IPS นะครับ เพราะยังจำสภาพสมัยก่อนโน้นที่พอขยับท่านั่งทีไร จอก็มัวลง ต้องปรับมุมจอใหม่เพื่อหามุมมองที่ชัดๆ ทุกทีไป
-คีย์บอร์ดตอบสนองดีเกือบใกล้เคียงกับ Macbook เพราะถ้าคีย์บอร์ดตอบสนองไม่ดี ผมจะพิมพ์งานช้า และพิมพ์ผิดบ่อยครั้ง (เรื่องคีย์บอร์ดตอบสนองดีนี้ต้องยกให้ Macbook เค้าเลยดีเดียว) ความจริงผมเลือกไว้อีกยี่ห้อนึง CPU เท่ากัน แถม spec อื่นดีกว่า Vostro เกือบทุกอย่าง ราคาก็ถูกกว่าอีก แต่พอไปลองใช้คีย์บอร์ดเทียบกับ Vostro ดู ก็รู้สึกว่าพิมพ์ได้ไม่คล่องเท่า Vostro 7570 นี้ก็ต้องยอมลืม spec เครื่องนั้นไป เพราะผมจะเอามาทำงานเอกสารเป็นหลัก
หลังจากแสวงหามาทุกยี่ห้อ ก็มาลงตัวที่ Dell Vostro 7570 i7 ทั้งในแง่ spec ที่รับได้ และงบประมาณที่โอเค (ความจริง i5 ก็ได้แล้ว ถูกสตางค์ เพราะผมไม่ได้ต้องการการ์ดจอแรงๆ เลย แต่มันดันไม่มี SSD ซะนี่ แล้ว RAM ก็ให้มาแค่ 4Gb เอง)
หลังจากไปจัดมาด้วยโปร 0% มาแล้ว ก็เอามาใช้งานเลย
ประสบการณ์ที่ใช้งานมาตั้งแต่วันแรก เรื่องที่ชอบกับไม่ชอบผมก็เขียนปนๆ ไปแล้วแต่คิดออกนะครับ คือ
-ตัวเลขน้ำหนัก 2.65 กก. ดูมันหนักจัง แต่ของจริงก็ไม่ได้หนักหนาอย่างที่กังวล แต่ก็ต้องถือสองมือนะ เพื่อความปลอดภัยเดี๋ยวหล่นเพราะหนักเกินมือเดียว หรือไม่ก็พับปิดแล้วถือมือเดียวแนบกับสะโพกเดินไปมา เวลาเอาสะพายหลังไปไหนก็หนักนิดๆ แต่ก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรง ไม่เหมือนที่กังวลไว้ก่อนซื้อ ตัวเครื่องก็บางพอควร กำลังจับต้องได้สบายมือ
-เรื่องแบตเตอรี่เป็นห่วงตั้งแต่ก่อนซื้อเพราะโดนขู่ไว้ว่า อยู่ได้ 2 ชม. แต่เอามาใช้งานแบบผม ไม่ได้เล่นเกมก็อยู่ได้ 4-6 ชม.เลยทีเดียว ก็ไม่ขี้เหร่นะ (แต่ถ้าดู Youtube หรือ video เต็มๆ ก็ดร็อปลงมาเหลือประมาณ 3 ชม. กว่าๆ)
- RAM 8 Gb ประหยัดเงินซื้ออีก 1500-1600 บาท แต่ก็ต้องเอาไปชดกับค่า Windows10 Home ส่วนนึง
--ควักเงินซื้อ Windows10 Home ไป 4,000 ปวดร้าวใจมาก เพราะอีกยี่ห้อที่เล็งไว้ตอนแรกมันแถมมากับเครื่องเลย
-รุ่นนี้มีพอร์ต VGA ต่อ projector ได้ ซึ่ง gaming laptop รุ่น Inspiron 15 อื่น ไม่มีนะ ตรงนี้ทำให้ Dell โฆษณารุ่นนี้ว่าเหมาะกับ professional คนทำงาน
-ตัวชาร์จไฟ ใหญ่อลังเกินไปหน่อยนะ
-สี Bali Blue นี้สวยถูกใจ แต่ก็ต้องหมั่นเช็ดฝาเครื่องหน่อยนะครับ เพราะมีคราบมันนิ้วมือให้เห็นตลอด ดูมีมลทินมากเลย
-Touchpad บางทีก็แปลก แตะคลิกทีเดียว จู่ๆ ก็กลายเป็นไปไฮไลต์ text เข้าทั้งบันทัดหรือมากกว่า พอกดแป้นพิมพ์อะไรอีกทีก็พิมพ์ตัวนั้นแล้ว delete text ที่ไฮไลต์ไว้หายไปเลย ยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไป
-Keyboard มีไฟสว่างสวยงาม แต่ปรับความสว่างได้ระดับเดียว (เคยชินกับ Macbook ที่ปรับได้หลายระดับ) แต่ก็โอเคครับ ไม่ถึงกับเดือดร้อนอะไร
-ที่เดือดร้อนคือ ขอบกับมุมตอนล่างของ Keyboard มันคมและมุมก็แหลมมาก เวลาพิมพ์ ผมเป็นประเภทที่วางมือแนบกับเครื่อง ทำให้ไปโดนขอบ โดยเฉพาะมุม มันทิ่มแขนอยู่เรื่อย เจ็บอยู่เหมือนกัน คงต้องไปหาอะไรมารองขอบกับมุม เวลาพิมพ์งาน
-อ้อ วันแรกที่ซื้อมาเกิดปัญหากับ headphones นิดหน่อย คือ พอฟัง headphone เสร็จถอดออก แล้วถ้ามาเสียบอีกที เสียงจะไม่ออกheadphone แต่ไปดังที่speakers ของเครื่องแทน ทำอีกหลายครั้งก็เหมือนเดิมคือไม่มีเสียงออกheadphone ต้อง Restart เครื่องถึงจะแก้ปัญหาได้ แต่พอเสียบเข้าถอดออก ก็เกิดอาการเดิมซ้ำๆอีก ตกใจนึกว่า ฮาร์ดแวร์มีปัญหา รีบเอาไปให้ที่ร้านดู ช่างเค้าคลำๆ อยู่พักนึงก็ download driver ของ Realtek อะไรมาซักอย่างปัญาก็หายไป หวิดกลายเป็นดรามาของแบรนด์ Dell ไปซะแล้ว
-ช่องเสียบแจ๊คheadphone อยู่ทางขวาค่อนมาทางขอบล่าง อาจจะเกะกะเวลาใช้เมาส์ แต่คนถนัดซ้ายคงชอบใจ
-หัวเสียบที่ชาร์จไฟ ที่เห็นเป็นลายๆ เพราะผมไปเอากระดาษมาพันปิดบังแสงไว้เอง คือ ที่หัวเสียบนี้เค้ามีไฟ LED เป็นวงรอบหัวเสียบสวยงามแต่สว่างเอาเรื่องในที่มึด บังเอิญผมก็ทำงานตอนกลางคืนปิดไฟมึดบ่อย ไฟมันเลยแยงตา ก็เลยเอากระดาษมาพันๆ ไว้
-เครื่องไม่ร้อนเลยภายใต้การใช้งานแบบผม แต่มีอยู่ครั้งนึงจู่ๆ ได้ยินเสียงพัดลมเป็นคร้งแรก ตอนแรกไม่รู้ว่าคืออะไร นึกว่าเปิดพัดลมไว้ มองไปที่พัดลมที่ตั้งอยู่ไกลๆ ก็เห็นปิดอยู่ (ก็เปิดแอร์อยู่แล้วนี่นา ไม่ต้องเปิดพัดลม) พอเงี่ยหูฟังอีกที เอ๊ะเหมือนมันดังจาก Vostro เราเอง เลยยกใต้เครื่องขี้นมาใกล้ๆ หูก็รู้แน่ว่าเป็นเสียงพัดลมเครื่องทำงานแน่นอน รีบปิดเครื่อง หงายท้องเครื่องขึ้นให้ระบายความร้อนได้ถนัดๆ แป๊บนึงแล้วเปิดใหม่ เสียงก็หายไป ทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม คือจะบอกว่าเสียงพัดลมมันดังกว่าที่คิดนะ
-กระเป๋า Dell ที่แถมมา ใช้งานดีมาก ชอบเลย
ถ้าให้สรุปความพึงพอใจนะขณะนี้ ก็ต้องบอกว่า พึงพอใจประมาณ 8/10 พาไปทำงานนอกสถานที่เช่นร้านกาแฟ ก็ไม่อายใคร
นั่งประมาณ 4 ชม. ก็ไม่เคยต้องควักที่ชาร์จออกมาใช้ (หมายเหตุ: แต่หลังๆ นี้ จับเวลาแล้วได้ประมาณ 2-3 ชม.)
ผมก็เขียนตามที่อยากเล่าประสบการณ์ใช้งานจริงของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้คิดจะเชียร์ใครหรือโจมตีใครนะครับ
ถ้าผิดพลาดพลั้งอะไรไปก็ขอโทษทุกฝ่ายนะครับ
มาเล่าความรู้สึกที่ใช้ Vostro 7570 มาแล้วสองอาทิตย์
ขอออกตัวก่อนนะครับ ผมซื้อมาทำงานเอกสาร ไม่ได้เอามาเล่นเกมเลย
แล้วก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์แต่อย่างไร
ใช้ศัพท์คอมพิวเตอร์ผิดถูกไปก็ขออภัยด้วยนะครับ
แล้วที่อยากเล่าก็เพราะตอนก่อนซื้ออยากได้คำแนะนำจากผู้ใช้จริงแต่ก็หาอ่านไม่ได้เลย
เจอแต่รีวิวทั้งไทยทั้งเทศตามเว็บต่าง ๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเค้ารีวิวแบบแอบเชียร์ของที่กำลังรีวิวอยู่หรือป่าว
ถ้ากระทู้นี้พอจะเป็นประโยชน์บ้างก็ดีใจ ใครอ่านแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องพื้นๆ เสียเวลาอ่าน ก็ขอโทษด้วยละกันนะครับ
เรื่องของเรื่องก็คือ ใช้ Macbook Pro จอ retina ซือมาตอนปี 2013 ซึ่งก็ยังคงใช้ดีอยู่
เพียงแต่ช่วงนี้ต้องทำงานเอกสารประเภทที่ต้องเปิดทีละ 2-3 ไฟล์พร้อมๆ กัน ทำให้หงุดหงิดกับจอเล็กๆของ 13.3 นิ้วมาก
เลยคิดว่าต้องขยับขยายเป็น 15.6
ทำให้ต้องจัดเพิ่มอีกหนึ่งเครื่องเพื่อเอามาใช้งานเอกสาร (บวกท่องเว็บดูยูทูบ แต่ไม่เล่นเกมนะครับ)
ความที่คุ้นเคยกับ Macbook Pro เลยทำให้มีเกณฑ์บางอย่างในใจในการเลือกซื้อเครื่องใหม่นี้ โดยประมวลจากทั้งข้อดีข้อเสียของ Mac ที่ใช้อยู่
แล้วตัวแปรที่สำคัญก็คือเรื่องงบประมาณ คือ ให้ได้ประมาณ 3-4 หมื่นบาทเท่านั้น
บางคนอาจสงสัยว่าไปซื้อ gaming laptop มาใช้งานเอกสารจะเพี้ยนไปหน่อยหรือเปล่า
ก็ขอบอกว่า ถ้าลืมคำว่า gaming ซะ เครื่องนี้ spec ครบตามเกณฑ์ที่ผมวางไว้ทุกอย่างข้างล่างเลยนะครับ ขอบอก
เกณฑ์ที่ใช้เลือกซื้อก็มีข้อหลักๆ อย่างนี้ครับ คือ
-มี SSD เพราะติดใจที่ Macbook ผมมัน startup แค่ 10 วินาทีนิดๆ ถ้า sleep อยู่ ก็เปิดปุ๊บติดปั๊บเลย ปักใจแน่นอนว่า ชีวิตนี้ไม่มี SSD ไม่ได้อีกแล้ว
-นอกจากเร็วแล้ว ความจุต้องเยอะอีก เพราะอึดอัดกับ Macbook Pro ที่มี SSD แค่ 128 Gb มานานแล้ว แป๊บเดียวข้อมูลเต็ม ต้องย้ายเอกสารไป External อยู่เรื่อยๆ ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ ทีนี้จะให้ซื้อที่มี SSD ความจุสูงๆ ส่วนใหญ่ก็แพงเวอร์เกินงบทั้งนั้น ก็เลยมาลงตัวที่ Dual drive คือ SSD 128 กับ HDD 1 Tera อย่างนี้ลงตัวดีที่สุดแล้วทั้งความเร็วทั้งความจุ และงบประมาณ
-จอ FHD IPS ถึงจะแจ่มสู้จอ Retina ของ Mac ที่ใช้อยู่ไม่ได้ แต่ก็คมชัดเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ
(ส่วนพวกจอ 4K ไม่ต้องพูดถึงเกินงบทุกรุ่น และจอ HD เฉยๆ นั้น ก็ไม่ได้อยู่ในหัวเลย)
-แล้วก็ต้องเป็น IPS นะครับ เพราะยังจำสภาพสมัยก่อนโน้นที่พอขยับท่านั่งทีไร จอก็มัวลง ต้องปรับมุมจอใหม่เพื่อหามุมมองที่ชัดๆ ทุกทีไป
-คีย์บอร์ดตอบสนองดีเกือบใกล้เคียงกับ Macbook เพราะถ้าคีย์บอร์ดตอบสนองไม่ดี ผมจะพิมพ์งานช้า และพิมพ์ผิดบ่อยครั้ง (เรื่องคีย์บอร์ดตอบสนองดีนี้ต้องยกให้ Macbook เค้าเลยดีเดียว) ความจริงผมเลือกไว้อีกยี่ห้อนึง CPU เท่ากัน แถม spec อื่นดีกว่า Vostro เกือบทุกอย่าง ราคาก็ถูกกว่าอีก แต่พอไปลองใช้คีย์บอร์ดเทียบกับ Vostro ดู ก็รู้สึกว่าพิมพ์ได้ไม่คล่องเท่า Vostro 7570 นี้ก็ต้องยอมลืม spec เครื่องนั้นไป เพราะผมจะเอามาทำงานเอกสารเป็นหลัก
หลังจากแสวงหามาทุกยี่ห้อ ก็มาลงตัวที่ Dell Vostro 7570 i7 ทั้งในแง่ spec ที่รับได้ และงบประมาณที่โอเค (ความจริง i5 ก็ได้แล้ว ถูกสตางค์ เพราะผมไม่ได้ต้องการการ์ดจอแรงๆ เลย แต่มันดันไม่มี SSD ซะนี่ แล้ว RAM ก็ให้มาแค่ 4Gb เอง)
หลังจากไปจัดมาด้วยโปร 0% มาแล้ว ก็เอามาใช้งานเลย
ประสบการณ์ที่ใช้งานมาตั้งแต่วันแรก เรื่องที่ชอบกับไม่ชอบผมก็เขียนปนๆ ไปแล้วแต่คิดออกนะครับ คือ
-ตัวเลขน้ำหนัก 2.65 กก. ดูมันหนักจัง แต่ของจริงก็ไม่ได้หนักหนาอย่างที่กังวล แต่ก็ต้องถือสองมือนะ เพื่อความปลอดภัยเดี๋ยวหล่นเพราะหนักเกินมือเดียว หรือไม่ก็พับปิดแล้วถือมือเดียวแนบกับสะโพกเดินไปมา เวลาเอาสะพายหลังไปไหนก็หนักนิดๆ แต่ก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรง ไม่เหมือนที่กังวลไว้ก่อนซื้อ ตัวเครื่องก็บางพอควร กำลังจับต้องได้สบายมือ
-เรื่องแบตเตอรี่เป็นห่วงตั้งแต่ก่อนซื้อเพราะโดนขู่ไว้ว่า อยู่ได้ 2 ชม. แต่เอามาใช้งานแบบผม ไม่ได้เล่นเกมก็อยู่ได้ 4-6 ชม.เลยทีเดียว ก็ไม่ขี้เหร่นะ (แต่ถ้าดู Youtube หรือ video เต็มๆ ก็ดร็อปลงมาเหลือประมาณ 3 ชม. กว่าๆ)
- RAM 8 Gb ประหยัดเงินซื้ออีก 1500-1600 บาท แต่ก็ต้องเอาไปชดกับค่า Windows10 Home ส่วนนึง
--ควักเงินซื้อ Windows10 Home ไป 4,000 ปวดร้าวใจมาก เพราะอีกยี่ห้อที่เล็งไว้ตอนแรกมันแถมมากับเครื่องเลย
-รุ่นนี้มีพอร์ต VGA ต่อ projector ได้ ซึ่ง gaming laptop รุ่น Inspiron 15 อื่น ไม่มีนะ ตรงนี้ทำให้ Dell โฆษณารุ่นนี้ว่าเหมาะกับ professional คนทำงาน
-ตัวชาร์จไฟ ใหญ่อลังเกินไปหน่อยนะ
-สี Bali Blue นี้สวยถูกใจ แต่ก็ต้องหมั่นเช็ดฝาเครื่องหน่อยนะครับ เพราะมีคราบมันนิ้วมือให้เห็นตลอด ดูมีมลทินมากเลย
-Touchpad บางทีก็แปลก แตะคลิกทีเดียว จู่ๆ ก็กลายเป็นไปไฮไลต์ text เข้าทั้งบันทัดหรือมากกว่า พอกดแป้นพิมพ์อะไรอีกทีก็พิมพ์ตัวนั้นแล้ว delete text ที่ไฮไลต์ไว้หายไปเลย ยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไป
-Keyboard มีไฟสว่างสวยงาม แต่ปรับความสว่างได้ระดับเดียว (เคยชินกับ Macbook ที่ปรับได้หลายระดับ) แต่ก็โอเคครับ ไม่ถึงกับเดือดร้อนอะไร
-ที่เดือดร้อนคือ ขอบกับมุมตอนล่างของ Keyboard มันคมและมุมก็แหลมมาก เวลาพิมพ์ ผมเป็นประเภทที่วางมือแนบกับเครื่อง ทำให้ไปโดนขอบ โดยเฉพาะมุม มันทิ่มแขนอยู่เรื่อย เจ็บอยู่เหมือนกัน คงต้องไปหาอะไรมารองขอบกับมุม เวลาพิมพ์งาน
-อ้อ วันแรกที่ซื้อมาเกิดปัญหากับ headphones นิดหน่อย คือ พอฟัง headphone เสร็จถอดออก แล้วถ้ามาเสียบอีกที เสียงจะไม่ออกheadphone แต่ไปดังที่speakers ของเครื่องแทน ทำอีกหลายครั้งก็เหมือนเดิมคือไม่มีเสียงออกheadphone ต้อง Restart เครื่องถึงจะแก้ปัญหาได้ แต่พอเสียบเข้าถอดออก ก็เกิดอาการเดิมซ้ำๆอีก ตกใจนึกว่า ฮาร์ดแวร์มีปัญหา รีบเอาไปให้ที่ร้านดู ช่างเค้าคลำๆ อยู่พักนึงก็ download driver ของ Realtek อะไรมาซักอย่างปัญาก็หายไป หวิดกลายเป็นดรามาของแบรนด์ Dell ไปซะแล้ว
-ช่องเสียบแจ๊คheadphone อยู่ทางขวาค่อนมาทางขอบล่าง อาจจะเกะกะเวลาใช้เมาส์ แต่คนถนัดซ้ายคงชอบใจ
-หัวเสียบที่ชาร์จไฟ ที่เห็นเป็นลายๆ เพราะผมไปเอากระดาษมาพันปิดบังแสงไว้เอง คือ ที่หัวเสียบนี้เค้ามีไฟ LED เป็นวงรอบหัวเสียบสวยงามแต่สว่างเอาเรื่องในที่มึด บังเอิญผมก็ทำงานตอนกลางคืนปิดไฟมึดบ่อย ไฟมันเลยแยงตา ก็เลยเอากระดาษมาพันๆ ไว้
-เครื่องไม่ร้อนเลยภายใต้การใช้งานแบบผม แต่มีอยู่ครั้งนึงจู่ๆ ได้ยินเสียงพัดลมเป็นคร้งแรก ตอนแรกไม่รู้ว่าคืออะไร นึกว่าเปิดพัดลมไว้ มองไปที่พัดลมที่ตั้งอยู่ไกลๆ ก็เห็นปิดอยู่ (ก็เปิดแอร์อยู่แล้วนี่นา ไม่ต้องเปิดพัดลม) พอเงี่ยหูฟังอีกที เอ๊ะเหมือนมันดังจาก Vostro เราเอง เลยยกใต้เครื่องขี้นมาใกล้ๆ หูก็รู้แน่ว่าเป็นเสียงพัดลมเครื่องทำงานแน่นอน รีบปิดเครื่อง หงายท้องเครื่องขึ้นให้ระบายความร้อนได้ถนัดๆ แป๊บนึงแล้วเปิดใหม่ เสียงก็หายไป ทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม คือจะบอกว่าเสียงพัดลมมันดังกว่าที่คิดนะ
-กระเป๋า Dell ที่แถมมา ใช้งานดีมาก ชอบเลย
ถ้าให้สรุปความพึงพอใจนะขณะนี้ ก็ต้องบอกว่า พึงพอใจประมาณ 8/10 พาไปทำงานนอกสถานที่เช่นร้านกาแฟ ก็ไม่อายใคร
นั่งประมาณ 4 ชม. ก็ไม่เคยต้องควักที่ชาร์จออกมาใช้ (หมายเหตุ: แต่หลังๆ นี้ จับเวลาแล้วได้ประมาณ 2-3 ชม.)
ผมก็เขียนตามที่อยากเล่าประสบการณ์ใช้งานจริงของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้คิดจะเชียร์ใครหรือโจมตีใครนะครับ
ถ้าผิดพลาดพลั้งอะไรไปก็ขอโทษทุกฝ่ายนะครับ