สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวสั้นๆก่อนนะคะ ชื่อส้ม ไป Work and Holiday Australia มาตอน ต.ค 2015 - 2016 ซึ่งก็ผ่านมาแล้วเกือบ2ปีแต่ส้มพึ่งตัดสินใจเขียนBlogแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินจจะไป หรือ ไปแล้วอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหางาน ซึ่งBlogแรกของส้มนั้นก็ตั้งใจจะมาแชร์งานที่ส้มได้ทำระหว่างอยู่ที่ Sydney มา 1 ปี (ใช่ค่ะ ส้มไม่ได้เปลี่ยนเมืองเลย) แต่ก่อนอื่นขอฝาก Video Highlight ทั้งปีของส้มหน่อยนะคะ
แล้วก็ฝากติดตามเพจ "เที่ยวไปกับส้ม" ได้ที่ www.facebook.com/travelwithorange
เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ อาทิตย์แรกเมื่อไปถึงก็เปิดBank สมัคร TFN (Tax File Number) ทุกคนที่ทำงานถูกต้องตามกฎหมายที่นี่จะต้องมี และ ABN (Australia Business Number)สำหรับธุรกิจส่วนตัวซึ่งมันจะเกี่ยวกับงานแรกของส้มเพราะต้องมี งั้นมาเริ่มต้นกันเลยกับงานแรกของส้มเลยค่ะ
1. Massage Therapist (หมอนวดนั้นเอง)
พอดีส้มพอรู้ว่านวดได้เงินดีก็เลยเรียนจากที่ไทย 1 เดือนเพื่อเอาใบประกาศ ส้มเลือกเรียนที่ Siam holistic Academy เพราะใกล้บ้านและราคาไม่แพงมาก แถมได้ใบประกาศรับรองจากสมาคมแพทย์แผนไทยด้วย พอไปถึงก็หางานตามเว็บ ซึ่งหลักๆก็มี gumtree.com กับ natui.com ที่ส้มใช้ ก็สมัครไป 2-3 ร้านแล้วก็ได้รับโทรศัท์เลยให้ไปทดสอบมือ บวกกับพอดีมีรุ่นพี่ที่รู้จักทำงานเป็นพนักงานต้อนรับร้านนวดอยู่พอดีแกเลยแนะนำร้านให้อีกร้านนึง ปรากฎว่าได้งานทั้งสองที่ (งานนวดถือว่าhotมากที่นู้น ร้านนวดเยอะมาก ถ้าอยากหางานง่ายแนะนำให้เรียนไปเลยค่ะ) แต่ส้มเลือกร้านที่รุ่นพี่แนะนำเพราะใหญ่กว่า สวยกว่า อยู่ในAreaที่คนรวยอยู่เยอะ(กะว่าคงได้ทิปเยอะ) ทำได้เดือนครึ่งก็ออกเพราะหลายๆเหตุผล เจ้านายส้มเป็นคนจีนแล้วแกไม่จ่ายเงินให้เพราะอ้างว่าเรายังไม่มีเลข ABN (ตอนนั้นสมัตรตั้งแต่ไปถึงแต่มันต้องรอเวลาapproveประมาณ 2 อาทิตย์ - 1 เดือน) แต่สุดท้ายก็มีปัญหาอีกเพราะไม่ได้เลข ABN เนื่องจากส้มสมัครเองไม่ได้จ้างเอเจ้นเลยอาจจะตอบคำถามผิดไปตอนเค้าโทรมาเช็คกับเรา เพราะงานนวดเค้าถือว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจ เราสามารถไปนวดได้หลายร้าน ซึ่งถ้าใครจะทำนวดส้มก็แนะนำให้ทำอย่างน้อย 2 ร้าน จะดีกว่า ลูกค้าจะได้คิดถึงเรา แล้วก็เผื่อร้านใดร้านนึงมีปัญหา เราจะได้มีที่สำรอง แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ไม่อยากทำแล้ว คือนวดนี่จะได้อยู่ประมาณ $25-$35 ต่อชม.แล้วแต่ร้าน แล้วแต่ประสบการณ์ ไอ้เราก็คิดไว้เลยวันนึงทำสัก 5 ชม. ก็โอเคละ แต่ความเป็นจริงคือเราต้องนั่งเฝ้านร้านทั้งวันรอลูกค้า(10-12ชม.) วันไหนลูกค้าเข้าเยอะก็ได้นวดเยอะ วันไหนน้อยก็ไม่ได้ตังก็มี ซึ่งบางร้านเค้าจะมีการันตีมือให้ (ถ้าไม่มีลูกค้าเลยจะได้วันละ $100 หรือแล้วแต่ตกลง) ควรถามเจ้านายก่อนเริ่มด้วยนะคะว่ามีการันตีมือรึเปล่า ส่วนตัวส้มที่ทำมากับร้านนี้ซึ่งก็ดังระดับนึง เงินก็พอโอเค แต่ตัวเราคิดว่าไม่ไหว วันที่ร้านยุ่งนวดติดกัน 7 คน นี่สภาพร่างกายเราไม่ได้เลย มันใช้แรงเยอะเหมือนกัน แถมเมื่อยมาก จะไปนวดก็ไม่ได้เพราะที่นั้นค่านวดแพงมาก (นวดไทยประมาณ $60-$80) แต่ที่ตัดสินใจเลิกทำจริงๆนอกจากไม่ได้ตังมาเป็นเดือนแล้ว ส้มเจอลูกค้าคนนึงที่ไม่สุภาพกับส้มในห้อง คือเค้าก็ไม่ได้อะไรมาก แค่สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองตอนเรานวด คือเราไม่ได้นวดวาบหวิวเลยนะ แต่

เสร็จเองซะงั้น(ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพนะคะแต่มันสุดจะบรรยาย) ส้มก็ไปแจ้ง Manager แต่นางก็ไม่ได้ช่วยอะไร ที่โมโหที่สุดคือสัปดาห์ถัดมามันมานวดอีกแล้ว Manager ก็ส่งมาให้เรานวดอีกทั้งๆที่รู้ว่าเค้าทำอะไรครั้งที่แล้ว ส้มไม่โอเคมากๆ ก็เลยขอจบกับอาชีพนี้ พอเราได้ตังที่ทวงยิกๆๆๆเกือบทุกวันปั๊บ ก็ขอออกปุ๊บเลยค่ะ
เพื่อนร่วมงานน่ารักมากๆ ทำอาหารมาทานด้วยกันทุกเช้าเลย

พอทำได้เดือนครึ่งช่วงนั้นใกล้ปีใหม่แล้วส้มก็เลยตัดสินใจขอพักจากงานไปเที่ยวเล็กน้อย สถานที่ใกล้ๆ จริงๆช่วงนี้ถ้าหางานกำลังเป็นช่วงพีคเลย แล้วถ้ายิ่งทำช่วงปีใหม่ด้วยเงินดีมากๆ แต่ส้มไม่อยากพลาด countdown ที่เป็นจุดที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Harbor Bridge คิดดูว่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกบินมาเพื่อการนี้ ส้มก็ไม่อยากพลาดเช่นกัน ไม่รู้จะได้มาออสอีกทีเมื่อไหร่ "You only live once" และก็ไม่ผิดหวังเลย มันสวยมากๆๆ ยิ่งใหญ่มากๆๆ ใครที่อยู่ Sydney ช่วงปีใหม่ไม่อยากให้พลาดนะคะ

2. Juicer (พนักงานขายน้ำผลไม้)
หลังจากพักเหนื่อยไป 2-3 อาทิตย์ เนื่องจากว่าที่ไทยส้มเคยเปิดร้านผลไม้ปั่นแล้วเพื่อนสนิทส้มที่ทำงานอยู่ร้านsandwichบอกว่าเจ้าของสนใจทำร้านน้ำปั่นเพิ่ม ก็เลยแนะนำส้มให้รู้จัก ไอ้เราก็ตื่นเต้นเพราะจะได้ทำงานที่เดียวกับเพื่อน แล้วแถมอยู่ใน CBD ด้วย ตอนที่คุยกันไว้เจ้านายบอกว่า $18 cash เราก็โอเคมาก พอไปถึง นางก็ถามว่าทำไรเป็นบ้าง คือเค้ากำลังเซตอัพใหม่หมดเลย มีแต่เครื่องสกัดน้ำผลไม้กับผลไม้เตรียมไว้ให้ส้มเท่านั้น นางบอกว่าไหนลองคิดเมนูมาให้หน่อยสัก 4-5เมนู แล้วก็ปลอกผลไม้โชว์ตู้หน้าร้านเลยนะ เราก็ ห๊ะ! คือแอบงง แต่ก็เริ่มปลอกผลไม้ตามSkillsที่เรามี วางโชว์หน้าตู้ตามใจฉันเลย แล้วก็ลองคิดเมนูแล้วปั่นให้เจ้านายชิม นางบอกโอเค ขายเท่าไหร่ดี เราก็หือ? ไม่รู้ราคาที่นี่เลย นางก็บอกว่างั้นขายไปก่อน $6 คือตึกนี้เป็นตึกofficeที่พอพักเที่ยงพนักงานทุกคนก็จะลงมากินเข้าที่ Food court ปรากฎว่าไม่มีใครมาสั่งน้ำเลยจ้าาา ส้มขายไปได้แค่แก้วเดียว ตอนแรกนางให้ทำถึงบ่าย3 พอบ่ายโมงนางเรียกมาคุยบอกว่าเก็บของเลยนะเสร็จแล้วมารับตัง ส้มก็ ok ok พอไปรับตังนางบอกว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้วนะ ฉันจะไม่ขายละ เราก็รับตัง ขอบคุณ แล้วก็เดินงงๆกลับบ้านไป คือก็แอบสงสารแต่ก็งงว่าทำไมจะเปิดร้านทั้งทีไม่ลงทุนอะไรเลย หรือถ้าแค่จะลองๆดูไม่เสียดายตังค่าเครื่องหรอ คืองงมาก และ job 2 ของส้มก็จบลงไปใน 1 วัน ขำๆ 555+
บรรยากาศร้านค่ะ ร้านใหญ่มาก

มีป้าย Fresh Juice เล็กๆตั้งอยู่

เพื่อนยุ่งใหญ่เลย คือร้านแซนด์วิชเค้าขายดีนะ

หลังจากนั้นก็หางานสักพักแต่หาไม่ได้ และจากเงินเดือนงานแรกที่ได้มายังพอเหลือ ซึ่งส้มก็ตั้งใจมาหาประสบการณ์ชีวิต มาเที่ยว มาหาสามี เอ้ย! มาหาเพื่อนใหม่ อิอิ ไม่ได้ทำงานเก็บตังอย่างเดียว กะว่าทำงานได้เท่าไหร่ก็จะเที่ยวเท่านั้น บวกกับเป็นคนชอบดำน้ำมากกกก็เลยขอขึ้นไปดำน้ำที่ Cairns ซะหน่อย อิอิ
3. Sales Cosmetics พนักงานขายตามห้าง
เมื่อไปดำดูปลาจนหมดตัง ก็มาเจองานที่ 3นี้ และอีกเคย ตอนอยู่ไทยเคยทำSalesและบ้านส้มค้าขายก็เลยพอมีประสบการณ์ ภาษาก็พอได้ เคยอ่านเจอว่าทำงานตามห้างได้เงินดีก็เลยหาสมัคร ตอนแรกก็ยื่นสมัครเค้าเตอร์แบรนด์ไปแต่ได้ยากมากๆ ส่วนมากเค้าจะไม่เอาคนถือวีซ่าอย่างเรา บังเอิญไปเจอแอดนึง เป็นแบรนด์ออร์แกนิค ก็ลองสมัครดู โดนเรียกสัมภาษณ์ แล้วเจ้านายก็ให้คู่มือมาท่องประมาณ 10 หน้า บอกว่าอีก 3 วันเจอกัน เราก็ท่องๆๆๆเหมือนเตรียมสอบเอนทรานซ์ พอถึงวันที่3เค้าก็เรียกไปแล้วก็ให้เริ่มทำงานเลย ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่เพราะไปสมัครเสริฟร้านอาหารไทยไว้ ได้เหมือนกัน แต่ถึงเวลาตัดสินใจเราคิดว่าsalesน่าจะต่อยอดให้เราได้มากกว่าเวลากลับไทย ทั้งๆที่เงินก็ไม่ได้ดีมาก คืองานนี้เค้าบอกว่าไม่มีเงินเดือนให้ แต่จะได้เป็นค่าคอมมิชชั่น 20-30%แล้วแต่ยอดขาย โดยที่ 1 เดือนแรกถ้าเราทำไม่ถึงยอดเค้าจะการันตีให้อาทิตย์ละ $500 ซึ่งก็พอถูไถ พอเริ่มทำจริงมันก็ถ้าทายมาก มันเป็นแบรนด์ที่เป็นKios ตั้งอยู่ตามห้างดังอย่างwestfield และต้อง Hard sale มากๆ การขายของเค้าเหมือนท่องบท ต้องชวนลูกค้ามาทดลองporducts ต้องพูดอย่างนี้ๆๆๆ ลดราคาให้ได้ตามเสต็ป ซึ่งถ้าใครเกิดมาเพื่อการขายมันง่ายมากๆๆ คือส้มเป็นคนไม่ชอบจี้ลูกค้า คิดว่าถ้าสินค้าดีเดี๋ยวลูกค้าก็ซื้อเอง แต่สโลแกนของแบรนด์นี้กัดไม่ปล่อยจริงๆ ครีมที่ถูกสุดของร้านที่ขายอยู่กระปุกละ $150 โอ้แม่เจ้า แพงสุดนี้กระปุกละ $2000 ส้มก็สู้นะ พยายามเต็มที่ แล้วเราก็เรียนรู้หลายๆอย่าง พอผ่านไปเดือนนึง วีคแรกเราขายได้น้อย ทั้งวีคได้แค่ $200 ซึ่งมันไม่พอ คืองานเซลล์มันไม่แน่นอน ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่มีเงินกินข้าวแน่ๆ อ้อ!ลืมบอกไปว่าส้มต้องโดนย้าที่ทุกวัน เค้าจะไม่ให้ประจำสาขาใดสาขาหนึ่งซึ่งถ้าวันไหนโดนไปไกลๆก็ต้องตื่นแต่เช้าและเสียค่ารถกันบานนนนเลยทีเดียว ถ้ามีเวลาซะหน่อยก็อาจจะเก่งขึ้น ส้มคิดว่างานนี้มันต้องใช้เวลาและประสบการณ์และความด้านนิสนึง หลังจากเดือนครึ่งก็เลยขอบายยยย

4. Event cordinator for Exchanged money company
งานนี้ชื่อดูหรูหรามาก พอดีไปเจอในFacebook ตามกรุ๊ปหางานเลยลองโทรไป งานนี้ดีมากๆ เป็น Event แต่ทำแค่ week เดียว เป็นบริษัทแลกเปลี่ยนเงินที่จะมาเปิดตัวที่ซิดนีย์ครั้งแรก เงินดีมากๆ อยู่ที่ชม.ละ $21 วันเสาร์ได้เพิ่มอีก 1.5เท่า และวันอาทิตย์อีก 2 เท่า (กฎหมายที่นี่จะเป็นอย่างนี้ เพราะวันอาทิตย์เค้าจะถือว่าเป็นวันหยุด ถ้าใครทำงานจะต้องได้เพิ่ม) หน้าที่ก็แค่แจกใบปลิว ยิ้มแย้ม ชวนลูกค้ามา Sign up ให้สมัครสมาชิก และแนะนำตัวบริษัทว่าเราคือใคร ทำอะไร คือง่ายมากๆและถนัดมากกกก อยากจะทำถึงหมดวีซ่าแต่ทำได้อาทิตย์เดียว รับเช็คงามๆ แล้วก็จากไป ><
เดี๋ยวมาต่อกันอีก 2 งาน สุดท้ายนะคะ
Work&Holiday visa Australia 1 ปี กับ 6 งาน
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวสั้นๆก่อนนะคะ ชื่อส้ม ไป Work and Holiday Australia มาตอน ต.ค 2015 - 2016 ซึ่งก็ผ่านมาแล้วเกือบ2ปีแต่ส้มพึ่งตัดสินใจเขียนBlogแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินจจะไป หรือ ไปแล้วอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหางาน ซึ่งBlogแรกของส้มนั้นก็ตั้งใจจะมาแชร์งานที่ส้มได้ทำระหว่างอยู่ที่ Sydney มา 1 ปี (ใช่ค่ะ ส้มไม่ได้เปลี่ยนเมืองเลย) แต่ก่อนอื่นขอฝาก Video Highlight ทั้งปีของส้มหน่อยนะคะ
แล้วก็ฝากติดตามเพจ "เที่ยวไปกับส้ม" ได้ที่ www.facebook.com/travelwithorange
เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ อาทิตย์แรกเมื่อไปถึงก็เปิดBank สมัคร TFN (Tax File Number) ทุกคนที่ทำงานถูกต้องตามกฎหมายที่นี่จะต้องมี และ ABN (Australia Business Number)สำหรับธุรกิจส่วนตัวซึ่งมันจะเกี่ยวกับงานแรกของส้มเพราะต้องมี งั้นมาเริ่มต้นกันเลยกับงานแรกของส้มเลยค่ะ
1. Massage Therapist (หมอนวดนั้นเอง)
พอดีส้มพอรู้ว่านวดได้เงินดีก็เลยเรียนจากที่ไทย 1 เดือนเพื่อเอาใบประกาศ ส้มเลือกเรียนที่ Siam holistic Academy เพราะใกล้บ้านและราคาไม่แพงมาก แถมได้ใบประกาศรับรองจากสมาคมแพทย์แผนไทยด้วย พอไปถึงก็หางานตามเว็บ ซึ่งหลักๆก็มี gumtree.com กับ natui.com ที่ส้มใช้ ก็สมัครไป 2-3 ร้านแล้วก็ได้รับโทรศัท์เลยให้ไปทดสอบมือ บวกกับพอดีมีรุ่นพี่ที่รู้จักทำงานเป็นพนักงานต้อนรับร้านนวดอยู่พอดีแกเลยแนะนำร้านให้อีกร้านนึง ปรากฎว่าได้งานทั้งสองที่ (งานนวดถือว่าhotมากที่นู้น ร้านนวดเยอะมาก ถ้าอยากหางานง่ายแนะนำให้เรียนไปเลยค่ะ) แต่ส้มเลือกร้านที่รุ่นพี่แนะนำเพราะใหญ่กว่า สวยกว่า อยู่ในAreaที่คนรวยอยู่เยอะ(กะว่าคงได้ทิปเยอะ) ทำได้เดือนครึ่งก็ออกเพราะหลายๆเหตุผล เจ้านายส้มเป็นคนจีนแล้วแกไม่จ่ายเงินให้เพราะอ้างว่าเรายังไม่มีเลข ABN (ตอนนั้นสมัตรตั้งแต่ไปถึงแต่มันต้องรอเวลาapproveประมาณ 2 อาทิตย์ - 1 เดือน) แต่สุดท้ายก็มีปัญหาอีกเพราะไม่ได้เลข ABN เนื่องจากส้มสมัครเองไม่ได้จ้างเอเจ้นเลยอาจจะตอบคำถามผิดไปตอนเค้าโทรมาเช็คกับเรา เพราะงานนวดเค้าถือว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจ เราสามารถไปนวดได้หลายร้าน ซึ่งถ้าใครจะทำนวดส้มก็แนะนำให้ทำอย่างน้อย 2 ร้าน จะดีกว่า ลูกค้าจะได้คิดถึงเรา แล้วก็เผื่อร้านใดร้านนึงมีปัญหา เราจะได้มีที่สำรอง แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ไม่อยากทำแล้ว คือนวดนี่จะได้อยู่ประมาณ $25-$35 ต่อชม.แล้วแต่ร้าน แล้วแต่ประสบการณ์ ไอ้เราก็คิดไว้เลยวันนึงทำสัก 5 ชม. ก็โอเคละ แต่ความเป็นจริงคือเราต้องนั่งเฝ้านร้านทั้งวันรอลูกค้า(10-12ชม.) วันไหนลูกค้าเข้าเยอะก็ได้นวดเยอะ วันไหนน้อยก็ไม่ได้ตังก็มี ซึ่งบางร้านเค้าจะมีการันตีมือให้ (ถ้าไม่มีลูกค้าเลยจะได้วันละ $100 หรือแล้วแต่ตกลง) ควรถามเจ้านายก่อนเริ่มด้วยนะคะว่ามีการันตีมือรึเปล่า ส่วนตัวส้มที่ทำมากับร้านนี้ซึ่งก็ดังระดับนึง เงินก็พอโอเค แต่ตัวเราคิดว่าไม่ไหว วันที่ร้านยุ่งนวดติดกัน 7 คน นี่สภาพร่างกายเราไม่ได้เลย มันใช้แรงเยอะเหมือนกัน แถมเมื่อยมาก จะไปนวดก็ไม่ได้เพราะที่นั้นค่านวดแพงมาก (นวดไทยประมาณ $60-$80) แต่ที่ตัดสินใจเลิกทำจริงๆนอกจากไม่ได้ตังมาเป็นเดือนแล้ว ส้มเจอลูกค้าคนนึงที่ไม่สุภาพกับส้มในห้อง คือเค้าก็ไม่ได้อะไรมาก แค่สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองตอนเรานวด คือเราไม่ได้นวดวาบหวิวเลยนะ แต่
เพื่อนร่วมงานน่ารักมากๆ ทำอาหารมาทานด้วยกันทุกเช้าเลย
หลังจากพักเหนื่อยไป 2-3 อาทิตย์ เนื่องจากว่าที่ไทยส้มเคยเปิดร้านผลไม้ปั่นแล้วเพื่อนสนิทส้มที่ทำงานอยู่ร้านsandwichบอกว่าเจ้าของสนใจทำร้านน้ำปั่นเพิ่ม ก็เลยแนะนำส้มให้รู้จัก ไอ้เราก็ตื่นเต้นเพราะจะได้ทำงานที่เดียวกับเพื่อน แล้วแถมอยู่ใน CBD ด้วย ตอนที่คุยกันไว้เจ้านายบอกว่า $18 cash เราก็โอเคมาก พอไปถึง นางก็ถามว่าทำไรเป็นบ้าง คือเค้ากำลังเซตอัพใหม่หมดเลย มีแต่เครื่องสกัดน้ำผลไม้กับผลไม้เตรียมไว้ให้ส้มเท่านั้น นางบอกว่าไหนลองคิดเมนูมาให้หน่อยสัก 4-5เมนู แล้วก็ปลอกผลไม้โชว์ตู้หน้าร้านเลยนะ เราก็ ห๊ะ! คือแอบงง แต่ก็เริ่มปลอกผลไม้ตามSkillsที่เรามี วางโชว์หน้าตู้ตามใจฉันเลย แล้วก็ลองคิดเมนูแล้วปั่นให้เจ้านายชิม นางบอกโอเค ขายเท่าไหร่ดี เราก็หือ? ไม่รู้ราคาที่นี่เลย นางก็บอกว่างั้นขายไปก่อน $6 คือตึกนี้เป็นตึกofficeที่พอพักเที่ยงพนักงานทุกคนก็จะลงมากินเข้าที่ Food court ปรากฎว่าไม่มีใครมาสั่งน้ำเลยจ้าาา ส้มขายไปได้แค่แก้วเดียว ตอนแรกนางให้ทำถึงบ่าย3 พอบ่ายโมงนางเรียกมาคุยบอกว่าเก็บของเลยนะเสร็จแล้วมารับตัง ส้มก็ ok ok พอไปรับตังนางบอกว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้วนะ ฉันจะไม่ขายละ เราก็รับตัง ขอบคุณ แล้วก็เดินงงๆกลับบ้านไป คือก็แอบสงสารแต่ก็งงว่าทำไมจะเปิดร้านทั้งทีไม่ลงทุนอะไรเลย หรือถ้าแค่จะลองๆดูไม่เสียดายตังค่าเครื่องหรอ คืองงมาก และ job 2 ของส้มก็จบลงไปใน 1 วัน ขำๆ 555+
บรรยากาศร้านค่ะ ร้านใหญ่มาก
หลังจากนั้นก็หางานสักพักแต่หาไม่ได้ และจากเงินเดือนงานแรกที่ได้มายังพอเหลือ ซึ่งส้มก็ตั้งใจมาหาประสบการณ์ชีวิต มาเที่ยว มาหาสามี เอ้ย! มาหาเพื่อนใหม่ อิอิ ไม่ได้ทำงานเก็บตังอย่างเดียว กะว่าทำงานได้เท่าไหร่ก็จะเที่ยวเท่านั้น บวกกับเป็นคนชอบดำน้ำมากกกก็เลยขอขึ้นไปดำน้ำที่ Cairns ซะหน่อย อิอิ
3. Sales Cosmetics พนักงานขายตามห้าง
เมื่อไปดำดูปลาจนหมดตัง ก็มาเจองานที่ 3นี้ และอีกเคย ตอนอยู่ไทยเคยทำSalesและบ้านส้มค้าขายก็เลยพอมีประสบการณ์ ภาษาก็พอได้ เคยอ่านเจอว่าทำงานตามห้างได้เงินดีก็เลยหาสมัคร ตอนแรกก็ยื่นสมัครเค้าเตอร์แบรนด์ไปแต่ได้ยากมากๆ ส่วนมากเค้าจะไม่เอาคนถือวีซ่าอย่างเรา บังเอิญไปเจอแอดนึง เป็นแบรนด์ออร์แกนิค ก็ลองสมัครดู โดนเรียกสัมภาษณ์ แล้วเจ้านายก็ให้คู่มือมาท่องประมาณ 10 หน้า บอกว่าอีก 3 วันเจอกัน เราก็ท่องๆๆๆเหมือนเตรียมสอบเอนทรานซ์ พอถึงวันที่3เค้าก็เรียกไปแล้วก็ให้เริ่มทำงานเลย ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่เพราะไปสมัครเสริฟร้านอาหารไทยไว้ ได้เหมือนกัน แต่ถึงเวลาตัดสินใจเราคิดว่าsalesน่าจะต่อยอดให้เราได้มากกว่าเวลากลับไทย ทั้งๆที่เงินก็ไม่ได้ดีมาก คืองานนี้เค้าบอกว่าไม่มีเงินเดือนให้ แต่จะได้เป็นค่าคอมมิชชั่น 20-30%แล้วแต่ยอดขาย โดยที่ 1 เดือนแรกถ้าเราทำไม่ถึงยอดเค้าจะการันตีให้อาทิตย์ละ $500 ซึ่งก็พอถูไถ พอเริ่มทำจริงมันก็ถ้าทายมาก มันเป็นแบรนด์ที่เป็นKios ตั้งอยู่ตามห้างดังอย่างwestfield และต้อง Hard sale มากๆ การขายของเค้าเหมือนท่องบท ต้องชวนลูกค้ามาทดลองporducts ต้องพูดอย่างนี้ๆๆๆ ลดราคาให้ได้ตามเสต็ป ซึ่งถ้าใครเกิดมาเพื่อการขายมันง่ายมากๆๆ คือส้มเป็นคนไม่ชอบจี้ลูกค้า คิดว่าถ้าสินค้าดีเดี๋ยวลูกค้าก็ซื้อเอง แต่สโลแกนของแบรนด์นี้กัดไม่ปล่อยจริงๆ ครีมที่ถูกสุดของร้านที่ขายอยู่กระปุกละ $150 โอ้แม่เจ้า แพงสุดนี้กระปุกละ $2000 ส้มก็สู้นะ พยายามเต็มที่ แล้วเราก็เรียนรู้หลายๆอย่าง พอผ่านไปเดือนนึง วีคแรกเราขายได้น้อย ทั้งวีคได้แค่ $200 ซึ่งมันไม่พอ คืองานเซลล์มันไม่แน่นอน ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่มีเงินกินข้าวแน่ๆ อ้อ!ลืมบอกไปว่าส้มต้องโดนย้าที่ทุกวัน เค้าจะไม่ให้ประจำสาขาใดสาขาหนึ่งซึ่งถ้าวันไหนโดนไปไกลๆก็ต้องตื่นแต่เช้าและเสียค่ารถกันบานนนนเลยทีเดียว ถ้ามีเวลาซะหน่อยก็อาจจะเก่งขึ้น ส้มคิดว่างานนี้มันต้องใช้เวลาและประสบการณ์และความด้านนิสนึง หลังจากเดือนครึ่งก็เลยขอบายยยย
4. Event cordinator for Exchanged money company
งานนี้ชื่อดูหรูหรามาก พอดีไปเจอในFacebook ตามกรุ๊ปหางานเลยลองโทรไป งานนี้ดีมากๆ เป็น Event แต่ทำแค่ week เดียว เป็นบริษัทแลกเปลี่ยนเงินที่จะมาเปิดตัวที่ซิดนีย์ครั้งแรก เงินดีมากๆ อยู่ที่ชม.ละ $21 วันเสาร์ได้เพิ่มอีก 1.5เท่า และวันอาทิตย์อีก 2 เท่า (กฎหมายที่นี่จะเป็นอย่างนี้ เพราะวันอาทิตย์เค้าจะถือว่าเป็นวันหยุด ถ้าใครทำงานจะต้องได้เพิ่ม) หน้าที่ก็แค่แจกใบปลิว ยิ้มแย้ม ชวนลูกค้ามา Sign up ให้สมัครสมาชิก และแนะนำตัวบริษัทว่าเราคือใคร ทำอะไร คือง่ายมากๆและถนัดมากกกก อยากจะทำถึงหมดวีซ่าแต่ทำได้อาทิตย์เดียว รับเช็คงามๆ แล้วก็จากไป ><
เดี๋ยวมาต่อกันอีก 2 งาน สุดท้ายนะคะ