สับสนว่าคนนี้ควรแต่งงานด้วยรึเปล่าคะ—->ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะเครียดมากกก

คือเราคบกับแฟนได้จะ3ปีแล้ว. เรา30แฟนก็33แล้ว.   ปีที่แล้วปีที่แล้วเราไปดูบ้านกันบ่อยมากแต่ก็ดูแล้วก็เงียบหายเงียบหายก็เราถามว่าดูให้ใครอยู่เค้าก็เลยบอกว่าอยู่ด้วยกันสองคน     เราก็แอบตกใจสรุปว่าจะแต่งงานหรอเค้าเลยบอกว่าใช่   เราก็แอบดีใจมากๆ  แต่ แต่เค้าก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดใดทั้งสิ้นทั้งการดูฤกษ์แต่ง   พูดถึงเรื่องแต่งงาน  มีแต่เราพูดถึงตลอดจนเรารู้สึกว่าเค้าอยากแต่งจริงๆหรือว่าเราพูดบ่อยจนเค้ารู้สึกว่าแต่งก็ได้. จะมีการพูดแบบซีเรียสว่าจะเอายังไงเพราะเราก็รู้สึกว่าเราแก่แล้วถ้าไม่ใช่ไม่แต่งก็จะได้เดินออกจากชีวิตนะ. เพราะเค้าไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจนบอกแค่ว่าปลายปีนหกหนึ่ง. แต่นี่มันเดือนสามแล้วกลับไม่มีการดูฤกษ์แต่งหรืออะไรทั้งสิ้นซึ่งก็รู้รู้กันอยู่ค่ะว่าการแต่งงานนั้นต้องเตรียมงานเป็นปีไม่ใช่ใช้เวลาแค่เดือนสองเดือนเท่านั้น.   เราก็เลยบอกว่าลองมาอยู่คอนโดกับเราไหมลองดูว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้ไหมเพราะว่าเรายังไม่เคยอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงไม่เคยมีอะไรกันเลยอยากรู้ว่าเราจะเข้ากันได้หรือเปล่า รับกันได้ไหม  เค้าก็ยอมมานะคะแต่เค้าเลิกงานดึกมากจะถึงคอนโดก็ประมาณสองสามทุ่มกลับมาก็นั่งทำงานต่อถึงเที่ยงคืนแทบจะไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเลยแม้ว่าจะนอนด้วยกันก็จริงตื่นเช้ามาเค้าก็รีบไปทำงานออกก่อนเรา.      พอถึงวันเสาร์-อาทิตย์เค้าก็กลับบ้านไปนอนกับพ่อแม่เราก็งงว่าคืออะไรสรุปอยากแต่งงานอยากอยู่กับเราไหมเนี่ยทำอย่างกับเราเป็นเพื่อนไม่มีอารมณ์โมเมนต์จู๋จี๋คุยเรื่องงานแต่งกันเลยมีแต่เราพูดอย่างเดียวเลยว่าไปดูฤกษ์วันไหนดีว่างไหมย



เราก็อยากถามเพื่อนเพื่อนว่าสรุปแล้วเค้าอยากแต่งกับเราไหมคะ   คืออยู่คอนโดแล้วเราได้เห็นอะไรหลายอย่างที่เรารู้สึกหงุดหงิดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอาบน้ำที่ช้ามากเป็นชั่วโมงเรื่องการทำงานดึกโดยไม่ได้แคร์เราเลยว่าเรารอนอนด้วย.    บอกก็แล้วก็ยังเหมือนเดิมถามว่ารักไหมเรารักเขานะคะเพราะเขาเป็นคนดีนิสัยดีมากไม่เกเรไม่เจ้าชู้ซื่อสัตย์แต่ข้อเสียของเขาที่เรารับไม่ได้คือเค้าเป็นคนช้าเฉื่อยยยย.  แล้วสรุปจะแต่งหรือไม่แต่งก็ไม่พูดทำจนเรารู้สึกว่าเราอยากได้เค้ามาเป็นสามีมากอยากแต่งกับเขามากจนตัวสั่น.   บางครั้งเรารู้สึกว่าอยากเลิกกับเค้าอยู่เป็นโสดยังจะรู้สึกดีกว่าเพราะการที่เค้าทำแบบนี้กับเราเรารู้สึกไร้ค้า. เสียใจ. ต้องมานอนดราม่าร้องไห้กับเรื่องนี้หลายต่อหลายครั้ง.   แม่ก็ถามบ่อยมาก. ไปดูฤกษ์ยัง. เราเลยเครียด