เพื่อนกันเฉพาะในสนาม : 15 คู่แข้งทีมเดียวกันที่อยากต่อยกันเองสุดๆ


FFT รวบรวมรายชื่อ 15 เพื่อนร่วมทีมเดียวกันที่ไม่ชอบขี้หน้ากันแบบสุดๆ มาให้แฟนๆชาวไทยได้รู้จักกัน…

1. เท็ดดี้ เชอริงแฮม vs แอนดี้ โคล (แมนฯ ยูไนเต็ด/ทีมชาติอังกฤษ)


“ผมก้าวเท้าลงสนาม โดยมีแฟนบอลกว่า 60,000 คนกำลังดูอยู่ เชอริงแฮม เดินมาเปลี่ยนตัว ผมคิดว่าเขาจับมือแล้วบอกว่า ‘โชคดีนะ โคลอี้’ อะไรแบบนั้น” โคล รำลึก

“แต่เขาเมินผม เขาไม่มองผมด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่ผมไม่รู้เลยจนกระทั่งตอนนี้ เขาเดินออกมา ผมไม่รู้จักเขาส่วนตัว เขาจะมามีเรื่องอะไรกับผม เราเป็นนักเตะอังกฤษเหมือนกัน มันเป็นเกมแรกของผม แต่เขาทำกับผมเช่นนั้น”

เกมดังกล่าวคือ เกมทีมชาติครั้งแรกของ โคล กับ อุรุกวัย เมื่อปี 1995 ซึ่งสมัยนั้นทั้งคู่ยังไม่ได้อยู่กับ “ปีศาจแดง” ด้วยกัน

แต่แล้ว 2 ปีผ่านไป ทั้งสองมีโอกาสได้ร่วมงานกันในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลัง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พา “น้าหมี” เข้ามา ทว่าทั้งคู่ก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย แม้จะร่วมงานอย่างดีและกอดคอฉลองชัยก็ตาม

“แกรี่ พัลลิสเตอร์ เคยพูดว่า ‘ฉันรู้ว่าแกไม่คุยกับ เท็ดดี้ และเขาก็ไม่พูดกับแก แต่อย่างน้อยพวกแกก็เล่นด้วยกันได้ดีมากๆนะ’ ผมเห็นด้วยกับเรื่องนี้นะ”

สรุปแล้ว โคล และ เชอร์ริ่งแฮม ลงเล่นด้วยกัน 4 ฤดูกาลและยิงประตูรวมกันได้ 54 ประตู พร้อมกับเป็นกำลังสำคัญในทีมชุดทริ้ปเปิ้ลแชมป์สุดมหัศจรรย์เมื่อปี 1999

ก่อนที่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองเติบโตขึ้นและหันมาจับมือกันในคืนวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้

"แอนดี้ โคล เดินเข้ามาหาผมในผับแห่งหนึ่งไม่นานมานี้และพูดว่า 'ผมเติบโตขึ้นมาเยอะแล้วในช่วงที่ผ่านมา และหวังว่าเราทั้งสองคนก็เป็นแบบนั้น หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือมาให้ผมและเราก็จับมือกัน"

2. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช vs ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท (อาหยักซ์)


ในเกมอุ่นเครื่องระหว่าง สวีเดน กับ ฮอลแลนด์ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ปี 2004 อิบราฮิโมวิช ทำให้ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่เล่นร่วมกันที่ อาแจ็กซ์ฯ ได้รับบาดเจ็บ

ปัญหาก็คือ มันไม่ใช่เรื่องแกล้งกันเล่นหรืออุบัติเหตุในเกม เพราะว่า ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กล่าวหาว่า “ก็อดซลาตัน” จงใจทำให้เขาเจ็บหนัก

จากหัวขโมยสู่พระเจ้า : เปิดตำนาน ‘ก็อดซลาตัน’

สาเหตุที่ อดีตจอมทัพสเปอร์ส คิดเช่นนั้นก็เพราะว่า ตอนนั้น อิบราฮิโมวิช กำลังก้าวขึ้นมา และพยายามทำตัวเป็นซุปเปอร์สตาร์เหนือตัวเขาในทีม พร้อมทั้งยังมีข่าวว่า อดีตดาวยิงทีมชาติสวีเดน พยายามจะแย่งเสื้อหมายเลข 10 ในตอนนั้นของ ฟาน เดอ ฟาร์ท ไปอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม อิบรา ปฏิเสธว่าไม่เคยตั้งใจทำให้ อดีตดาวเตะฮัมบูร์ก

"ผมไม่ได้จงใจทำให้คุณเจ็บ คุณก็รู้นี่” อดีตดาวยิงเอซี มิลาน กล่าว “แต่ถ้าคุณยังไม่หยุดกล่าวหาผม ผมจะทำให้คุณขาหักจริงๆ และแน่นอนว่าครั้งนี้คือความตั้งใจ”

เด็ดดวงไหมละ “เดอะ ก็อด”

3.  คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ทีมชาติฮอลแลนด์)


การขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าของทั้งสองคนนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในทีมชาติฮอลแลนด์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดครั้งหนึ่งในรอบทศวรรษ

ความตึงเครียดต่าง ๆ นั้นเริ่มขึ้นกับตอนฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศ แอฟริกาใต้ และมันก็ปะทุหนักขึ้นเรื่อย ๆ ที่หนักข้อที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่ ฟาน เพอร์ซี่ ไม่ยอมผ่านบอลให้กับ ฮุนเตลาร์ ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือกที่พบกับ คาซัคสถาน ซึ่งสุดท้าย ฮอลแลนด์ ไม่ได้ไปเล่นในรอบสุดท้ายที่ประเทศฝรั่งเศส

4. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กับ ยาคุบ บลาสซิคาวสกี้ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์/ทีมชาติโปแลนด์)


หลายคนเชื่อว่า เลวานดอฟสกี้ นั้นเป็นที่เข้าถึงได้ยาก เขามีปัญหากับ บลาสซิคาวสกี้ เพื่อนร่วมสโมสรและทีมชาติ โดยสาเหตุก็คือทั้งคู่มีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่จากนั้นมันก็ลามมาถึงฟุตบอล

ในช่วงสัปดาห์ทีมชาติเมื่อปี 2013 , เลวานดอฟสกี้ ได้เป็นกัปตันทีมชาติในช่วงที่ บลาสซิคาวสกี้ บาดเจ็บ และเมื่อเขากลับมา นั่นหมายความว่า เลวานดอฟสกี้ ต้องคืนปลอกแขนกัปตันทีมไป แต่ว่าสุดท้าย โปแลนด์ ได้ตัดชื่อปีกตัวเก่งออกจากทีมซึ่งเหตุผลนั้นก็มาจากเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในห้องแต่งตัว ซึ่งแน่นอนว่าเขาคงไม่มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น

5. เคราร์ด ปิเก้ กับ อัลบาโร่ อาร์เบลัว (ทีมชาติสเปน)


“ผมไม่มีความรู้สึกใด ๆ กับเขาทั้งนั้น”อาร์เบลัว กล่าวเอาไว้ในรายการของ เอล ชิรินกิโต้ ทีวี เมื่อเดือนกรฎกาคมปี 2017 “ผมจะไม่ออกไปร่วมโต๊ะอาหารกับเขา ผมขอไปกับเพื่อน ๆ ผมดีกว่า”

“ผมจะไม่ออกไปร่วมโต๊ะอาหารกับเขา ผมขอไปกับเพื่อน ๆ ผมดีกว่า” - อัลบาโร่ อาเบลัว

ทั้งสองคนไม่มีความเป็นมิตรภาพต่อกัน ปิเก้ คือตัวแทนของ บาร์เซโลน่า ส่วน อาร์เบลัว เป็นตัวแทนของฝั่งเรอัล มาดริด และทั้งสองคนเปิดฉากโจมตีใส่กันทางโลกโซเชียลกันเป็นเป็นประจำ อย่างตอนที่ บาร์เซโลน่า แพ้ อาร์เบลัว ก็ไม่รอช้าที่จะมาแซะ บาร์ซ่า ก่อนที่ปิเก้จะตอกกลับไปว่า “คนที่มันได้ลงสนามแค่เกมเดียวจาก 32 นัด ไม่น่าจะมีสิทธิ์มาพูดอะไรได้นะ”

เรื่องชักบานปลายจน เซร์คิโอ รามอส ของ เรอัล มาดริด ต้องพยายามเข้ามาสงบศึกในเวลาต่อมา ก่อนที่จะส่งผลเสียต่อทีมชาติสเปน

6. เมาโร อิคาร์ดี vs มักซี โลเปซ (ซามพ์โดเรีย)

หลายคนคงเคยได้ยินเคสของทั้งคู่มาก่อนแล้ว ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับเรื่องศีลธรรมอีกด้วย

โดยในฤดูกาล 2012-13 สมัยที่ อิคาร์ดี เพิ่งก้าวขึ้นจากทีมเยาวชนของ ซามพ์โดเรีย ขึ้นมาอยู่บนทีมชุดใหญ่ มักซี ก็ถูกสโมสรยืมตัวจาก คาตาเนีย มาใช้งานพอดี และทั้งสองก็เป็นเพื่อนสนิทต่อกัน เนื่องจากเป็นคนบ้านเดียวกัน

จนกระทั่ง มีเรื่องผู้หญิงเข้ามา…

เรื่องเกิดเมื่อตอนนั้น มักซี ต้องหย่ากับ แวนด้า นารา ภรรยาของเขาในเดือนธันวาคม 2014 โดยก่อนหน้านั้นมีข่าวหลุดมาว่า อิคาร์ดี เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

และหลังจากนั้นไม่นาน อิคาร์ดี ก็แต่งงานกับ ภรรยาเก่าของ มักซี จริงๆ ทำให้ทุกอย่างบอกได้ว่า ข่าวที่ผ่านมาเป็นเรื่องจริง นอกจากนี้ อิคาร์ดี ยังสักรูปของลูก มักซี่ ที่เกิดกับ แวนด้า ไว้ที่แขนอีกด้วย

เมื่อโดนลูบคมขนาดนี้ คำว่า “เพื่อน” ก็อย่าใช้กันอีกเลย หลังจากนั้นทั้งคู่ย้ายทีมไป และมีโอกาสต้องเจอกัน ทว่า แม้แต่ตอนเริ่มเกม มือของสองดาวเตะจากอาร์เจนติน่า ก็ไม่มีทางได้สัมผัสตามมารยาทด้วยซ้ำ

เรียกว่า ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ อย่างแท้จริง

7. รุด ฟาน นิสเตลรอย vs แพทริค ไคลเวิร์ต (ทีมชาติฮอลแลนด์)


สมัยที่ ไคลเวิร์ต อยู่กับ นิวคาสเซิล นั้น อดีตดาวยิงบาร์เซโลน่า ชอบที่จะออกไปเที่ยวกลางคืนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนั่นต่างกับอุปนิสัยของเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง ฟาน นิสเตลรอย เป็นอย่างมาก

เพราะ “พี่ม้า” เป็นพวกติดบ้านและรักที่จะอยู่แบบสงบๆมากกว่า

ดังนั้นพวกเขาจึงเถียงกันในแคมป์ทีมชาติอย่างรุนแรง นอกจากนี้ทั้งคู่ยังจับคู่กันในทีมชาติ แต่ผลงานของทีมกลับไม่ดี จนถึงขั้นมีคนบ่นออกสื่อ

โดยเกมดังกล่าวคือ เกมรอบเพลย์ออฟ ยูโร 2004 ระหว่าง ฮอลแลนด์ กับ สก็อตแลนด์ นัดแรกที่ ฟาน นิสเตลรอย กับ ไคลเวิร์ต ยืนกองหน้าคู่กัน แต่ปรากฎว่า “กังหันสีส้ม” พ่ายไป 0-1

“ผมทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้หรอก” ฟาน นิสเตลรอย กล่าว “ผมไม่สามารถเป็นนักเตะคนเดียวในทีมที่วิ่งไล่บอลหรือบีบคู่แข่งตั้งแต่แนวรับได้”

นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองไม่สามารถเป็นคู่ศูนย์หน้าในฝันได้ เพราะหลายครั้งที่ทั้งคู่แสดงให้เห็นว่า มันไม่ใช่การประสานงาน แต่เป็นประสานงา มากกว่า

ด้วยสไตล์และแนวคิดที่ต่างกัน ทำให้ทั้งคู่ไม่ลงรอยกันนั่นเอง

8. เยนส์ เลห์มันน์ vs โอลิเวอร์ คาห์น (ทีมชาติเยอรมัน)


ทั้งคู่จัดเป็นเพื่อนและคู่แข่งในเวลาเดียวกัน โดยบ่อยครั้งที่ทั้งสองแขวะกันผ่านสื่อเสมอ (ลองเอาชื่อทั้งคู่ไปค้นหาใน กูเกิ้ล พร้อมกันสิ)

เหตุเกิดเนื่องจากทั้ง คาห์น และ เลห์มันน์ ต่างเป็น นายด่านฝีมือดี ที่ขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งมือหนึ่งทีมชาติเยอรมันมาโดยตลอด จนบางทัวร์นาเมนต์ อดีตนายทวารเสือใต้คือตัวจริง ขณะที่บางการแข่งขัน อดีตนายประตูดอร์ทมุนด์ ก็ได้เฝ้าเสาก่อน

อย่างครั้งหนึ่งนั้น คาห์น เคยหัวเราะสนุกสนานเมื่อครั้งที่ เลห์มันน์ เสียตำแหน่งมือหนึ่งให้ มานูเอล อัลมูเนีย ที่ อาร์เซนอล พร้อมกับแนะนำให้ เลห์มันน์ เลิกเล่นไปซะ หลังโชว์ฟอร์มห่วยในช่วงท้ายอาชีพ

"บางทีมันคงจะดีกว่าสำหรับเขา (เลห์มันน์) หากตัดสินใจอำลาสนามไปเสียเลยตั้งแต่ตอนนี้ เยนส์ เป็นผู้รักษาประตูที่ดี แต่สโมสรจะรับผิดชอบต่อความคิดของแฟนบอลในเวลานี้ได้อย่างไร เขาไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ผู้บริหารของ สตุ๊ตการ์ท ต้องชั่งใจว่า เขาจะเป็นประโยชน์ต่อทีม หรือทำลายทีมมากขึ้นไปอีกกันแน่"

ขณะที่ เลห์มันน์ ก็มักแขวะ คาห์น เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องในหรือนอกสนาม

"ผมว่าเขาอยู่มานานเกินไปแล้ว และชอบคิดว่าตัวเองนั้นมีความสำคัญ ผมไม่ชอบเลยเวลาที่มีใครยกย่องตัวเองเกินไป" เลห์มันน์ กล่าว

“ผมไม่ได้มีแฟนอายุ 24 เหมือนใคร ผมมีชีวิตที่แตกต่าง” อดีตนายด่านปืนใหญ่ พูดถึงแฟนสาวของ คาห์น ที่อายุน้อยกว่ามากมาย

แต่ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็ยอมรับฝีมือของกันและกัน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
credit : www.siamsport.co.th (มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่