เรื่องของผมมีอยู่ว่า ผมได้ทำการกู้ชื่อร่วมกับคุณพ่อครับ แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ทำให้ผมขาดรายได้มาจ่ายหนี้ก้อนโต อันนี้ขอสงวนก้อนหนี้นะครับแต่เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อผมได้ขายบ้านที่เป็นสินเชื่อตัวนี้ได้และได้ปลดหนี้กับธนาคารแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นโดนธนาคารฟ้องศาลไปแล้วครับก็ไกล่เกลี่ยได้ด้วยดี ทีนี้ตอนผมจะได้โปะค่าบ้านที่ได้กู้ยืมมาทั้งหมด ผมก็ได้ขอร้องเรื่องส่วนลดหนี้กับธนาคาร ซึ่งokธนาคารอนุมัติลดหนี้ให้ผมทั้งหมดเกือบ3แสนบาท ผมจะได้มีเงินไปตั้งตัวใหม่ ทีนี้ผ่านมาเกือบปี อันนี้ผมรู้ว่าติดเครดิตบูโรแน่นอนเพราะเป็นชื่อกู้ร่วม ผมได้ไปขอสินเชื่อใหม่กับอีกธนาคารหนึ่ง ตอนตรวจสอบพบว่ายังมีหนี้ก้อนเก่าจากธนาคารเดิม เลยลองไปสอบถามดูปรากฎว่า เป็นในส่วนของเงินเกือบ3แสนที่เป็นส่วนลดซึ่งธนาคารตอบผมว่า ไม่ต้องจ่ายเป็นสวนลดให้แล้ว แต่ธนาคารมาบอกกับผมทีหลังว่า ส่วนลดนี้จะโดนบันทึกเข้าแบ้งชาติ ซึ่งก็คือถ้าสุดท้ายผมไม่ชำระในส่วนเกือบ3แสนนี้ ผมก็ต้องติดบูโรตลอดชีวิตทำธุรกรรมอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ ถ้าเป็นงี้ ธนาคารควรจะบอกผมก่อนไหมว่า ถ้าลดหนี้ตอนนั้นเป็นผลกระทบในตอนนี้ ผมคงจ่ายชำระหมดไปเลย นี่ธนาคารบอกลดให้แต่เอาส่วนลดมาเป็นหนี้ไว้ซึ่งถ้าผมจะกู้หรือทำธุรกรรมใหม่ผมต้องไปปลดหนี้ ที่ธนาคารลดให้ในส่วนนี้ก่อน ผมอยากถามแค่ว่า ถ้าลดแล้วยังติดบูโร จะลดให้ผมทำไมในตอนนั้น บอกให้ผมจ่ายเต็มไปตอนนั้นยังรู้สึกดีกว่า ถ้าต้องมานั่งเคลีย3แสนตอนนี้เหมือนผมผ่อนลมเพื่อเอาเครดิตตัวเองคืนมา

รู้ครับว่าผิดสัญญากับธนาคาร แต่การทำแบบนี้ อันนี้ส่วนตัวนะ ผมคิดว่าจะไม่ให้ผมตั้งตัวอะไรใหม่ๆเลยรึ ในฐานะคนทำธุรกิจก็ต้องการโอกาสครับ ที่ดินทรัพสินผมก็มี บางทีผมก็อยากจะตั้งหลักใหม่บ้าง แต่การที่ธนาคารทำแบบนี้ มันเหมือนปิดกั้นทุกอย่างไว้เลยครับ