ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวสันป่าเกี๊ยะ
ดอยแม่ตะมานเชียงใหม่ ชมวิวดอยหลวง
สวัสดีครับ สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่เดินทางด้วย2ล้อมอเตอร์ไซค์จ่ายตลาดเก่าๆ
คันหนึ่งกับความตั้งใจของผมเองซึ่งพลาดจากโปรแกรมที่ว่างแผนไว้ปีก่อนหน้านี้
ถึงปีนี้รอช้าไม่ได้ต้องรีบคว้ามอเตอร์ไซค์จ่ายตลาด ย้ำว่ามอเตอร์ไซค์จ่ายตลาดจริงๆครับ

เช้ามืดผมเริ่มเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงแผนดิน
หมายเลข107 เชียงใหม่-ฝาง
ชมคลิปการเดินทางได้ที่:

เลี้ยวซ้ายระหว่างหลักกิโลเมตรที่67-68
ทางเข้าบ้านแม่นะ
ก่อนถึงเชียงดาวประมาณกิโลกว่าๆ
ภาพบรรยากาศระหว่างทาง ช่วงเช้าถนนสายนี้หมอกสวยงดงามมาก

ช่วงเช้าหมอกลงจัดจนหน้าเลนส์กล้องเปียกไอหมอกไปหมดมองภาพแทบไม่เห็น
ถึงปากทางเข้าจะมีป้ายบอกหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ วัดจอมคีรี

เลี้ยวจากปากทางเข้ามาได้นิดเดียวต้องกดเบรคจอดรถหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพจุดนี้ไว้เลย เป็นมุมที่งดงามแสงแดดสองกระทบดอยหลวงที่ซอกทุกมุมมันช่างลงตัวซะเหลือเกิน ขี่มาอีกนิดจะเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายนะครับ

จากปากทางเข้ามา3กิโลเมตรเจอทางแยกตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายครับ

พอเลี้ยวซ้ายจะขึ้นเนินยาวๆมา
โอ้ย..แม่เจ้า..!!!!
มองลงไปน่าจะเป็นบ้านเรือนที่เพิ่งขี่ผ่านมา
หมอกจางปกคลุมไปทั่วบริเวณมันช่างงดงามซะเหลือเกิน

ระยะที่เหลืออีก19กิโลเป็นทางดินลัดเลาะป่าเขาไปเรื่อยๆ แต่ก็เล่นเอาเมื่อยแขนปวดตัวเหมือนกัน กระเด้งกระดอนขึ้นๆลงๆนวดโช็ครถและนวดคนเป็นอย่างดี พอให้ได้รู้ถึงสมรรนะรถและตัวเองเลยทีเดียว
บรรยากาศข้างทางกับฝูงวัว
ก็ชิวไปอีกแบบนะ แต่หลบขี้วัวดีดีนะครับ

เย้ๆครึ่งทางแล้ว..!!
มีป้ายบอกครึ่งทางให้ชื่นใจพอมีแรงลุยต่อ

ตรงจุดนี้ป้ายบอกว่าป่ายูคาลิปตัสยักษ์
ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านจะได้กลิ่นต้นยูคาลิปตัส
ตะหลบอบอวนไปทั่วบริเวณ
ลอยเตะจมูกมาเลย

เลยจากดงป่ายูคาลิปตัสมา
จะเจอทางแยกตรงจุดนี้
เลี้ยวซ้ายไปหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน
และสถานวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ
เลี้ยวขวาไปลานกางเต้นระยะทางประมาณ1กิโลกว่าตามรูปด้านล่าง

ก่อนถึงสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ300เมตร
จะเจอหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน

ประตูสู่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ

10โมงกว่าๆถึงจุดหมายลงจากรถบิดตัวบิดเอวซ้ายขวาคลายเส้นสักหน่อย
ระยะทางจากปากทางเข้ามา22กิโลเมตรใช้เวลาราวๆ2ชั่งโมงไม่ได้เร่งรีบอะไร

ขี่มาชิว..ชิว..อยากจอดตรงไหนอยากเก็บภาพตรงไหนสำหรับมอเตอร์ไซค์จ่ายตลาดคันเล็กๆจอดข้างทางได้ค่อยข้างสะดวก
ถ้าไม่แวะจอดคงทำเวลาได้ดีกว่านี้
หากเป็นรถยนต์คงใช้เวลามากกว่านี้
และยิ่งถ้าช่วงฤดูฝนนี่ต้องรถโฟลวิลเท่านั้นและใช้เวลาเดินทางเป็นเท่าตัว
แสงแดดสาดส่องดอยหลวงราวกับมีสปอร์ตไลท์หลายพันดวงฉายไฟส่องทุกซอกมุม
ฝั่งที่แสงพระอาทิตย์ส่องช่างงดงามไร้เงาปดบังจริงๆ

เงยหน้าสู่ฟ้ารับแสงแดดอุ่นๆยามเช้ากระทบใบหน้าและชมความงดงามและความใหญ่โตของดอยหลวงเชียงดาว วิวตรงหน้าเป็นอะไรที่ยากบรรยายด้วยข้อความจริงๆ

อีกมุมหนึ่งบริเวณลานกางเต้น
ช่วงสายๆเริ่มมีนักท่องเที่ยวเก็บเต้น
และข้าวของกันไปเกือบหมด

บรรยากาศและวิวมันงดงาม จนอดใจ
ไม่ที่จะต้องนำที่นอนลมที่พกมาด้วย
ออกมาตักอากาศพับเป็นโซฟานอนชมวิวสูญอากาศให้เต็มปอด ณ.จุดนี้

ที่นี่มีห้องห้องพักแบบกลุ่มเป็นบ้านหลังใหญ่นอนรวมกันด้วยน่ะครับ

ส่วนห้องน้ำกก็มีอยู่หลายห้องน่าจะเพียงพอกับนักท่องเที่ยว
ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชมครับ
Travel Go Thailand
[CR] ทางขึ้นสันป่าเกี๊ยะดอยแม่ตะมานชมดอยหลวงเชียงดาว
ดอยแม่ตะมานเชียงใหม่ ชมวิวดอยหลวง
สวัสดีครับ สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่เดินทางด้วย2ล้อมอเตอร์ไซค์จ่ายตลาดเก่าๆ
คันหนึ่งกับความตั้งใจของผมเองซึ่งพลาดจากโปรแกรมที่ว่างแผนไว้ปีก่อนหน้านี้
ถึงปีนี้รอช้าไม่ได้ต้องรีบคว้ามอเตอร์ไซค์จ่ายตลาด ย้ำว่ามอเตอร์ไซค์จ่ายตลาดจริงๆครับ
เช้ามืดผมเริ่มเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงแผนดิน
หมายเลข107 เชียงใหม่-ฝาง
ชมคลิปการเดินทางได้ที่:
เลี้ยวซ้ายระหว่างหลักกิโลเมตรที่67-68
ทางเข้าบ้านแม่นะ
ก่อนถึงเชียงดาวประมาณกิโลกว่าๆ
ภาพบรรยากาศระหว่างทาง ช่วงเช้าถนนสายนี้หมอกสวยงดงามมาก
ช่วงเช้าหมอกลงจัดจนหน้าเลนส์กล้องเปียกไอหมอกไปหมดมองภาพแทบไม่เห็น
ถึงปากทางเข้าจะมีป้ายบอกหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ วัดจอมคีรี
เลี้ยวจากปากทางเข้ามาได้นิดเดียวต้องกดเบรคจอดรถหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพจุดนี้ไว้เลย เป็นมุมที่งดงามแสงแดดสองกระทบดอยหลวงที่ซอกทุกมุมมันช่างลงตัวซะเหลือเกิน ขี่มาอีกนิดจะเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายนะครับ
จากปากทางเข้ามา3กิโลเมตรเจอทางแยกตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายครับ
พอเลี้ยวซ้ายจะขึ้นเนินยาวๆมา
โอ้ย..แม่เจ้า..!!!!
มองลงไปน่าจะเป็นบ้านเรือนที่เพิ่งขี่ผ่านมา
หมอกจางปกคลุมไปทั่วบริเวณมันช่างงดงามซะเหลือเกิน
ระยะที่เหลืออีก19กิโลเป็นทางดินลัดเลาะป่าเขาไปเรื่อยๆ แต่ก็เล่นเอาเมื่อยแขนปวดตัวเหมือนกัน กระเด้งกระดอนขึ้นๆลงๆนวดโช็ครถและนวดคนเป็นอย่างดี พอให้ได้รู้ถึงสมรรนะรถและตัวเองเลยทีเดียว
บรรยากาศข้างทางกับฝูงวัว
ก็ชิวไปอีกแบบนะ แต่หลบขี้วัวดีดีนะครับ
เย้ๆครึ่งทางแล้ว..!!
มีป้ายบอกครึ่งทางให้ชื่นใจพอมีแรงลุยต่อ
ตรงจุดนี้ป้ายบอกว่าป่ายูคาลิปตัสยักษ์
ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านจะได้กลิ่นต้นยูคาลิปตัส
ตะหลบอบอวนไปทั่วบริเวณ
ลอยเตะจมูกมาเลย
เลยจากดงป่ายูคาลิปตัสมา
จะเจอทางแยกตรงจุดนี้
เลี้ยวซ้ายไปหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน
และสถานวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ
เลี้ยวขวาไปลานกางเต้นระยะทางประมาณ1กิโลกว่าตามรูปด้านล่าง
ก่อนถึงสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ300เมตร
จะเจอหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน
ประตูสู่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ
10โมงกว่าๆถึงจุดหมายลงจากรถบิดตัวบิดเอวซ้ายขวาคลายเส้นสักหน่อย
ระยะทางจากปากทางเข้ามา22กิโลเมตรใช้เวลาราวๆ2ชั่งโมงไม่ได้เร่งรีบอะไร
ขี่มาชิว..ชิว..อยากจอดตรงไหนอยากเก็บภาพตรงไหนสำหรับมอเตอร์ไซค์จ่ายตลาดคันเล็กๆจอดข้างทางได้ค่อยข้างสะดวก
ถ้าไม่แวะจอดคงทำเวลาได้ดีกว่านี้
หากเป็นรถยนต์คงใช้เวลามากกว่านี้
และยิ่งถ้าช่วงฤดูฝนนี่ต้องรถโฟลวิลเท่านั้นและใช้เวลาเดินทางเป็นเท่าตัว
แสงแดดสาดส่องดอยหลวงราวกับมีสปอร์ตไลท์หลายพันดวงฉายไฟส่องทุกซอกมุม
ฝั่งที่แสงพระอาทิตย์ส่องช่างงดงามไร้เงาปดบังจริงๆ
เงยหน้าสู่ฟ้ารับแสงแดดอุ่นๆยามเช้ากระทบใบหน้าและชมความงดงามและความใหญ่โตของดอยหลวงเชียงดาว วิวตรงหน้าเป็นอะไรที่ยากบรรยายด้วยข้อความจริงๆ
อีกมุมหนึ่งบริเวณลานกางเต้น
ช่วงสายๆเริ่มมีนักท่องเที่ยวเก็บเต้น
และข้าวของกันไปเกือบหมด
บรรยากาศและวิวมันงดงาม จนอดใจ
ไม่ที่จะต้องนำที่นอนลมที่พกมาด้วย
ออกมาตักอากาศพับเป็นโซฟานอนชมวิวสูญอากาศให้เต็มปอด ณ.จุดนี้
ที่นี่มีห้องห้องพักแบบกลุ่มเป็นบ้านหลังใหญ่นอนรวมกันด้วยน่ะครับ
ส่วนห้องน้ำกก็มีอยู่หลายห้องน่าจะเพียงพอกับนักท่องเที่ยว
ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชมครับ
Travel Go Thailand