ดาวดังมาครบ! เปิดโผรายชื่อ3ชาติส่งชุดใหญ่ลุยคิงส์คัพ & Opinion:ทีมชาติไทย (เมื่อเป็นพันธมิตรกับBNK48) ใครเชียร์ได้บ้าง ?

OFFICIAL : ฟีฟ่ารับรองคิงส์คัพ2018เก็บคะแนนแรงกิ้ง

ฟีฟ่าส่งหนังสือรับรอง คิงส์คัพ 2018 เป็นเกมกระชับมิตรระดับ A ซึ่งจะถูกคิดคะแนนในอันดับโลก

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ส่งหนังสือยืนยันสถานะฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ซึ่งจะทำการแข่งขันในวันที่ 22 และ 25 มีนาคม 2561 ให้เป็นรายการแข่งขันกระชับมิตรระดับ A ซึ่งจะทำให้ผลการแข่งขันถูกคิดเป็นคะแนนบนอันดับโลกของฟีฟ่า

มร. คริสเตียน อุงเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการแข่งขันได้ส่งจดหมายมายัง พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเป็นตัวแทนชาติเจ้าบ้านเพื่อรับรองสถานะดังกล่าว

สำหรับศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ได้มีตัวแทนจาก 3 ทวีปอันประกอบด้วย สโลวาเกีย ทีมอันดับ 28 ของโลกจากยุโรป, กาบอง ทีมอันดับ 95 ของโลกจากแอฟริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมอันดับ 78 ของโลกจากเอเชีย เข้าร่วมแข่งขันกับทีมชาติไทย เจ้าภาพและแชมป์เก่า ทีมอันดับ 129 ของโลก

คิงส์คัพ ครั้งที่ 46 รอบแรกจะมีขึ้นวันที่ 22 มีนาคม 2561 คู่แรก ทีมชาติสโลวาเกีย พบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลา 16.30 น. ส่วนคู่ที่สอง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติกาบอง เวลา 19.30 น.

ส่วนรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นวันที่ 25 มีนาคม 2561 เวลา 19.30 น. ขณะที่คู่ชิงอันดับ 3 จะแข่งขันเวลา 16.30 น. โดยเกมทุกนัดจะแข่งขัน ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน และถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี บัตรมีจำหน่ายแล้วที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา http://www.thaiticketmajor.com/spo…/kings-cup46-2018-th.html


credit : www.fourfourtwo.com/th

ดาวดังมาครบ! เปิดโผรายชื่อ 3 ชาติส่งชุดใหญ่ลุยคิงส์คัพ

คิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 ระอุแน่ เมื่อกาบอง, สโลวาเกีย และยูเออี จัดเต็มส่งชุดใหญ่ และดาวดัง ทั้ง โอบาเมยอง, ฮัมซิค และ อุมัร


ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 ได้ทำการประกาศรายชื่อผู้เล่นทั้ง 23 รายจาก 3 ชาติที่ถูกรับเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมชาติกาบอง, ทีมชาติสโลวะเกีย และ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดย คิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 จะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 22-25 มีนาคม 2561 โดยโปรแกรมรอบแรก ทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ ทีมชาติกาบอง ที่เรียกตัว ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ติดทีมชุดนี้มาด้วย




ส่วนอีกคู่เป็นการพบกันของ ทีมชาติสโลวาเกีย ที่มี มาเร็ค ฮัมซิค และ มาร์ติน สเคอร์เทล มาประชันฝีแข้งกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ขนชุดใหญ่นำโดย อุมัร อับดุลเราะห์มาน


credit : www.goal.cm/th

Opinion: ทีมชาติไทย (เมื่อเป็นพันธมิตรกับ BNK48) ใครเชียร์ได้บ้าง?

จากเสียงวิจารณ์เรื่องเป็นพันธมิตรกับ BNK48 สู่กระแสขาลงฟุตบอลไทย เราจะมาเจาะลึกกันว่ามัน "เหมือน" หรือ "แตกต่าง" จากที่อื่นๆ ในโลกมากน้อยแค่ไหน


ไซตามะ 2002 เป็นหนึ่งในสนามที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีใต้ และเป็นหนึ่งในสนามที่มีความสมบูรณ์ถึงพร้อมในความเป็น Football Stadium มากที่สุดสนามหนึ่งที่ผู้เขียนเคยได้สัมผัสมา ในแง่ของความเป็น ‘ที่ของทุกคน’

เมื่อนั่งรถไฟมาลงสุดสายที่สถานีอุราวะ-มิโซโนะ ในวันที่มีเกมการแข่งขัน บรรยากาศฟุตบอลจะตลบอบอวลตั้งแต่ที่นี่ ตลอดทางเดินยาวเกือบ 2 กม. ไปถึงสนาม จะมีแฟนฟุตบอลทุกเพศทุกวัยเดินไปพร้อมกัน ในวันที่ไปชมเกม Levain Cup นัดชิงฯ ปี 2016 ผู้เขียนเดินดูเด็กชายอายุไม่น่าถึง 10 ขวบ เลี้ยงบอลจากสถานีไปถึงสนามอย่างเพลิดเพลิน

เมื่อถึงหน้าสนาม สิ่งที่สะดุดตาคือบูธกิจกรรมของสปอนเซอร์ทั้งหมด ถูกออกแบบให้ทุกเพศทุกวัยร่วมสนุกได้แบบไม่เคอะเขิน พริตตี้ที่เราคุ้นตาจากไทย แทนที่ด้วยสตาฟฟ์ในชุดทะทัดทะแมง คอยอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ล้มกลิ้งแล้วลุกขึ้นยิ้มอย่างสนุก

ด้านข้างของสนามยังมีสวนสาธารณะให้ได้นั่งพัก ปิคนิค ทานอาหารกลางวัน ไปจนถึงล้อมวงเดาะบอล

เมื่อเข้าไปนั่งบนอัฒจันทร์ นอกจากภาพสนามสวยงามอลังการ เรายังได้เห็นว่าสนามนี้มีที่ให้ทุกคนจริง ๆ หลังโกลสองฝั่งคือกองกำลังอุลตร้าส์ที่จะส่งเสียงเชียร์ดวลกันไม่มีหยุดตลอด 90 นาที สนามนี้มีที่ตั้งกลองและจุดยืนนำเชียร์ให้พร้อม ผู้ชมที่มากันเป็นครอบครัวอาจเลือกนั่งด้านยาวของสนามที่เข้าออกง่าย ใกล้ห้องน้ำและร้านอาหาร เด็ก ๆ อาจจะรอให้ถึงเวลาพักครึ่ง แล้ว วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช โค้ชทีมชาติ หรือ VIP คนอื่น ๆ ก็จะออกมาพบปะ จับมือ ถ่ายรูป ไปจนถึงอุ้มหนู ๆ ที่ระเบียงห้อง VIP สนามเสียงดังกึกก้องจากแฟน ๆ หลังโกล ส่วนอีกสองด้านมีทั้งคนที่ร้องไปด้วยเชียร์ไปด้วย, นั่งดูเฉย ๆ ไปจนถึงลุกไปหาอะไรกินจนลืมกลับมาดูครึ่งหลัง

กล่าวโดยสรุปคือ ทุกคนมีความสุข


การที่สนามฟุตบอลมีความจุขยายไปจนถึงหลักหลายหมื่นขึ้นในประเทศใดนั้น เป็นเพราะฟุตบอลคือกีฬาที่เข้าถึงผู้คนในประเทศนั้นได้ง่าย ได้มาก ไม่ใช่เพียงสันทนาการเฉพาะกลุ่มที่สนุกกันเองในวงแคบ ๆ แต่เป็นกีฬายอดนิยมระดับชาติ สนามฟุตบอลยุคใหม่จึงเป็นสถานที่ที่ต้อนรับผู้คนทุกรูปแบบ ทุกเพศทุกวัย ทุกรสนิยม ทุกศรัทธาความเชื่อ คินโช สเตเดียม ของเซเรโซ โอซาก้า ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพิ่งไปเยือนมาไม่นาน มีโซนสำหรับผู้ใช้วีลแชร์เป็นสัดส่วน ไม่ต้องมานั่งดูข้าง ๆ ที่ลู่วิ่ง ราชมังคลากีฬาสถานของเราเองก็มีห้องละหมาดขนาดใหญ่มากอยู่ด้วย

ไม่เพียงแค่สถานที่ แต่การจัดการฟุตบอลหนึ่งแมตช์ในยุคนี้ คือกิจกรรมที่รวมเอาผู้คนทุกรูปแบบมาสนุกด้วยกัน โดยเฉพาะเกมทีมชาติ ที่คนในประเทศมีความเชื่อมโยงกับทีมที่ลงเล่นทันทีแม้ไม่รู้จักใครสักคน ทิศทางของโลกลูกหนังคือการนำความรุนแรงออกไปจากสนามเพื่อเปิดทางให้ทุกคนได้เข้ามาสนุกกันได้อย่างปลอดภัย สบายใจ ไม่ว่าจะเป็นอันธพาลลูกหนัง, การเหยียดผิว/เพศ/เชื้อชาติ บ้านเราเองก็เพิ่งผ่านการพยายามอย่างหนักจากทุกภาคส่วนในการขจัดพลุแฟลร์ควันไฟออกจากสนาม

ผู้เขียนจึงเห็นว่าเป็นเรื่องตลกไม่ออก ถ้าการดึงเอาศิลปินนักร้องมาร่วมเชียร์ทีมชาติอย่างเป็นทางการ จะถูกมองเป็นการแก้ปัญหา ‘ขาลง’ ของความนิยมทีมชาติ เป็นการเอาเรื่องที่ไม่ใช่ฟุตบอลเข้ามาดึงความสนใจให้คนเข้าสนาม

การทำโปรโมทให้กับแมตช์ทางการของทีมชาตินั้น ความนิยมจะเป็นอย่างไรล้วนต้องทำให้สมความเป็น ‘ทีมของคนทั้งชาติ’ อยู่แล้ว สมควรที่จะทำให้ดีที่สุด เข้าถึงผู้คนในวงกว้างที่สุด แม้แต่สถานที่, วันเวลาแข่งขัน ไปจนถึงการจัดการ ก็ควรเอื้ออำนวยให้คนได้มากันมากที่สุด สะดวกที่สุด อยู่ในสนามได้อย่างสะดวกสบายที่สุด ไปจนถึงเดินทางกลับอย่างสะดวกสบายที่สุด

การเลือกเอากลุ่มศิลปินที่ได้รับความนิยมมาเป็นอีกแม่เหล็กหนึ่งของกิจกรรม คือการ ‘พูดภาษาเดียวกัน’ กับคนหมู่มาก ซึ่งเป็นหัวใจของการประชาสัมพันธ์ที่ได้ผลดีอยู่แล้ว ในวันเวลาที่ทีมชาติไทยไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ ‘ต้องเอาใจช่วย’ อย่างการมีได้มีเสียในทัวร์นาเมนต์ใหญ่, อยู่ในสถานการณ์คับขันเสี่ยงต่อความล้มเหลว ฯลฯ แต่กำลังลอยตัว รอเข้าร่วมรายการใหญ่อย่างเอเชียน คัพ 2019 นั้น นี่คือการหา ‘จุดร่วมใจ’ ให้กับช้างศึกได้อย่างชาญฉลาด


ฟุตบอลพยายามจะอยู่ใน ‘Pop culture’ ตลอดเวลา ฟุตบอลโลกมีเพลงประจำการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1962 และเรายังคงจดจำ To Be Number One (อิตาลี 1990), The Cup Of Life (ฝรั่งเศส 1998) หรือ Waka Waka (แอฟริกาใต้ 2010) กันได้ นับตั้งแต่ปลายยุค 90 แทบจะพูดได้ว่าไม่มีวงการไหนไม่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลอีกเลย ไม่ว่าจะหนัง, แฟชัน, ไปจนถึงการเมือง วันนี้เราเห็นคนดังทุกวงการเข้าชมเกมฟุตบอลจนคุ้นตาไปแล้ว

ทุกคนทราบดีว่าคิงส์คัพเป็นฟุตบอลรายการสำคัญที่สุดรายการหนึ่งของทีมชาติไทย เท่ากับที่ทราบดีว่าตั๋วรายการนี้เมื่อแข่งขันที่ราชมังฯ ไม่เคยขายหมดเช่นกัน การนำตั๋วจำนวนหนึ่งไปขายร่วมในชุดสินค้าที่อาจถูกซื้อโดยกลุ่มที่ไม่ได้เข้าชมฟุตบอลเป็นประจำ ก็ไม่น่าเป็นการเบียดเบียนโควต้าผู้ที่อยากเข้าชมเกมจนไม่พอขาย รวมถึงจะเป็นการมอบโอกาสการเข้าชมฟุตบอลครั้งแรกให้กับหลาย ๆ คนอีกด้วย

ในวันที่ฟุตบอลไทยอายุเกินร้อยปี ยังเป็นความจริงที่ว่า ตลอดปี สนามราชมังฯ จะเต็มแน่นเพียงวันเดียวที่มีฟุตบอลดารามาเล่น ยังเป็นความจริงที่ถูกค่อนขอดว่าฟุตบอลไทยยังไม่ได้รับความนิยมจนทะลุขีดเหมือนในบางวันวาน แต่สิ่งที่ควรตั้งคำถามคือ ทำไมฟุตบอลทีมชาติไทยยังไม่ดึงดูดพอให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในสนาม ทั้งที่นี่คือทีมของเขาอย่างแท้จริง ทุกความพยายามขยายขอบเขตของฟุตบอลไปหาผู้คนล้วนสมควรให้เครดิต ไม่ว่าจะเป็นตลกพักครึ่งหรือ BNK48

เพราะเราต้องการทุกคนในสนาม และไม่มีคนไทยคนไหนไม่สมควรเข้าสนามมาเชียร์ทีมชาติไทย

ทีมชาติไทยไปเล่นที่ญี่ปุ่นนัดสุดท้าย ที่สนามไซตามะ 2002 ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย แม้จะมีแฟนบอลชาวไทยตามไปเชียร์ไม่น้อย แต่ผลการแข่งขันคือความพ่ายแพ้ 4-0 - เป็นความพ่ายแพ้มีรสขม

และจะขมจนน่าเวทนาถ้าเราไม่เรียนรู้อะไรจากผู้ชนะเลย ไม่ว่าจะเรื่องในหรือนอกสนาม

credit : www.goal.com