เล่าแบบบ้านๆ กับประสบการณ์ ในการเดินทางไปกลับเพื่อดู MotoGP Winter Test ที่ จ.บุรีรัมย์ (เกือบได้กินข้าวลิงแล้ววว)

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ ผมชื่อว่า กิต เป็นหนึ่งในแอดมินของกลุ่ม R3 Club Thailand วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ การเดินทาง การขับรถ การได้เข้าไปชม Winter test และ เหตุการณ์รถพัง 555+ ที่มาเล่าให้ฟัง ไม่มีใครบังคับหรืออะไร แค่อยากมาเล่าให้ฟัง เผื่อมีคนสนใจ อยากจะไปลองบ้าง งั้นมาเริ่มกันเลย

ก่อนวันเดินทาง
เนื่องจาก ช่วงวันที่ 10 กพ ได้รับสารแจ้งมาว่า จะมีขบวนที่เดินทางจาก กทม ไป บุรีรัมย์ เพื่อไปดู Winter test กัน ผมก็สนใจเลยลงชื่อไปด้วย แต่ในใจคิดแล้วว่า ต้องเตรียมตัวและเตรียมรถให้พร้อม เนื่องจากเดินทางไกล และ อากาศคงจะร้อนเอาการ ช่วงเวลาที่เหลือก่อนจะเดินทาง ประมาณ 5 วัน ก็ได้เริ่มเช็ครถ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก ตรวจเช็คน้ำหล่อเย็น และ ส่วนต่างๆอื่นๆ ที่จำเป็น ให้พร้อมที่สุด และ ได้เอารถไปล้างให้เรียบร้อย ก่อนวันเดินทาง 1 วัน

วันเดินทาง
ตื่นเช้ามาประมาณ ตี 4 รีบอาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวให้พร้อม ชุดป้องกันต่าง ๆ และรัดกระเป๋ากับรถให้เรียบร้อย และออกเดินทางไปที่จุดนัดพบจุดแรก คือ แม็คพาต้าปิ่นเกล้า เพื่อรอเพื่อนๆสมาชิกในกลุ่ม ที่อยู่ฝั่งธนด้วยกัน เพื่อจะไปสบทบกับเพื่อนๆ กลุ่มโซนรังสิต และจะได้เข้าไปที่ อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมากพร้อมๆกัน เพราะจำนวนรถและคนในวันงาน หน้าจะเยอะ
พอเข้าไปที่งานจริงๆ ก็อย่างที่คิดไว้ รถเยอะ คนเยอะมากมาย ไปแอบถามจำนวนรถมาเค้าบอกเกือบ 500 คัน จากนั้นก็จะมีกิจกรรมให้ลงทะเบียนในแต่ละยี่ห้อ ใคร Yamaha ก็ลง Yamaha ใคร Honda ก็ลง Honda รับของแจกอะไรกันไปตามสะดวก พอได้เวลาอันสมควร หน้าจะเวลาประมาณ 8.30 น ได้ ขบวนก็ได้เริ่มออกจาก อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก เพื่อไปยังจุดพักที่ 1 เส้นทางที่ใช้ ก็วิ่งออกดอนเมือง ไปรังสิต เข้าอยุธยา ผ่านสระบุรี แล้วก็พักรถรอบแรกแถวๆมวกเหล็ก ความเร็วในการเดินทาง ประมาณ 80-100 เท่านั้น เพราะเอาความปลอดภัย เนื่องจากจำนวนเยอะ มีพี่ๆตำรวจคอยขับนำและกันรถเป็นระยะๆ

ปั้มที่ 1 แถวๆมวกเหล็ก สระบุรี
ก็ได้แวะพักเติมน้ำมัน ดื่มน้ำดื่มท่ากันเรียบร้อย ได้เวลาพักประมาณ 15-20 นาที แล้วก็ได้เริ่มตั้งขบวนและออกเดินทางใหม่ รอบนี้ทางพี่ๆทีมงาน ได้ประกาศว่า ให้ R3 ขึ้นมานำด้านหน้าแทน พวกผมก็ขึ้นไปติดกับพี่ๆที่ขับรถขบวนเลย รอบนี้ใช้ความเร็วเพิ่มมานิด 90-120 ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมคิดว่ายาวนานมาก ๆ ในการขับ ดูจากระยะทางบนหน้าปัดร้อยกว่าโลได้ เส้นทางก็ผ่านทั้งเขา อ่างเก็บน้ำ และ อื่นๆอีกมากมาย จบมาถึงจุดพักที่ 2

ปั้มที่ 2 แถวๆโคราช
เมื่อเข้ามาในปั้มเสร็จ ตามกำหนดการแล้วปั้มนี้จะเป็นปั้มที่ได้แวะพักทางอาหารกลางวัน เพราะตอนนี้เวลา 12.30 น แล้ว ก็วิ่งกันมาเกือบๆ 4 ชั่วโมงเต็ม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น พี่ๆทีมงานบอกว่า เอ้า อีก 5 นาทีออกตัว ตอนนั้นผมได้ยินแล้ว นึกในใจเดียว ๆ ยังยืนไม่เมื่อยเลยขับต่อแล้วเหรอ ตอนนั้นจำได้ว่าเดินไปรับอาหารแล้วกินแบบ ตักเข้าปากยัดๆ แล้วกลืนเลย 555+ ส่วนตอนนั้นน้ำมันในถังผมเหลืออยู่ประมาณ 4 ขีดได้ ซึ่งจากที่ถามพี่ๆแล้วไม่ต้องเติมก็หน้าจะถึงสนามช้างได้ เพราะดูจากระยะทางใน GPS แล้วได้อยู่ ก่อนออกตัว เพื่อนที่ขับกันมาทักผมว่า “เฮ้ยๆ!! กิต มีคราบน้ำอะไรอยู่แถวๆรถเอ็งด้วยว่ะ” ในตอนนั้นก็ได้ลงไปดู ว่าคราบอะไร พอไปดูก็เห็นว่าเป็นคราบน้ำปกติ เหมือนเป็นน้ำยาเคลือบรถที่ร้านล้างรถพ่นไว้แล้วมันแห้งจากความร้อนเลยเป็นคราบ จึงไม่ได้คิดอะไรขึ้นรถแล้วเตรียมออกตัว
มุ่งสู่สนามช้างงงงง
รอบนี้พี่ๆทีมงานบอกว่า ให้ขับตามขบวนใหญ่เลย คือ ขับตาม พวก ซีซีสูงๆเลยนะ จะเป็นขบวนเดียวยาวๆ ไอ้เราด้วยความไม่รู้ คิดว่าคงขับกันปกติๆ เลยอาสา ว่าเดียวขึ้นไปนำกลุ่มให้ครับ หมายถึงกลุ่มรถในคราสต่ำกว่า 300 นะที่ขับตามๆกันมา ส่วนกลุ่มคราส 650+ นั้นเค้ามากันก่อนแล้ว แล้วเค้าก็มารอพวกผมนานแล้วเหมือนกัน จากที่ดูนะ สรุปออกตัวไปสักพัก กับเพื่อน R3 อีก 2 คน เริ่มแปลกๆ เอ๊ะนี้เราขับมาในกลุ่มไหนหว่า ใช้กลุ่มเราเหรอ รู้สึกเหมือนขับกันเร็วจัง 120 เริ่มขึ้นไป 140 บ้างจังหวะ ขึ้นไป 160 และก็ 180 โอ...โอไม่นะ นี้ขับกันอย่างนี้พวกผมนี้ดันกันมันเลย เกาะไปกับพี่ๆ 650+ทั้งนั้น ใช้ความเร็วกันเรื่อยๆ ตลอดสองข้างทาง มีพี่ตำรวจคอยคุมรถตามแยกต่าง ๆ และจุดกลับรถ ไม่ให้ออกมาขัดขบวน จากนั้นก็มีเพื่อน ๆ R3 ที่อยู่ขบวนหลัง ดันกันตามขึ้นมาข้างหน้ากันเต็มมมมเลย ผมเลยมีเพื่อนกันหน่อย จากนั้นมารู้ตัวอีกทีก็อยู่แถวๆนางรองแล้ว มองไปดูที่ระดับน้ำมัน เหลืออยู่ขีดเดียว ใจคอเริ่ม เอ๊ะ มันจะพอป่าวว่ะเนี่ย เพราะถ้าขับกัน 120 อย่างไงก็พอ แต่นี้ดันกันสะ 180+ โอ....อย่างกะเป็นก๊อกเทน้ำมันทิ้ง เพื่อนผมอีกคน ขับรถมาตีคู่แล้วชี้ที่ถังน้ำมัน ผมก็เลยชี้ที่ถังเหมือนกัน และยกนิ้วบอกว่า เห้ย...ตูเหลือขีดเดียวแล้วนะ เพื่อนพยักหน้าแล้วก็ทำแบบเดียวกัน สรุป รู้กัน เหลือขีดเดียว แต่ด้วยที่อยู่ในขบวน และ ถ้าออกจากขบวนอาจจะตามไม่ทัน เลยวิ่งกันต่อ ไปจนถึงแยกอะไรสักแยก ที่เลี้ยงขวา แล้วตรงไปอีกสักพักก็จะเจอสนามช้าง ตรงนี้พอเลี้ยงขวาปับ น้ำมันผมก็กระพริบทันที ผมนี้หันมองเพื่อนเลย แบบถ้าพูดได้ยิน จะบอกว่า เห้ย จะถึงสนามช้างปะว่ะ แล้วพอวิ่งไปอีกแปปเดียวเพื่อนก็ตีคู่มาพร้อมกัน แล้วชี้ที่ถัง ทำท่าเหมือนว่ากระพริบ แต่ทันใดนั้น เจอปั้มข้างหน้าพอดี เลยตัดสินใจจอดแวะเติมดีกว่า เดียวไปอัดไล่ใหม่ เติมกันเต็มถัง สรุปว่าออกจากปั้มมา 100 เมตร เลี้ยวซ้าย...........เจอสนามช้างงงง คือแบบ เอิ่ม......... ก็ผมไม่รู้นิว่าถึงแล้วโถ่ มาครั้งแรก

ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
ภายในงาน มีคนเยอะแยะมากมาย มาจากต่างสถานที่และหลายเชื้อชาติ แล้วสิ่งที่รอคอยก็ได้มาถึง การได้ไปชมการทดสอบรถ Moto GP แบบติดขอบสนาม ก็เป็นจริง เสียงที่ดังอย่างมีเสน่ เสียงรอบตัดตอนออกตัว และ เสียงการเข้า PIT ชังมีเสน่จริง ๆ เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็ว ณ ตอนนั้นเวลาประมาณ 18.30 น ทางพี่ๆทีมงาน ประกาศให้ขึ้นรถ เตรียมออกเดินทางไปกินข้าวเย็นกัน ทุกคนก็ต่างรีบขึ้นรถจัดเตรียมตัว แต่สิ่งที่เป็นปัญหากำลังจะเกิดขึ้นแล้วสำหรับผม

ออกเดินทางสู่ร้านอาหาร
เมื่อติดเครื่องออกจากสนามมาได้ไม่เท่าไหร่ ก่อนจะถึงปากทางถนนใหญ่ ผมรู้สึกว่าทำไมขามันร้อน ๆ แปลก ๆ เข้าใจว่าขับแค่ 60 เพื่อจัดขบวน แต่ไม่หน้าร้อนขนาดนี้ จึงได้มองลงไปที่ ระดับความร้อนที่แสดงที่หน้าปัด สิ่งที่เห็นคือ ความร้อนขึ้นมา 6 ขีดและขีดสุดท้ายกระพริบ(ความร้อนปกติของ R3 คือ 3 ขีดตลอดเวลา ขึ้นไป 4 บางตอนวิ่งมาร้อนๆและติดไฟแดง แต่ไม่ถึง 10 วินาทีก็จะลงไป 3 ขีด) ในหัวผมตอนนั้นคิดว่า งานงอกแล้วกู ผมเลยลองเอามือลงไปจับดูว่า มีลมพัดออกมาไหม สรุปว่า ไม่มีลมพัดออกมาเลย และก็ไม่มีเสียงพัดลมทำงาน ตอนนั้นผมคิดในหัวเลยว่า ชิบหาไม่เจอแล้ว ผมเลยตัดสินใจ ดับเครื่องแล้วจอดข้างทางเลย ออกมาจากขบวน และรอความร้อนลด พอความร้อนลด เหลือ 5 ขีด ผมเลยติดเครื่องแล้วรีบตามขบวนไป ตอนนั้นคิดว่าต้องวิ่งให้เร็วเพื่อให้ลมประทะ แล้วก็จริง พอลมประทะแล้ว ความร้อนเหลือ 3 ขีด

ณ ปั้มแห่งหนึ่ง
ดีที่ขบวนแวะปั้มก่อนไปร้านอาหาร ทุกคันเข้าปั้ม ผมก็เข้าปั้ม ในตอนนั้นเหลือแค่ขบวนของ Yamaha แล้วทางยี่ห้ออื่นและกลุ่มอื่น ๆ แยกย้าย ส่วนที่อยู่ๆกันเป็นของ Yamaha ซึ่งก็มีจำนวนเยอะมาก เกือบ 100 กว่าคันได้ที่รอเติมน้ำมัน ผมเลยเดินไปแจ้งพี่ๆทีมงาน ว่ารถมีปัญหาช่วยดูให้หน่อย เพราะทราบว่าทาง Yamaha ได้พาทีมช่างจากศูนย์บางนามาด้วย พี่ๆ ทีมช่างได้มาดู ตรวจสอบอยู่สักพัก พี่เค้าบอกว่าตอนนี้มันขึ้นโค้ต 15 (คือเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิมีปัญหา) พี่ช่างถามว่ามันยังวิ่งได้ไหมตอนนี้ ผมเลยบอกว่า เมื่อกี่ยังพอวิ่งได้ครับ พี่ช่างบอกว่างั้นขับไปร้านอาหารกินข้าวกันก่อน ไม่ไกลจากตรงนี้ไม่ถึง โล ผมเลยโอเค เพราะในปั้มค่อนข้างมืดมองอะไรไม่เห็นมากนัก

ณ ร้านอาหารแถวนั้นจำชื่อร้านไม่ได้ แต่อร่อยดี
ในร้านก็กินข้าวกันตามภาษาเพื่อน ๆ และผมกับเพื่อน ๆ ได้ขอทราบชื่อ โรงแรมที่จะไปพักกันว่าชื่ออะไร จะขอนำออกไปก่อนเพราะรถผมวิ่งช้าไม่ได้มันร้อน เลยทราบว่าชื่อ NP Hotel เพื่อนที่มาด้วยกันมี GPS เลยเปิดนำไป พอวิ่งไปได้สักพักความร้อนก็ขึ้นมา 6 ขีดอีก เพราะว่า เข้าซอย แต่ที่นี้พัดลมทำงานแล้วได้ยินเสียงอย่างดัง แต่ทำไมความร้อนไม่ลด

ณ โรงแรมที่พัก
พวกผมนำกันมาก่อน สักพักเพื่อน ๆ กลุ่มอื่นๆ ก็เริ่มทยอยกันมา รวมถึงพี่ๆทีมช่าง ผมเลยเล่าอาการให้พี่ๆช่างฟัง พี่ๆเค้าบอกว่า น้ำยาหม้อน้ำแห้งแล้วแน่ ๆ เพราะโดนความร้อนสูง แต่พี่ๆเค้าบอกอว่าตอนนี้ไม่มีน้ำยาหม้อน้ำเลย เพราะไม่ได้ติดเอามาด้วย เค้าเลยบอกว่าเดียวคืนนี้จะออกไปวิ่งหาซื้อ แล้วเดียวตอนเช้าค่อยมาทำ เพราะตอนนี้มืดมากแล้ว ณ ตอนนี้เวลาเกือบ ๆ สี่ทุ่มได้

เช้าวันต่อมา ณ โรงแรมที่พัก
พี่ช่างได้ไปซื้อน้ำยาหม้อน้ำมาแล้ว และ ได้เริ่มทำการรื้อตรวจสอบรถ พอเริ่มรื้อ พี่ๆช่างบอกว่า เคยไปเข้าร้านนอกมาเหรอ ทำไมเค้าประกอบได้ไม่เรียบร้อยเลย สายต่าง ๆ ก็หลุดเยอะ หรือไม่ได้เสียบให้ พวกสายเติมอากาศหรือสายที่ต่อเข้าลิ้นเร่ง และน็อตยึดกล่องหม้อกรองอากาศก็ขันคนหวานและกล่องแตกเลย จากนั้นมีพี่ช่างอีกคนสักเกตุไปที่ตาแมวที่ไว้ดูระดับน้ำมันเครื่อง และได้พูดขึ้นว่า น้ำเข้าเรื่องแล้วเห้ย.... พี่ช่างอีกคนบอกซีลปั้มน้ำไปแล้วว พอเปิดฝาปิดช่องเติมน้ำมันออกมา สีนี้ขาวเลย พี่ช่างอีกคนบอกว่าอย่างนั้นถ่ายน้ำมันออกก่อนเลย พี่ช่างเลยได้ทำการถ่ายน้ำมันเครื่องผมออก และ เติมน้ำมันเครื่องใหม่ลงไป พี่ๆเค้าพกน้ำมันเครื่องมาด้วย เลยทำการเปลี่ยนให้ พอเปลี่ยนเสร็จเติมน้ำหม้อน้ำเสร็จ ผมเลยถามพี่ ๆ ช่างว่า พี่ผมกลับ กทม ได้ไหม พี่ช่างบอกว่าไปเรื่อย ๆ ได้อยู่ พวกผมเลยตัดสินใจว่าเดียวกลับเลย ไม่เข้าไปดู ที่สนามอีกรอบแล้ว ตีรถกลับเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่