- ตอนผมเริ่มรุ้สึกว่าตัวเองป่วย แล้วรักษา ทำบริษัทตัวเองเป็นหนี้หลักล้าน จนทีมทยอยลาออก แล้วปิดบริษัทไป
- ไม่สามารถกลับไปทำงานหนักๆ ได้อย่างเมื่อก่อนแล้ว (เพราะพยายามหลีกเลี่ยงงานที่ต้องเจอความเครียด ความกดดันสูงในช่วงรักษาแรกๆ ก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้ารักษาหายแล้ว เราจะกลับไปทำงานหนักๆ ได้อย่างเมื่อก่อนไหม หรือควรทำไหม)
- จากข้อข้างบน จากภาพที่เราเป็นผู้นำ เป็นคนที่ทำงานอย่างหนักมาตลอด เป็นสิบปี กลายเป็นตัวเองแทบไม่มีงานทำ ภาพตอนนี้กลายเป็นคนไม่ได้เรื่องได้ราว ไม่ทำงานทำการเป็นกิจลักษณะ อยู่ไปวันๆ ไม่ได้ทำไรเป็นชิ้นเป็นอัน (อาจจะเพราะอาการป่วยด้วยที่ทำให้ดิ่งลงไปคิดว่า ตัวเองด้อยค่าบ่อยๆ )
- จากข้อข้างบนอีก ก็ทำให้ชีวิตคนรอบข้าง มีหลายคนไม่ค่อยเข้าใจอาการป่วยของเรา จากกำลังใจหรือวิธีปฎิบัติที่จะทำให้อาการเราดีขึ้นได้ แต่กลับกลายเป็นแย่ลง ทำให้เราต้องพยายามหลีกหนีสภาพแวดล้อมแบบนั้นออกมาแทน ทำให้ยิ่งกลายเป็นคนเหมือนอยู่บนโลกนี้คนเดียว พยายามต้องเพิ่งยา และตัวเองให้มากๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเคยมีคนรอบข้างมากมาย
- ชีวิตครอบครัว แม้จะเพิ่งแต่งงาน กับกำลังมีลูก รู้สึกดีใจที่เราโชคดีกว่าคนอีกหลายคน แต่ทำไมไม่รู้สึกมีความสุขจริงๆ เลย เหมือนสมองมันไม่หลั่งสารความสุขมานานมากแล้ว แล้วคนในครอบครัวส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจเรา กลายเป็นว่าหลายครั้งทำให้อาการแย่ลง เราก็ไม่ได้โทษอะไรเขาหรอก แค่พยายามบอกให้เขาเข้าใจอาการเรา แต่ก็ยากที่จะเข้าใจ นอกจากคนที่เคยเป็นโรคนี้ หรือหมอ
- เคยไปบวชอยู่ช่วงนึง แต่ก็อยู่ไม่ได้นาน เพราะอาการดูแย่ลง แต่ทุกวันก็ยังพยายามฟังธรรม ปฎิบัติธรรม เยอะๆ และอยากกลับไปบวชอีกรอบ
เพราะเคยลองฆ่าตัวตาย และปัจจจุบันก็ยังคิดฆ่าตัวตายอยู่เรื่อยๆ แต่อยากให้ตัวเองเข้าใจว่าการทำแบบนี้ มันมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง และชีวิตทางธรรมเราจะติดอยู่กับสังสารวัฏอีกนานด้วยถ้าทำแบบนี้
- จริงๆ มีเรื่องที่แย่ลงอีกหลายอย่าง แต่หลักๆ ที่เครียด และจมดิ่งกับความทุกข์อยู่มีมาจากเรื่องราวเหล่านี้ ตอนนี้ทำไรไม่ได้นอกจากหาหมอ กินยา ปฎิบัติธรรม รักษาตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะดีขึ้น
มีใครเคยเจอแบบผมบ้างครับ แล้วหลังจากรักษาหายแล้ว ชีวิตดีขึ้นกันไหมครับ
สาธุ
... ใครป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แล้วรู้สึกชีวิตพังทลาย แบบผม บ้างครับ ??
- ไม่สามารถกลับไปทำงานหนักๆ ได้อย่างเมื่อก่อนแล้ว (เพราะพยายามหลีกเลี่ยงงานที่ต้องเจอความเครียด ความกดดันสูงในช่วงรักษาแรกๆ ก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้ารักษาหายแล้ว เราจะกลับไปทำงานหนักๆ ได้อย่างเมื่อก่อนไหม หรือควรทำไหม)
- จากข้อข้างบน จากภาพที่เราเป็นผู้นำ เป็นคนที่ทำงานอย่างหนักมาตลอด เป็นสิบปี กลายเป็นตัวเองแทบไม่มีงานทำ ภาพตอนนี้กลายเป็นคนไม่ได้เรื่องได้ราว ไม่ทำงานทำการเป็นกิจลักษณะ อยู่ไปวันๆ ไม่ได้ทำไรเป็นชิ้นเป็นอัน (อาจจะเพราะอาการป่วยด้วยที่ทำให้ดิ่งลงไปคิดว่า ตัวเองด้อยค่าบ่อยๆ )
- จากข้อข้างบนอีก ก็ทำให้ชีวิตคนรอบข้าง มีหลายคนไม่ค่อยเข้าใจอาการป่วยของเรา จากกำลังใจหรือวิธีปฎิบัติที่จะทำให้อาการเราดีขึ้นได้ แต่กลับกลายเป็นแย่ลง ทำให้เราต้องพยายามหลีกหนีสภาพแวดล้อมแบบนั้นออกมาแทน ทำให้ยิ่งกลายเป็นคนเหมือนอยู่บนโลกนี้คนเดียว พยายามต้องเพิ่งยา และตัวเองให้มากๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเคยมีคนรอบข้างมากมาย
- ชีวิตครอบครัว แม้จะเพิ่งแต่งงาน กับกำลังมีลูก รู้สึกดีใจที่เราโชคดีกว่าคนอีกหลายคน แต่ทำไมไม่รู้สึกมีความสุขจริงๆ เลย เหมือนสมองมันไม่หลั่งสารความสุขมานานมากแล้ว แล้วคนในครอบครัวส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจเรา กลายเป็นว่าหลายครั้งทำให้อาการแย่ลง เราก็ไม่ได้โทษอะไรเขาหรอก แค่พยายามบอกให้เขาเข้าใจอาการเรา แต่ก็ยากที่จะเข้าใจ นอกจากคนที่เคยเป็นโรคนี้ หรือหมอ
- เคยไปบวชอยู่ช่วงนึง แต่ก็อยู่ไม่ได้นาน เพราะอาการดูแย่ลง แต่ทุกวันก็ยังพยายามฟังธรรม ปฎิบัติธรรม เยอะๆ และอยากกลับไปบวชอีกรอบ
เพราะเคยลองฆ่าตัวตาย และปัจจจุบันก็ยังคิดฆ่าตัวตายอยู่เรื่อยๆ แต่อยากให้ตัวเองเข้าใจว่าการทำแบบนี้ มันมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง และชีวิตทางธรรมเราจะติดอยู่กับสังสารวัฏอีกนานด้วยถ้าทำแบบนี้
- จริงๆ มีเรื่องที่แย่ลงอีกหลายอย่าง แต่หลักๆ ที่เครียด และจมดิ่งกับความทุกข์อยู่มีมาจากเรื่องราวเหล่านี้ ตอนนี้ทำไรไม่ได้นอกจากหาหมอ กินยา ปฎิบัติธรรม รักษาตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะดีขึ้น
มีใครเคยเจอแบบผมบ้างครับ แล้วหลังจากรักษาหายแล้ว ชีวิตดีขึ้นกันไหมครับ
สาธุ