ต้องบอกก่อนเลยว่าโรคนี้เป็นโรคที่รุนแรงมากสำหรับน้องหมา มีโอกาสเสียชีวิตสูงอยู่ค่ะ ยังไงก็อย่าเพิ่งเศร้าใจไป ทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือพาน้องหมาไปหาหมอดีที่สุดค่ะ แต่เราก็จะมาบอกอีกวิธีที่เราได้ลองเสิร์จหาเมื่อตอนที่น้องหมาที่บ้านเราเคยเป็นค่ะ เป็นการรักษาที่ใช้โยเกิร์ต ข้อมูลที่เราได้มาก็จากเว็บพันทิปนี่แหละค่ะโดยเฉพาะเว็บนี้ *ขออนุญาตจขกท.แปะลิงค์ค่ะ*
https://pantip.com/topic/32195410
เริ่มแรกเลย แม่หมาที่บ้านมันออกลูกมา 4 ตัว พอโตไปสัก 2 เดือน ก็มีลูกหมาตัวหนึ่งเป็นลำไส้อักเสบ อาการตอนแรกของน้องเท่าที่จำได้คือน้องจะอาเจียนออกมาเป็นเมือกๆฟองๆ และถ่ายเหลว น้องซึมมาก เราเลยพาไปหาหมอเพราะกลัวว่าน้องจะเป็นอะไร หมอเขาก็ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง แล้วก็ฉีดยา พรุ่งนี้ให้มาหาใหม่ แต่ด้วยความที่น้องน่าจะร่างกายอ่อนแอเกินทำให้น้องจากไปค่ะ ตอนนั้นเสียใจมาก และเหตุนี้เองทำให้เราได้รู้จักกับโรคนี้มากขึ้น ก็เพราะว่าเจ้าลูกหมา 3 ตัวที่เหลือน่ะสิคะ มันติดเชื้อไวรัสโรคลำไส้อักเสบกันหมดเลยอาจจะเป็นเพราะไปรับเชื้อจากเจ้าตัวที่จากไป และดันคลุกคลีอยู่ด้วยกันทำให้ติดเชื้อ เพราะโรคนี้เมื่อเป็นแล้วควรแยกตัวที่เป็นออกห่างจากตัวอื่นๆทันที แค่ดมอ้วกก็ไม่ได้ เราและที่บ้านก็เลยต้องพาไปรักษา เห็นอาการแล้วก็กลัวจะเป็นเหมือนตัวก่อน สงสารเขามาก เขาดูทรมานเหลือเกิน ตอนนั้นเราไปคลินิกรักษาสัตว์แทบทุกวันเลยค่ะ ก็ตามเคยให้น้ำเกลือ ฉีดยา งดอาบน้ำ งดอาหารและน้ำ พาไปจนทั้ง 3 ตัวหายดีค่ะ เสียค่ารักษาไปเยอะอยู่แต่คุณหมอที่นั่นใจดีมากและเก่งมากๆ เขาเลยคิดค่ารักษาแค่ตัวละ 100 บาทต่อครั้ง ถือว่าถูกมากๆค่ะ
แต่แต่แต่ เมื่อหายดีแล้วเราก็ไม่เคยพาน้องไปทำวัคซีนเลย จนเวลาผ่านไป ทั้งสามตัวก็เหมือนมีอาการอาเจียนแบบครั้งก่อน แต่ไม่ได้ถ่ายเหลว เราเองพอได้สังเกตอาการก็เริ่มกังวลละค่ะ กลัวเขาจะไปเป็นอีก ผลสุดท้ายน้องเป็นอีกแล้วค่ะ ทั้งสามตัวเลย เราก็หมดหนทางละ ก็เลยหาวิธีที่ไม่ต้องพาน้องไปหาหมอ ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ดีไปกว่าหมอ เราไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรแล้วจะรักษาเขายังไง แต่เนื่องจากตัวจขกท.เองไม่ใช่คนโตที่มีรายได้อะไร และที่บ้านเองก็เหนื่อยกับการพาน้องหมาไปทุกๆวัน เรามีโทรศัพท์มือถือใช่มั้ยคะ เราก็เลยจัดการหาข้อมูลเลยค่ะ ก็ได้ไปเจอกับกระทู้นั้นเข้าเลยลองทำตามดู เพราะเป็นของที่หาได้ทั่วไปและไม่แพง นั่นก็คือ โยเกิร์ตค่ะ วิธีก็คือ เอาสลิงยามาดูดโยเกิร์ต 3 ซีซี แล้วป้อนน้อง ในทุกๆครึ่งชั่วโมง ไปเรื่อยๆ สัก 3 ชม. แล้วสังเกตอาการน้อง คอนเซ็ปง่ายๆก็คือ "น้อยแต่บ่อย" แต่สิ่งที่ควรระวังคือให้เขางดน้ำและอาหาร ที่จขกท.เข้าใจนะ ถ้ากินอะไรเข้าไปมันอาจจะทำให้เชื้อมันไปกัดกร่อนได้ ส่วนวิธีการป้อนที่ดีคือป้อนตรงมุมปากน้องจะได้กลืนได้สะดวก อันนี้คุณหมอเคยสอนมา555
เราทำแบบนี้จนเป็นเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง อาการทั้ง 3 ตัวดีขึ้น หน้าตาสดใสขึ้น ร่าเริงขึ้นทันตาเห็น จนไม่มีอาการใดๆ มันทำให้เราดีใจมากๆค่ะ รู้สึกขอบคุณกระทู้นั้นมาก และข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาก เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะโยเกิร์ตล้วนๆหรือว่าเพราะทั้ง 3 ตัวนี้เคยถูกฉีดยารักษาโรคนี้มาก่อน หรือว่าภูมิคุ้มกันน้องดีไม่รู้ แต่ต้องขอบคุณข้อมูลจากแหล่งต่างๆมากค่ะ
สิ่งที่อยากจะบอกกับตัวเองและทุกๆคนก็คือ ถ้าอยากเลี้ยงสัตว์จริงๆเราควรจะมีความพร้อมและมีความรับผิดชอบกับเขา และสิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ พาน้องไปทำวัคซีนให้ครบเลยค่ะ มันมีให้ป้องกันได้หลายโรคเลยถ้าไม่อยากมาเสียเงินและเสียเวลา วิ่งเต้นเข้าออกคลินิก
*คำแนะนำ* เวลาพาน้องหมาไปหาหมอทีไร ไม่ใช่เพียงแค่โรคนี้นะคะรวมถึงโรคอื่นๆด้วย คุณหมอมักแนะนำว่า
-ไม่ควรกินอาหารที่มีส่วนผสมของ นม ตับ ไก่
-นอนในที่อุ่น ก็คือมีผ้าให้น้องนอน เพราะจะได้ไม่เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน
เราคิดว่าที่เป็นโรคนี้อาจจะมาจากที่น้องชอบไปกัดหนู ส่วนสาเหตุของโรคลำไส้อักเสบที่แน่ชัดเราจำข้อมูลได้ไม่ค่อยแม่น เพื่อนๆสามารถค้นหาข้อมูลได้ มีแหล่งข้อมูลหลากหลายมากๆค่ะ
สุดท้ายนี้ก็อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ของตัวจขกท.เองให้กับเพื่อนๆ หวังว่ามันคงจะมีประโยชน์นะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ และยังคงย้ำเหมือนเดิมว่า พาน้องหมาไปหาหมอดีที่สุดค่ะ^^
สุนัขที่บ้านเป็นโรคลำไส้อักเสบ แต่หายด้วยวิธีนี้
เริ่มแรกเลย แม่หมาที่บ้านมันออกลูกมา 4 ตัว พอโตไปสัก 2 เดือน ก็มีลูกหมาตัวหนึ่งเป็นลำไส้อักเสบ อาการตอนแรกของน้องเท่าที่จำได้คือน้องจะอาเจียนออกมาเป็นเมือกๆฟองๆ และถ่ายเหลว น้องซึมมาก เราเลยพาไปหาหมอเพราะกลัวว่าน้องจะเป็นอะไร หมอเขาก็ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง แล้วก็ฉีดยา พรุ่งนี้ให้มาหาใหม่ แต่ด้วยความที่น้องน่าจะร่างกายอ่อนแอเกินทำให้น้องจากไปค่ะ ตอนนั้นเสียใจมาก และเหตุนี้เองทำให้เราได้รู้จักกับโรคนี้มากขึ้น ก็เพราะว่าเจ้าลูกหมา 3 ตัวที่เหลือน่ะสิคะ มันติดเชื้อไวรัสโรคลำไส้อักเสบกันหมดเลยอาจจะเป็นเพราะไปรับเชื้อจากเจ้าตัวที่จากไป และดันคลุกคลีอยู่ด้วยกันทำให้ติดเชื้อ เพราะโรคนี้เมื่อเป็นแล้วควรแยกตัวที่เป็นออกห่างจากตัวอื่นๆทันที แค่ดมอ้วกก็ไม่ได้ เราและที่บ้านก็เลยต้องพาไปรักษา เห็นอาการแล้วก็กลัวจะเป็นเหมือนตัวก่อน สงสารเขามาก เขาดูทรมานเหลือเกิน ตอนนั้นเราไปคลินิกรักษาสัตว์แทบทุกวันเลยค่ะ ก็ตามเคยให้น้ำเกลือ ฉีดยา งดอาบน้ำ งดอาหารและน้ำ พาไปจนทั้ง 3 ตัวหายดีค่ะ เสียค่ารักษาไปเยอะอยู่แต่คุณหมอที่นั่นใจดีมากและเก่งมากๆ เขาเลยคิดค่ารักษาแค่ตัวละ 100 บาทต่อครั้ง ถือว่าถูกมากๆค่ะ
แต่แต่แต่ เมื่อหายดีแล้วเราก็ไม่เคยพาน้องไปทำวัคซีนเลย จนเวลาผ่านไป ทั้งสามตัวก็เหมือนมีอาการอาเจียนแบบครั้งก่อน แต่ไม่ได้ถ่ายเหลว เราเองพอได้สังเกตอาการก็เริ่มกังวลละค่ะ กลัวเขาจะไปเป็นอีก ผลสุดท้ายน้องเป็นอีกแล้วค่ะ ทั้งสามตัวเลย เราก็หมดหนทางละ ก็เลยหาวิธีที่ไม่ต้องพาน้องไปหาหมอ ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ดีไปกว่าหมอ เราไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรแล้วจะรักษาเขายังไง แต่เนื่องจากตัวจขกท.เองไม่ใช่คนโตที่มีรายได้อะไร และที่บ้านเองก็เหนื่อยกับการพาน้องหมาไปทุกๆวัน เรามีโทรศัพท์มือถือใช่มั้ยคะ เราก็เลยจัดการหาข้อมูลเลยค่ะ ก็ได้ไปเจอกับกระทู้นั้นเข้าเลยลองทำตามดู เพราะเป็นของที่หาได้ทั่วไปและไม่แพง นั่นก็คือ โยเกิร์ตค่ะ วิธีก็คือ เอาสลิงยามาดูดโยเกิร์ต 3 ซีซี แล้วป้อนน้อง ในทุกๆครึ่งชั่วโมง ไปเรื่อยๆ สัก 3 ชม. แล้วสังเกตอาการน้อง คอนเซ็ปง่ายๆก็คือ "น้อยแต่บ่อย" แต่สิ่งที่ควรระวังคือให้เขางดน้ำและอาหาร ที่จขกท.เข้าใจนะ ถ้ากินอะไรเข้าไปมันอาจจะทำให้เชื้อมันไปกัดกร่อนได้ ส่วนวิธีการป้อนที่ดีคือป้อนตรงมุมปากน้องจะได้กลืนได้สะดวก อันนี้คุณหมอเคยสอนมา555
เราทำแบบนี้จนเป็นเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง อาการทั้ง 3 ตัวดีขึ้น หน้าตาสดใสขึ้น ร่าเริงขึ้นทันตาเห็น จนไม่มีอาการใดๆ มันทำให้เราดีใจมากๆค่ะ รู้สึกขอบคุณกระทู้นั้นมาก และข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาก เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะโยเกิร์ตล้วนๆหรือว่าเพราะทั้ง 3 ตัวนี้เคยถูกฉีดยารักษาโรคนี้มาก่อน หรือว่าภูมิคุ้มกันน้องดีไม่รู้ แต่ต้องขอบคุณข้อมูลจากแหล่งต่างๆมากค่ะ
สิ่งที่อยากจะบอกกับตัวเองและทุกๆคนก็คือ ถ้าอยากเลี้ยงสัตว์จริงๆเราควรจะมีความพร้อมและมีความรับผิดชอบกับเขา และสิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ พาน้องไปทำวัคซีนให้ครบเลยค่ะ มันมีให้ป้องกันได้หลายโรคเลยถ้าไม่อยากมาเสียเงินและเสียเวลา วิ่งเต้นเข้าออกคลินิก
*คำแนะนำ* เวลาพาน้องหมาไปหาหมอทีไร ไม่ใช่เพียงแค่โรคนี้นะคะรวมถึงโรคอื่นๆด้วย คุณหมอมักแนะนำว่า
-ไม่ควรกินอาหารที่มีส่วนผสมของ นม ตับ ไก่
-นอนในที่อุ่น ก็คือมีผ้าให้น้องนอน เพราะจะได้ไม่เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน
เราคิดว่าที่เป็นโรคนี้อาจจะมาจากที่น้องชอบไปกัดหนู ส่วนสาเหตุของโรคลำไส้อักเสบที่แน่ชัดเราจำข้อมูลได้ไม่ค่อยแม่น เพื่อนๆสามารถค้นหาข้อมูลได้ มีแหล่งข้อมูลหลากหลายมากๆค่ะ
สุดท้ายนี้ก็อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ของตัวจขกท.เองให้กับเพื่อนๆ หวังว่ามันคงจะมีประโยชน์นะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ และยังคงย้ำเหมือนเดิมว่า พาน้องหมาไปหาหมอดีที่สุดค่ะ^^