.......ไปให้ถึงฝัน! นักเตะที่ก้าวข้ามอุปสรรค_จนมีชื่อก้องโลก

....กว่าที่คนคนหนึ่งจะกลายมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพไม่ว่าจะในระดับใดก็แล้วแต่ไม่ใช่เรื่องง่าย
การฝึกปรือฝีเท้าให้เป็นที่ยอมรับได้นั้นต้องผ่านอะไรมากมาย
โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาที่ฉุดรั้งในการก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของเส้นทางลูกหนัง

    มาชมนักเตะที่รู้ซึ้งถึงความยากลำบากดังกล่าว
และสามารถก้าวข้ามมันไปได้  จนขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดในอาชีพของพวกเขา

อเล็กซิส ซานเชซ

   การทำงานหนัก ทุ่มเท และความทะเยอทะยานของเขา
ช่วยให้ อเล็กซิส ซานเชซ หลบพ้นแหล่งเสื่อมโทรมในเมือง โตโกพิยาร์ ทางตอนเหนือของประเทศ ชิลี ได้สำเร็จ
เขามักเล่นฟุตบอลด้วยเท้าเปล่าบนท้องถนนเมื่อในอดีตกับความเชื่อที่ว่าสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะระดับท็อปของโลกได้

    ซานเชซแทบจะไม่รู้จักพ่อของตัวเอง ขณะที่แม่ของเขาประกอบอาชีพ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน
ทั้งเป็นพนักงานทำความสะอาดและแม่ค้าขายปลาเพื่อเลี้ยงดูลูกของเธอ
โดยเมื่อครั้งที่ดาวเตะรายนี้ยังเยาว์เขามักรับจ้างล้างรถอยู่บริเวณสุสานท้องถิ่นเพื่อนำเงินที่ได้มาช่วยเหลือครอบครัว

    กระทั่งเขาได้รับสัญญาอาชีพเมื่ออายุ 16 ปี  ด้วยการย้ายไป อูดิเนเซ, บาร์เซโลนา, อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา
เขาก็ไม่เคยลืมรากเหง้าของตนเองโดยได้ช่วยเหลือเด็กๆ ใน โตโกพิยาร์
ด้วยการมอบรองเท้าสตั๊ดและลูกฟุตบอลให้กับพวกเขาเป็นประจำ รวมทั้งสร้างสนามฟุตบอลสำหรับเด็กๆ ที่นั่นอีกด้วย

ซาดิโอ มาเน

    ซาดิโอ มาเน เคยใช้ชีวิตอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรมที่ประเทศเซเนกัล โดยพักอาศัยในบ้านที่มีคนอยู่ถึง 9 ชีวิต
ซึ่งในตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าหนู ซาดิโอ ที่เต็มไปด้วยความฝันจะสามารถกลายมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้สำเร็จ

    ด้วยความอยากหวดลูกหนัง มาเนขอเงินจากเพื่อนของครอบครัวเขา
เพื่อเดินทางออกจากเมืองหลวงอย่าง ดาการ์ไปตามหาความฝัน

    ครอบครัวของเขาอนุญาตให้เจ้าตัวเดินทางในเส้นทางอาชีพค้าแข้งเมื่อสำเร็จการศึกษา
และในตอนนี้เขาก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทวีปแอฟริกา

เดวิด เบคแฮม

   ผู้ป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder) มักถูกล้อเลียน
และต้องพบกับความเจ็บปวดจากการถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด
ในแง่เลวร้ายที่สุดคือมันสามารถทำลายจิตใจของผู้ป่วยให้พังทลายลงได้อย่างง่ายดาย

    อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ เผยว่าเขาเคยเผชิญกับอาการป่วยดังกล่าวเป็นเวลาหลายปีหลังจากฟุตบอลโลก 2006 จบลง
และเขาปิดบังมันเอาไว้และไม่เปิดเผยต่อเพื่อนร่วมทีม เรอัล มาดริด ในเวลานั้น
แต่เพื่อนร่วมทีมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะหยอกล้อกับเขาด้วยความระมัดระวังเสมอ

    เบคแฮมสามารถรับมือกับอาการดังกล่าวได้เป็นอย่างดีและมีเส้นทางการค้าแข้งอันยอดเยี่ยมตลอดมา

โรนัลดินโญ่

    เด็กชาย โรนัลดินโญ เคยใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในวัยเด็กในแหล่งเสื่อมโทรมที่เมือง ปอร์โต้ อัลเลเกร ทางตอนใต้ของ บราซิล
ก่อนจะย้ายไปในที่ที่มีคุณภาพชีวิตดีกว่าเมื่อพี่ชายของเขาเซ็นสัญญากับ เกรมิโอ

    เขาต้องพบกับความเศร้าสลดใจในครอบครัวเมื่อพ่อของ โรนัลดินโญ่ เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเฉียบพลันที่สระว่ายน้ำ
ขณะที่มีอายุได้เพียง 8 ขวบ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ไต่ระดับทีมเยาวชนของ เกรมิโอ ขึ้นมา
ก่อนจะได้ไป ปารีส แซ็งต์ แชร์กแมง และ บาร์เซโลนา ตามลำดับ

    ที่ถิ่น คัมป์นู นี่เองที่ดาวเตะแซมบ้ารายนี้จารึกชื่อของตัวเองเป็นหนึ่งในตำนานลูกหนังระดับโลก

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

    คริสเตียโน โรนัลโด้ เติบโตขึ้นมาจากเกาะ มาไดรา ส่วนหนึ่งของ โปรตุเกส
และต้องจากบ้านเกิดออกมาผจญสีสันของเมือง ลิสบอน ด้วยวัยเพียง 12 ปี เพื่อที่จะตามรอยความฝันบนเส้นทางลูกหนังของเขา

    เวลานั้นหลายๆ อย่างดูไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นักสำหรับซูเปอร์สตาร์ในอนาคตอย่าง โรนัลโด้
เขาเคยถูกพักการเรียนจากเหตุการณ์ทุ่มเก้าอี้ใส่อาจารย์ที่โรงเรียนจากเหตุผลที่ว่าอาจารย์คนดังกล่าวพูดจาให้ร้ายเจ้าตัว
โรนัลโด้ ยังเคยถูกวินิจฉัยว่ามีความเสี่ยงจะมีอาการหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ
และต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อให้เขาสามารถเล่นฟุตบอลต่อไปได้ก่อนที่มันจะแสดงอาการออกมา

    เขาได้เซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวัยเพียง 18 ปี
กระทั่งกลายเป็นหนึ่งในขุนพล เรอัล มาดริด ในปัจจุบัน

ลิโอเนล เมสซี่

    เป็นเด็กที่มีรูปร่างเล็กกว่าปกติ โดย เมสซี ได้รับการวินิจฉัยว่ามีปัญหากับ โกรวธฮอร์โมน เมื่ออายุได้ 10 ขวบ
ซึ่งการเข้ารับการรักษามีค่าใช้จ่ายสูงเกินกว่าประกันสุขภาพจากครอบครัวของเขาจะจ่ายได้
ต้นสังกัดของเขาในตอนนั้นอย่าง นีเวลล์ส โอลด บอยส์ ให้คำมั่นสัญญาว่า
จะดูแลค่าใช้จ่ายอาการป่วยของเจ้าตัวเพียงเพื่อให้เขากลายเป็นเด็กที่มีสุขภาพดี

    ยักษ์ใหญ่แห่ง บัวโนส ไอเรส อย่างริเวอร์เพลท ต้องการตัวเขาในเวลาต่อมา
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาได้
ก่อนที่เขาจะเลือกทางเดินที่ดีที่สุดโดยการไปทดสอบฝีเท้ากับ บาร์เซโลนา
แม้ยากจะเชื่อว่าเขาจะประสบความสำเร็จที่ คัมป์นู แต่บอร์ดบริหารก็คว้าตัว เมสซี มาร่วมทีมในวัย 13 ปี

    ทัพอาซูลกรานา มอบสัญญาฉบับแรกให้กับ เมสซี ผ่านกระดาษทิชชูเช็ดปาก
พร้อมกับการย้ายถิ่นฐานของครอบครัวของเขาสู่แผ่นดินสเปน และเวลาต่อมาทุกอย่างก็กลายเป็นตำนาน

Credit  :  https://www.sanook.com/sport/679477/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่