"ครป."จี้"อดุลย์"รับผิดชอบโกงเงินคนจนช่วงเป็นรมว.พม.
https://www.dailynews.co.th/politics/630612
"ครป."จี้ "พล.ต.อ.อดุลย์”รับผิดชอบโกงเงินคนจนช่วงเป็น รมว.พม. ระบุ"สตง."เคยเตือนแล้วตั้งแต่กลางปี 60 แต่ยังไม่แก้ปัญหาใดๆ
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.นาย
บุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงข้อเสนอแนะต่อกรณีการโกงเงินคนจน คนไร้ที่พึ่ง ผู้ป่วยเอดส์ และปัญหาในการตรวจสอบการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการใช้อำนาจรัฐ ว่า เป็นที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เกิดข่าวคราวการยักยอกเงินที่รัฐจัดสรรไว้ให้การช่วยเหลือคนยากคนจน คนไร้ที่พึ่ง ในช่วง2 ปีกว่าที่ผ่านมา แทบไม่น่าเชื่อว่ากระทรวงนางฟ้าอย่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทั้งที่ประชาชนก็เพิ่งผิดหวังกับกระทรวงเทวดากระทรวงวัฒนธรรม ที่ปล่อยให้เกิดปัญหากรณี เงินทอนวัดในสำนักพระพุทธศาสนาฯ เมื่อไม่นานมานี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงขบวนการฉ้อโกงที่แผ่กระจายอย่างถ้วนทั่ว ไม่มีเว้น สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพที่ตกต่ำของรัฐบาลปัจจุบันที่ปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นทั้งนี้ รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ที่มีการโหมโฆษณากันอย่างเต็มรูปแบบ และประกาศใช้แล้ว แต่กลับไม่มีความหมายแล้วหรืออย่างไร
นาย
บุญแทน กล่าวว่า ผู้ที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดคงไม่พ้น พล.ต.อ.
อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตรมว. พม. เพราะเหตุเกิดในระหว่างที่ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงอยู่ นอกจากนี้เราทราบมาว่าทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งรายงานการตรวจสอบความผิดปกติให้ท่านทราบแล้วตั้งแต่กลางปี 2560 ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนจะไม่มีท่าทีใดๆ ในการดำเนินการจนกระทั่งนักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ออกมาดำเนินการด้วยตนเองทั้งที่มีความสุ่มเสี่ยงอย่างสูงกับชีวิตและความปลอดภัยของทั้ง 2 คน ซึ่งอดีต รมว.พม.ต้องแสดงให้สาธารชนได้เห็นถึงความพยายามในการจัดการปัญหานี้ก่อนที่ท่านจะข้ามมาอยู่อีกกระทรวงหนึ่ง อย่างมีจริยธรรม ทั้งนี้รัฐต้องให้การดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี กับผู้ที่ได้ทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี ไม่เพียงแค่คำขอบคุณ และเชิดชูการทำความดีดังกล่าว แต่หากเกิดปัญหาร้ายแรงขึ้น รัฐต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบอย่างที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้
“หลายกรณี หลายเหตุการณ์ในช่วง2-3เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนถึงประสิทธิภาพ และความรับผิดชอบของรัฐที่ไม่เป็นที่น่าประทับใจนัก สังคมได้รับรู้ และรู้สึกถึงการปฏิบัติแบบ2มาตรฐานทั้งในทางสังคมการเมือง และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งภาพลักษณ์ของรัฐบาลเอง และความสงบเรียบร้อยในสังคม หากประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อระบบยุติธรรม ก็จะส่งผลร้ายแรงต่อสังคมโดยรวม กลายไปเป็น รัฐล้มเหลวได้ในไม่ช้าเช่นกัน ทั้งนี้รัฐต้องยอมรับการตรวจสอบจากภาคประชาสังคมที่ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ”นายบุญแทน กล่าว
"เลขาต้านโกง"เชื่อกินเงินคนจน ทำเป็นกระบวนการ
https://www.dailynews.co.th/politics/630616
"เลขาองค์กรต้านคอร์รัปชั่น"เชื่อโกงเงินคนจนทำเป็นกระบวนการ มีการประสานงาน-ปกป้องคุ้มครองจากคนในส่วนกลาง พร้อมยก"นิสิต-อดีตลูกจ้าง"แฉกลโกง เป็นคนรุ่นใหม่มีจิตสำนึกต่อการทุจริต ระบุสังคมไทยยังมีคนแบบนี้อยู่น้อย
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นาย
มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวถึงกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นในระบบราชการทำกันอยู่ทั่วไป และทำเป็นกระบวนการ จะพบว่าการโกงในระบบราชการจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ในรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ กระบวนการเหล่านี้จะเป็นไปได้และคงอยู่ได้ คือต้องได้รับการประสานงาน และการปกป้องคุ้มครองจากส่วนกลาง หรือผู้ที่มีอำนาจมากกว่าคนในพื้นที่ สุดท้ายแล้วก็ต้องมีการตอบแทนกันด้วยโดยเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค จะต้องมีการส่งส่วยกลับคืนมาให้กับส่วนกลาง หรือคนที่เป็นผู้บังคับบัญชาของตัวเขา ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องเลวร้าย ฝังตัวอยู่ในสังคมและยากที่จะแก้ไขได้
“การทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ผมเชื่อว่าจะต้องมีคนจากส่วนกลางของ พม. มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถทำได้ เพราะคนที่รู้เห็นมีจำนวนมากจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำคนเดียว ฉะนั้นแล้วคณะกรรมการที่รมว.พม มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้นมา ป.ท.ท. จะต้องทำงานร่วมกัน เพราะเป็นการคอร์รัปชั่นจำนวนมากขนาดนี้ และเมื่อมีการเชื่อมโยงมาถึงข้าราชการระดับสูงในพม. แล้ว ต่อไปนี้ป.ป.ช. จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมเพิ่มด้วยรวมถึง สตง. จะต้องเข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนจึงสมควรที่หน่วยงานต่างๆ ที่มีอำนาจหน้าที่จะต้องเข้าไปช่วยกันสร้างความชัดเจนให้สังคมรับทราบ” นาย
มานะ กล่าว
นาย
มานะ กล่าวต่อว่า การตรวจสอบที่ดีที่สุดคือให้คนนอกทำหน้าที่นี้ ส่วนคนในหรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงของพม. จะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และจากปรากฏการณ์ที่นักศึกษาและอดีตลูกจ้าง ลุกขึ้นมาเปิดโปงการโกงทั้งหมด การกระทำของคนทั้ง 2 คนเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่เริ่มเริ่มมีจิตสำนึกที่ดี ในเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งถ้ามีคนประเภทนี้มีอยู่มากๆ การทุจริตคอร์รัปชั่นจะหมดไปจากประเทศแน่นอน .
JJNY : "ครป."จี้"อดุลย์"รับผิดชอบโกงเงินคนจนช่วงเป็นรมว.พม./"เลขาต้านโกง"เชื่อกินเงินคนจนทำเป็นกระบวนการ
https://www.dailynews.co.th/politics/630612
"ครป."จี้ "พล.ต.อ.อดุลย์”รับผิดชอบโกงเงินคนจนช่วงเป็น รมว.พม. ระบุ"สตง."เคยเตือนแล้วตั้งแต่กลางปี 60 แต่ยังไม่แก้ปัญหาใดๆ
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.นายบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงข้อเสนอแนะต่อกรณีการโกงเงินคนจน คนไร้ที่พึ่ง ผู้ป่วยเอดส์ และปัญหาในการตรวจสอบการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการใช้อำนาจรัฐ ว่า เป็นที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เกิดข่าวคราวการยักยอกเงินที่รัฐจัดสรรไว้ให้การช่วยเหลือคนยากคนจน คนไร้ที่พึ่ง ในช่วง2 ปีกว่าที่ผ่านมา แทบไม่น่าเชื่อว่ากระทรวงนางฟ้าอย่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทั้งที่ประชาชนก็เพิ่งผิดหวังกับกระทรวงเทวดากระทรวงวัฒนธรรม ที่ปล่อยให้เกิดปัญหากรณี เงินทอนวัดในสำนักพระพุทธศาสนาฯ เมื่อไม่นานมานี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงขบวนการฉ้อโกงที่แผ่กระจายอย่างถ้วนทั่ว ไม่มีเว้น สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพที่ตกต่ำของรัฐบาลปัจจุบันที่ปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นทั้งนี้ รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ที่มีการโหมโฆษณากันอย่างเต็มรูปแบบ และประกาศใช้แล้ว แต่กลับไม่มีความหมายแล้วหรืออย่างไร
นายบุญแทน กล่าวว่า ผู้ที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดคงไม่พ้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตรมว. พม. เพราะเหตุเกิดในระหว่างที่ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงอยู่ นอกจากนี้เราทราบมาว่าทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งรายงานการตรวจสอบความผิดปกติให้ท่านทราบแล้วตั้งแต่กลางปี 2560 ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนจะไม่มีท่าทีใดๆ ในการดำเนินการจนกระทั่งนักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ออกมาดำเนินการด้วยตนเองทั้งที่มีความสุ่มเสี่ยงอย่างสูงกับชีวิตและความปลอดภัยของทั้ง 2 คน ซึ่งอดีต รมว.พม.ต้องแสดงให้สาธารชนได้เห็นถึงความพยายามในการจัดการปัญหานี้ก่อนที่ท่านจะข้ามมาอยู่อีกกระทรวงหนึ่ง อย่างมีจริยธรรม ทั้งนี้รัฐต้องให้การดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี กับผู้ที่ได้ทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี ไม่เพียงแค่คำขอบคุณ และเชิดชูการทำความดีดังกล่าว แต่หากเกิดปัญหาร้ายแรงขึ้น รัฐต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบอย่างที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้
“หลายกรณี หลายเหตุการณ์ในช่วง2-3เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนถึงประสิทธิภาพ และความรับผิดชอบของรัฐที่ไม่เป็นที่น่าประทับใจนัก สังคมได้รับรู้ และรู้สึกถึงการปฏิบัติแบบ2มาตรฐานทั้งในทางสังคมการเมือง และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งภาพลักษณ์ของรัฐบาลเอง และความสงบเรียบร้อยในสังคม หากประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อระบบยุติธรรม ก็จะส่งผลร้ายแรงต่อสังคมโดยรวม กลายไปเป็น รัฐล้มเหลวได้ในไม่ช้าเช่นกัน ทั้งนี้รัฐต้องยอมรับการตรวจสอบจากภาคประชาสังคมที่ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ”นายบุญแทน กล่าว
"เลขาต้านโกง"เชื่อกินเงินคนจน ทำเป็นกระบวนการ
https://www.dailynews.co.th/politics/630616
"เลขาองค์กรต้านคอร์รัปชั่น"เชื่อโกงเงินคนจนทำเป็นกระบวนการ มีการประสานงาน-ปกป้องคุ้มครองจากคนในส่วนกลาง พร้อมยก"นิสิต-อดีตลูกจ้าง"แฉกลโกง เป็นคนรุ่นใหม่มีจิตสำนึกต่อการทุจริต ระบุสังคมไทยยังมีคนแบบนี้อยู่น้อย
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายมานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวถึงกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นในระบบราชการทำกันอยู่ทั่วไป และทำเป็นกระบวนการ จะพบว่าการโกงในระบบราชการจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ในรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ กระบวนการเหล่านี้จะเป็นไปได้และคงอยู่ได้ คือต้องได้รับการประสานงาน และการปกป้องคุ้มครองจากส่วนกลาง หรือผู้ที่มีอำนาจมากกว่าคนในพื้นที่ สุดท้ายแล้วก็ต้องมีการตอบแทนกันด้วยโดยเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค จะต้องมีการส่งส่วยกลับคืนมาให้กับส่วนกลาง หรือคนที่เป็นผู้บังคับบัญชาของตัวเขา ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องเลวร้าย ฝังตัวอยู่ในสังคมและยากที่จะแก้ไขได้
“การทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ผมเชื่อว่าจะต้องมีคนจากส่วนกลางของ พม. มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถทำได้ เพราะคนที่รู้เห็นมีจำนวนมากจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำคนเดียว ฉะนั้นแล้วคณะกรรมการที่รมว.พม มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้นมา ป.ท.ท. จะต้องทำงานร่วมกัน เพราะเป็นการคอร์รัปชั่นจำนวนมากขนาดนี้ และเมื่อมีการเชื่อมโยงมาถึงข้าราชการระดับสูงในพม. แล้ว ต่อไปนี้ป.ป.ช. จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมเพิ่มด้วยรวมถึง สตง. จะต้องเข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนจึงสมควรที่หน่วยงานต่างๆ ที่มีอำนาจหน้าที่จะต้องเข้าไปช่วยกันสร้างความชัดเจนให้สังคมรับทราบ” นายมานะ กล่าว
นายมานะ กล่าวต่อว่า การตรวจสอบที่ดีที่สุดคือให้คนนอกทำหน้าที่นี้ ส่วนคนในหรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงของพม. จะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และจากปรากฏการณ์ที่นักศึกษาและอดีตลูกจ้าง ลุกขึ้นมาเปิดโปงการโกงทั้งหมด การกระทำของคนทั้ง 2 คนเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่เริ่มเริ่มมีจิตสำนึกที่ดี ในเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งถ้ามีคนประเภทนี้มีอยู่มากๆ การทุจริตคอร์รัปชั่นจะหมดไปจากประเทศแน่นอน .