เริ่มต้นซื้อตั๋วกันตั้งแต่ เดือน กรกฎาคมปีที่แล้ว โดยซื้อผ่านทาง Traveloka เพื่อเช็คว่า ราคาสายการบินไหนดีสุด เลยได้ ขาไป Thai Lion Air (ฟรีสัมภาระ) ราคาถูกมาก 1,051.96 บาทต่อคน เท่านั้น และขากลับ เป็น Nok (รวมสัมภาระ) ตกคนละ 1,413.60 บาท แต่พอเดือน พฤศจิกายน สายการบิน Thai Lion Air โทรมายกเลิกเที่ยวบินเฉยเลย ทำให้ต้องทำเรื่องเงินคืน และซื้อตั๋วใหม่ด่วน เลยได้ เป็นของ Air Asia มา ราคารวมประกัน +สัมภาระ (ที่ซื้อประกัน เพราะกลัวโดนยกเลิกอีก ฮ่าฮ่า) ได้มาที่ 2,200 บาท ถ้าแบกเป้ไป สำหรับ 6 คน น้ำหนักซื้อไม่เกิน 40 โลนะคะ ส่วนขากลับถ้ามีของฝาก ก็ซื้อเพิ่มเป็น 60 โลค่ะ ของกลุ่มเรา ไป 30 กว่าโล กลับ ก็ 60 โลนิดๆ ผ่านฉลุยค่ะ ขากลับทางสนามบินที่โน่น ไปบอกว่าแชร์น้ำหนักไม่ได้นะคะ ต้องระบุเลยว่า ของคนนี้ มี น้ำหนักเท่าไหร่ คนนี้น้ำหนักเท่าไหร่ เราก็ต้องรวมกระเป๋าเอาค่ะให้พอดี ของชื่อคนที่ซื้อ ส่วนคนที่ไม่มีน้ำหนัก ก็บอกไม่มีกระเป๋า ซึ่งก็คือการแชร์น้ำหนักอยู่ดี แต่จะต้องแยกทำไมเนี่ย ฮ่าฮ่า ทางดอนเมืองไม่มีปัญหา แต่ทางโน้น แต่ละสายการบิน จะให้ตัวแทน ชื่อ Saigon Ground Services เป็นคนดำเนินการเช็คอินแทนค่ะ (เลยต้องเข้มนิดนึงมั้งคะ) ไม่มีเจ้าหน้าที่ของสายการบินอยู่ในนั้นเลย ใช้ตัวแทนทั้งหมด
แต่ก่อนจะไปถึงเมืองต่างๆ จะขอสรุปแผนเดินทางคร่าวๆ ประมาณนี้ค่ะ (ต้องขอขอบคุณรีวิวต่างๆ ที่ผ่านมานะคะ ที่ทำให้ จขกท ได้ไอเดียการเดินทางที่เป็นแบบแผนและไม่เสียเวลาค่ะ)
27 ก.พ. - 2 มี.ค. 2561 (2018)
วันแรก : บินเช้า ถึงทางนั้น ไม่เกิน 10 โมง เข้าเมืองโดย รถบัสสาย 109 หาที่พักเก็บสัมภาระ เที่ยวใน โอจิมินห์ คืนนี้นอนบนรถบัสนอนไปดาลัด
วันที่สอง : ถึงดาลัดเช้าตรู่ ให้รถตู้ของทางรถทัวร์ พาไปส่งที่พัก (บริการฟรี) เที่ยวในดาลัด คืนนี้ได้นอนโรงแรม 1 คืน
วันที่สาม : แต่เช้ารถมารับไปขึ้นรถบัสเล็ก ไปมุยเน่กัน หาที่พักเก็บของ คืนนี้นอนบนรถบัสนอนกลับโฮจิมินทร์
วันที่สี่ : มาถึงโฮิจิมินห์เช้าตรู่ หาที่พักเก็บสัมภาระ เตรียมตัวไปเที่ยวที่อุโมงค์กู๋จี กลับมาไปตลาดซื้อของ แพ๊คของกลับบ้าน บินรอบดึก
สกุลเงินที่พกไป : ได้ทั้งหมด ไทย/ เวียดนามดอง (vnd) / usd - เงินไทยใช้ได้ที่สนามบินเวลาซื้อของฝาก (แบงค์ 20 ก็รับด้วย) และที่ตลาดเบนถัน (เอาแบงค์ 100 และ 50 ไปด้วย) แนะนำไม่ไห้แลกเงินดองไว้เยอะ เพราะส่วนมากทุกที่ รับทั้งเงินดอง และ usd หรือจะจ่ายทั้ง 2 สกุลเลยก็ได้ ในบิลเดียวกัน กรณีที่จำเป็น แต่ก็ต้องดูเรทด้วย
ช่วงที่ไป 1 usd = 31.37 บาท (Superrich ในห้าง) / และแลก 300 usd ได้มา 6.720.000 ดอง - มีหลายเรท จากหลายร้าน ค่อยๆ แลกใช้ ลองไปแลกร้านเล็กหน่อยกลับได้เรทดีกว่านิดนึง ร้านรับแลกบนถนนใกล้ๆ กับที่ซื้อตั๋วรถบัสนอน
(การคิดค่าเงิน ได้มาจากรีวิวอื่น ซึ่งดีมาก ให้ตัด 0 3 ตัวหลังออกให้หมด (.000) และเลขที่เหลือด้านหน้า X ด้วย 1.5 ก็จะได้เป็นเงินบาทออกมาค่ะ)
ก่อนไป เช็คสภาพอากาศ ในแต่ละเมือง ทำให้รู้ว่า เราจะเจอฝนที่ดาลัด จึงเตรียม เสื้อกันฝนไปด้วย และก็ตกจริง ช่วงเย็น และได้ปริ้นท์แผนที่คร่าวๆ มาดูสถานที่เที่ยวต่างๆ ในเมือง โฮจิมินห์ด้วย ตามที่เคยอ่านรีวิว เดินถึงกันได้หมด ***ที่ขีดเส้นใต้ไว้ ร้าน Pho 2000 (เฝอ 2000) อร่อยมากค่ะ ต้องไปทานกันให้ได้นะคะ ร้านนี้ อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน เคยมานั่งทานแล้ว เมื่อปี 2000 ด้วยค่ะ
****วันแรก*****
มาถึงสนามบิน เตินเซินเญิ้ต เวลา ก่อน 10 โมง ผ่าน ตม ออกมา ก็มาซื้อ ซิมมือถือ ของ Viettel (เจ้านี้บอก ของเค้าไปถึงดาลัด สัญญาณก็ยังแรงอยู่ แม้จะเป็นเขา เอาก็เอา) ได้มา 2 ซิม ซิมแรกใช้โทรได้ อีกซิมเล่นเนตอย่างเดียว จ่ายไป 480.000 ดอง พอดีมีน้องที่ไปแลกเงินดองมาด้วย เราเลยใช้เงินกองกลางคืนเงินไทยไปให้ เพื่อเอาเงินดองไปขึ้น รถบัส สาย 109 สีเหลือง เข้าเมืองกัน ค่ารถถูกมาก คิดเป็นเงินไทย แค่ 30 บาทเอง รถใหม่กริ๊บ เวลาเดินออกมาจากสนามบิน เลี้ยวขวามานิดเดียว ก็จะเห็นรถบัสจอดอยู่ วันที่เราไปเป็นวันธรรมดา คนเลยน้อยหน่อย รถโล่งมาก
ไปถึงป้ายสุดท้าย ลงมา แล้ว เดินข้ามถนน ผ่านสวนสาธารณะไป ก็จะถึงถนน ฟามงูเหลา เดินตรงไป นิดเดียว หาซื้อตั๋วรถนอนไปดาลัด กันที่นี่ Phuong Trang / Futa Bus อยู่ด้านซ้ายมือของถนน ตึกสีส้มเด่นมาก ได้ตั๋วมา ราคา 2.100.000 พอได้ตั๋ว ก็หาที่แลกเงินเพิ่ม และที่วางสัมภาระกัน ได้อยู่ติดกับ ที่ซื้อตั๋วเลย ชื่อ Kim Tran Travel เป็นห้องนอนได้ เตียง 2 ชั้น 2 เตียง นอนได้ 4 คน แต่ห้องน้ำรวม ดูสะอาดดี ก็เลยจ่ายเงินไปที่ 500.000 (คิดเป็นเงินไทย 500*1.5 = 750 บาท) สำหรับ 6 คน ก็สะดวกดี มีที่ให้พักนอนได้ ก่อน ขึ้นรถบัส ตอน 23.40 น. ยังพอมีเวลาเลยเดินหา Vietsea Tourist เพื่อซื้อตั๋วไปอุงโมงค์กู๋จี วันสุดท้ายกัน เดินออกจากที่พัก เลี้ยวขวา เดินตรงไป นิดเดียว ถึงแยก เลี้ยวขวา อีกที ไปสักพัก ก็จะเจอ ชื่อหายากนิดนึง เพราะป้ายชื่อร้านเยอะไปหมด แต่ไปจากแยกไม่ไกลมากค่ะ ร้านปิด 4 ทุ่ม เลยว่า คืนนี้จะมาซื้อตั๋วกัน
เลยเที่ยงมาแล้ว ท้องเริ่มร้อง เลยเริ่มจากนั่ง รถโดยสารส่วนบุคคล (เหมือน grab, uber) ที่พักเรียกให้ บอกว่าถูกกว่าแท๊กซี่ ไม่รู้จริงไหม แต่เอาก็เอา และบอกให้จ่ายเค้าเลย เพราะเด๋วคนขับเรียกแพง ฮ่าฮ่า คือราคามาตรฐานไม่มี ราคาจำไม่ได้ รถคันใหญ่ นั่งกัน 6 คน ไปถึง ร้านอาหารที่แนะนำกันมา Quan An Ngon 138 (ค้นหาใน google map ด้วยคำนี้) ถ้าใครมีเวลา เดินจากถนนฟามงูเหลาไปได้เลยค่ะ อาหารก็เวียดนามดีค่ะ แต่ จขกท ว่า ยังไม่ค่อยโดนนัก อร่อยเป็นบางอย่างค่ะ หน้าตาก็ประมาณนี้ค่ะ
จ่ายเงินกันไปเป็นล้านค่ะมื้อนี้ ทานเสร็จออกมาจากร้าน เดินเลี้ยวขวาเลยค่ะ และใช้ google map พาไปตามสถานที่ต่างๆ อยู่ใกล้ๆ กันหมด เราเจอที่แรก Notre Dame (มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส) ตอนที่ไปมีการก่อสร้างอยู่ค่ะ และถ้าหันหน้าเข้าหาวิหาร ด้านขวามือ ก็จะเจอ Saigon Central Post office (ไปรษณีย์กลาง) อยู่ติดกันเลยค่ะ
อากาศค่อนข้างร้อนมาก เลยไปซื้อน้ำดื่ม นั่งแอร์เย็นๆ กันที่ร้าน Mc Donald เรียบร้อย ออกมาประตูอีกด้านหนึ่ง ไปเจอถนนเล็กๆ เหมือนถนนร้านหนังสือ ร่มรื่น สวยงามมาก มีคนมานั่งอ่านหนังสือกันเยอะเลย ก็เลยลองเดินดูสักหน่อย ร้านน่ารักดีค่ะ
และเดินต่อ ตั้ง google map มุ่งหน้าไปที่ Ho Chi Minh City Hall เป็นลานกว้างสวยงาม มีรูปปั้น ลุงโฮ ที่นั่นด้วย
และต่อด้วย Ho Chi Minh City Museum ซื้อตั๋วเข้า คนละ 30.000 ได้เข้าไปชมประวัติศาสตร์ต่างๆ ของเมืองนี้ ก็ดีค่ะ ตึกเก่าดูขลังดี สวยงาม
ท้องเริ่มหิวกันอีกแล้วค่ะ เลยว่าจะเดินไปทานร้าน เฝอ 2000 กันดีกว่าค่ะ แนะนำนะคะ อร่อยมากค่ะ น้ำซุปกลมกล่อม มีแต่เฝอไก่กับเนื้อ หมูไม่มีค่ะ และอาหารอื่นๆ ก็มีพวกปอเปี๊ยะ อร่อยมากค่ะ
ทานกันเสร็จ มีแรงเดินต่อค่ะ ตั้ง google map ไปที่ City opera House ถ่ายรูปด้านหน้าเป็นที่ระลึก และเดินต่อไป หาตึกที่สูงที่สุดใน โฮจิมินห์ ชื่อ Bitexco Financial Tower เลยได้ผ่านตรงลานกว้างๆ ด้านหน้า รูปปั้นลุงโฮ อีกที คนมาเดินเล่นกันเยอะมาก ผู้คนคึกคัก อากาศไม่ร้อนมากนัก มีลมเย็นๆ และได้เจอตึกเก่าที่ปรับมาทำเป็นร้านกาแฟ และร้านอาหาร ได้อย่างลงตัว สวยงามค่ะ ชื่อ The Cafe Apartment
ช่วงเดินกลับที่พัก ตั้ง google map กลับที่พัก ได้หลายทาง เลยเลือกทางใหม่ๆ จะได้ชมเมืองไปด้วย และได้ผ่านตึกสูง มีคนมารอขึ้นชมดาดฟ้าของตึกเยอะเหมือนกันค่ะ
ก่อนกลับถึงที่พัก แวะซื้อตั๋วไปอุโมงค์กู๋จี ที่ vietsea เป็นกลุ่มใหญ่ 45 คน ราคาคนละ 110.000 ถึงที่พัก มีเวลาพอ อาบน้ำ นอนพัก ก่อนขึ้นรถนอน รอบ 23.40 น. ค่ะ เราต้องไปขึ้นรถตู้ก่อน ที่ตึกตรงข้ามที่ซื้อตั๋ว คนมารอกันเยอะเลยค่ะ รถมาช้าไปมากพอสมควรค่ะ พอขึ้นรถตู้ ออกเมืองมาสักพัก รถก็มาจอดที่จุด ที่จะรอขึ้นรถบัสนอนกันอีกทีค่ะ
พรุ่งนี้เช้า เจอกันที่ดาลัดนะคะ หลับฝันดีบนรถนอนกันนะคะ ^^
[CR] แบกเป้เที่ยว โฮจิมินห์-ดาลัด-มุยเน่+อุโมงค์กู๋จี งบ ไม่เกิน 7,300 บาท 6 คน รวมตั๋ว+น้ำหนัก (4 วัน 3 คืน) กพ-มีค 2018
เริ่มต้นซื้อตั๋วกันตั้งแต่ เดือน กรกฎาคมปีที่แล้ว โดยซื้อผ่านทาง Traveloka เพื่อเช็คว่า ราคาสายการบินไหนดีสุด เลยได้ ขาไป Thai Lion Air (ฟรีสัมภาระ) ราคาถูกมาก 1,051.96 บาทต่อคน เท่านั้น และขากลับ เป็น Nok (รวมสัมภาระ) ตกคนละ 1,413.60 บาท แต่พอเดือน พฤศจิกายน สายการบิน Thai Lion Air โทรมายกเลิกเที่ยวบินเฉยเลย ทำให้ต้องทำเรื่องเงินคืน และซื้อตั๋วใหม่ด่วน เลยได้ เป็นของ Air Asia มา ราคารวมประกัน +สัมภาระ (ที่ซื้อประกัน เพราะกลัวโดนยกเลิกอีก ฮ่าฮ่า) ได้มาที่ 2,200 บาท ถ้าแบกเป้ไป สำหรับ 6 คน น้ำหนักซื้อไม่เกิน 40 โลนะคะ ส่วนขากลับถ้ามีของฝาก ก็ซื้อเพิ่มเป็น 60 โลค่ะ ของกลุ่มเรา ไป 30 กว่าโล กลับ ก็ 60 โลนิดๆ ผ่านฉลุยค่ะ ขากลับทางสนามบินที่โน่น ไปบอกว่าแชร์น้ำหนักไม่ได้นะคะ ต้องระบุเลยว่า ของคนนี้ มี น้ำหนักเท่าไหร่ คนนี้น้ำหนักเท่าไหร่ เราก็ต้องรวมกระเป๋าเอาค่ะให้พอดี ของชื่อคนที่ซื้อ ส่วนคนที่ไม่มีน้ำหนัก ก็บอกไม่มีกระเป๋า ซึ่งก็คือการแชร์น้ำหนักอยู่ดี แต่จะต้องแยกทำไมเนี่ย ฮ่าฮ่า ทางดอนเมืองไม่มีปัญหา แต่ทางโน้น แต่ละสายการบิน จะให้ตัวแทน ชื่อ Saigon Ground Services เป็นคนดำเนินการเช็คอินแทนค่ะ (เลยต้องเข้มนิดนึงมั้งคะ) ไม่มีเจ้าหน้าที่ของสายการบินอยู่ในนั้นเลย ใช้ตัวแทนทั้งหมด
แต่ก่อนจะไปถึงเมืองต่างๆ จะขอสรุปแผนเดินทางคร่าวๆ ประมาณนี้ค่ะ (ต้องขอขอบคุณรีวิวต่างๆ ที่ผ่านมานะคะ ที่ทำให้ จขกท ได้ไอเดียการเดินทางที่เป็นแบบแผนและไม่เสียเวลาค่ะ)
27 ก.พ. - 2 มี.ค. 2561 (2018)
วันแรก : บินเช้า ถึงทางนั้น ไม่เกิน 10 โมง เข้าเมืองโดย รถบัสสาย 109 หาที่พักเก็บสัมภาระ เที่ยวใน โอจิมินห์ คืนนี้นอนบนรถบัสนอนไปดาลัด
วันที่สอง : ถึงดาลัดเช้าตรู่ ให้รถตู้ของทางรถทัวร์ พาไปส่งที่พัก (บริการฟรี) เที่ยวในดาลัด คืนนี้ได้นอนโรงแรม 1 คืน
วันที่สาม : แต่เช้ารถมารับไปขึ้นรถบัสเล็ก ไปมุยเน่กัน หาที่พักเก็บของ คืนนี้นอนบนรถบัสนอนกลับโฮจิมินทร์
วันที่สี่ : มาถึงโฮิจิมินห์เช้าตรู่ หาที่พักเก็บสัมภาระ เตรียมตัวไปเที่ยวที่อุโมงค์กู๋จี กลับมาไปตลาดซื้อของ แพ๊คของกลับบ้าน บินรอบดึก
สกุลเงินที่พกไป : ได้ทั้งหมด ไทย/ เวียดนามดอง (vnd) / usd - เงินไทยใช้ได้ที่สนามบินเวลาซื้อของฝาก (แบงค์ 20 ก็รับด้วย) และที่ตลาดเบนถัน (เอาแบงค์ 100 และ 50 ไปด้วย) แนะนำไม่ไห้แลกเงินดองไว้เยอะ เพราะส่วนมากทุกที่ รับทั้งเงินดอง และ usd หรือจะจ่ายทั้ง 2 สกุลเลยก็ได้ ในบิลเดียวกัน กรณีที่จำเป็น แต่ก็ต้องดูเรทด้วย
ช่วงที่ไป 1 usd = 31.37 บาท (Superrich ในห้าง) / และแลก 300 usd ได้มา 6.720.000 ดอง - มีหลายเรท จากหลายร้าน ค่อยๆ แลกใช้ ลองไปแลกร้านเล็กหน่อยกลับได้เรทดีกว่านิดนึง ร้านรับแลกบนถนนใกล้ๆ กับที่ซื้อตั๋วรถบัสนอน
(การคิดค่าเงิน ได้มาจากรีวิวอื่น ซึ่งดีมาก ให้ตัด 0 3 ตัวหลังออกให้หมด (.000) และเลขที่เหลือด้านหน้า X ด้วย 1.5 ก็จะได้เป็นเงินบาทออกมาค่ะ)
ก่อนไป เช็คสภาพอากาศ ในแต่ละเมือง ทำให้รู้ว่า เราจะเจอฝนที่ดาลัด จึงเตรียม เสื้อกันฝนไปด้วย และก็ตกจริง ช่วงเย็น และได้ปริ้นท์แผนที่คร่าวๆ มาดูสถานที่เที่ยวต่างๆ ในเมือง โฮจิมินห์ด้วย ตามที่เคยอ่านรีวิว เดินถึงกันได้หมด ***ที่ขีดเส้นใต้ไว้ ร้าน Pho 2000 (เฝอ 2000) อร่อยมากค่ะ ต้องไปทานกันให้ได้นะคะ ร้านนี้ อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน เคยมานั่งทานแล้ว เมื่อปี 2000 ด้วยค่ะ
****วันแรก*****
มาถึงสนามบิน เตินเซินเญิ้ต เวลา ก่อน 10 โมง ผ่าน ตม ออกมา ก็มาซื้อ ซิมมือถือ ของ Viettel (เจ้านี้บอก ของเค้าไปถึงดาลัด สัญญาณก็ยังแรงอยู่ แม้จะเป็นเขา เอาก็เอา) ได้มา 2 ซิม ซิมแรกใช้โทรได้ อีกซิมเล่นเนตอย่างเดียว จ่ายไป 480.000 ดอง พอดีมีน้องที่ไปแลกเงินดองมาด้วย เราเลยใช้เงินกองกลางคืนเงินไทยไปให้ เพื่อเอาเงินดองไปขึ้น รถบัส สาย 109 สีเหลือง เข้าเมืองกัน ค่ารถถูกมาก คิดเป็นเงินไทย แค่ 30 บาทเอง รถใหม่กริ๊บ เวลาเดินออกมาจากสนามบิน เลี้ยวขวามานิดเดียว ก็จะเห็นรถบัสจอดอยู่ วันที่เราไปเป็นวันธรรมดา คนเลยน้อยหน่อย รถโล่งมาก
ไปถึงป้ายสุดท้าย ลงมา แล้ว เดินข้ามถนน ผ่านสวนสาธารณะไป ก็จะถึงถนน ฟามงูเหลา เดินตรงไป นิดเดียว หาซื้อตั๋วรถนอนไปดาลัด กันที่นี่ Phuong Trang / Futa Bus อยู่ด้านซ้ายมือของถนน ตึกสีส้มเด่นมาก ได้ตั๋วมา ราคา 2.100.000 พอได้ตั๋ว ก็หาที่แลกเงินเพิ่ม และที่วางสัมภาระกัน ได้อยู่ติดกับ ที่ซื้อตั๋วเลย ชื่อ Kim Tran Travel เป็นห้องนอนได้ เตียง 2 ชั้น 2 เตียง นอนได้ 4 คน แต่ห้องน้ำรวม ดูสะอาดดี ก็เลยจ่ายเงินไปที่ 500.000 (คิดเป็นเงินไทย 500*1.5 = 750 บาท) สำหรับ 6 คน ก็สะดวกดี มีที่ให้พักนอนได้ ก่อน ขึ้นรถบัส ตอน 23.40 น. ยังพอมีเวลาเลยเดินหา Vietsea Tourist เพื่อซื้อตั๋วไปอุงโมงค์กู๋จี วันสุดท้ายกัน เดินออกจากที่พัก เลี้ยวขวา เดินตรงไป นิดเดียว ถึงแยก เลี้ยวขวา อีกที ไปสักพัก ก็จะเจอ ชื่อหายากนิดนึง เพราะป้ายชื่อร้านเยอะไปหมด แต่ไปจากแยกไม่ไกลมากค่ะ ร้านปิด 4 ทุ่ม เลยว่า คืนนี้จะมาซื้อตั๋วกัน
เลยเที่ยงมาแล้ว ท้องเริ่มร้อง เลยเริ่มจากนั่ง รถโดยสารส่วนบุคคล (เหมือน grab, uber) ที่พักเรียกให้ บอกว่าถูกกว่าแท๊กซี่ ไม่รู้จริงไหม แต่เอาก็เอา และบอกให้จ่ายเค้าเลย เพราะเด๋วคนขับเรียกแพง ฮ่าฮ่า คือราคามาตรฐานไม่มี ราคาจำไม่ได้ รถคันใหญ่ นั่งกัน 6 คน ไปถึง ร้านอาหารที่แนะนำกันมา Quan An Ngon 138 (ค้นหาใน google map ด้วยคำนี้) ถ้าใครมีเวลา เดินจากถนนฟามงูเหลาไปได้เลยค่ะ อาหารก็เวียดนามดีค่ะ แต่ จขกท ว่า ยังไม่ค่อยโดนนัก อร่อยเป็นบางอย่างค่ะ หน้าตาก็ประมาณนี้ค่ะ
จ่ายเงินกันไปเป็นล้านค่ะมื้อนี้ ทานเสร็จออกมาจากร้าน เดินเลี้ยวขวาเลยค่ะ และใช้ google map พาไปตามสถานที่ต่างๆ อยู่ใกล้ๆ กันหมด เราเจอที่แรก Notre Dame (มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส) ตอนที่ไปมีการก่อสร้างอยู่ค่ะ และถ้าหันหน้าเข้าหาวิหาร ด้านขวามือ ก็จะเจอ Saigon Central Post office (ไปรษณีย์กลาง) อยู่ติดกันเลยค่ะ
อากาศค่อนข้างร้อนมาก เลยไปซื้อน้ำดื่ม นั่งแอร์เย็นๆ กันที่ร้าน Mc Donald เรียบร้อย ออกมาประตูอีกด้านหนึ่ง ไปเจอถนนเล็กๆ เหมือนถนนร้านหนังสือ ร่มรื่น สวยงามมาก มีคนมานั่งอ่านหนังสือกันเยอะเลย ก็เลยลองเดินดูสักหน่อย ร้านน่ารักดีค่ะ
และเดินต่อ ตั้ง google map มุ่งหน้าไปที่ Ho Chi Minh City Hall เป็นลานกว้างสวยงาม มีรูปปั้น ลุงโฮ ที่นั่นด้วย
และต่อด้วย Ho Chi Minh City Museum ซื้อตั๋วเข้า คนละ 30.000 ได้เข้าไปชมประวัติศาสตร์ต่างๆ ของเมืองนี้ ก็ดีค่ะ ตึกเก่าดูขลังดี สวยงาม
ท้องเริ่มหิวกันอีกแล้วค่ะ เลยว่าจะเดินไปทานร้าน เฝอ 2000 กันดีกว่าค่ะ แนะนำนะคะ อร่อยมากค่ะ น้ำซุปกลมกล่อม มีแต่เฝอไก่กับเนื้อ หมูไม่มีค่ะ และอาหารอื่นๆ ก็มีพวกปอเปี๊ยะ อร่อยมากค่ะ
ทานกันเสร็จ มีแรงเดินต่อค่ะ ตั้ง google map ไปที่ City opera House ถ่ายรูปด้านหน้าเป็นที่ระลึก และเดินต่อไป หาตึกที่สูงที่สุดใน โฮจิมินห์ ชื่อ Bitexco Financial Tower เลยได้ผ่านตรงลานกว้างๆ ด้านหน้า รูปปั้นลุงโฮ อีกที คนมาเดินเล่นกันเยอะมาก ผู้คนคึกคัก อากาศไม่ร้อนมากนัก มีลมเย็นๆ และได้เจอตึกเก่าที่ปรับมาทำเป็นร้านกาแฟ และร้านอาหาร ได้อย่างลงตัว สวยงามค่ะ ชื่อ The Cafe Apartment
ช่วงเดินกลับที่พัก ตั้ง google map กลับที่พัก ได้หลายทาง เลยเลือกทางใหม่ๆ จะได้ชมเมืองไปด้วย และได้ผ่านตึกสูง มีคนมารอขึ้นชมดาดฟ้าของตึกเยอะเหมือนกันค่ะ
ก่อนกลับถึงที่พัก แวะซื้อตั๋วไปอุโมงค์กู๋จี ที่ vietsea เป็นกลุ่มใหญ่ 45 คน ราคาคนละ 110.000 ถึงที่พัก มีเวลาพอ อาบน้ำ นอนพัก ก่อนขึ้นรถนอน รอบ 23.40 น. ค่ะ เราต้องไปขึ้นรถตู้ก่อน ที่ตึกตรงข้ามที่ซื้อตั๋ว คนมารอกันเยอะเลยค่ะ รถมาช้าไปมากพอสมควรค่ะ พอขึ้นรถตู้ ออกเมืองมาสักพัก รถก็มาจอดที่จุด ที่จะรอขึ้นรถบัสนอนกันอีกทีค่ะ
พรุ่งนี้เช้า เจอกันที่ดาลัดนะคะ หลับฝันดีบนรถนอนกันนะคะ ^^