ผมได้ครุ่นคิดสักพักนึง เกี่ยวกับปัญหานี้ ทั้งหาเพื่อนช่วย หาคนรอบข้างปรึกษา สุดท้ายก็เลยอยากขอความช่วยเหลือ จากเพื่อนๆ ใน pantip (ขอใช้ นามสมุมติ ในการเล่านะครับ)
เรื่องมีอยู่ว่า คุณแม่มีบ้านตึกแถวให้ ชายคู่หนึ่ง คนนึงเป็นคนไทยชื่อ P/อีกคนนึงคนจีนชื่อ R(คนจีนพอพูดไทยได้บ้าง) เช่า ทำร้านอาหาร ทำสัญญา เช่า 5 ปี 3ปี ผ่านไปจนถึง ตอนนี้ คือ ปัจจุบัน เช่าไปได้ 3 ปี มีการบิดพริ้วเกิดขึ้น คือเหมือนต้องการจะยืดอายุสัญญาด้วยการบอกจะให้หุ้นส่วนชื่อ M มาทำสัญญาแทนจะตกตแ่งใหม่ ทำสัญญาใหม่ 5 ปีเช่นเดิม ทั้งที่ภาษีเคยเรียกนัดไปเสียไม่มาก็ยังไม่จ่าย น้ำ-ไฟยังไม่จ่าย จนโดนยกมาตรทั้งน้ำ ทั้งไฟ ติดป้ายเซ้ง/ให้เช่า ไม่ขออนุญาต แถมยังปลอมลายเซ็นไปอัพหม้อไฟอีก โดยใช้คนให้ไปปลอม ค่าเช่าจ่ายก็จริง แต่สร้างความเดือดร้อน ตอนนี้เสียภาษีแล้ว ทีแรกกะจะให้ต่อสัญาญาปีต่อปี ผู้เช่าเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย เลยเซ็นสัญญายกเลิกไปแล้ว แต่ยังตามตื้อ จะขอทำสัญญาใหม่ให้ได้ มีทั้งทุบประตูบ้านทั้งกลางวัน กลางคืน มาเฝ้าหน้าบ้าน อีกอย่างคือ โทรจิก ทุกวัน มีแต่เดือนกุมภา 61 นี้ที่เริ่มโทรน้อยลง แม้ทางเราจะปฏิเสธไปก็ตาม มีแนวโน้มจะไม่ยอมย้ายขอออก สูงมาก
เรื่องปลอมลายเซ็นปลอมเอกสารทางเราไม่ได้อยากเอาเรื่อง แค่ต้องการให้เค้าย้ายออกไปดีๆ แต่โทรตื้อ จะขอโอกาส ขอต่อ ท่าเดียว ทั้งที่ทำตัวไม่ดีเยอะมาก ถ้าถึงขั้นฟ้องขับไล่ ก็มีความไม่พร้อม ด้านทุนทรัพย์ พอสมควร ยื้อหลายเดือน เราก็ไม่ไหว ถามสภาทนายความมา ถ้าขึ้นศาลยืดเยื้อขึ้นศาลอย่างน้อย 6 เดือน นับจากสัญญาเช่าสิ้นสุด สิ้นสุดรอบในวันที่ 25 มีนาคม ถ้าถึงวันที่ 25 มีนา นี้ เค้าไม่ยอม ออก มีหนทางอื่นไหม ทางไหนบ้าง ช่วยแนะนำด้วย ครับ
เนื่องจากตอนนี้ ทั้งบ้านเหลือกันแค่ สองคน ผม กับคุณแม่ที่มีอายุ ที่ป่วยจนเดินเองคนเดียวไมได้ ต้องมีคนคอยคุมกันล้ม เนื่องจากมีอาการทางปลายประสาท กระดูกสันหลังเคลื่อนเล็กน้อย เลยอยากขอความช่วยเหลือ ควรทำยังไงให้เค้าย้ายออกไป ดีๆ เพราะตื้อบ่อยมาก แม้ผู้ให้เช่าจะปฏิเสธ ก็จะเอาให้ได้
เท่าที่ปรึกษาเพื่อน มีเพื่อน ที่คิดข้อสงสัย เอ้ะ? การทำแบบนี้ จะฮุบบ้าน เจ้าบ้านรึป่าว คือ อาการแต่ละครั้ง ที่นัดทำสัญญา หรือ นัดเจรจากัน มีอะไรผิดปกติ ทั้งที่สัญญาก็ยังไม่หมดตามระยะเวลา แต่จะขอเปลี่ยนสัญญาเป็นชื่อหุ้นส่วนแทน ต่อสัญญา เป็น 5ปี ด้วย หาทางต่อสัญญายืดไปเรื่อยๆเหรอ แถมหนี้เดิมภาษี น้ำ ไฟ ดองค้าง และ หลายอย่างเช่น วันนั้น(20 มค 61)นัดกันมานั่งคุยเจรจา เราอุสาห์ไปถึงอาคารที่พัก เป็นร้านอาหารใต้คอนโดเล็กๆ พอไปเจอ พบว่ามีแต่ ผู้เช่าคู่หู่ ไทย/จีนสองคนมานั่ง คุยก่อน แต่หุ้นส่วนคนที่ว่าไม่ลงจาคอนโดตามมาคุยพร้อมกัน ทำไมไม่ลงมาทีเดียวพร้อมกัน? พอ คุณแม่บอกจะกลับ ทำไมถึงยื้อให้เรารอหุ้นส่วนอีก ทำไม ไม่คุยพร้อมกันละ? (เนื้อหาส่วนนี้ผมมีคลิปเสียงอยู่) คือ หลายครั้งที่ทำสัญญาหรือนัดเจอกัน มันเหมือนมีการเตึ้ยมไว้แล้วอะไรแบบนั้นเลย
เนื่องจาก เนื้อเรื่องมันยาว รายละเอียดค่อนข้างเยอะ จะอธิบายปัญหาที่พบ เป็นข้อๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1.ฝั่งคนเช่ามีการลาก คนเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตัวละคร เยอะขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มแรก ตอนเริ่มเช่า ก็มีแค่ คุณ P คุณ R พอไปรับค่าเช่าครั้ง ล่าสุด นัดเจอกันที่ร้านผ่านทางโทรศัพท์ ไม่มาตามนัด มีคน ที่ร้าน แต่ไม่มีใครในร้าน รู้จักเจ้าบ้านสักคน พอจ่ายค่าเช่า เสร็จ คุยหาความเป็นมาแล้ว แถม หนึ่งใน คนในร้านที่ ชื่อ คุณ S บอกว่า ผมเป็นคน จากร้าน อาหารใกล้เคียง เป็นลูกจ้างของ อาหมิง(หรือ อาหญิงนี่แหละ) ผมมาทำร้านแทนเค้า และ บอกว่า ยกเลิกสัญญาเดิม แล้วมา ทำสัญญาใหม่กับผม ฝั่งทางผู้ให้เช่า ก็เลย งงสิ พึ่งเคยรู้จักกันปุป ก็จะมาขอ ยกเลิก ทำสัญญาใหม่ป็บ คนเช่าผิดนัดแถมไปทำอะไร? ไปคุยตกลงกับใครไว้ไม่บอกกล่าว ? ภายหลังจากที่ติดต่อไม่ได้ หายกันไปจนข้ามมาปี 61
พอติดต่อกลับมาหลังจากหายไปข้ามปี วันที่ 11 ม ค 61 คุณ R โทรมา ก็เพิ่ม คุณ M ที่บอกว่าเป็น หุ้นส่วน จีน ที่ว่าจะมาทำสัญญาแทนผู้เช่าเดิม พยายามจะเร่งเราให้มานัดทำสัญญา
วันที่ 22 ม ค วันเสียภาษีก็มี ตัวละคร มาข้องเกี่ยวเพิ่มอีกคน เป็น ญ ชาวเหนือ เรียกว่าคุณ J แทรกระหว่างการนั่งคุยกับเจ้าหน้าที่เขตเสียภาษี ให้เซ็นใบ มอบฉันทะ อนุญาตให้ไปต่อน้ำต่อไฟ รบเร้า ให้ไปต่อเร็วๆ ก็นัดเวลาโดยประมาณ เนื่องจากคุณ แม่เดินมากไม่ได้ พอเราไม่ได้ไปตามนัด คุณ R บอก หุ้นส่วนผมโมโห (มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผู้ให้เช่าเลยนะ เอามาโยงได้ไง ไปคุยตกลงกันเอาเองนี่น้า ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย )
พอนัดกัน เจรจา ในวันที่ 27 ม ค ก็มี คุณ T ที่เป็นเพื่อน คุณ M มาเป็นล่าม ช่วยแปลภาษาเจรจากับคุณ M เจรจา ตกลงกันด้วยดี สัญญาปีต่อปี ก็นัดกันมาวันที่ 29 มกรา แต่ลงเอ่ยทางผม โทรเลื่อนนัดมาอีก 1วัน เนื่องจาก ต้องพิสูจน์ เรื่องการปลอมลายเซ็นอัพหม้อไฟ ซึ่ง ระหว่างโทรนั้น คุณ M ก็มาต่อรอง 5 ปี อีกทั้งที่ วันที่ 27 ตกลงกันแล้ว
พอมาวันที่ 30 มกราคม วันตกลงเซ็นสัญญาแน่ๆ คนที่มาก็มี คุณ P/R และก็คุณ N มาเพิ่มอีก เป็นเจ้าของร้านใกล้ๆกับร้านคนเช่า คือรู้จักกัน นั่นเอง
2.ค้าง ค่านํ้า ค่าไฟ แม้เจ้าบ้านจะเคยเตือน
ให้ไปเสีย ก็เถียงกลับมา ''ที่หอพักผมค้าง 4เดือนยังไม่ตัดเลย '' แม้จะเคยค้าง 3 เดือน จนหม้อน้ํ้าโดน ปลดสาย ก็ยังไม่เข็ด จนมีอีกรอบ ค้าง ไฟ นํ้า ตั้งแต่ เดือน มีนาคม 60 จนโดนยกหม้อน้ำ ช่วง มิถุนายน 60 ตามมาด้วยยกหม้อไฟอีก จนข้ามมาปี 61 พอปัญหาถึงตัว เดือดร้อนให้เจ้าบ้านไปต่อ จะทำสัญญาใหม่กับหุ้นส่วน พร้อมไปต่อหม้อให้รวดเดียว
3.ขาดความรับผิดชอบ ค้างภาษีไว้
แม้เจ้าบ้านจะโทรตาม นัดเจอกันไปเสียภาษี ช่วงประมาณ เดือน เม ษา 60 สุดท้ายเบี้ยวนัดไป สองรอบ โทรตามไม่รับ หรือแม้แต่ หม้อน้ำ โดน ยก อุสาห์โทรหาคุณ R ตามให้ไปเสีย ค่าน้ำ เพราะ หม้อ โดนยก ในเดือนพฤศจิกายน 60 บอกไม่ว่าง ตอนนี้ เป็นไกด์ อยู่พัทยา คุณ R โทรกลับมาหาอีกที บอกให้ฝ่ายเราไปเสียแทน เดียว จ่ายคืนให้ทีหลัง คุณแม่ เลย ตอบไป ว่า คุณเป็นผู้ใช้ คุณ ก็ต้องเสีย งั้นโอนเงินมาเดี่ยวจัดการให้ สุดท้ายก็ไม่ยอมโอน มา แล้วก็ ไม่ติดต่อ มาอีกเลย
4. ติดต่อใครไม่ได้
ค้างภาษี มา 2-3 ปี ไม่สามารถดำเนินการใดๆ โทรตามนัดกันไปเสียภาษี ก็เบี้ยวนัด นัดเสียภาษี เม ษา 60 กับคุณ P นัดเจอที่ร้าน คนที่ร้านบอกไม่รู้เรื่อง คุณ P บอก ผมมา สุดท้ายก็ไม่มา โทรกลับไม่รับ โทรไปหาคุณ P จนรับแต่ ก็บอกว่า อยู่ต่างประเทศ พอโทรไปหาคุณ R บอกอยู่พัทยามาไม่ได้ สุดท้ายคุณ P ก็เบี้ยวนัดถึงสองรอบ หลังจากนั้น โทรตามคุณ P ก็ไม่มีสัญญาณ จากนั้นก็ติดต่อคุณ P ไม่ได้จน คุณแม่ล้มป่วยเดินไมได้ก็เลยต้องผงะ จากเรื่องนี้ไป พอผ่านไปหลายเดือน อุสาห์โทรไปหา คุณ R ขอเบอร์ใหม่ คุณ P เนื่องจากเบอร์เดิม P ติดต่อไม่ได้ แต่กลับบอกว่า คุณ P อยู่ ต่างประเทศ ให้เค้ากลับมาก่อน ไม่ยอมให้เบอร์ ไม่ยอมติดตามเรื่องให้ด้วย
5.เรื่องแรก ที่ติดต่อกลับมาหลังจากดำเนินการไม่ได้ข้ามปี แต่ดองปัญหาไม่รับผิดชอบ( ภาษีท้องที่ ภาษีป้าย หม้อน้า หม้อไฟ)
คือ การเรียกร้องขอ ยกเลิกสัญญาเดิม ทำสัญญาใหม่จะเปลี่ยนชื่อเป็นหุ้นส่วน ชื่อคุณ M มาทำสัญญาแทน ผู้ให้เช่าอย่างเราไม่รู้จักด้วย และจะขอทำสัญญาเป็นระยะเวลา 5 ปี เหมือนเดิม บอกว่า หุ้นส่วนอยากเจอเจ้าของบ้าน เพราะเค้าไม่ไว้ใจ พอ นัดเจอกันจริง แทนที่จะ มานั่งคุยพร้อมกัน ทั้ง ผู้เช่า และ หุ้นส่วนคนที่ว่า พอถึงวันนัดเจอ ก็มา แค่ ผู้เช่า พอคุยกันเสร็จ คุณแม่บอกจะกลับ จะยื้อให้อยู่ต่อ ให้รอหุ้นส่วนลงมาคุย ทั้งๆที่ มันควร จะมาพร้อมกันแต่แรก เพราะ นัดกันไว้แล้ว ไม่รู้ปิดบังอะไรถึงลงมาคุยพร้อมกันไม่ได้
6. เปลี่ยนแปลงข้อตกลงทำสัญญาไปเรื่อย นึกออกอะไรได้ อยากเปลี่ยน ก็เปลี่ยนกลางคัน
หลังจากเสียภาษีแล้ว และเสีย ค่า น้ำ ไฟ แบบ ครึ่งๆกลางๆ ยังจ่ายไม่ครบ ไฟ ก็ยังค้างประกัน ที่โดนหักจากการไฟฟ้า ยังไม่ใส่เข้าไปใหม่อีก น้ำ ก็ยังค้าง อยู่ พันกว่าๆ อะโอเค ทำสัญญาใหม่ ก็ เจรจากันในวันที่ 27 ม ค 61 คุณ M ตกลง สัญญาเช่าปีต่อปี และโยกเงินประกัน ค่า ไฟ นํ้า ค่าบ้านเสียหาย โยกจากคุณ P(ผู้เช่าเดิม) มาคุณ M(หุ้นส่วน) ระหว่างเจรจาคุณ R โทรมาจะขอ 5 ปี อีก ทางคุณแม่ผมไม่ยอม กล่าว ตอบไปว่า 3 ปี ยังไม่รอด จะเอา 5 ปี ได้ไง คุณ M ตกลงการเช่ากันแล้ว แต่ ดันติด คุณ P ที่ยังมาไม่ถึง คุณ T บอกว่า ถ้า คุณ P มาจะเอาค่าเช่ามาให้ คุยตกลงเสร็จ คุณ M ได้เดินจากไป หลังจากนั้น พอ คุณ P มาถึงจริงๆ กลับไม่พอใจ เมื่อได้ยินว่า สัญญา ปีต่อปีนะ เค้าทำท่าไม่พอใจ เดินกระฟัดกระเฟียด เดิน หลบเลี่ยงไป หันหลับมา ว่า ปีหน้า ''ผมจะมอบฉันทะ ให้คนมาทำสัญญาแทน ’’ คุณ M ได้เดินกลับมาหลังจากนั้น แต่ไม่ทัก เรื่องทำสัญญาเลย จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ
ซึ่งปัญหามันเกิดตรง การทำใบเซ็นยกเลิกนี่แหละครับ การโยกเงินประกันจากคนเก่ามาคนใหม่ เราต้อวงระบุลงไปด้วย เพราะบอกปากป่าวไม่ได้ แล้วยังต้องมาทำใบยกเลิกสัญญาเช่าอีก 3 แบบ เพราะ มีแนวโน้มจะตกลงกันไม่ได้
พอมาวันที่ 29 โทรไปเลื่อนนัด คุณ M ดันมาต่อรองอีก จะขอสัญญา 5 ปี (เอ้า ! ก็วันที่ 27 ตกลงกันแล้ว จะมาเปลี่ยนอีกแล้ว!!) บอกว่า ขอ 5ปี ปี 1-2 ค่าเช่าเท่าเดิม ปี 3-5 ขึ้นค่าเช่าก็ได้ ถ้าไม่ว่าง มาทำสัญญาตอนกลางคืนก็ได้ หลังวางสาย ....ทำเอาคุณแม่ ผม รู้สึกปวดหัว เพราถ้าเปลี่ยนแบบนี้ การพิมพ์สัญญาเช่ามันจะ ปวดหัวไปด้วย เพราไม่รู้จะตกลงยังไงแน่
พอมาวันที่ 30 มกราคม 61 วันตกลงเซ็นสัญญา นัดเจอกัน กลับ มา แค่ คุณ P คุณ R และคนที่ไม่น่าเกี่ยวข้องด้วยเลย คือ คุณ N เป็นคนของ ร้านข้างเคียงที่เค้ารู้จักกัน แล้ว คุณ R กลับบอกว่าคุณ M ไม่ทำแล้ว อยากให้ไปต่อน้ำ ต่อไฟ เลยจะใช้ สัญญาเดิม ที่เหลือ อีก 2ปี (อ้าวที่คุยกันมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่มีความหมายเลย เวลาก็เสียไปแล้ว) ผมเลย บอกไปว่า สัญญาเดิมคงไม่ได้แล้วเพราะ ไม่ได้ระบุ เรื่องเก็บภาษีล่วงหน้า แม้จะเขียนตกลงว่าผู้เช่าเสียก็ตาม คุณ P ก็เถียงขึ้นมาอีกแล้ว ‘’ ทำไมต้อง เน้นเรื่องภาษี เพราะ ภาษีก็หนี้ของผม’’ เพื่อนผม กับคุณ แม่ก็ว่า กลับไปว่า การที่คุณค้างเค้าก็ตามไล่บี้เจ้าของบ้านแทน จะมาพูดอย่างนี้ไมได้ ไปๆมาๆ ก็จะให้โอกาสทำสัญญา ปีต่อปี แต่ที่นี้ คุณ R กลับพูดขึ้นมาขอ 5 ปี อีก เพราะ ปีที่ผ่านๆมา เราขาดทุน แม่เรา ว่ากลับ เลย ขาดทุน แล้ว ทำ ทำไม คุณ P ตอบกลับ แต่ค่าเช่าผมมีจ่ายครับ คุณ แม่ ก็เริ่มจะ มีอารมณขึ้นมา เหมือนกัน คุณ ก็ขาดทุน ตัวชั้นก็ลำบาก ป่วย แถมจะเร่งไปต่อน้ำ ต่อไฟ ที่กรุตามให้ไปจ่ายน้ำ ไฟ ไม่เอากับกรุสักคน เลยเซ็นยกเลิกสัญญากันไป
7 ติดป้ายเซ้ง/เช่า ไม่ขออนุญาต/ มีการไปปลอมแปลงใบมอบฉันทะ ปลอมเอกสาร อัพหม้อไฟฟ้า ไม่บอกกล่าว
แอบติด ป้ายเซ้งเช่าไม่บอก แต่ เริ่มแรกเราไปจัดการไมได้ เพราะ ทีแรกก็ติดต่อไมได้ และคุณ แม่ก็ยังรักษาตัวอยู่ จนสุดท้ายก็เงียบไม่บอกกล่าวนานเป็นเดือนๆ บวกกับ ในช่วงนี้ ก็ยังค้างภาษีอยู่ ขนาดมาขอโอกาสเช่าต่อในท้ายที่สุดก็ยังไม่ยอมบอก จนเจ้าของบ้านรู้เอง จนต้องว่า ทำไมติดป้ายเซ้ง /เช่า ทำไมไม่บอก จนเจ้าบ้านยังต้องสงสัยลับหลังไปทำอะไรอีกไหม? ตอนไปรับค่าเช่าที่ร้าน เจอ คุณ S ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน บอกให้ยกเลิกสัญญา มาเซ็นสัญญากับผม งี้เป็นต้น
ตอนนี้ผมมีหลักฐานการปลอมเอกสารที่ขอจากการไฟฟ้าอัพหม้อไฟ จาก 15 แอมป์ เป้น 30 แอมป์ เหตุเพราะทางคุณแม่พลาดไปให้สำเนาบัตร ปชช เพราะผู้เช่าบอกไม่ไว้ใจ กลัวไม่ใช่เจ้าของบ้าน แล้วไม่ได้เซ็นทับตัวเอกสาร แล้ว คุณแม่ก็ทำบัตร ประชาชนใหม่แล้ว แต่โดยส่วนตัวถ้าทำได้ก็ไม่อยากจะเอาความอะไร อยากให้ขนของย้ายออกไปดีๆมากกว่า
ถ้าวันที่ 25 มีนาคมนี้ ทั้งที่เซ็นสัญญายกเลิกแล้วก็จริง แต่ไม่ยอมออก ถ้าถึง วันที่ 25 มีนาคม เราควรทำไงดี ทำยังไงถึงจะย้ายของออกได้ เพราะเราคงไม่มีทุนพอไปฟ้องขับไล่เค้า
ขอขอบคุณ ทุกความช่วยเหลือไว้ล่วงหน้า ด้วยครับ
มีคนเช่าบ้านแบบนี้ควร ทำอย่างต่อไป? ต้องการความช่วยเหลือ
เรื่องมีอยู่ว่า คุณแม่มีบ้านตึกแถวให้ ชายคู่หนึ่ง คนนึงเป็นคนไทยชื่อ P/อีกคนนึงคนจีนชื่อ R(คนจีนพอพูดไทยได้บ้าง) เช่า ทำร้านอาหาร ทำสัญญา เช่า 5 ปี 3ปี ผ่านไปจนถึง ตอนนี้ คือ ปัจจุบัน เช่าไปได้ 3 ปี มีการบิดพริ้วเกิดขึ้น คือเหมือนต้องการจะยืดอายุสัญญาด้วยการบอกจะให้หุ้นส่วนชื่อ M มาทำสัญญาแทนจะตกตแ่งใหม่ ทำสัญญาใหม่ 5 ปีเช่นเดิม ทั้งที่ภาษีเคยเรียกนัดไปเสียไม่มาก็ยังไม่จ่าย น้ำ-ไฟยังไม่จ่าย จนโดนยกมาตรทั้งน้ำ ทั้งไฟ ติดป้ายเซ้ง/ให้เช่า ไม่ขออนุญาต แถมยังปลอมลายเซ็นไปอัพหม้อไฟอีก โดยใช้คนให้ไปปลอม ค่าเช่าจ่ายก็จริง แต่สร้างความเดือดร้อน ตอนนี้เสียภาษีแล้ว ทีแรกกะจะให้ต่อสัญาญาปีต่อปี ผู้เช่าเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย เลยเซ็นสัญญายกเลิกไปแล้ว แต่ยังตามตื้อ จะขอทำสัญญาใหม่ให้ได้ มีทั้งทุบประตูบ้านทั้งกลางวัน กลางคืน มาเฝ้าหน้าบ้าน อีกอย่างคือ โทรจิก ทุกวัน มีแต่เดือนกุมภา 61 นี้ที่เริ่มโทรน้อยลง แม้ทางเราจะปฏิเสธไปก็ตาม มีแนวโน้มจะไม่ยอมย้ายขอออก สูงมาก
เรื่องปลอมลายเซ็นปลอมเอกสารทางเราไม่ได้อยากเอาเรื่อง แค่ต้องการให้เค้าย้ายออกไปดีๆ แต่โทรตื้อ จะขอโอกาส ขอต่อ ท่าเดียว ทั้งที่ทำตัวไม่ดีเยอะมาก ถ้าถึงขั้นฟ้องขับไล่ ก็มีความไม่พร้อม ด้านทุนทรัพย์ พอสมควร ยื้อหลายเดือน เราก็ไม่ไหว ถามสภาทนายความมา ถ้าขึ้นศาลยืดเยื้อขึ้นศาลอย่างน้อย 6 เดือน นับจากสัญญาเช่าสิ้นสุด สิ้นสุดรอบในวันที่ 25 มีนาคม ถ้าถึงวันที่ 25 มีนา นี้ เค้าไม่ยอม ออก มีหนทางอื่นไหม ทางไหนบ้าง ช่วยแนะนำด้วย ครับ
เนื่องจากตอนนี้ ทั้งบ้านเหลือกันแค่ สองคน ผม กับคุณแม่ที่มีอายุ ที่ป่วยจนเดินเองคนเดียวไมได้ ต้องมีคนคอยคุมกันล้ม เนื่องจากมีอาการทางปลายประสาท กระดูกสันหลังเคลื่อนเล็กน้อย เลยอยากขอความช่วยเหลือ ควรทำยังไงให้เค้าย้ายออกไป ดีๆ เพราะตื้อบ่อยมาก แม้ผู้ให้เช่าจะปฏิเสธ ก็จะเอาให้ได้
เท่าที่ปรึกษาเพื่อน มีเพื่อน ที่คิดข้อสงสัย เอ้ะ? การทำแบบนี้ จะฮุบบ้าน เจ้าบ้านรึป่าว คือ อาการแต่ละครั้ง ที่นัดทำสัญญา หรือ นัดเจรจากัน มีอะไรผิดปกติ ทั้งที่สัญญาก็ยังไม่หมดตามระยะเวลา แต่จะขอเปลี่ยนสัญญาเป็นชื่อหุ้นส่วนแทน ต่อสัญญา เป็น 5ปี ด้วย หาทางต่อสัญญายืดไปเรื่อยๆเหรอ แถมหนี้เดิมภาษี น้ำ ไฟ ดองค้าง และ หลายอย่างเช่น วันนั้น(20 มค 61)นัดกันมานั่งคุยเจรจา เราอุสาห์ไปถึงอาคารที่พัก เป็นร้านอาหารใต้คอนโดเล็กๆ พอไปเจอ พบว่ามีแต่ ผู้เช่าคู่หู่ ไทย/จีนสองคนมานั่ง คุยก่อน แต่หุ้นส่วนคนที่ว่าไม่ลงจาคอนโดตามมาคุยพร้อมกัน ทำไมไม่ลงมาทีเดียวพร้อมกัน? พอ คุณแม่บอกจะกลับ ทำไมถึงยื้อให้เรารอหุ้นส่วนอีก ทำไม ไม่คุยพร้อมกันละ? (เนื้อหาส่วนนี้ผมมีคลิปเสียงอยู่) คือ หลายครั้งที่ทำสัญญาหรือนัดเจอกัน มันเหมือนมีการเตึ้ยมไว้แล้วอะไรแบบนั้นเลย
เนื่องจาก เนื้อเรื่องมันยาว รายละเอียดค่อนข้างเยอะ จะอธิบายปัญหาที่พบ เป็นข้อๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าวันที่ 25 มีนาคมนี้ ทั้งที่เซ็นสัญญายกเลิกแล้วก็จริง แต่ไม่ยอมออก ถ้าถึง วันที่ 25 มีนาคม เราควรทำไงดี ทำยังไงถึงจะย้ายของออกได้ เพราะเราคงไม่มีทุนพอไปฟ้องขับไล่เค้า
ขอขอบคุณ ทุกความช่วยเหลือไว้ล่วงหน้า ด้วยครับ