เปิดใจ"รอมแพง"ผู้ประพันธ์"บุพเพสันนิวาส"
http://news.ch3thailand.com/entertainment/64140 (มีคลิป )
รอมแพง ผู้ประพันธ์นวนิยาย"บุพเพสันนิวาส"ที่หาข้อมูลกว่า 3 ปี ก่อนจะเขียนเป็นหนังสือ เผยปลื้มใจกระแสละครสุดฮอต ตั้งใจเขียนเนื้อหาให้สอดแทรกความรู้ประวัติศาสตร์
ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับ คุณอุ้ย จันทร์ยวีร์ สมปรีดา เจ้าของนามปากกา"รอมแพง"ผู้ประพันธ์เรื่อง"บุพเพสันนิวาส"เปิดเผยว่า ตั้งใจจะถ่ายทอดนิยายอิงประวัติศาสตร์ ยุคสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน โดยได้ใช้เวลาหาข้อมูลกว่า 3 ปี ก่อนจะเขียนเป็นหนังสือเสร็จภายใน 1 เดือน และตั้งใจที่จะให้เนื้อหาในเรื่องสอดแทรกความรู้ทางประวัติศาสตร์ เข้าถึงผู้อ่านได้ทุกเพศทุกวัย ผ่านตัวละคร"เกศสุรางค์"ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องแบบให้คนดูฉุกคิดว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเล่า เพื่อให้ผู้อ่านและผู้ชมได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมที่สนใจ
"รอมแพง"ยังเล่าถึงความรู้สึกเมื่อนวนิยายถูกถ่ายทอดออกมาเป็นละคร เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมเข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย การนำประวัติศาสตร์มาสอดแทรกในเนื้อเรื่องเป็นสิ่งที่ยากเพราะประวัติศาสตร์มีหลายแง่มุมที่ต้องเลือกเขียน โดยฉากสำคัญของละครได้ถ่ายทอดภาพจินตนาการออกมาได้อย่างงดงาม และใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้
สำหรับจุดพีคของเรื่อง จะมีออกมาเรื่อย ๆ เพราะเนื้อหาสนุกทั้งเรื่อง อยากให้ติดตามจนจบ โดย"เกศสุรางค์"จะได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนได้ผจญภัย
ส่วนคำว่า"ออเจ้า"ที่ฮิตติดปากกันทั่วเมือง หากสืบค้นไปจะพบว่า มีบันทึกอยู่ในจดหมายเหตุ"ลาลูแบร์"บาทหลวงชาวฝรั่งเศส ที่เข้ามาในสมัยแผ่นดินพระนารายณ์ และเป็นคำที่ใช้เรียกผู้มีศักดิ์ต่ำกว่า
งานเขียนของ"รอมแพง"มีเอกลักษณ์ทั้งสำนวนภาษาและบทพรรณาโวหาร ที่บรรยายสถาปัตยกรรมและศิลปะในสมัยนั้น เพราะผู้เขียนจบการศึกษาภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงทำให้หลงใหลในประวัติศาสตร์ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของวรรณกรรมได้อย่างสวยงาม
เปิดใจ"รอมแพง"ผู้ประพันธ์"บุพเพสันนิวาส"
http://news.ch3thailand.com/entertainment/64140 (มีคลิป )
รอมแพง ผู้ประพันธ์นวนิยาย"บุพเพสันนิวาส"ที่หาข้อมูลกว่า 3 ปี ก่อนจะเขียนเป็นหนังสือ เผยปลื้มใจกระแสละครสุดฮอต ตั้งใจเขียนเนื้อหาให้สอดแทรกความรู้ประวัติศาสตร์
ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับ คุณอุ้ย จันทร์ยวีร์ สมปรีดา เจ้าของนามปากกา"รอมแพง"ผู้ประพันธ์เรื่อง"บุพเพสันนิวาส"เปิดเผยว่า ตั้งใจจะถ่ายทอดนิยายอิงประวัติศาสตร์ ยุคสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน โดยได้ใช้เวลาหาข้อมูลกว่า 3 ปี ก่อนจะเขียนเป็นหนังสือเสร็จภายใน 1 เดือน และตั้งใจที่จะให้เนื้อหาในเรื่องสอดแทรกความรู้ทางประวัติศาสตร์ เข้าถึงผู้อ่านได้ทุกเพศทุกวัย ผ่านตัวละคร"เกศสุรางค์"ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องแบบให้คนดูฉุกคิดว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเล่า เพื่อให้ผู้อ่านและผู้ชมได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมที่สนใจ
"รอมแพง"ยังเล่าถึงความรู้สึกเมื่อนวนิยายถูกถ่ายทอดออกมาเป็นละคร เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมเข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย การนำประวัติศาสตร์มาสอดแทรกในเนื้อเรื่องเป็นสิ่งที่ยากเพราะประวัติศาสตร์มีหลายแง่มุมที่ต้องเลือกเขียน โดยฉากสำคัญของละครได้ถ่ายทอดภาพจินตนาการออกมาได้อย่างงดงาม และใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้
สำหรับจุดพีคของเรื่อง จะมีออกมาเรื่อย ๆ เพราะเนื้อหาสนุกทั้งเรื่อง อยากให้ติดตามจนจบ โดย"เกศสุรางค์"จะได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนได้ผจญภัย
ส่วนคำว่า"ออเจ้า"ที่ฮิตติดปากกันทั่วเมือง หากสืบค้นไปจะพบว่า มีบันทึกอยู่ในจดหมายเหตุ"ลาลูแบร์"บาทหลวงชาวฝรั่งเศส ที่เข้ามาในสมัยแผ่นดินพระนารายณ์ และเป็นคำที่ใช้เรียกผู้มีศักดิ์ต่ำกว่า
งานเขียนของ"รอมแพง"มีเอกลักษณ์ทั้งสำนวนภาษาและบทพรรณาโวหาร ที่บรรยายสถาปัตยกรรมและศิลปะในสมัยนั้น เพราะผู้เขียนจบการศึกษาภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงทำให้หลงใหลในประวัติศาสตร์ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของวรรณกรรมได้อย่างสวยงาม