📚📖~มาลาริน~โพลหาดใหญ่อย่าให้ใครบิดเบือน ดัชนีเชื่อมั่นทางสังคมภาคใต้ ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้นกว่าม.ค. เพิ่มเสริมแกร่งราคายาง

โพลแสลงใจ กบต้ม  ดัชนีความเชื่อมั่นทางสังคมภาคใต้ เดือน ก.พ. ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดือน ม.ค.


เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าการแก้ปัญหายาเสพติด เสถียรภาพทางการเมือง และการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้มีความเชื่อมั่นลดลง เนื่องจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดและโจมตีฐานที่มั่นทหาร จ.ปัตตานี และการคัดค้านของประชาชนในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน พื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลาและ จ.กระบี่ ซึ่งมีการร้องเรียนและประท้วงให้รัฐบาลยกเลิกโครงการก่อสร้าง

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นด้านสภาวการณ์ทางสังคม เดือน ก.พ. พบว่า โดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.

“ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน ความมั่นคงในอาชีพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลที่ส่งเสริมและ มุ่งแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน ได้แก่ มาตรการกระตุ้นราคาพืชผลการเกษตรให้ปรับตัวสูงขึ้น โครงการสวัสดิการประชารัฐคนรายได้น้อยที่ต่อเนื่องในเฟส 2 มีการเพิ่มวงเงินและ ฝึกอาชีพให้กับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ”

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าเทศกาลตรุษจีนทำให้ประชาชนได้พบปะครอบครัว และญาติพี่น้อง มีการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการปีแรกในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ประชาชนจึงมีเวลาพักผ่อนยาวต่อเนื่อง 3 วัน มีเวลาเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ และต่างจังหวัด

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าความสุขในการดำเนินชีวิตดีขึ้น ร้อยละ 32.60 และฐานะการเงินดีขึ้น ร้อยละ30.70 การแก้ปัญหายาเสพติด ดีขึ้นร้อยละ 34.90 และเสถียรภาพทางการเมืองดีขึ้นร้อยละ 33.80

“ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อความสุขในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันมากที่สุด คือค่าครองชีพ ร้อยละ 37.30 รองลงมาคือราคาสินค้าร้อยละ 21.40”

https://www.matichon.co.th/news/860517

ความมั่นคงในทางการเมืองทางภาคใต้ย่อมมีปัญหาอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลที่ผ่านมาแก้ปัญหาได้ต่ำสุด
มีปัญหาทางภาคใต้มีไม่หยุดหย่อน การเห็นต่างทางโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นเรื่องภายในชุมชนที่ไม่ได้เกิดจากรัฐบาล..แต่เกิดจากความเห็นต่างกัน  

ความมั่นคงทางสังคมปรับตัวดีขึ้นจาก...ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน ความมั่นคงในอาชีพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลที่ส่งเสริมและ มุ่งแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน ได้แก่ มาตรการกระตุ้นราคาพืชผลการเกษตรให้ปรับตัวสูงขึ้น โครงการสวัสดิการประชารัฐคนรายได้น้อยที่ต่อเนื่องในเฟส 2 มีการเพิ่มวงเงินและ ฝึกอาชีพให้กับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ

จะเห็นได้ว่าประชาชนมีมุมมองในทางสังคมดีขึ้น  มีความสุขในชีวิตดีขึ้น  เกิดจากการความพยายามของรัฐบาลในการดูแลประชาชน


ดิฉันมองว่าสถานการณ์ทางสังคมจะดีขึ้นเช่นเดียวกับโพลที่มองว่าจะดีขึ้นทุกๆด้านในอีก 3 เดือนข้างหน้า

ติดตามกันต่อไปค่ะ.....✌✌✌✌✌✌



"ไทย"ผนึกกำลังยักษ์ใหญ่ถกเสริมแกร่งราคายาง


"เกษตรฯ"ชงพาณิชย์ตั้งกก.หวังกำหนดราคารับซื้อ-ขายป้องกันราคายางต่ำเกินทุน พร้อมหารือประเทศกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่หามาตรการเสริมแกร่งราคา กำชับภาครัฐเพิ่มการใช้


         28 ก.พ. 61 นายกฤษฏา  บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย  ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำและชี้แจงหน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ

         โดยเน้นให้เพิ่มสัดส่วนการใช้อย่างในโครงการภาครัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560  ซึ่งขณะนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายจังหวัดเริ่มดำเนินการแล้ว เช่น สงขลา และบึงกาฬ  การประชุมครั้งนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินการกับ อบจ.จังหวัดอื่น ๆ ด้วย ที่อาจจะยังติดขัดในเรื่องการใช้งบประมาณจาก 2 แหล่ง คือ เงินสะสมของ อบจ. และงบสำรองจ่าย 25% ก็มีการแจ้งเวียนระเบียบปฏิบัติในการใช้ที่ชัดเจนแล้ว รวมถึงคุณสมบัติของยางที่นำมาใช้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกมาตรฐาน มอก. สำหรับยางแผ่นแล้ว ซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐสามารถใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมปูพื้น/พื้นถนนต่างๆได้ ซึ่งแม้ว่าอาจส่งผลต่อต้นทุนที่สูงขึ้น แต่แลกกับความทนทาน อายุการใช้งานยาวนานขึ้น เกษตรได้รับรายได้โดยชอบด้วยกฎหมาย             

ขณะเดียวกัน ยังถือโอกาสชี้แจงถึงแหล่งซื้อยางที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่ามีน้อยและไม่เพียงพอนั้น ได้แจ้งว่าสามารถซื้อได้จากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หรือสถาบันเกษตรกรที่กยท.รับรอง เพื่อที่จะได้อุดหนุนเกษตรกรโดยตรง ซึ่งปัจจุบันมีสถาบันเกษตรกรที่กยท.รับรองกว่า 800 แห่ง กระจายอยู่ กว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศ

นายกฤษฏา กล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาขณะนี้ก็เพื่อทำให้ปริมาณความต้องการใช้อย่างทั้งในและนอกประเทศมีความสมดุลกันกับผลผลิตยางในแต่ละปี จากปัจจุบันปริมาณผลผลิตยางในประเทศ 4.5 ล้านตันต่อปี ขณะที่มีการส่งออกที่ประมาณ 3.8-4 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะต้องลดปริมาณผลผลิตยางลงอีก 1 ล้านตันต่อปี มาอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านตันต่อปี โดยยังคงเป้าหมายที่จะไม่เพิ่มพื้นที่ปลูกยางพาราเพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีมาตรการโค่นยาง เพียงแต่ให้ทางเลือกเกษตรกรในการปลูกพืชอื่นทดแทน หรือปลูกเสริม เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

          รวมถึงมาตรการลดกรีดยางที่ขณะนี้กำลังพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้โดยมี 2 แนวทางที่จะพิจารณา คือ ลดกรีดยาง 3 ล้านไร่ระยะเวลา 3 เดือน หรือจะลดกรีดยางแบบวันเว้นวันตลอดทั้งปี ซึ่งอยู่ระหว่างการคำนวณตัวเลขผลผลิตยางที่จะออกสู่ตลาดที่ชัดเจน รวมถึงงบประมาณรองรับในระหว่างที่เกษตรกรไม่สามารถกรีดยางได้ ทั้งนี้ มาตรการหยุดกรีดยางนั้นไทยจะไม่ทำเพียงประเทศเดียวแต่จะนำไปหารือกับผู้ผลิตยางรายใหญ่อีก 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนามในวันศุกร์ (2 มี.ค.) นี้ รวมถึงประเทศอินเดียซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เริ่มมียางออกสู่ตลาดโลกมากขึ้นด้วย หากทางอินเดียสนใจก็จะเชิญหารือร่วมกันด้วย  

          “สิ่งที่กระทรวงเกษตรฯ คิดและดำเนินการยังคงเน้นมาตรการที่จะต้องไม่กระทบกลไกตลาด ระบบเศรษฐกิจ และงบประมาณประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและเน้นย้ำไม่ให้เอาตัวเลขราคาพืชผลมาใช้หาเสียงหรือสร้างผลงาน แล้วต้องทำอะไรผิดระบบงบประมาณ ทำลายเศรษฐกิจ แต่กระทรวงเกษตรฯจะดำเนินการอย่างถูกต้อง ให้ชาวสวนยางรวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ ดำรงอยู่ได้ แม้ว่ามาตรการที่ออกมาจะไม่ส่งผลต่อราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงในทันที แต่ราคาจะต้องมีเสถียรภาพและที่สำคัญอีกมาตรการที่กระทรวงเกษตรฯ จะหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ในการใช้อำนาจตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ 2542  มาดูกลไกราคายางพาราได้ โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเสนอให้ตั้งคณะกรรมการราคายาง ที่มีอำนาจนหน้าที่ดูต้นทุนการผลิตยาง ราคาเหมาะสมรับซื้อ และราคาส่งออก โดยองค์ประกอบของกรรมการประกอบด้วย ภาคราชการ เอกชน และชาวสวนยาง” นายกฤษฎา กล่าว

http://www.komchadluek.net/news/agricultural/314983

เพิ่มเติมข่าวยางที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นในราคายางทางภาคใต้ค่ะ...

ขออภัยนะคะ แก้ไขช้าไปเพราะมีงานด่วนค่ะ..😜😜😜😜😜😜

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่