น่าอาย! โปเช็ตติโนสับ VAR ทำเกมครึ่งแรกวุ่นหนัก & เจาะประเด็น VAR เจ้าปัญหานัดสเปอร์สกระซวกรอชเดล

น่าอาย! โปเช็ตติโนสับ VAR ทำเกมครึ่งแรกวุ่นหนัก

นายใหญ่ไก่เดือยทองไม่ปลื้มกับระบบการทำงานของ VAR หลังทำเกมครึ่งแรกกับโรชเดลสับสนวุ่นวายไปหมด

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน นายใหญ่สเปอร์ส ไม่สบอารมณ์กับวิธีการทำงานของ VAR หลังทำเกมครึ่งแรกกับ โรชเดล ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีม นัดรีเพลย์ ป่วนไปหมด

ไก่เดือยทองถูกปฏิเสธประตูของ เอริค ลาเมลา ในครึ่งแรก เพราะ VAR ระบุว่า เฟร์นันโด ยอเรนเต้ ไปทำฟาวล์ผู้เล่นโรชเดลก่อน จากนั้นพวกเขาได้รับประโยชน์จาก VAR บ้าง เมื่อผู้ตัดสินเป่าจังหวะที่ คีแรน ทริปเปียร์ ถูกทำฟาวล์เป็นลูกจุดโทษ

อย่างไรก็ดี ยอดทีมจากลอนดอนต้องงงหนักหลังถูกริบโอกาสยิงจุดโทษลูกนั้น โดยผู้ตัดสินขอดูภาพช้าจาก VAR แล้วระบุว่า ซน ฮึง-มิน ทำผิดกฎหยุดชะงักก่อนในจังหวะวิ่งเข้ามายิงจุดโทษ พร้อมแจกใบเหลืองให้กับดาวยิงทีมชาติเกาหลีใต้ด้วย

"ครึ่งแรกมันน่าอายเล็กน้อยสำหรับทุกคนนะ มันยากมากกับการมีสมาธิและเล่นฟุตบอล ผมไม่มั่นใจว่าระบบนี้มันจะช่วยอะไรได้" พอช กล่าว

"ฟุตบอลมันเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก เรากำลังจะฆ่าอารมณ์ความรู้สึกในเกมฟุตบอลหรือเปล่า ผมคิดว่าแฟนบอลที่รักฟุตบอลคงไม่มีความสุขกับสิ่งที่ได้เห็นในวันนี้"

"ผมคิดว่าเรามีผู้ตัดสินที่ดีที่สุดในยุโรปและในโลก ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องการอะไรที่มากเกินไป ฟุตบอลคือความผิดพลาด อย่างพวกเรา นักเตะเล่นผิดพลาดได้ ผู้ตัดสินทำหน้าที่ผิดพลาดได้ มันเป็นแบบนี้มาตลอด เราเข้าใจฟุตบอลในแบบนี้"

"ถ้าผมช่วยเหลืออะไรได้ ถ้าความคิดเห็นของผมสำคัญ ผมคิดว่ามันยังต้องปรับปรุงอีกเยอะ เราต้องคุยกัน อธิบายกัน เพราะสิ่งที่ผมเห็นในวันนี้มันทำให้ทุกคนสับสน"

"ถ้าเราพยายามเปลี่ยนแปลงเกมที่เรารักไปในทิศทางนี้ ผมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ วิเคราะห์ หรือทำให้มันดีขึ้น ถ้าเรายังใช้ระบบนี้ เราจำเป็นต้องมีความชัดเจนกับทุกจังหวะที่เกิดขึ้น"

ทั้งนี้ ขุนพลสเปอร์สกลับมาเร่งเครื่องยิง 5 ประตูรวดในครึ่งหลัง ก่อนเป็นฝ่ายต้อนเอาชนะคู่แข่งจากลีกวันไปแบบขาดลอย 6-1


credit : www.siamsport.co.th

'โรส'บ่น VAR ทำสับสนได้แค่ยืนรอโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แดนนี่ โรสฟูลแบ็คของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์บ่นอุบกับการใช้ VAR เข้ามาช่วยตัดสินว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เสียอารมณ์และสร้างความสับสนให้กับนักเตะ ที่ได้แค่ยืนรอโดยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

ถึงแม้สเปอร์สจะเอาชนะ 6-1 ในเกมเอฟเอ คัพนัดรีเพลย์ที่พบกับโรชเดล เกมนัดดังกล่าวก็เต็มไปด้วยอารมณ์หัวร้อนเพราะมีการใช้ VAR จนเกมหยุดนิ่งไปหลายต่อหลายครั้ง

ดาวเตะทีมชาติอังกฤษคิดว่าเรื่อง VAR กลับผลงานของ"ไก่เดือยทอง"และโรชเดลไปมิด อีกทั้งสร้างความมึนงงภายในสนามต้องยืนคอยเป็นนาทีโดยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

"มันน่าสนใจ, น่าอารมณ์เสียมากและทำให้งงยิ่งกว่าสิ่งใดๆ"โรสให้สัมภาษณ์

"เรื่องนั้นกลบฟอร์มดีๆของเรารวมถึงฟอร์มดีๆของโรชเดลไปเลย ไม่มีคำไหนมาอธิบายนอกเหนือจากความน่าโมโหถึงแม้เราชนะเอาชนะไป 6-1 ก็เหอะ"

"ถ้าถามผมแล้วมันก็คือเรื่องเหลวไหลสุดๆ ยืนรอโดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันน่าขันมาก ช่างน่าขัน"

"เรายิงประตูได้ 6 ลูกและโชคดีที่เราไม่ได้เป็นฝ่ายแพ้ที่บ่นถึงเรื่อง VAR ผมเห็นใจโรชเดลนะ นักเตะบางคนบอกว่าเป็นหนแรกที่มาเล่นในเวมบลีย์และโดนเรื่องนั้นกลบไปหมด มันถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขา"

แฟนบอลเองก็ไม่ได้ชอบใจเท่าไหร่นักแสดงออกด้วยการส่งเสียงโห่ เวลาที่พอล เทียร์นี่ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมแล้วเอามือจับไปที่หูฟัง

VAR ตัดสินไม่ให้ประตูในจังหวะที่เอริค ลาเมล่ายิงเข้าไปแล้วและดูไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงถูกใช้หลังจากจังหวะที่ซน ฮึง มินถูกจับฟาวล์ขยับหลอกก่อนยิงจุดโทษ

"ประสบการณ์ที่ผมได้รับน่ะไม่ดีเอาเสียเลย ผมได้รับข้อความ(จากเพื่อน)ที่บอกว่า VAR สร้างความโกลาหล เป็นแบบนี้มาทุกรอบที่มีการใช้"

"คุณเปลี่ยนจากเกมฟุตบอลที่ต่อเนื่อง 90 นาทีมาเป็นหยุดฟังการตัดสิน 1 หรือ 2 นาทีได้ยังไง? อะไรเกิดก็ต้องเกิดและเราแค่ต้องยอมรับแล้วก้าวต่อไป"


credit : www.soccersuck.com

เจาะประเด็น VAR เจ้าปัญหานัดสเปอร์สกระซวกรอชเดล


ศึกเอฟเอ คัพนัดรีเพลย์ เมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นสเปอร์สที่ถล่มรอชเดลไปขาดลอย 6-1 แต่ประเด็นทีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันคงหนีไม่พ้น VAR หรือวิดีโอช่วยตัดสิน ซึ่งมีผลต่อการแข่งขันเกมนี้เป็นอย่างมาก มีหลายจังหวะที่เป็นปัญหา มาวิเคราะห์ทีละเหตุการณ์กัน

1.ยอเรนเต้ฟาวล์หรือไม่?


เหตุการณ์เจ้าปัญหานี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 6 เมื่อสเปอร์สได้ประตูขึ้นนำจากการวิ่งเข้ามายิงของเอริค ลาเมล่า แต่ปรากฎว่าผู้ตัดสิน พอล เทียร์นีย์ ใช้  VAR ก่อนจะตัดสินว่าไม่ให้เป็นประตูเพราะก่อนหน้าที่ ลาเมล่า จะแปบอลเข้าประตู เฟอร์นานโด ยอเรนเต้ ไปดึงเสื้อกองหลังรอชเดล เพื่อเปิดทางให้ลาเมล่ายิง

น่าสนใจว่าจังหวะนี้ฟาวล์หรือไม่เพราะเมื่อดูจากภาพช้าแล้วจะเห็นว่าต่างคนต่างดึงเสื้อเหมือนกัน แต่ผู้ตัดสินกลับเลือกไม่ให้เป็นประตู แต่ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไรก็ตามผู้ตัดสินใช้เวลาดู VAR นานเกินความจำเป็น

2.จุดโทษหรือเปล่า?


ไม่กี่นาทีถัดมาก็มีปัญหากันอีกแล้ว เมื่อลูคัส มูร่า โดนแนวรับรอชเดลขวางทางวิ่งในกรอบเขตโทษทำให้ล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินกลับไม่เป่าให้จุดโทษ ไม่สนใจที่จะใช้ VAR แม้แต่น้อย ซึ่งจังหวะนี้หากมีการใช้ VAR จริงเจ้าถิ่นจะได้ผลประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้หรือเปล่า เพราะจังหวะนี้มีโอกาสเป็นจุดโทษสูงมาก

3.ปัญหาซ้อนปัญหา


VAR ได้ใช้งานต่อเนื่องเลยเมื่อ ทริปเปียร์ หลุดมาทางฝั่งขวาแล้วถูกทำฟาวล์ ตอนแรกผู้ตัดสินให้เป็นฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ แต่ปรากฏว่าเมื่อผู้ตัดสินไปดู VAR จึงเปลี่ยนคำตัดสินให้เป็นจุดโทษแทน สร้างความมึนงงให้ทั้งแฟนเจ้าถิ่นและทีมเยือน

เท่านั้นยังไม่พอ ซน ฮึง มิน ผู้รับหน้าที่สังหารจุดโทษ วิ่งเข้าไปยิงแล้วหยุดก่อนซัดบอลเข้าไป ทำให้ผู้ตัดสินตัดสินไม่ให้เป็นประตู จึงเกิดการถกเถียงกัน จนต้องใช้ VAR ตัดสิน ผลคือซน ฮึง มิน ผิดจริงและทำให้จุดโทษกลายเป็นโมฆะไปโดยที่ไม่มีการยิงใหม่ สรุปว่ากจังหวะทั้งหมดนี้ผู้ตัดสินใช้เวลากว่า 3 นาที ในการตัดสินครั้งนี้

สรุปแล้วผู้ตัดสินใช้ VAR ไปทั้งหมด 4 ครั้งในครึ่งแรก ซึ่งมีส่วนทำให้ต้องทดเวลาถึง 5 นาที แถมทุกๆครั้งที่ใช้จะมีเสียงโห่ของแฟนบอลตามมา นอกจากนี้หลังเกม เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือไก่เดือยทอง ออกมาพูดถึง VAR ว่าเป็นสิ่งที่น่าขายหน้ามากๆ และVAR กำลังจะฆ่าอรรถรสของฟุตบอล นั่นทำให้เกิดคำถามมากมายขึ้นว่า VAR เหมาะกับวงการฟุตบอลจริงหรือไม่

credit : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่