"อภิสิทธิ์"ชี้"สุเทพ"ตั้งพรรคใหม่ แย่งฐานเสียงปชป.
https://www.dailynews.co.th/politics/630061
“มาร์ค” ไม่แปลกใจ “เทพเทือก”ตั้งพรรคกปปส. บอกเรื่องปกติถูกแย่งฐานเสียง อุบอิบกลับมาร่วมงานเหมือนเดิมหลังลต.ต้องยึดอุดมการณ์-นโยบายปชป.
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.นาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งพรรคใหม่ของนาย
สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.)ว่า
พรรคประชาธิปัตย์ถือว่า การมีพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมา เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน เป็นปกติธรรมดา และตนไม่คิดว่า พล.อ.
ประยุทธ์จะมาสมัครเป็นสมาชิก หรือจะมาเป็นผู้บริหารของพรรค ฉะนั้นเมื่อนายสุเทพมองว่า ไม่มีพรรคการเมืองที่จะมารองรับแนวทางการสนับสนุนนี้ นาย
สุเทพก็สามารถที่จะไปตั้งพรรค เพื่อที่จะผลักดันเป้าหมายตรงนี้ได้อย่างไรก็ตาม จุดร่วมของพรรคและนายสุเทพยังเหมือนเดิม ในการต่อต้านการคอร์รัปชั่น ต่อต้านระบอบเผด็จการที่แฝงตัวเข้ามาในประชาธิปไตย และต้องการเห็นการปฏิรูป แต่พรรคฯ เห็นว่าที่ผ่านมา แนวคิด แนวทางของรัฐบาลปัจจุบันในการปฏิรูป ไม่ค่อยสอดคล้องกับการปฏิรูป ดังนั้นแม้จะพูดว่ามีการสนับสนุนการปฏิรูปเหมือนกัน แต่แนวคิดเกี่ยวกับการปฏิรูปอาจจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ทุกพรรคก็มีจุดที่เหมือนกัน และต่างกัน
“เป็นสิทธิทางการเมืองของนายสุเทพ ที่จะทำเช่นนี้ ท่านก็ต้องไปหาผู้คนที่จะมาเดินทำพรรคการเมืองตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งก็คงจะมีความชัดเจนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก็สามารถที่จะเตรียมการระดมคนเพื่อที่จะเป็นผู้ก่อตั้งพรรค ส่วนกลัวหรือไม่ว่าฐานเสียงจะต้องถูกแบ่งออกไปนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดา พรรคการเมืองใหม่เขาก็ต้องมาแสวงหาการสนับสนุน สมาชิกพรรค หรือว่าผู้สนับสนุนพรรค และผู้ที่เคยลงคะแนนให้พรรค เขาก็ต้องมีการทบทวนการตัดสินใจอยู่เป็นระยะๆ อยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องปกติประชาธิปัตย์ก็เผชิญกับภาวะอย่างนี้มาหลายครั้ง ” นาย
อภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะกลับมาร่วมงานกันได้อีกหรือไม่ นายอ
ภิสิทธิ์ กล่าว คำตอบยังเหมือนเดิม คือ ประชาธิปัตย์ต้องยึดอุดมการณ์ และนโยบายของพรรค ที่ไปเสนอต่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ถ้าเราได้รับการสนับสนุนมาจากประชาชน เราก็ต้องเอาแนวทางของเราเป็นตัวตั้ง ใครจะมาทำงานกับเราก็ต้องสนับสนุนแนวทางเรา ถ้าไม่มาสนับสนุน เราตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่ถ้าหากเราไม่ได้รับการสนับสนุนมาก คนอื่นเขาได้รับการสนับสนุนมากกว่า อย่างนี้เราก็ต้องเจียมตัว พรรคก็ต้องเจียมตัว ส่วนหากนาย
สุเทพชนะแล้วหนุนคนนอกเป็นนายกฯนั้น พรรคฯ ก็ต้องมาประชุมกันว่าตกลงเราคิดว่าจะทำอย่างไร จะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ ก็ต้องมาว่ากัน.
อดีตส.ส.ปชป.ใต้รับ ลำบากใจ"พรรคกปปส."แข่งหาเสียงกันชัดเจน
https://www.matichon.co.th/news/860555
วันที่ 2 มีนาคม นาย
วิรัช ร่มเย็น อดีต สส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์( ปชป.) กรรมการบริหาร ปชป. เปิดเผยว่า การจัดตั้งพรรคการเมืองภายใต้ชื่อ “กปปส.”ของนาย
ธานี เทือกสุบรรณ อดีต สส.สุราษฎร์ธานี น้องชายนาย
สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค ปชป. และได้ยืนยันว่าจะส่ง ส.ส.ลงสมัครเต็มพื้นที่14 จังหวัดภาคใต้นั้นว่า ถึงที่สุดแล้วหากส่งลงสมัครจริงก็ต้องสู้กันอย่างเต็มที่ แม้ว่าพรรคกปปส. กับ ปชป.จะมีฐานเสียงเดียวกัน แต่ประชาชนจะตัดสินเลือกจากความนิยมและความสามารถของตัวบุคคล ขณะที่แต่เดิมนาย
สุเทพประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก แต่ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าพรรคใหม่จะมีใครเป็นหัวหน้า กรรมการบริหารพรรค ส่วนมุมมองของอดีต ส.ส.เก่าหลายคนระดับแกนนำในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนตัวเชื่อว่าคงมีการห้ามปรามไว้แล้ว แต่การตั้งพรรคใหม่เชื่อว่าคงต้องการเอาใจพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ยอมรับว่าการตั้งพรรคใหม่ ทั้งหัวหน้าพรรคหรือนาย
ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคคงไม่ทราบล่วงหน้า แต่ทราบจากการนำเสนอของสื่อมวลชนเท่านั้น
“การตั้งพรรคใหม่ของนายธานีคงห้ามกันไม่ได้ แต่การเลือกตั้ง สส.ในภาคใต้ประชาชนจะมองที่ตัวบุคคลเป็นหลัก ยอมรับว่า ขั้นตอนที่จะสรรหาตัวบุคคลของพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคอื่นไปลงสมัครเลือกตั้งจะต้องมีการทำไพรมารี่โหวตตามกฎหมาย เมื่อมีการตั้งพรรคกปปส.ก็เชื่อว่าจะทำให้อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายพื้นที่ในภาคใต้ลำบากใจมากขึ้น ส่วนมุมมองที่ว่าก่อนการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์กับพรรค กปปส.จะต้องแยกกันหาเสียงชัดเจน แต่อาจจะไปร่วมกันอีกครั้งหลังเลือกตั้งแล้ว ตรงนี้ผมพูดไม่ได้คนอื่นเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ส่วนตัวผมหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จะยกให้คนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาในพรรคยังมีความเห็นที่แตกต่างแต่ผมไม่ยอมรับนายกฯคนนอก สำหรับอดีต สส.ภาคใต้ที่เคยร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับ กปปส.จะไปร่วมกับพรรคใหม่หรือไม่ คงอ่านใจกันลำบาก “ นาย
วิรัช กล่าว.
นาย
วิรัช กล่าวในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการปกครองท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ว่า สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นช่วงกลางปีนี้ คสช.จะไม่อนุญาตให้มีผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลงสมัครในนามพรรคการเมืองอย่างแน่นอน เนื่องจากช่วงที่ คสช.ปล่อยให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นยังไม่มีการปลดล๊อคให้มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองระดับชาติ เพราะเกรงว่าการหาเสียงจะมีความขัดแย้ง ดังนั้นกรรมการบริหารในพรรคการเมืองที่ส่งตัวแทนลงสมัครสนามท้องถิ่น จะไม่มีโอกาสได้ขึ้นเวทีหาเสียงเพื่อช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.ก่อนในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน นี้ เพื่อให้ คสช.ใช้ประเมินฐานคะแนนนิยมของพรรคการเมืองต่างๆในแต่ละจังหวัด ก่อนนำไปใช้เป็นหลักเกณฑ์เพื่อคุมการเลือกตั้งใหญ่ในระดับชาติ
“สำหรับการส่งผู้สมัครผู้ว่า กทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียนว่า คสช.จะไม่ปลดล๊อคให้มีการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.หรือนายกเมืองพัทยา ก่อนการเลือกตั้งนายก อบจ.เนื่องจากผู้บริหารของ กทม.และเมืองพัทยา เป็นคนใกล้ชิดของบุคคลกลุ่มใดทุกคนย่อมรู้ดี ” นาย
วิรัช กล่าว
JJNY : "อภิสิทธิ์"ชี้"สุเทพ"ตั้งพรรคใหม่ แย่งฐานเสียงปชป./อดีตส.ส.ปชป.ใต้รับ ลำบากใจ"พรรคกปปส."แข่งหาเสียงกันชัดเจน
https://www.dailynews.co.th/politics/630061
“มาร์ค” ไม่แปลกใจ “เทพเทือก”ตั้งพรรคกปปส. บอกเรื่องปกติถูกแย่งฐานเสียง อุบอิบกลับมาร่วมงานเหมือนเดิมหลังลต.ต้องยึดอุดมการณ์-นโยบายปชป.
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งพรรคใหม่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.)ว่า
พรรคประชาธิปัตย์ถือว่า การมีพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมา เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน เป็นปกติธรรมดา และตนไม่คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาสมัครเป็นสมาชิก หรือจะมาเป็นผู้บริหารของพรรค ฉะนั้นเมื่อนายสุเทพมองว่า ไม่มีพรรคการเมืองที่จะมารองรับแนวทางการสนับสนุนนี้ นายสุเทพก็สามารถที่จะไปตั้งพรรค เพื่อที่จะผลักดันเป้าหมายตรงนี้ได้อย่างไรก็ตาม จุดร่วมของพรรคและนายสุเทพยังเหมือนเดิม ในการต่อต้านการคอร์รัปชั่น ต่อต้านระบอบเผด็จการที่แฝงตัวเข้ามาในประชาธิปไตย และต้องการเห็นการปฏิรูป แต่พรรคฯ เห็นว่าที่ผ่านมา แนวคิด แนวทางของรัฐบาลปัจจุบันในการปฏิรูป ไม่ค่อยสอดคล้องกับการปฏิรูป ดังนั้นแม้จะพูดว่ามีการสนับสนุนการปฏิรูปเหมือนกัน แต่แนวคิดเกี่ยวกับการปฏิรูปอาจจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ทุกพรรคก็มีจุดที่เหมือนกัน และต่างกัน
“เป็นสิทธิทางการเมืองของนายสุเทพ ที่จะทำเช่นนี้ ท่านก็ต้องไปหาผู้คนที่จะมาเดินทำพรรคการเมืองตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งก็คงจะมีความชัดเจนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก็สามารถที่จะเตรียมการระดมคนเพื่อที่จะเป็นผู้ก่อตั้งพรรค ส่วนกลัวหรือไม่ว่าฐานเสียงจะต้องถูกแบ่งออกไปนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดา พรรคการเมืองใหม่เขาก็ต้องมาแสวงหาการสนับสนุน สมาชิกพรรค หรือว่าผู้สนับสนุนพรรค และผู้ที่เคยลงคะแนนให้พรรค เขาก็ต้องมีการทบทวนการตัดสินใจอยู่เป็นระยะๆ อยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องปกติประชาธิปัตย์ก็เผชิญกับภาวะอย่างนี้มาหลายครั้ง ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะกลับมาร่วมงานกันได้อีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าว คำตอบยังเหมือนเดิม คือ ประชาธิปัตย์ต้องยึดอุดมการณ์ และนโยบายของพรรค ที่ไปเสนอต่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ถ้าเราได้รับการสนับสนุนมาจากประชาชน เราก็ต้องเอาแนวทางของเราเป็นตัวตั้ง ใครจะมาทำงานกับเราก็ต้องสนับสนุนแนวทางเรา ถ้าไม่มาสนับสนุน เราตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่ถ้าหากเราไม่ได้รับการสนับสนุนมาก คนอื่นเขาได้รับการสนับสนุนมากกว่า อย่างนี้เราก็ต้องเจียมตัว พรรคก็ต้องเจียมตัว ส่วนหากนายสุเทพชนะแล้วหนุนคนนอกเป็นนายกฯนั้น พรรคฯ ก็ต้องมาประชุมกันว่าตกลงเราคิดว่าจะทำอย่างไร จะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ ก็ต้องมาว่ากัน.
อดีตส.ส.ปชป.ใต้รับ ลำบากใจ"พรรคกปปส."แข่งหาเสียงกันชัดเจน
https://www.matichon.co.th/news/860555
วันที่ 2 มีนาคม นายวิรัช ร่มเย็น อดีต สส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์( ปชป.) กรรมการบริหาร ปชป. เปิดเผยว่า การจัดตั้งพรรคการเมืองภายใต้ชื่อ “กปปส.”ของนายธานี เทือกสุบรรณ อดีต สส.สุราษฎร์ธานี น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค ปชป. และได้ยืนยันว่าจะส่ง ส.ส.ลงสมัครเต็มพื้นที่14 จังหวัดภาคใต้นั้นว่า ถึงที่สุดแล้วหากส่งลงสมัครจริงก็ต้องสู้กันอย่างเต็มที่ แม้ว่าพรรคกปปส. กับ ปชป.จะมีฐานเสียงเดียวกัน แต่ประชาชนจะตัดสินเลือกจากความนิยมและความสามารถของตัวบุคคล ขณะที่แต่เดิมนายสุเทพประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก แต่ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าพรรคใหม่จะมีใครเป็นหัวหน้า กรรมการบริหารพรรค ส่วนมุมมองของอดีต ส.ส.เก่าหลายคนระดับแกนนำในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนตัวเชื่อว่าคงมีการห้ามปรามไว้แล้ว แต่การตั้งพรรคใหม่เชื่อว่าคงต้องการเอาใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ยอมรับว่าการตั้งพรรคใหม่ ทั้งหัวหน้าพรรคหรือนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคคงไม่ทราบล่วงหน้า แต่ทราบจากการนำเสนอของสื่อมวลชนเท่านั้น
“การตั้งพรรคใหม่ของนายธานีคงห้ามกันไม่ได้ แต่การเลือกตั้ง สส.ในภาคใต้ประชาชนจะมองที่ตัวบุคคลเป็นหลัก ยอมรับว่า ขั้นตอนที่จะสรรหาตัวบุคคลของพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคอื่นไปลงสมัครเลือกตั้งจะต้องมีการทำไพรมารี่โหวตตามกฎหมาย เมื่อมีการตั้งพรรคกปปส.ก็เชื่อว่าจะทำให้อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายพื้นที่ในภาคใต้ลำบากใจมากขึ้น ส่วนมุมมองที่ว่าก่อนการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์กับพรรค กปปส.จะต้องแยกกันหาเสียงชัดเจน แต่อาจจะไปร่วมกันอีกครั้งหลังเลือกตั้งแล้ว ตรงนี้ผมพูดไม่ได้คนอื่นเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ส่วนตัวผมหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จะยกให้คนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาในพรรคยังมีความเห็นที่แตกต่างแต่ผมไม่ยอมรับนายกฯคนนอก สำหรับอดีต สส.ภาคใต้ที่เคยร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับ กปปส.จะไปร่วมกับพรรคใหม่หรือไม่ คงอ่านใจกันลำบาก “ นายวิรัช กล่าว.
นายวิรัช กล่าวในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการปกครองท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ว่า สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นช่วงกลางปีนี้ คสช.จะไม่อนุญาตให้มีผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลงสมัครในนามพรรคการเมืองอย่างแน่นอน เนื่องจากช่วงที่ คสช.ปล่อยให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นยังไม่มีการปลดล๊อคให้มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองระดับชาติ เพราะเกรงว่าการหาเสียงจะมีความขัดแย้ง ดังนั้นกรรมการบริหารในพรรคการเมืองที่ส่งตัวแทนลงสมัครสนามท้องถิ่น จะไม่มีโอกาสได้ขึ้นเวทีหาเสียงเพื่อช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.ก่อนในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน นี้ เพื่อให้ คสช.ใช้ประเมินฐานคะแนนนิยมของพรรคการเมืองต่างๆในแต่ละจังหวัด ก่อนนำไปใช้เป็นหลักเกณฑ์เพื่อคุมการเลือกตั้งใหญ่ในระดับชาติ
“สำหรับการส่งผู้สมัครผู้ว่า กทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียนว่า คสช.จะไม่ปลดล๊อคให้มีการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.หรือนายกเมืองพัทยา ก่อนการเลือกตั้งนายก อบจ.เนื่องจากผู้บริหารของ กทม.และเมืองพัทยา เป็นคนใกล้ชิดของบุคคลกลุ่มใดทุกคนย่อมรู้ดี ” นายวิรัช กล่าว