เหลือเพียงอึดใจเดียว ฤดูกาล 2018 ของโมโตจีพีก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว การทดสอบที่กาตาร์จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่แต่ละโรงงาน แต่ละทีมจะตัดสินใจว่ารถที่จะใช้ตลอดทั้งฤดูกาลนี้จะใช้เครื่องยนต์สเปคไหน โดยเฉพาะกับทีมใหญ่ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ Concession รวมไปถึงแฟร์ริ่งที่แม้จะมีโอกาสให้อัพเกรดเพิ่มได้อีก 1 ครั้ง แต่การเลือกแพคเกจที่เหมาะที่สุดได้ตั้งแต่ต้นก็น่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่า
Aprilia จะทดสอบแฟร์ริ่งของรถปี 2018 เวอร์ชั่นแรกที่นี่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีแค่เฟรมใหม่ที่ถูกนำไปทดสอบโดยโรมาโน่ อัลเบสเซียโน่ บอสของทีมบอกว่าปีกหรือ Wing ที่เราเห็นกันนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของระบบอากาศพลศาสตร์ในตัวรถ แต่การออกแบบนั้นต้องเจาะลึกลงไปถึงทุกชิ้นส่วนเล็กๆอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากระบบ Aerodynamic ในรถโมโตจีพียุคนนี้นั้น มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ
แต่ในส่วนของเครื่องยนต์จะยังไม่พร้อม จะมีเพียงบางพาร์ทของเครื่องเท่านั้นที่ถูกนำมาทดสอบในรอบนี้ ชิ้นส่วนที่ทำงานประสานกับเครื่องยนต์หลายๆตัวก็ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์และปรับแต่งให้ลงตัวที่สุด ซึ่งลุงมาโนชย์บอกว่าเครื่องยนต์ใหม่จะมาตอนแข่งจริงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านู่นเลย ขอให้ใจร่มๆ ของดีต้องรอกันหน่อย 555 ซึ่ง Aprilia บอกว่าคอนเซ็ปของเครื่องยนต์ใหม่นั้น เครื่องจะมาแบบแน่นปึ๊ก แข็งแกร่ง และจะมาพร้อมกับขุมกำลังที่มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
หลังจากโดนฝนถล่มกาตาร์จีพีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จนทำให้ระบบการถ่ายทอดสดรวนไปหมด ในคืนวันเสาร์ที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทดสอบรถ จะมีการจำลองการทดสอบในสภาพสนามเปียก เพื่อที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขันจะทำการประเมิณว่า วิสัยทัศน์ในการมองเห็นนั้นปลอดภัยเพียงพอต่อการให้นักแข่งลงไปแข่งท่ามกลางสายฝนหรือไม่ โดยตอนนี้รุ่นโมโตจีพีจะกลายเป็นรุ่นเดียวที่จะยังมีการแข่งในช่วงหัวค่ำ ซึ่งองค์ประกอบที่เพิ่มขึ้นมาถ้าเกิดฝนตกในเวลากลางคืนคือแสงไฟจากสปอตไลท์และละอองน้ำจากผิวแทรค ซึ่งจะมีการสะท้อนแสงที่ต่างออกไป นี่เป็นความแตกต่างจากการแข่งในสนามเปียกทั่วๆไป
โดยก่อนหน้านี้ ทาง MotoGP ได้ลองทำการทดสอบการวิ่งตอนที่แทรคเปียกในเวลากลางคืนมาแล้ว ซึ่งขี่โดย Loris Capirossi ที่ตอนนี้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการควบคุมการแข่งขันของทาง Dorna โดยเป็นการขี่ตามหลังรถยนต์ของ Franco Uncini ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัย โดยคาเปรอสซี่บอกว่าทัศนวิสัยน์นั้นถือว่าโอเค
แต่การทดสอบครั้งนั้นมีรถแค่คันเดียว ทำให้ทาง FIM และ Dorna ต้องการที่จะทดสอบในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับการแข่งจริงให้มากที่สุด คือต้องมีรถแข่งจริงๆหลายๆคัน และวิ่งด้วยความเร็วสูง เพื่อที่จะดูว่าละอองน้ำที่จะเกิดขึ้นมันบดบังการมองเห็นของนักแข่งมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้านักแข่งบอกว่าแข่งไม่ไหวครับหัวหน้า ทาง FIM ก็จะหยุดและไม่พยายามทดสอบอีก ซึ่งการเตรียมการในการทดสอบเรื่องนี้ ทางสนามมจะใช้รถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่จำนวน 18 คัน ปล่อยน้ำลงบนผิวแทรคทั่วทั้งสนาม ก่อนที่ปล่อยให้บรรดานักแข่งเปลี่ยนใส่ยาง Wet ลงไปลุยน้ำกัน
สำหรับการทดสอบในวันแรก นักแข่งทั้ง 24 คนลงทำการทดสอบรถอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดย PE44 ของ KTM ก็กลับมานั่งบนรถ RC16 อีกครั้ง ซึ่งน้องพลขี่ไปได้ทั้งหมด 56 รอบ แต่ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บจะยังไม่หายดี ทำให้พอล เอสพากาโร่จะไม่ลงทำการทดสอบต่อในวันที่ 2
วินยาเลสเป็นนักแข่งที่ทำเวลาได้เร็วที่สุด แต่ก็อยู่ในเสี้ยววินาทีเดียวกันกับอังเดร โดวิซิโอโซ่และอังเดร เอียนโนเน่ ดูจากฟีดแบ็ควันแรก ดูเหมือนว่า ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างทำให้ Yamaha ยังคงแข็งแกร่งที่นี่ เช่นเดียวกันกับ Ducati และที่เข้ามาแจมกับเค้าด้วยก็คือ Suzuki ส่วน Honda นั้น ดูจะยังไม่ค่อยลงตัวมากนักในวันแรก
ภาพรวมก็ถือว่ายังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการทดสอบที่ผ่านมา รถ 16 คันแรกอยู่ในวินาทีเดียวกันกับผู้นำ โดยมีรถที่หลุดจากช่วง 2 วินาทีอยู่แค่ 2 คันคือทอม ลูธิกับซาเวียร์ ซิมิยงค์ ส่วนเจ้าไซยารินนั้นก็ถือว่าทำได้ดี นาคากามิยังคงเป็นรุกกี้ที่เร็วที่สุดเหมือนเดิม แต่ถ้านับเพซจริงๆ ความคงเส้นคงวาของมอร์บิเดลลี่ดูจะยังเหนือกว่าอยู่ แต่การทดสอบก็คือการทดสอบ อาจจะพอเห็นภาพคร่าวๆ แต่แข่งจริงมันก็อีกเรื่องนึง
ก็ต้องถือว่ากลับมาเป็นแฮบปี้ วินยาเลสอีกครั้งนึง หลังจากที่เซปังกับบุรีรัมย์ เจ้าตัวค่อนข้างไม่ค่อยโอเคกับรถเท่าไหร่ ส่วน Rossi ล่าสุดมีแง้มๆให้ข้อมูลเกี่ยวกับอนาคตของเค้าว่า อาจจะแข่งต่ออีก 2 ปี ส่วนเรื่องทีมก็คุยๆกับ Yamaha ไว้บ้างแหละ แต่แน่นอนว่าจะยังไม่มีทีมของเค้าใน 2 ปีนี้ ซึ่ง Rossi ก็ประหลาดใจเหมือนกันกับการตัดสินใจของ Tech3
เนื่องเช้านี้เป็นการสรุปแบบรีบๆเลยยังไม่ได้อ่านข่าวแบบละเอียดมากนัก แต่ที่รู้คือเพโดรซ่าเป็นนักแข่งที่ล้มค่อนข้างหนัก โชคดีว่าเจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไร แต่ดูจากจำนวน 37 รอบที่ออกมาวิ่ง ก็ถือว่าน่าจะกระทบการแผนการทดสอบรถอยู่พอสมควร
Aprilia นั้นติดข้อจำกัดเรื่องเครื่องยนต์ เวลาที่ออกมาก็จะได้ประมาณนี้แหละ ซึ่งโดยรวมแล้วเหมือนทีมก็ค่อนข้างโอเคกับการทดสอบวันแรกนะ ถ้าจะหวังให้เวลาต่ำกว่านี้ ก็อาจจะรอใน FP1 นู่นเลย ส่วน KTM ก็นะ เนื่องจากติดๆขัดๆหลายอย่าง ก็ต้องค่อยปรับค่อยแก้กันไป ปีที่แล้วทุกอย่างมันลื่นปรื๊ดๆ แต่ปีนี้ ความยากมันจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเจออะไรแบบนี้
ลองนั่งเอาเวลามาเรียงดูเพื่อนับจำนวนรอบที่ทำเวลาต่ำที่สุด ดูเหมือนว่า ซูซูกิมาดีทั้งความเร็วในรอบเดียวและเพซที่ดูเป็นรอง Yamaha และ Ducati อยู่นิดเดียว แบบนี้ก็พอจะเบาใจได้หน่อย แต่อย่างว่าแหละ สนามนี้ปีที่แล้ว Suzuki ก็ดูดีนะ จนเอียนโนเน่กลิ้งไปนั่นแหละ 555 แต่หนูรินส์นี่เริ่มมีออร่าจับละ ฮี่ๆๆ
จริงๆการทดสอบครั้งนี้ เราน่าจะเห็นข้อมูลที่มีน้ำหนักมากขึ้น แต่แพลนส่วนตัวเสาร์อาทิตย์นี้แน่นมาก ไม่รู้จะมาอัพเดทได้ละเอียดแค่ไหน แต่ก็จะพยายามมาสรุปเหตุการณ์ทุกวันแหละ แต่รายละเอียดจริงๆ อาจจะไปสรุปอีกทีตอนวันอาทิตย์หรือจันทร์นู้นเลย แหะๆ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากเว็บ
MotoGP,
Motomatter,
Crash.net,
Speedweek รวมถึงจากเว็บอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยถึงด้วยครับ
[MotoGP] Official Test: #รายงานแห้ง | เกาะติดการทดสอบรถอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้าย ที่สนามโลแซล ประเทศกาตาร์
Aprilia จะทดสอบแฟร์ริ่งของรถปี 2018 เวอร์ชั่นแรกที่นี่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีแค่เฟรมใหม่ที่ถูกนำไปทดสอบโดยโรมาโน่ อัลเบสเซียโน่ บอสของทีมบอกว่าปีกหรือ Wing ที่เราเห็นกันนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของระบบอากาศพลศาสตร์ในตัวรถ แต่การออกแบบนั้นต้องเจาะลึกลงไปถึงทุกชิ้นส่วนเล็กๆอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากระบบ Aerodynamic ในรถโมโตจีพียุคนนี้นั้น มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ
แต่ในส่วนของเครื่องยนต์จะยังไม่พร้อม จะมีเพียงบางพาร์ทของเครื่องเท่านั้นที่ถูกนำมาทดสอบในรอบนี้ ชิ้นส่วนที่ทำงานประสานกับเครื่องยนต์หลายๆตัวก็ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์และปรับแต่งให้ลงตัวที่สุด ซึ่งลุงมาโนชย์บอกว่าเครื่องยนต์ใหม่จะมาตอนแข่งจริงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านู่นเลย ขอให้ใจร่มๆ ของดีต้องรอกันหน่อย 555 ซึ่ง Aprilia บอกว่าคอนเซ็ปของเครื่องยนต์ใหม่นั้น เครื่องจะมาแบบแน่นปึ๊ก แข็งแกร่ง และจะมาพร้อมกับขุมกำลังที่มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
หลังจากโดนฝนถล่มกาตาร์จีพีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จนทำให้ระบบการถ่ายทอดสดรวนไปหมด ในคืนวันเสาร์ที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทดสอบรถ จะมีการจำลองการทดสอบในสภาพสนามเปียก เพื่อที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขันจะทำการประเมิณว่า วิสัยทัศน์ในการมองเห็นนั้นปลอดภัยเพียงพอต่อการให้นักแข่งลงไปแข่งท่ามกลางสายฝนหรือไม่ โดยตอนนี้รุ่นโมโตจีพีจะกลายเป็นรุ่นเดียวที่จะยังมีการแข่งในช่วงหัวค่ำ ซึ่งองค์ประกอบที่เพิ่มขึ้นมาถ้าเกิดฝนตกในเวลากลางคืนคือแสงไฟจากสปอตไลท์และละอองน้ำจากผิวแทรค ซึ่งจะมีการสะท้อนแสงที่ต่างออกไป นี่เป็นความแตกต่างจากการแข่งในสนามเปียกทั่วๆไป
โดยก่อนหน้านี้ ทาง MotoGP ได้ลองทำการทดสอบการวิ่งตอนที่แทรคเปียกในเวลากลางคืนมาแล้ว ซึ่งขี่โดย Loris Capirossi ที่ตอนนี้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการควบคุมการแข่งขันของทาง Dorna โดยเป็นการขี่ตามหลังรถยนต์ของ Franco Uncini ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัย โดยคาเปรอสซี่บอกว่าทัศนวิสัยน์นั้นถือว่าโอเค
แต่การทดสอบครั้งนั้นมีรถแค่คันเดียว ทำให้ทาง FIM และ Dorna ต้องการที่จะทดสอบในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับการแข่งจริงให้มากที่สุด คือต้องมีรถแข่งจริงๆหลายๆคัน และวิ่งด้วยความเร็วสูง เพื่อที่จะดูว่าละอองน้ำที่จะเกิดขึ้นมันบดบังการมองเห็นของนักแข่งมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้านักแข่งบอกว่าแข่งไม่ไหวครับหัวหน้า ทาง FIM ก็จะหยุดและไม่พยายามทดสอบอีก ซึ่งการเตรียมการในการทดสอบเรื่องนี้ ทางสนามมจะใช้รถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่จำนวน 18 คัน ปล่อยน้ำลงบนผิวแทรคทั่วทั้งสนาม ก่อนที่ปล่อยให้บรรดานักแข่งเปลี่ยนใส่ยาง Wet ลงไปลุยน้ำกัน
สำหรับการทดสอบในวันแรก นักแข่งทั้ง 24 คนลงทำการทดสอบรถอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดย PE44 ของ KTM ก็กลับมานั่งบนรถ RC16 อีกครั้ง ซึ่งน้องพลขี่ไปได้ทั้งหมด 56 รอบ แต่ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บจะยังไม่หายดี ทำให้พอล เอสพากาโร่จะไม่ลงทำการทดสอบต่อในวันที่ 2
วินยาเลสเป็นนักแข่งที่ทำเวลาได้เร็วที่สุด แต่ก็อยู่ในเสี้ยววินาทีเดียวกันกับอังเดร โดวิซิโอโซ่และอังเดร เอียนโนเน่ ดูจากฟีดแบ็ควันแรก ดูเหมือนว่า ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างทำให้ Yamaha ยังคงแข็งแกร่งที่นี่ เช่นเดียวกันกับ Ducati และที่เข้ามาแจมกับเค้าด้วยก็คือ Suzuki ส่วน Honda นั้น ดูจะยังไม่ค่อยลงตัวมากนักในวันแรก
ภาพรวมก็ถือว่ายังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการทดสอบที่ผ่านมา รถ 16 คันแรกอยู่ในวินาทีเดียวกันกับผู้นำ โดยมีรถที่หลุดจากช่วง 2 วินาทีอยู่แค่ 2 คันคือทอม ลูธิกับซาเวียร์ ซิมิยงค์ ส่วนเจ้าไซยารินนั้นก็ถือว่าทำได้ดี นาคากามิยังคงเป็นรุกกี้ที่เร็วที่สุดเหมือนเดิม แต่ถ้านับเพซจริงๆ ความคงเส้นคงวาของมอร์บิเดลลี่ดูจะยังเหนือกว่าอยู่ แต่การทดสอบก็คือการทดสอบ อาจจะพอเห็นภาพคร่าวๆ แต่แข่งจริงมันก็อีกเรื่องนึง
ก็ต้องถือว่ากลับมาเป็นแฮบปี้ วินยาเลสอีกครั้งนึง หลังจากที่เซปังกับบุรีรัมย์ เจ้าตัวค่อนข้างไม่ค่อยโอเคกับรถเท่าไหร่ ส่วน Rossi ล่าสุดมีแง้มๆให้ข้อมูลเกี่ยวกับอนาคตของเค้าว่า อาจจะแข่งต่ออีก 2 ปี ส่วนเรื่องทีมก็คุยๆกับ Yamaha ไว้บ้างแหละ แต่แน่นอนว่าจะยังไม่มีทีมของเค้าใน 2 ปีนี้ ซึ่ง Rossi ก็ประหลาดใจเหมือนกันกับการตัดสินใจของ Tech3
เนื่องเช้านี้เป็นการสรุปแบบรีบๆเลยยังไม่ได้อ่านข่าวแบบละเอียดมากนัก แต่ที่รู้คือเพโดรซ่าเป็นนักแข่งที่ล้มค่อนข้างหนัก โชคดีว่าเจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไร แต่ดูจากจำนวน 37 รอบที่ออกมาวิ่ง ก็ถือว่าน่าจะกระทบการแผนการทดสอบรถอยู่พอสมควร
Aprilia นั้นติดข้อจำกัดเรื่องเครื่องยนต์ เวลาที่ออกมาก็จะได้ประมาณนี้แหละ ซึ่งโดยรวมแล้วเหมือนทีมก็ค่อนข้างโอเคกับการทดสอบวันแรกนะ ถ้าจะหวังให้เวลาต่ำกว่านี้ ก็อาจจะรอใน FP1 นู่นเลย ส่วน KTM ก็นะ เนื่องจากติดๆขัดๆหลายอย่าง ก็ต้องค่อยปรับค่อยแก้กันไป ปีที่แล้วทุกอย่างมันลื่นปรื๊ดๆ แต่ปีนี้ ความยากมันจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเจออะไรแบบนี้
ลองนั่งเอาเวลามาเรียงดูเพื่อนับจำนวนรอบที่ทำเวลาต่ำที่สุด ดูเหมือนว่า ซูซูกิมาดีทั้งความเร็วในรอบเดียวและเพซที่ดูเป็นรอง Yamaha และ Ducati อยู่นิดเดียว แบบนี้ก็พอจะเบาใจได้หน่อย แต่อย่างว่าแหละ สนามนี้ปีที่แล้ว Suzuki ก็ดูดีนะ จนเอียนโนเน่กลิ้งไปนั่นแหละ 555 แต่หนูรินส์นี่เริ่มมีออร่าจับละ ฮี่ๆๆ
จริงๆการทดสอบครั้งนี้ เราน่าจะเห็นข้อมูลที่มีน้ำหนักมากขึ้น แต่แพลนส่วนตัวเสาร์อาทิตย์นี้แน่นมาก ไม่รู้จะมาอัพเดทได้ละเอียดแค่ไหน แต่ก็จะพยายามมาสรุปเหตุการณ์ทุกวันแหละ แต่รายละเอียดจริงๆ อาจจะไปสรุปอีกทีตอนวันอาทิตย์หรือจันทร์นู้นเลย แหะๆ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากเว็บ MotoGP, Motomatter, Crash.net, Speedweek รวมถึงจากเว็บอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยถึงด้วยครับ