ควันไฟสามารถทำให้ฝนตกได้จริง?

จริง ครับ
มีองค์ประกอบ 5 ส่วน
1. ขนาดอนุภาค ฝุ่นที่ลอยในอากาศชั้นสูง หากมีขนาดเหมาะสม ทำให้เกิดหยดน้ำบน ท้องฟ้าชั้นสูงระดับ Low Clouds ทำให้เกิดเมฆนิมโบสเตรตัส (Nimbostratus) ในระดับ 2 kmได้
2. ความชื่น ในอากาศของ ท้องฟ้า ระดับ Low Clouds ต้องมีมากเพียงพอที่จะทำให้เกิดการเกาะตัวของน้ำกับอนุภาคฝุ่นในอากาศท้องฟ้าชั้นสูง เช่น ความชื่นใน มวลเมฆสเตรโตคิวมูลัส (Stratocumulus)
3. ปรืมาณ อนุภาคฝุ่นที่ลอยในอากาศชั้นบน ต้องมีปริมาณมากๆๆๆๆ เพื่อเพิมจำนวนการเกิดหยดน้ำบน ท้องฟ้าชั้นสูง ก่อเป็นฝน (ถ้าน้อยไปก็ไม่เกิดฝน เป็นแค่หยดน้ำจางๆ ในอากาศ หลนมาให้ตกใจเล่น)
4. ความร้อนและความชื่น ของชั้นบรรยากาศด้านล่าง ที่ < 1 Km หากชั้นบรรยากาศด้านล่างมีความชื่นน้อยมาก และอากาศร้อน
ฝนจากในอากาศท้องฟ้าชั้นสูง เมื่อตกลงมา ผ่านชั้นบรรยากาศด้านล่างที่มีความชื่นน้อยมาก  หยดน้ำจะระเหย กลายเป็นฝนที่ไม่ตกถึงพื้น ครับ
5. อุณหภูมิ ในแต่ละชั้นบรรยากาศ ที่มีความเหมาะสมทำให้เกิดเม็ดฝน ถ้าร้อนแล้งเกินไปก็จะไม่เกิดฝน (ภาษานักทำฝนเทียมคือ มีความชื่นในชั้นบรรยากาศน้อย ไม่พอให้เกิดฝน) ต้องมีทั้งอุณหภูมิที้เหมาะสมด้วย

*หลักการเกิดฝน
  ควันไฟที่มีความร้อนสูงและเขม่าเยอะ( เช่น ยิงจรวดขึ้นไปทำให้เกิดเขม่าควัน) ในท้องฟ้า ระดับ Low Clouds
จะสร้างปริมาณ ฝุ่น Carbon ที่เกิดจากการเผา ลอยสูงขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ ในชั้นเมฆฝน
เมื่อไปกระทบกับ ไอน้ำใน อากาศชั้นสูง อนุภาคน้ำในอากาศ ซึ่งหาที่ยึดเกาะ จึงมาเกาะที่อนุภาคฝุ่น ที่ลอยอยู่ในอากาศชั้นสูง กลายเป็นหยดน้ำ
และตกเป็นฝนในที่สุด โดยฝนจะไม่ตกใน พท. ยิงจรวดที่มีอากาศร้อน แต่จะไปตกในที่อื่น ที่มีความเย็นและความชื่นเหมาะสม ที่อนุภาคฝุ่นและ อนุภาคน้ำกลายเป็นหยดน้ำ

*ตัวอย่างการเกิดเมฆฝน
ในกทม. สมุทรสาคร สมุทรปราการ ที่มีปริมาณฝุ่นของรถยนต์และฝุ่นจากโรงงานอุตสาหกรรม มาก และลอยในระดับ  Low Clouds
เกิดฝนตกบ่อยมาก บางที่ ตก เช้าเย็น แต่ส่วนที่เป็น พท.การเกษตร หรือนาเกลือ ที่มีปริมาณฝุ่นน้อยกว่า อัตราการเกิดฝน  จะน้อยกว่า


หมายเหตุ ฝุ่นจากภูเขาไฟระเบิด จะไม่มีโอกาศสร้างฝนหรือมีน้อย เพราะลอยสูงเกินอยู่ในชั้นเมฆเซอโรสเตรตัส (Cirrostratus) มีฐานสูงเฉลี่ย 8,500 เมตร ขึ้นไป  และความร้อนจากภูเขาไฟ ทำให้น้ำในอากาศไม่กลั่นตัวเป็นหยดน้ำ
ซึ่งไม่ทำให้เกิดเมฆฝน