ผมเป็นผู้ชายนึงที่กล้าพูดได้เต็มปากว่าเป็น "พ่อบ้านใจกล้า" แม้ปัจจุบันจะโสดแต่ด้วยภาระการงาน จึงอยู่คนเดียวที่คอนโดเป็นหลัก ทำสาระพัด
หลายต่อหลายครั้งชอบลืมปิดพัดลม ปิดหน้าต่าง หนักที่สุดคือ ลืมปิดเตารีด นึกขึ้นได้รีบกลับมาปิดแทบไม่ทัน เสียเวลา เสียงาน

อุปกรณ์ที่มาช่วยชีวิตผมง่ายขึ้นคือ SmartPlug โดยที่เลือกมาในวันนี้คือ TP-Link Smart Wi-Fi Plug Mini HS105 เล็กกระทัดรัดกินพื้นที่ช่องเสียบเพียงช่องเดียว

TP-Link Smart Wi-Fi Plug Mini HS105 เป็นเหมือนรีโมทระยะไกล ควบคุมได้ผ่านแอพ(KASA by TP-Link) ทั้งบน iOS และ Android ทำงานได้ทั้ง Wi-Fi และ 4G เชื่อมต่อด้วย QR Code และสมัครบัญชีครั้งแรกเท่านั้น


ภายในแอพรองรับ Wi-Fi Plug และอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ที่จะมีเพิ่มมาในอนาคตได้หลายอุปกรณ์ นั่นแปลว่าถ้ามี Smart Wi-Fi Plug หลายตัวอยู่ตามห้องต่าง ๆ ก็ควบคุมสั่งงานดูสถานะได้จากในแอพทีเดียวเลย


ในแอพหน้า Device แสดงชื่ออุปรณ์ต่าง ๆ ของเรา พร้อมสถานะ ถ้าปลั๊กถูกเปิดอยู่ก็จะเป็นสีเขียว( Switch On ) เมื่อต้องการปิดก็กดที่ปุ่มได้เลย
เมื่อปลั๊กปิด ( Switch Off ) ปุ่มก็จะเป็นสีเทา เราสามารนำเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มาเสียบกับ TP-Link HS105 ได้เลย
ไม่ต้องห่วงว่าปิดแล้วอุปกรณ์จะปิดจริงไหม ? สถานะการเปิด-ปิดอุปกรณ์จะเป็น ReAct มาจาก Smart Wi-Fi Plug ผ่าน Cloud เมื่อแอพได้รับค่ากลับมาจึงแสดงสถานะให้เราเห็น สังเกตได้จากหากสัญญาณอินเตอร์เน็ตเราไม่ดี กดไปการปิดเปิดก็จะมีช้าเร็วให้เห็น แต่โดยปกติแล้วสั่งงานเปิด-ปิด ได้ภายใน 2 วินาทีแม้ผ่าน 4G

คงมีคำถามว่าแล้วถ้าต้องรีดผ้าทุกเช้า okหละถ้าไม่แน่ใจว่าลืมปิดเตารีดตอน 9.30 น. ก็เปิดแอพเช็คสถานะ ถ้าเปิดอยู่ก็ "ปิด" มันซะ
แต่ถ้าลืมไปเลยหละ ทำไง ?
ในแอพจะมีTab Schedule เป็นการตั้งเวลาให้"เปิด" หรือ "ปิด" ได้ ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือหลายวันต่อสัปดาห์ หลายช่วงเวลา ตั้งให้เปิดหรือ/และ ปิด วันหละหลายเวลาก็ได้

Tab Away Mode เป็นการตั้งเวลาเปิด-ปิด ในกรณีที่คุณใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นตามช่วงเวลาอยู่เป็นนิจ เช่น เปิดพัดลมให้สัตว์เลี้ยงตอนกลางคืนช่วงหัวค่ำที่ร้อนอยู่

เปิดชุดพัดลมเป่า Rig Bit coin ตามช่วงเวลา หรือซื้อ 2 ชุด ตั้งเวลาแบ่งสลับชุดพัดลม A, B ทำงาน ในกรณีที่ อุณหภูมิระบบขุดสูงกว่าปกติ ผู้ใช้ก็รีโมทมาเปิดให้ทำงานทั้ง 2 ชุดพร้อมกันได้

โดยส่วนตัวผมเปิดระบายอากาศให้ตู้เย็น mini Bar ที่ยัดไว้ในชั้นบิ้ล์ด-อิน ของห้องครัว เพราะต้องการประหยัดพื้นที่คอนโด แต่มีความร้อนสุม จึงเปิดพัดลมตัวเล็กระบายในช่วงบ่าย

ในTab Run Time เป็นการแสดงค่า Summery ต่าง ๆ เช่นชั่วโมงการทำงาน

TP-Link Smart Wi-Fi Plug Mini HS105 ลำพังตัวมันเองกินไฟเพียง 1 Watt เท่านั้น จึงเรียกว่าไม่มีผลกับค่าไฟเลยก็ได้ เสียบไว้ทั้งเดือนยังกินไฟไม่ถึง 5 บาท



ข้อมูลด้านเทคนิค
- MAX Load สูงสุด 15A (3,330 Watt @ 220V) MAX Power 1.80 kW
- ขนาด 2.61×1.49×1.57 ” ใช้พื้นที่ปลั๊ก 1 ช่องเท่านั้น
- มีปุ่ม เปิด ( Switch On ) - ปิด ( Swith off ) ในตัว พร้อมไฟ LED แสดงสถานะ เปิด/ปิดได้ ไม่ต้องผ่านแอพ สถานะจะSyncกันทั้งหมดไม่ว่าจะเปิดปิดจาก ส่วนใด
- ขาปลั๊กเป็นแบบขาแบน+ขากราวด์แบบกลม ทั้งส่วนเสียบและส่วนรับ ถ้าเป็นอุปกรณ์ขากลมจะมาเสียบต้องหาขาแปลง

สรุปแล้ว TP-Link Smart Wi-Fi Plug Mini HS105 ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะครับ ข้อดีคือตัวแอพและserverมีความเสถียร สั่งเปิด/ปิด รวดเร็ว ไม่เอ๋อ ไว้วางใจได้ และตัวปลั๊กได้รับมาตรฐาน RoHS, FCC, IC, UL มั่นใจได้ว่าปลอดภัย โดยเฉพาะ UL เป็นมาตรฐานทางไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา ตัวนี้ได้ยากมาก และการันตรีว่าถ้าเกิดมีการไหม้จริงแม้จะเป็นความจงใจของผู้ใช้ วัสดุอุปกรณ์จะไม่ลามไฟครับ ลดปัญหาเพลิงไหม้ได้
*ข้อสังเกต
-รองรับ WiFi 2.4 GHz
-ปลั๊กต้องอยู่ในพื้นที่สัญญาณ WiFi ตลอด
-บางยี่ห้อมีราคาถูกกว่า แต่แอพและserverไม่เสถียร (แอพเป็นภาษาจีน) ดังนั้นซื้อ TP-Link HS105 แล้วจบ
[SR] ลืมปิดเตารีด ! ลืมเปิดพัดลมชุด Bitcoin ! ไปเที่ยวหลายวันก็สั่งงานได้ผ่าน 4G [ Smart Plug ]
หลายต่อหลายครั้งชอบลืมปิดพัดลม ปิดหน้าต่าง หนักที่สุดคือ ลืมปิดเตารีด นึกขึ้นได้รีบกลับมาปิดแทบไม่ทัน เสียเวลา เสียงาน
อุปกรณ์ที่มาช่วยชีวิตผมง่ายขึ้นคือ SmartPlug โดยที่เลือกมาในวันนี้คือ TP-Link Smart Wi-Fi Plug Mini HS105 เล็กกระทัดรัดกินพื้นที่ช่องเสียบเพียงช่องเดียว
TP-Link Smart Wi-Fi Plug Mini HS105 เป็นเหมือนรีโมทระยะไกล ควบคุมได้ผ่านแอพ(KASA by TP-Link) ทั้งบน iOS และ Android ทำงานได้ทั้ง Wi-Fi และ 4G เชื่อมต่อด้วย QR Code และสมัครบัญชีครั้งแรกเท่านั้น
ภายในแอพรองรับ Wi-Fi Plug และอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ที่จะมีเพิ่มมาในอนาคตได้หลายอุปกรณ์ นั่นแปลว่าถ้ามี Smart Wi-Fi Plug หลายตัวอยู่ตามห้องต่าง ๆ ก็ควบคุมสั่งงานดูสถานะได้จากในแอพทีเดียวเลย
ในแอพหน้า Device แสดงชื่ออุปรณ์ต่าง ๆ ของเรา พร้อมสถานะ ถ้าปลั๊กถูกเปิดอยู่ก็จะเป็นสีเขียว( Switch On ) เมื่อต้องการปิดก็กดที่ปุ่มได้เลย
เมื่อปลั๊กปิด ( Switch Off ) ปุ่มก็จะเป็นสีเทา เราสามารนำเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มาเสียบกับ TP-Link HS105 ได้เลย
ไม่ต้องห่วงว่าปิดแล้วอุปกรณ์จะปิดจริงไหม ? สถานะการเปิด-ปิดอุปกรณ์จะเป็น ReAct มาจาก Smart Wi-Fi Plug ผ่าน Cloud เมื่อแอพได้รับค่ากลับมาจึงแสดงสถานะให้เราเห็น สังเกตได้จากหากสัญญาณอินเตอร์เน็ตเราไม่ดี กดไปการปิดเปิดก็จะมีช้าเร็วให้เห็น แต่โดยปกติแล้วสั่งงานเปิด-ปิด ได้ภายใน 2 วินาทีแม้ผ่าน 4G
คงมีคำถามว่าแล้วถ้าต้องรีดผ้าทุกเช้า okหละถ้าไม่แน่ใจว่าลืมปิดเตารีดตอน 9.30 น. ก็เปิดแอพเช็คสถานะ ถ้าเปิดอยู่ก็ "ปิด" มันซะ
แต่ถ้าลืมไปเลยหละ ทำไง ?
ในแอพจะมีTab Schedule เป็นการตั้งเวลาให้"เปิด" หรือ "ปิด" ได้ ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือหลายวันต่อสัปดาห์ หลายช่วงเวลา ตั้งให้เปิดหรือ/และ ปิด วันหละหลายเวลาก็ได้
Tab Away Mode เป็นการตั้งเวลาเปิด-ปิด ในกรณีที่คุณใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นตามช่วงเวลาอยู่เป็นนิจ เช่น เปิดพัดลมให้สัตว์เลี้ยงตอนกลางคืนช่วงหัวค่ำที่ร้อนอยู่
เปิดชุดพัดลมเป่า Rig Bit coin ตามช่วงเวลา หรือซื้อ 2 ชุด ตั้งเวลาแบ่งสลับชุดพัดลม A, B ทำงาน ในกรณีที่ อุณหภูมิระบบขุดสูงกว่าปกติ ผู้ใช้ก็รีโมทมาเปิดให้ทำงานทั้ง 2 ชุดพร้อมกันได้
โดยส่วนตัวผมเปิดระบายอากาศให้ตู้เย็น mini Bar ที่ยัดไว้ในชั้นบิ้ล์ด-อิน ของห้องครัว เพราะต้องการประหยัดพื้นที่คอนโด แต่มีความร้อนสุม จึงเปิดพัดลมตัวเล็กระบายในช่วงบ่าย
ในTab Run Time เป็นการแสดงค่า Summery ต่าง ๆ เช่นชั่วโมงการทำงาน
TP-Link Smart Wi-Fi Plug Mini HS105 ลำพังตัวมันเองกินไฟเพียง 1 Watt เท่านั้น จึงเรียกว่าไม่มีผลกับค่าไฟเลยก็ได้ เสียบไว้ทั้งเดือนยังกินไฟไม่ถึง 5 บาท
ข้อมูลด้านเทคนิค
- MAX Load สูงสุด 15A (3,330 Watt @ 220V) MAX Power 1.80 kW
- ขนาด 2.61×1.49×1.57 ” ใช้พื้นที่ปลั๊ก 1 ช่องเท่านั้น
- มีปุ่ม เปิด ( Switch On ) - ปิด ( Swith off ) ในตัว พร้อมไฟ LED แสดงสถานะ เปิด/ปิดได้ ไม่ต้องผ่านแอพ สถานะจะSyncกันทั้งหมดไม่ว่าจะเปิดปิดจาก ส่วนใด
- ขาปลั๊กเป็นแบบขาแบน+ขากราวด์แบบกลม ทั้งส่วนเสียบและส่วนรับ ถ้าเป็นอุปกรณ์ขากลมจะมาเสียบต้องหาขาแปลง
สรุปแล้ว TP-Link Smart Wi-Fi Plug Mini HS105 ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะครับ ข้อดีคือตัวแอพและserverมีความเสถียร สั่งเปิด/ปิด รวดเร็ว ไม่เอ๋อ ไว้วางใจได้ และตัวปลั๊กได้รับมาตรฐาน RoHS, FCC, IC, UL มั่นใจได้ว่าปลอดภัย โดยเฉพาะ UL เป็นมาตรฐานทางไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา ตัวนี้ได้ยากมาก และการันตรีว่าถ้าเกิดมีการไหม้จริงแม้จะเป็นความจงใจของผู้ใช้ วัสดุอุปกรณ์จะไม่ลามไฟครับ ลดปัญหาเพลิงไหม้ได้
*ข้อสังเกต
-รองรับ WiFi 2.4 GHz
-ปลั๊กต้องอยู่ในพื้นที่สัญญาณ WiFi ตลอด
-บางยี่ห้อมีราคาถูกกว่า แต่แอพและserverไม่เสถียร (แอพเป็นภาษาจีน) ดังนั้นซื้อ TP-Link HS105 แล้วจบ